บทที่ 104: ผู้ใดจะสามารถต้านทานการล่อลวงที่จะได้บินไปได้?
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 104: ผู้ใดจะสามารถต้านทานการล่อลวงที่จะได้บินไปได้?
รางวัลมากมายได้ทำให้เหล่าขุนนางต่างรู้สึกอิจฉา! ทว่าพวกเขาไม่สามารถแย้งอะไรได้เลย! เนื่องจากอีกฝ่ายได้สร้างสิ่งประดิษฐ์ขั้นสูง ซึ่งเป็นบัลลูนที่สามารถพาผู้คนขึ้นไปบนท้องฟ้าได้ กลายเป็นคนแรกในอาณาจักรอู๋อันแสนยิ่งใหญ่ที่บินขึ้นไปบนท้องฟ้า! เขากำลังถกจารึกลงบนประวัติศาสตร์! มันสร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ต่อทั้งอาณาจักรและโลก! ให้รางวัลเพียงเท่านี้อาจไม่เพียงพอด้วยซ้ำ! ซึ่งการที่เขาได้เพียงเลื่อนระดับขุนนางและที่ดินร้อยไร่ มันก็ถือว่าองค์จักรพรรดินีทรงหักห้ามใจตนเองมากแล้ว ถ้าพวกเขาเป็นจักรพรรดิ พวกเขาอาจจะให้มากเสียยิ่งกว่าจักรพรรดินีด้วยซ้ำไป
“ท่านหลิน ในฐานะที่ท่านเป็นคนแรกในอาณาจักรอู๋อันแสนยิ่งใหญ่ที่บินไปบนเวหา โปรดแบ่งปันความรู้สึกของท่านในการบินให้เรา เหล่าขุนนางกับบัณฑิตทั้งหลายได้รับฟังด้วยเถิด!” จักรพรรดินีเร่งเร้า
ดวงตาของขุนนางเบิกกว้างขึ้น บรรดาบัณฑิตและอาจารย์ที่อยู่ที่นี่ก็ตื่นเต้นเช่นกัน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้บินด้วยตนเอง แต่หากได้ยินความรู้สึกของหลินเป่ยฟานที่ได้บิน มันก็คงดึงดูดความสนใจของพวกเขาเป็นอย่างยิ่ง สุดท้ายแล้ว มนุษย์ก็ล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยากรู้อยากเห็นอยู่ตลอดเวลา ไม่มีใครสามารถต้านทานการล่อลวงของการบินไปได้! ชั่วขณะหนึ่ง ทุกคนที่อยู่รอบๆ ก็เงียบลงและฟังอย่างตั้งใจ
“ขอรับฝ่าบาท! เช่นนั้นข้าจะแบ่งปันความรู้สึกของข้าที่ได้บินให้ทุกท่านรับฟังเอง!” หลินเป่ยฟานกล่าว จากนั้นเขาก็เริ่มพูดออกมาด้วยท่าทีจริงจัง เมื่อปีนขึ้นไปบนบัลลูนและบินขึ้นไปบนท้องฟ้า เขาสามารถมองเห็นภาพทิวทัศน์อันรุ่งเรืองของเมืองหลวงได้! เขาสามารถเดินทางผ่านภูเขาและแม่น้ำได้ทันที มองเห็นทะเลสีฟ้าครามและดวงตะวันที่กำลังตกดิน เห็นแม่น้ำและภูเขาอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรอู๋ ล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า คล้ายกับสามารถเลือกดาวและเดินชมจันทร์ได้! เขาท่องไปมาอย่างอิสระระหว่างสวรรค์และโลกา หัวใจเต็มไปด้วยทุกอย่างที่อัดแน่น ราวกับว่ามิอาจมีสิ่งใดสามารถขวางกั้นเขาได้อีก! เพียงช่วงเวลาสั้นๆ เขาก็สามารถบรรยายความสวยงามจนทำให้ทุกคนที่ได้ฟังต่างกำลังเพ้อฝันกันไป!
"งดงามนัก!" จักรพรรดินีอุทานออกมา “ถ้ามีโอกาส เราก็อยากสัมผัสมันจริงๆ!” คนอื่นๆ ต่างพยักหน้าอย่างควบคุมไม่ได้
“ฝ่าบาท ถึงการบินจะงดงาม แต่มันก็อันตรายมากเช่นกัน! หากมีความผิดพลาดใดๆ เกิดขึ้น มันอาจส่งผลให้ตกลงมาจากท้องฟ้าและเสียชีวิตได้อย่างง่ายดาย!” หลินเป่ยฟานกล่าวด้วยใบหน้าที่จริงจัง ทุกคนอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น พวกเขาต่างตื่นขึ้นจากความฝันอันแสนหอมหวาน การบินนั้นงดงามมาก แต่หากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น มันก็อาจเป็นหลุมฝังศพได้เช่นกัน
“คำพูดของท่านหลินเป็นความจริง! เราคงไม่พร้อมยอมเสี่ยง เราเองก็หวังว่าท่านหลินจะไม่ทำอะไรที่เสี่ยงเช่นนี้อีกในอนาคต! เพราะมีอยู่ของท่านมีความสำคัญต่อเราและอาณาจักรอู๋อันแสนยิ่งใหญ่มากมายนัก!” จักรพรรดินีกล่าวออกมาด้วยความเคร่งเครียด ความรักอันลึกซึ้งของนางที่มีต่อหลินเป่ยฟานทำให้ทุกคนในราชสำนักและเหล่าบัณฑิต ณ ที่นี่ต่างรู้สึกอิจฉา กระทั่งหหลินเป่ยฟาน็ยังรู้สึกสับสนนิดหน่อย หากองค์จักรพรรดินีให้ความสำคัญกับเขามากเช่นนี้ หรือว่าบางทีหากเรื่องการโกงกินของเขาแดงขึ้นมา เขาจะไม่จำเป็ฯ้ตองหลบหนีไปแล้ว?
“ท่านหลิน เรามีอีกคำถามหนึ่ง!” จักรพรรดินีเอ่ยถามอีกครั้ง
“ฝ่าบาท โปรดกล่าวออกมาได้เลยขอรับ!” หลินเป่ยฟานโค้งคำนับ
จักรพรรดินีชะงักไปและกล่าวถามว่า “บัลลูนนี้สามารถพาคนไปยังสวรรค์ชั้นที่เก้าเพื่อพบเจอกับพระเจ้าได้หรือไม่?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เหล่าขุนนางและบัณฑิตที่อยู่ที่นี่ไม่อาจสงบได้อีกต่อไป! บินไปยังสวรรค์ชั้นที่เก้าเพื่อพบพระเจ้า? ถึงแม้ทุกคนจะต้องการพบเจอพระเจ้า แต่ใช่ว่าพวกเขาจะสามารถทำได้! แต่บัลลูนนี้มันจะทำได้จริงหรือ? ทุกคนเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ
หลินเป่ยฟานลอบหัวเราะออกมา กระทั่งจักรพรรดินีก็คงไม่อาจต้านทานความหลงใหลของเส้นทางแห่งความเป็นอมตะสินะ! แต่มันก็พอเข้าใจได้ เหล่าคนที่มีพลังอำนาจมากมาย จักรพรรดินีผู้มีอำนาจสูงส่งของอาณาจักร พวกเขาล้วนมีเงินตรามากมายอยู่แล้ว พวกเขายังจำเป็นจะต้องการความมั่งคั่งอันไร้ที่สิ้นสุดอีกหรือ? ไม่เลย มีเพียงความเป็นอมตะและชีวิตนิรันดร์เท่านั้นที่พวกเขาต้องการ เพื่อที่จะได้เพลิดเพลินกับชีวิตอันแสนสุขสบายตลอดไป!
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงยกบัลลูนออกมา เขาไม่เชื่อว่าจักรพรรดิหรือผู้ที่มีอำนาจมากมายจะสามารถต้านทานสิ่งนี้ได้! หากพวกเขาไม่สามารถต้านทานได้ พวกเขาก็มีแต่ต้องยอมจำนนเท่านั้น!
“ขอตอบคำถามของฝ่าบาท ถึงเราจะยังไม่อาจทำได้ แต่ตราบใดที่บัลลูนสามารถบินได้สูงขึ้น เราก็จะสามารถทำได้อย่างแน่นอน!” หลินเป่ยฟานกล่าวออกมาพลางลอบหัวเราะในใจ “ยิ่งไปกว่านั้น ถึงเราจะไม่สามารถทำได้ แต่เพียงได้ขึ้นบินบนบัลลูนสักครั้งหนึ่ง มันก็เป็นประสบการณ์ที่เพลิดเพลินใจยิ่งนัก!” ทุกคนต่างเพ้อฝันคิดว่าจะมีตัวตนอมตะอาศัยอยู่บนสวรรค์ ดังนั้นตราบใดที่บัลลูนสามารถบินได้สูงขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาก็คงจะมีโอกาสเห็นตัวตนอมตะและได้รับสมบัติอันมากมาย! เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเป่ยฟาน มันก็ทำให้ทุกคนทั้งตื่นเต้นและปั่นป่วนยิ่ง
“บินไปสวรรค์! พบเห็นเหล่าพระเจ้าบนฟากฟ้า!” ทุกคนต่างตื่นเต้น
“ทรัพย์สมบัติมากมายที่รอคอยอยู่!” คนมากมายต่างตะโกนออกมา
“มันจะทำได้จริงๆ หรือ?” คนผู้หนึ่งถามขึ้น
“บัลลูนนี้มัน สิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แล้ว!”
สรุปแล้วก็คือ ทุกคนที่นี่ล้วนตื่นเต้นจนอยู่ไม่สุขกันแล้ว
"อืม!" จักรพรรดินีมีความสุขมาก นางอยากที่จะให้รางวัลแก่ใครบางคนเหลือเกิน
"ท่านหลิน จงออกมาข้างหน้าและรับรางวัลของท่านเสีย!“หลินเป่ยฟานถึบกับตกตะลึง”รางวัลอีกแล้วหรือ?”
“เลิกถามไถ่เสียเวลาได้แล้ว! จงเข้ามาและรับรางวัลของท่านเดี๋ยวนี้! เพราะท่านหลินกำลังนำความเป็นอมตะมาสู่อาณาจักร ข้าจึงรู้สึกยินดีที่จะมอบรางวัลให้ท่านด้วยเหรียญเงินตำลึงจำนวนหนึ่งและเหล้าของพระราชวังที่ดีที่สุดจำนวน 10 ถัง…”
ด้วยเหตุนี้ หลินเป่ยฟานจึงได้รับรางวัลมากขึ้น
เขารู้สึกทั้งประหลาดใจและกระอักกระอวนยิ่ง จักรพรรดินี ท่านช่วยหยุดให้รางวัลข้าสักทีจะได้ไหม?
เรือนของข้ามันแทบจะอยู่ไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ! อีกทั้งข้ายังขี้เกียจที่จะต้องมาจัดระเบียบมันอีก! ของก็เยอะแยะมากมายเต็มไปหมด ทั้งต้าหลี่และเสี่ยวกุ้ยต่างบ่นถึงเรื่องนี้!
"อ๊า! ข้าทรมานเหลือเกิน!” หลินเป่ยฟานได้แต่ถอนหายใจออกมา
เหล่าขุนนางต่างอิจฉาและรู้สึกโกรธมาก ทรมานบ้านเจ้าสิ!
ในไม่ช้า หลินเป่ยฟานก็กลับไปยังเรือนของตนพร้อมกับของรางวัลมากมาย
ระหว่างทางกลับเรือน ผู้คนต่างวิ่งเข้ามาหาเขาอย่างตื่นเต้น ล้อมรอบตัวเขาและถามว่าเขาบินได้เช่นไรและรู้สึกอย่างไร นี่เป็นครั้งแรกที่หลินเป่ยฟานเป็นที่ชื่นชอบของผู้คน!
แม้ว่าเขาจะกลับมาถึงเรือนแล้ว เขาก็ไม่สามารถอยู่อย่างสงบสุขได้เลย
“ท่านสามี ในที่สุดท่านก็กลับมาอย่างปลอดภัย! ข้าเป็นห่วงท่านเหลือเกิน!”
“นายท่าน ข้าได้ยินมาว่าท่านขี่วัตถุวิเศษที่เรียกว่าบัลลูน มันมีน้ำหนักมากถึงเพียงนั้น แต่มันบินได้เช่นไรกันหรือ? นายท่าน บอกข้าได้ไหม?”
“นายน้อย การบินมันสนุกหรือไม่?”
หลังจากใช้ความพยายามอย่างมากในการตอบคำถามของทุกคน หลินเป่ยฟานก็ได้พักเสียที
เขาได้แต่รู้สึกทึ่งกับตนเอง การที่เป็นที่ชื่นชอบเช่นนี้มันช่างทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจนัก!
ในยามนั้นเอง เจ้าหญิงน้อยก็วิ่งเข้ามาในเรือนอย่างตื่นเต้น นางผลักทุกคนออกและวิ่งตรงไปหาหลินเป่ยฟานพร้อมกับถามว่า “หลินเป่ยฟาน เจ้าบินขึ้นไปบนท้องฟ้าได้ยังไง? รีบบอกข้ามาเลย!”
ด้วยเหตุนี้ หลินเป่ยฟานจึงได้แต่ต้องเล่าเรื่องอีกครั้ง
เจ้าหญิงน้อยหลงใหลเรื่องที่เขาเล่าเป็นพิเศษ “สามารถมองเห็นเมืองทั้งเมืองจากฟากฟ้า ชมทะเลสีฟ้าครามและต้นไม้เขียวขจี สามารถทำได้กระทั่งพูดคุยกับเหล่าพระเจ้าบนท้องฟ้า… น่าสนุกมาก! หลินเป่ยฟาน เจ้าช่วยพาข้าบินสักครั้งได้ไหม? ข้าขอร้องเจ้าล่ะ ข้าจะฟังทุกสิ่งที่เจ้าพูดเลย! ได้โปรดเถอะนะ...”นางอ้อนวอนพร้อมกับคว้าแขนของหลินเป่ยฟานและทำตัวน่ารัก
ต้องบอกเลยว่าเจ้าหญิงตัวน้อยที่แสร้งทำตัวน่ารักนั้นน่ารักเป็นอย่างยิ่ง
ทุกคนต่างคล้อยตามนางไป
พวกเขามองไปทางหลินเป่ยฟานอย่างคาดหวัง
หลินเป่ยฟานก็ได้แต่ยิ้มออกมา “ท่านมาช้าไปแล้ว! บัลลูนได้ถูกส่งไปให้จักรพรรดินี มีการป้องกันอย่างแน่นหนาและไม่มีใครสามารถเข้าใกล้มันได้หากไม่ได้รับอนุญาตจากจักรพรรดินี ยามนี้จึงไม่มีผู้ใดสามารถบินได้อีกหากไม่ได้รับการอนุมัติ กระทั่งตัวข้าก็ทำไม่ได้!”
“อา ~~ เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้กัน!” เจ้าหญิงน้อยรู้สึกผิดหวังมาก
“ท่านไม่ต้องคิดมากหรอก เดี๋ยวในอนาคตก็คงมีโอกาสอีก! ยามนี้ดึกแล้ว มากินข้าวกันก่อนเถอะ!” หลินเป่ยฟานลูบศีรษะขององค์หญิงน้อยและกล่าวพร้อมด้วยรอยยิ้ม
เมื่อได้เวลามื้อย็น เรือนของหลินเป่ยฟานก็สงบลงมาก
ทว่าข่าวที่อาณาจักรอู๋ที่ยิ่งใหญ่มีวัตถุวิเศษที่บินได้ก็แพร่กระจายอย่างรวดเร็วไปทั่วเมือง ไปยังอาณาจักรมากมาย จนเรื่องนี้ถึงขั้นกระจายข้ามไปยังทวีปอื่น
ยามนี้หลินเป่ยฟานผู้สร้างวัตถุวิเศษที่สามารถบินได้ ก็ถูกยกพูดถึงกันเป็นอันดับหนึ่ง!
หัวหน้าตระกูลใหญ่ทั้งหมด เหล่าขุนนางศักดินาและจักรพรรดิของอาณาจักรต่างๆ ก็ถึงกับตกตะลึง!
อาณาจักรอู๋อันแสนยิ่งใหญ่มีวัตถุวิเศษที่บินได้งั้นหรือ?!
สิ่งนี้สามารถพาผู้คนขึ้นไปบนท้องฟ้าได้ เช่นนั้นมันก็หมายความว่ามีโอกาสที่จะได้พบกับเทพเจ้าบนท้องฟ้าหรือเปล่า?
หากพวกเขาได้พบกับเทพเจ้า เช่นนั้นก็จะมีโอกาสบรรลุความเป็นอมตะและมีชีวิตนิรันดร์หรือไม่?
ไม่มีผู้ปกครองคนใดสามารถต้านทานการล่อลวงจากความอมตะนี้ได้!
การล่อลวงจากชีวิตอันนิรันดร์!
ดวงตาของทุกคนพลันเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ!
“ส่งคนไปที่เมืองหลวงโดยเร็วที่สุด เราต้องนำวัตถุวิเศษที่บินได้กลับมา!”
“ถึงเราจะไม่สามารถเอามันมาได้ แต่เราก็ต้องเอาพิมพ์เขียวของมันมาให้ได้!”
“วิถีแห่งความเป็นอมตะเทียมสวรรค์อยู่เบื้องหน้าเราแล้ว!”
…
สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงกำลังรวมตัวกันอยู่ภายในเมืองหลวง ทว่าเรื่องนี้เอาไว้เล่าในคราวหน้า
ณ วันรุ่งขึ้น ภายในราชสำนัก
“ขอคำนับฝ่าบาท ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานเป็นหมื่นปี!”
“พวกท่านทุกคนลุกขึ้นได้”
“ขอบพระทัยฝ่าบาท”
ในยามนี้เอง หลินเป่ยฟานก็ก้าวไปข้างหน้า ถือเอกสารไว้ในมือและกล่าวเสียงดังว่า “ฝ่าบาท นี่คือวิธีการผลิตบัลลูนลมร้อนหรือที่ยามนี้เรียกกันว่าสิ่งประดิษฐ์บินได้ศักดิ์สิทธิ์ มันได้ถูกรวบรวมและจัดแบ่งหัวข้อวิธีการทำทั้งหมดแล้ว! ด้วยวิธีนี้ อาณาจักรอู๋อันยิ่งใหญ่ของเราก็สามารถผลิตเครื่องจักรบินได้จำนวนมาก! ได้โปรดเชิญพินิจดูเถิดฝ่าบาท!”
จักรพรรดินีรู้สึกยินดีมาก นางจึงกล่าวอย่างกระตือรือร้นว่า “เช่นนั้นก็เอามาให้ข้าดูเร็วเข้า!”
หลังจากได้รับเอกสารมา จักรพรรดินีก็อ่านอย่างถี่ถ้วน
เมื่ออ่านจบ นางก็ยิ้มและกล่าวว่า “ท่านหลิน ท่านเป็นบุคคลที่จงรักภักดี กล้าหาญและรักอาณาจักรของเราอย่างแท้จริง! เมื่อมีท่านอยู่ในอาณาจักรอู๋อันแสนยิ่งใหญ่ มันก็คล้ายกับเป็นพรให้แก่ข้าและทั้งอาณาจักร!”
“ฝ่าบาท ท่านชมข้ามากเกินไปแล้ว” หลินเป่ยฟานตอบด้วยรอยยิ้มแผ่วเบา
เขารู้ดีว่าสิ่งเหล่านี้ไม่มีประโยชน์ที่จะเก็บไว้กับตนเอง มันย่อมเป็นการดีกว่าที่จะผ่อนปรนและให้กับทางอาณาจักรไป
อย่างน้อยมันก็ทำให้องค์จักรพรรดินีโปรดปรานเขามากขึ้น
ทันใดนั้น หลินเป่ยฟานก็หยิบเอกสารฉบับอื่นออกมา
“ฝ่าบาท นี่คือวิธีการควบคุมบัลลูนในอากาศที่รวบรวมโดยความรู้ที่ต่ำต้อยของข้า! ตราบใดที่เราเรียนรู้สิ่งนี้ได้ อาณาจักรอู๋อันแสนยิ่งใหญ่ของเราก็สามารถฝึกกลุ่มนักรบบนท้องนภาที่สามารถควบคุมบัลลูนลมร้อนและปกป้องดินแดนของอาณาจักรอู๋อันแสนยิ่งใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว!”
จักรพรรดินีถึงกับเร่งหลินเป่ยฟานทันที “ไหนเอามาให้ข้าดูโดยเร็ว!”
หลังจากรับมันมาแล้ว จักรพรรดินีก็ได้อ่านมันอย่างถี่ถ้วนอีกฉบับ
“วิธีการควบคุมบัลลูนลมร้อนนี้ทั้งละเอียดและครอบคลุมมาก นอกจากนี้ยังมีการอธิบายข้อดีและข้อเสียอย่างชัดเจน! ด้วยวิธีนี้ เราคงสามารถเพิ่มกำลังให้อาณาจักรอู๋อันแสนยิ่งใหญ่ของเราได้อย่างรวดเร็ว!”
จักรพรรดินียิ้มและมองไปทางหลินเป่ยฟานด้วยความพึงพอใจ “ท่านหลิน ท่านได้นำเสนอวิธีการผลิตและควบคุมบัลลูนของท่าน ทั้งยังมีส่วนร่วมอย่างมากกับทุกสิ่งนี้ บอกข้ามาเถิดว่าข้าควรตอบแทนท่านเช่นไรดี?”
หลินเป่ยฟานรู้สึกหวาดกลัวยิ่งที่จะต้องรับรางวัลอีก “การรับใช้ฝ่าบาทอย่างภักดีเป็นหน้าที่ของข้าในฐานะข้ารับใช้อยู่แล้ว ได้โปรดไม่ต้องให้รางวัลข้าเถิด เรือนของข้าไม่สามารถรองรับมันได้อีกต่อไปแล้ว”
เหล่าขุนนางพลเรือนและทหารที่อยู่รอบๆ ต่างรู้สึกคล้ายกับว่าเจ้าหลินเป่ยฟานมันกำลังโอ้อวด
จักรพรรดินีที่รู้สึกประหลาดใจก็หัวเราะออกมา “ตกลง! ข้าจะไม่ให้รางวัลท่านอีกต่อไปแล้ว ความสำเร็จของท่านจะถูกบันทึกไว้และเก็บสะสมเป็นรางวัลในอนาคต เอาเป็นเช่นนี้แล้วกัน!”
“ขอบพระทัยพะยะค่ะ ฝ่าบาท!” หลินเป่ยฟานโค้งเคารพและถอนตัวออกไปที่ด้านหลังของราชสำนัก
“ยามนี้อาณาจักรอู๋อันแสนยิ่งใหญ่ของเรามีวิธีการผลิตและควบคุมบัลลูนลมร้อนแล้ว! เสนาบดีทุกท่าน พวกท่านคิดว่าเราจะใช้พวกมันเพื่อเพิ่มพลังของอาณาจักรอู๋อันแสนยิ่งใหญ่อย่างรวดเร็วเช่นไรดี?”
จักรพรรดินีมองไปยังเหล่าขุนนางทุกคน เพื่อถามคำถามที่สำคัญอย่างยิ่งยวดออกมา