บทที่ 174 การโจมตี! กองกำลังคูลเลอร์ใกล้เข้ามา!
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 174 การโจมตี! กองกำลังคูลเลอร์ใกล้เข้ามา!
ก่อนที่พวกเขาจะบินไปไกลมากกว่านี้ หลินเฉินก็สัมผัสได้ถึงร่างหลายร่างที่มีออร่าศักดิ์สิทธิ์บินเข้าหาพวกเขา
“หยุดเดี๋ยวนี้! ที่นี่คือดินแดนชาวไซย่า พวกเจ้าเป็นใคร...ราชาลิงค์!”
ขณะที่บินเข้ามาหาพวกเขา ชาวไซย่าสี่คนปล่อยออร่าสีแดงเพลิงออกมาและคนที่นำพวกเขาก็ตะโกนออกมาทันทีเมื่อเห็นหลินเฉิน
หลินเฉินตกตะลึงชั่วขณะในขณะที่เขามองไปยังทาร์เบิลที่อยู่ตรงหน้าเขาพร้อมกับชาวไซย่าอีกหลายคน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นเทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่า เขาจึงยิ้มออกมาและถามว่า"ทาร์เบิล เจ้ามาที่นี่เพื่อต้อนรับข้าหรือ?”
“ฝ่าบาท!”
ทาร์เบิล รวมถึงเทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่าทั้งหมดต่างลุกขึ้นยืนตรงและโค้งคำนับหลินเฉินด้วยความเคารพ
จากนั้นทาร์เบิลก็กล่าวว่า "ฝ่าบาท ข้าขออภัยด้วย หน่วยลาดตระเวนที่อยู่ใกล้เคียงเพิ่งตรวจพบปฏิกิริยาพลังงานที่ทรงพลังและคิดว่ามันเป็นศัตรู ดังนั้นพวกเขาจึงส่งเทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่าไปเพื่อตรวจสอบ”
"พวกเขาเป็นคนใหม่หรือ?”
หลินเฉินชี้ไปที่เทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่าสามคนที่อยู่ด้านหลังทาร์เบิล
ทั้งสามคนนี้ดูเหมือนจะอายุน้อยกว่าทาร์เบิล และระดับพลังของพวกเขาอ่อนแอกว่าทาร์เบิลมาก แต่พวกเขายังคงมีระดับพลังถึง 30 หรือ 40 ล้าน ซึ่งถือว่าเป็นพลังที่ระดับสูงมากในดาวเคราะห์เบจิต้า
ทาร์เบิลก็ตอบไปว่า "ใช่แล้วขอรับ พวกเขาทั้งหมดได้ถูกพบโดยท่านพ่อหลังจากที่ฝ่าบาทจากไป ช่างน่าเสียดายที่มีเพียงเราสี่คนบนดาวเท่านั้นที่สามารถแปลงร่างเป็นเทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่าได้ แต่ลุงบาร์ดัคคิดว่าในอนาคต จำนวนของเทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่าอาจเพิ่มขึ้นอีกในรุ่นถัดไป”
หลินเฉินพยักหน้า
ความคิดของบาร์ดัคอาจจะถูกต้องแล้ว จากความจริงที่ว่าเทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่าสี่นี้ล้วนเป็นคนหนุ่มสาวทั้งหมด ก็ดูเหมือนว่าในดาวเคราะห์เบจิต้าในปัจจุบัน ชาวไซย่าที่มีจิตใจชอบธรรมทั้งหมดต่างก็เกิดหรือเติบโตขึ้นหลังจากที่ชาวไซย่าออกจากกองกำลังฟรีเซอร์
มีแต่เหล่าวชาวไซย่าที่เติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่สงบสุขเท่านั้นถึงจะมีหัวใจอันชอบธรรม ชาวไซย่าคนอื่นๆ อย่างเบจิต้าในงานต้นฉบับอาจต้องใช้ชีวิตที่สงบสุขอย่างน้อยหนึ่งทศวรรษ เพื่อเปลี่ยนหัวใจของเขาให้กลายเป็นจิตใจแห่งความชอบธรรม
"แต่เพียงเพื่อตรวจสอบ ทำไมถึงต้องส่งเทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่าสี่คนออกมากัน? พวกเจ้าไม่ระมัดระวังเกินไปเหรอ? เกิดอะไรขึ้นกับบาร์ดัคและคนอื่นๆ กัน?”
เมื่อได้ยินคำถามของหลินเฉิน ทาร์เบิลและคนอื่นๆ ก็มองเขาด้วยความกังวล
หลินเฉินหรี่ตาลงและรู้สึกถึงอะไรไม่ชอบมาพากล
"มีอะไรเกิดขึ้นกัน?"
"คือว่า..." ทาร์เบิลพยักหน้าและกล่าวว่า"ฝ่าบาท ความจริงท่านบาร์ดัคได้ตายไปแล้ว..."
หลินเฉินตกตะลึง"เกิดอะไรขึ้น? มันเกิดขึ้นได้ยังไง?!"
…
หนึ่งสัปดาห์ก่อนที่หลินเฉินจะกลับมายังดาวเคราะห์เบจิต้า
ไม่ไกลจากโลกนัก
ยานอวกาศของสายตรวจอวกาศกำลังดำเนินการลาดตระเวนประจำในพื้นที่นี้
ภายในยานอวกาศ สายตรวจอวกาศภาคสนามสองคนกำลังดูทีวีในยานอวกาศอย่างเกียจคร้าน ปล่อยให้ยานอวกาศนำทางไปด้วยคอมพิวเตอร์ทั้งหมด
“เฮ้ นี่มันไม่ใช่ขอบของกาแล็กซีทางช้างเผือกแล้วเหรอ? ทำไมเราต้องลาดตระเวนพื้นที่ห่างไกลแบบนี้เป็นประจำด้วยล่ะ?” เจ้าหน้าที่ภาคสนามคนหนึ่งเอ่ยถาม
“ข้าได้ยินมาว่าที่นี่มีดาวเคราะห์ที่เรียกว่าโลก ราชาแห่งดาวเคราะห์เบจิต้าได้สั่งให้ราชาแห่งกาแล็กซี่ดูแลมันเป็นพิเศษ” อีกฝ่ายอธิบาย
“โลกหรือ? แล้วทำไมชาวไซย่าถึงสนใจดาวเคราะห์ดวงอื่นกัน?”
"แล้วข้าจะรู้ได้ยังไงเล่า? ถ้ามีเวลา ไว้เจ้าไปถามพวกเจ้าหน้าที่ของสายตรวจอวกาศทางการคนอื่นสิ"
สายตรวจอวกาศเป็นองค์กรที่มีคนจำนวนมหาศาล แต่เพียงไม่กี่คนที่เป็นเจ้าหน้าที่ทางการ ซึ่งนอกเหนือจาก เจ้าหน้าที่สายตรวจทางการแล้ว ก็มีเจ้าหน้าที่ภาคสนามที่คอยลาดตระเวนเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระ
ดังนั้นจึงมีบางเรื่องที่พวกเขาเองก็ไม่ทราบ
เมื่อเห็นเป็นเช่นนี้ อีกฝ่ายก็ยักไหล่และพูดว่า “ช่างมันเถอะ ตราบใดที่เราได้รับค่าจ้าง มันก็ไม่มีปัญหาหรอก ต่อให้จะต้องลาดตระเวนไปถึงสุดขอบจักรวาลก็ไม่เห็นเป็นไรเลย”
ในขณะที่เขาพูดจบ ทันใดนั้นเสียงเตือนก็ดังขึ้นภายในยานอวกาศ
แสงสีแดงสดส่องสว่าง ใบหน้าของเขาตื่นตระหนกในทันที
"ก...เกิดอะไรขึ้น?"
"เดี๋ยวข้าจะไปตรวจสอบ!“หนึ่งในนั้นหันไปที่แผงควบคุม จากนั้นเขาก็หน้าซีดด้วยความตกใจ”ข้างหน้า 3000 ไมล์มีกองยานอวกาศขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น!”
"อะไรนะ? 3000 ไมล์เหรอ? ทำไมคอมพิวเตอร์ถึงเพิ่งมาตรวจพบมันกันล่ะ?”
"มันเป็นเพราะอุปกรณ์ล่องหน! ยานอวกาศเหล่านี้มีการติดตั้งอุปกรณ์ล่องหน! ตรวจสอบข้อมูล...คูลเลอร์! พวกเขามาจากกองทัพคูลเลอร์งั้นเหรอ?”
"มันเป็นไปได้ยังไงกัน? ไม่ใช่ว่ากองทัพคูลเลอร์อยู่ในพื้นที่ตะวันออกเหรอ?”
ในขณะนั้นเอง ลำแสงหลายดวงก็สว่างวาบขึ้นมาเบื้องหน้าของทั้งสองคน เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนทั้งสองกรีดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว
"โอ้ ไม่นะ! พวกมันเจอเราแล้ว!”
"รีบหนีเร็ว! รีบหนี!"
"ข้าจะควบคุมยานเอง! เจ้าไปแจ้งสำนักงานใหญ่! เราได้ค้นพบสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นกองทัพของคูลเลอร์และพวกเขากำลังมุ่งหน้าไปยัง…. ดาวเคราะห์โลก! พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปยังโลก!”
ท่ามกลางเสียงตะโกนของทั้งสอง ยานอวกาศลาดตระเวนของพวกเขาก็ไม่สามารถหลบหนีจากการโจมตีของกองทัพคูลเลอร์ได้อีกต่อไป
ในขณะเดียวกัน ที่ศูนย์กลางของกองทัพคูลเลอร์ ภายในยานอวกาศที่มีรูปทรงเป็นแผ่น...
"รายงานฝ่าบาท ฝูงบินของเราทางด้านซ้ายได้พบเข้ากับยานของสายตรวจอวกาศ!”
เสียงหนึ่งได้ดังขึ้นบนยานแม่
"ข้าเห็นแล้ว! รีบระเบิดมันทิ้งเดี๋ยวนี้!"
คูลเลอร์นั่งอยู่บนที่นั่งรูปไข่ของเขากับหน้าจอขนาดใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง ขณะที่ออกคำสั่งให้จัดการยานของสายตรวจอวกาศ เมื่อเขาเห็นยานอวกาศระเบิดเป็นลูกของเปลวไฟ คูลเลอร์ก็หันไปรอบๆ และเยาะเย้ยว่า"ในที่สุดเราก็ถึงโลกแล้ว ฮ่าๆๆ ชาวไซย่า จงเตรียมตัวเผชิญหน้ากับการแก้แค้นของข้าเสีย!”
เมื่อเดินทางจากพื้นที่ตะวันออกไปยังขอบของพื้นที่ทางเหนืออย่างลับๆ ในที่สุดคูลเลอร์ก็กำลังจะมาถึงโลกและเริ่มแผนการแก้แค้นขั้นแรกของเขากับชาวไซย่า
เมื่อกองยานของเขาเข้าใกล้ระบบสุริยะและเข้าใกล้โลกมากขึ้น...
บนโลกที่สงบสุขกลับไม่มีใครรู้เลยว่าเร็วๆ นี้จะมีภัยพิบัติที่ร้ายแรงปรากฏขึ้น
ในช่วงเวลานั้น ดาวเคราะห์โลก บนภูเขาเปาซู
ภายในอาคารขนาดใหญ่ที่เป็นรูปครึ่งวงกลม คุริริน หยำฉาและโกคูกำลังร่วมตัวต่อสู้กัน จนทิ้งภาพติดตาไว้ทุกจุดที่ปะทะ
ตู้ม!
ทั้งสามแลกเปลี่ยนกระบวนท่าและโจมตีกันอย่างรวดเร็ วก่อนที่จะเปลี่ยนทิศทางอย่างกะทันหันและกลับลงมาสู่พื้น
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ร่างกายของพวกเขาก็รู้สึกเบาลงและสักพัก พวกเขาก็นั่งลงทรุดกับพื้นทุกคน
“ฟิ้ว แบบนี้แหละถึงเป็นการฝึกแรงโน้มถ่วงที่ดีที่สุด!” คุริรินสูดหายใจเข้าลึกๆ เช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากและพูดขึ้นมา "โกคู ขอบคุณที่ให้เราใช้ห้องแรงโน้มถ่วงนะ”
“ที่จริงเราน่าจะไปฝึกที่บ้านของบูลม่าแล้ว แต่น่าเสียดายที่ห้องฝึกมันดันถูกยึดโดยเบจิต้าเสียได้” หยำฉากล่าวออกมาอย่างดูไม่มีความสุขนัก
"ไม่เป็นไรหรอกน่า หากพวกเจ้าต้องการ ข้าก็ยินดีช่วยเสมอ” โกคูยิ้มแล้วลูบศีรษะ
ห้องฝึกแรงโน้มถ่วงนี้ของเขาได้รับมาจากบาร์ดัค ในฐานะสมาชิกระดับสูงของดาวเคราะห์เบจิต้า บาร์ดัคที่เล็งเห็นว่าลูกชายทั้งสองของเขาอยู่บนโลกแล้ว ดังนั้นเขาจึงใช้ประโยชน์จากตำแหน่งของเขาเพื่อให้ห้องแรงโน้มถ่วงแก่พวกเขาในการฝึกฝนพลัง