บทที่ 83 การถ่ายโอนปัญหา
บทที่ 83 การถ่ายโอนปัญหา
ไม่มีใครตอบคำถาม ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลหรือโบว์ลิ่ง ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิมอยู่ดี ควีนนั่งเวียนหัว ฮาคิเกราะที่เขาฝึกฝนมานับครั้งไม่ถ้วนได้ปกป้องร่างกายของเขาเอาไว้
การโจมตีด้วยโบว์ลิ่งยังช่วยไม่ให้กล้วยของเขาถูกไฟแผดเผา แม้ว่าต้นกล้วยสองสามต้นจะล้มลง แต่กล้วยที่อยู่บนนั้นยังคงสามารถเก็บกลับมาได้
ควีนรู้สึกว่าความพยายามของเขาได้รับผลแล้ว
“พวกแกยืนอยู่เฉยๆกันทำไม? มัดคนพวกนี้เร็วเข้า จากนั้นไปเก็บเกี่ยวกล้วยและขุดหน่อมันมาเพื่อนำไปปลูก!”
เมื่อเห็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่อยู่รอบตัวเขาชื่นชมการแสดงโบว์ลิ่ง ควีนก็คำรามและได้ออกคำสั่ง การโจมตีด้วยลูกโบว์ลิ่งไม่ได้สร้างภาระให้กับร่างกายของเขามากนัก
ร่างกายที่ถูกดัดแปลงของเขามีความแข็งแกร่งมาก ฮากิเกราะปกป้องจุดสำคัญของเขาไว้ และขนาดร่างกายของเขาก็คล้ายกับลูกบอล มันจึงไม่ได้สร้างภาระมากเกินไป
โดยธรรมชาติแล้วไร่แห่งนี้ไม่มีตรวนหินไคโร แต่ทุกปัญหามีทางออกของมันอยู่แล้ว โจรสลัดขุดหลุมใกล้ชายทะเล ตรวจดูให้แน่ใจว่ามีน้ำทะเลอยู่ข้างใน และฝังเปโรเปรอสไว้ในหลุมนั้น เหลือเพียงส่วนหัวที่ยื่นออกมาเท่านั้น
ในสภาพที่อ่อนแอของเขา เขาไม่มีพลังที่จะหลุดพ้นจากหลุมดินได้ โคลนเปียกมีลักษณะคล้ายทรายดูด กักขังเขาไว้ด้วยแรงยึดเกาะอันทรงพลัง
เนื่องจากความยาวของลิ้นของเขา รสเค็มของน้ำทะเลจึงยังคงทำร้ายต่อมรับรสของเขา ทำให้เขารู้สึกไม่สบายอย่างมากในฐานะคนชอบหวานคนนึง
และขณะนี้ควีนกำลังปรึกษากับเชย์น่าถึงวิธีจัดการกับเปโรเปรอส ในบรรดาโจรสลัดรายใหญ่ ไม่ใช่แค่การต่อสู้และการฆ่าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของโจรสลัดคนอื่นๆด้วย
โจรสลัดระดับเดียวกันมีทัศนคติที่จะสนใจเรื่องของพวกเขาเองจนกว่าพวกเขาจะแตกหักกันโดยสิ้นเชิง ในเวลานี้ เปโรเปรอสพ่ายแพ้แล้ว และหากเขาถูกฆ่า นั่นหมายถึงการแตกหักกับบิ๊กมัมโดยสิ้นเชิง
เมื่อพิจารณาถึงความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนระหว่างไคโดกับบิ๊กมัม ควีนก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่เขาได้สั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาย้ายต้นกล้วยทำกันจนข้ามคืน และตอนนี้เหลือเพียงไม่กี่ต้นบนเกาะเท่านั้น
ดังที่เชย์น่าชี้ให้เห็น ไม่ว่าจะปล่อยหรือจับเปโรเปรอสในท้ายที่สุดก็จะมีแต่ปัญหาเท่านั้น และขอบเขตของความรุนแรงมันจะขึ้นอยู่กับความคิดของไคโดและชาร์ล็อต หลินหลิน
“ท่านอาร์เซอุส ขอคำแนะนำแก่พวกเราหน่อยได้ไหม?”
ควีนซึ่งไม่รู้ว่าจะจัดการกับมันอย่างไรแม้จะครุ่นคิดมาสักพักแล้ว ได้ผลักปัญหาไปที่อาร์เซอุส แต่ทันทีที่เขาถามเสร็จ เขาก็ได้รับการทักทายด้วยการหมัดของเชย์น่า
“อย่ารบกวนท่านสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าทำสวนที่นี่ เราจะมีปัญหาทั้งหมดนี้ไหม?!”
แม้ว่าเธอจะใช้ควีนเป็นลูกโบว์ลิ่ง แต่เธอก็ยังคงเก็บงำความไม่พอใจอย่างมากต่อพฤติกรรมของควีนที่รั้งเธอไว้ก่อนการต่อสู้
หลังจากนั้นไม่นานแมลงโทรสารของเปโรเปรอสก็ดังขึ้น และเสียงกริ่งของมันก็ได้ปลุกเปโรเปรอสที่หมดสติให้ตื่นขึ้น ทันทีที่เขาลืมตาขึ้นเขาก็เห็นฉากที่ควีนถูกใครบางคนทุบตีอยู่
เสียงกริ่งของแมลงสื่อสารทำให้ควีนตระหนักถึงปัญหา
“เดี๋ยวก่อน มันเป็นคนสร้างปัญหา มาตีฉันทำไม? เธอควรไปกระทืบเขาแทนสิ!”
“สิ่งนี้เรียกว่าการรับผิดชอบต่อบุคคลที่ใกล้เคียงที่สุดกับเหตุการณ์ ปัญหาที่เขานำมานั้นสะท้อนถึงเจ้าและทำให้ข้าเดือดร้อนทางอ้อม นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าให้เจ้ารับผิดชอบต่อปัญหานี้ เนื่องจากท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นความรับผิดชอบของเจ้าที่จะต้องแก้ไขปัญหาที่เจ้าและเขาสร้างขึ้น”
เชย์น่าดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการวินัยมาเป็นเวลานาน เธอคุ้นเคยกับกฎเกณฑ์ที่อาร์เซอุสกำหนดขึ้น ซึ่งทำให้เธอได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์บ้าง ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ เธอก็สามารถทำให้ควีนเข้าไปพัวพันกับสถานการณ์นี้ได้
"เฮ้ย! ไม่อยากทำให้บิ๊กมัมโกรธ ใช่ไหม? ถ้าไม่อยาก ก็รีบเอาแมลงสื่อสารมาให้ฉันซะ!”
เปโรเปรอสซึ่งถูกฝังอยู่ในพื้นดินตะโกนไปทางควีน เขาไม่ได้ขู่ แต่เขากังวลจริงๆว่าบิ๊กมัมจะโกรธอย่างแน่นอนถ้าเขาไม่กลับมาภายในเวลาที่กำหนดและรู้ปัญหาที่นี่
แต่เปโรเปรอสไม่ได้มีความสุขมากนักเพราะถ้าบิ๊กมัมรู้ว่าเขาล้มเหลว เขาจะถูกลงโทษอย่างรุนแรง
สถานการณ์ที่ดีที่สุดคือให้คนเหล่านี้ประนีประนอมและปล่อยให้เขาเอากล้วยกลับไป ในส่วนของโจรสลัดที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต บิ๊กมัมไม่สนใจเรื่องพวกนี้ ตราบใดที่เขายังคงเงียบไว้ มันก็จะไม่มีปัญหาใดๆ
ในฐานะลูกชายคนโต เขารู้ดีที่สุดว่าบิ๊กมัมเป็นอย่างไรเมื่อเธอโกรธ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอไม่สามารถกินอาหารที่ต้องการได้ และถ้าโชคไม่ดี เขาอาจได้พบกับบิ๊กมัมในระหว่างที่เธอกินผิดปกติ
เมื่อคิดถึงสถานการณ์นั้น เปโรเปรอสก็สั่นสะท้านไปทั่วทั้งตัว
น่าเสียดายที่สิ่งต่างๆไม่เป็นไปอย่างที่เขาคาดไว้ แม้ว่าแมลงสื่อสารจะถูกยกมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้มอบให้เขาโดยตรง แต่เชย์น่าวางไว้ตรงหน้าเขาแทน
"เธอหมายความว่าอะไร?"
“ลองหาวิธีรับโทรศัพท์ด้วยตัวเจ้าเองสิ ข้าคิดว่าลิ้นของเจ้าควรจะสามารถทำอะไรได้มากมายเลยนะ”
เมื่อพูดเช่นนั้นเสร็จ เชย์น่าก็พร้อมที่จะออกไปทันที นี่เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ควีนคิดขึ้นมาท่ามกลางการถูกทุบตีเพียงฝ่ายเดียว เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ที่ยากลำบากแล้ว เป็นการดีที่สุดสำหรับไคโดที่จะจัดการมันด้วยตัวเอง ปล่อยให้พวกเขาดำเนินการเรื่องอื่นต่อไปตามปกติ
ตราบใดที่ปัญหานี้ไม่ใช่ของพวกเขา มันก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร
หลังจากวางแมลงโทรสารลงแล้ว เชย์น่าและคนอื่นๆก็จากไป เหลือเพียงกลุ่มโจรสลัดที่ถูกฝังไว้เบื้องหลังในทราย
แมลงสื่อสารส่งเสียงร้องอย่างต่อเนื่อง และเปโรเปรอสก็ต้องผ่านความยากลำบากอย่างมากในการใช้ลิ้นเลียเพื่อรับสาย
“พี่ใหญ่เปโรเปรอส ทำไมพี่ยังไม่กลับมาอีก? แม่โกรธแล้วนะ” เมื่อได้ยินเสียงน้องชายทางโทรศัพท์ เปโรเปรอสก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ชั่วขณะต่อมาเมื่อเขาได้ยินเสียงของบิ๊กมัม เขาก็กลับมากังวลอีกครั้ง
“เปโรเปรอส ทำไมลูกยังไม่กลับมาอีก? ลูกไม่ได้บอกว่าจะใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงเหรอ?”
แม้ว่าแมลงสื่อสารจะทำงานบนหลักการเดียวกันกับโทรศัพท์ แต่ก็มีผลเหมือนการวีดีโอคอล ความสามารถในการเลียนแบบของแมลงสื่อสาร อาจทำให้อีกฝ่ายรู้ได้อย่างชัดเจนว่าใครกำลังคุยอยู่
แมลงสื่อสารที่เปลี่ยนร่างเป็นบิ๊กมัมเกือบทำให้เปโรเปรอสกลัวจนกัดลิ้นตัวเอง
“ไม่ครับแม่ ได้โปรดฟังผมก่อน นี่เป็นเพียงอุบัติเหตุเท่านั้น ผมพบกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดบางอย่าง”
“ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรแล้ว! ผู้ล้มเหลวจะต้องได้รับการลงโทษ แต่เราจะหารือเรื่องนี้ในภายหลัง แม่จะไปหาลูกตอนนี้”
น้ำเสียงยุ่งๆดังมาจากปลายอีกด้านของแมลงสื่อสาร มันทำให้ใบหน้าของเปโณเปรอสซีดลง เขารู้สึกราวกับว่าอนาคตของกำลังถูกพรากไปจากเขา
ในเวลาเดียวกัน ใบหน้าของควีนก็ซีดลงเช่นเดียวกัน เมื่อมองไปที่แมลงสื่อสารในมือของเขา อีกด้านหนึ่งของคนที่อยู่ในสายคือไคโด
โดยใช้วิธีการถ่ายโอนปัญหา ปัญหานี้จึงส่งต่อไปยังไคโด แม้ว่ามันจะทำให้เขาเดือดร้อน แต่ก็ไม่มีอะไรเทียบได้กับปัญหาที่เขาหาให้กับตัวเองเมื่อเขาเมา
อย่างไรก็ตาม ความรับผิดชอบอันหนักหน่วงในการแจ้งไคโดก็ตกเป็นของควีนแล้ว ไคโดไม่ได้พูดอะไร เพียงบอกควีนว่าเขาจะเพิ่มการฝึกฮาคิเกราะให้เข้มข้นขึ้นเมื่อเขากลับมา เนื่องจากพลังการต่อสู้ของควีนในฐานะลูกเรือระดับสูงของเขายังขาดอยู่บ้าง
เขารู้สึกว่าเขาจะต้องพบกับโชคร้ายอย่างแน่นอนถ้ากลับไปตอนนี้ ดังนั้นเขาจึงขอเข้าร่วมทีมล่าสมบัติของอาร์เซอุสก่อนและวางแผนที่จะกลับไปในภายหลัง เขารู้บุคลิกของไคโดดีแล้ว หลังจากดื่มไปสักสองสามแก้วเขาคงจะลืมเรื่องนี้ไป