นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 120
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 120
ในพื้นที่เปิดโล่งด้านนอกผับ ราอนกำลังเผชิญหน้ากับนักดาบตาสีเหลือง
ไม่เพียงแต่ผู้คนในผับเท่านั้นแต่ยังรวมถึงทหารที่ได้ยินข่าวก็มารวมตัวกันอยู่รอบๆ จนเต็มไปหมด บางคนถึงกับเริ่มพนันว่าใครจะชนะ
“เขาคือเทอร์ก้าจากกองกำลังทหารรับจ้างหมาป่าเชียวนะ! เขาจะกัดและไม่ยอมปล่อยคู่ต่อสู้ของเขาจนกว่าจะจบเหมือนกับหมาป่าเลย!”
"ใช่แล้วๆ เธอไม่ต้องตอบรับคำท้าของเขาก็ได้นะ! พอแค่นี้เถอะ”
หน่วยสอดแนมกังวลเกี่ยวกับเขาแต่ราอนส่ายหัว ไม่มีเหตุผลอะไรให้เขาปฏิเสธหนูที่เสนอตัวมาเป็นหนูทดลองให้เขี้ยวแห่งความวิกลจริต
"ไม่เป็นไรครับ ผมจะไม่ปฏิเสธการท้าสู้หรอก”
ราอนยิ้มอย่างมั่นใจและก้าวไปข้างหน้า
ช้าก่อน! มีคำกล่าวว่าปีศาจที่ตายหลังจากกินอาหารนั้นมีเกียรติ และนี่อาหารก็เริ่มเย็นแล้วด้วย!
'เดี๋ยวฉันสั่งให้ใหม่'
อะแฮ่ม โอเค ถ้างั้นก็ไม่เป็นไร
ราธขยับออกโดยบอกให้ราอนสั่งอาหารแบบเมื่อกี้ให้มันทีหลัง โดยเฉพาะพิซซ่า ศักดิ์ศรีของราชาปีศาจนั้นเบาราวกับขนนก
“ฉันเป็นหัวหน้าทีมที่สี่ของกองกำลังทหารรับจ้างหมาป่า, เทอร์ก้า”
"ผมราอน”
เทอร์ก้าปฏิบัติต่อราอนด้วยความสุภาพแม้ว่าราอนจะอายุน้อยกว่าตัวเขามากก็ตาม แต่เขาไม่สามารถซ่อนการดูถูกเล็กน้อยในดวงตาของเขาได้ซึ่งหมายความว่าเขาไม่เชื่อข่าวลือที่ได้ยินมา
“ให้ฉันได้สัมผัสประสบการณ์ของดาบที่ฆ่าฉลามตุ่นหน่อย”
ขณะที่พูดอย่างนั้นเทอร์ก้าก็เตะพื้นและชักดาบออกมา เขายกดาบขึ้นชี้ฟ้าจากนั้นก็กระแทกมันลง มันเป็นการโจมตีโดยใช้ดาบที่หนาและหนัก
แต่ว่าทั้งพลัง ความเร็ว และวิถีของมันก็ไม่ได้เกินคาดหมายของราอน
ราอนฟาดฟันดาบเขี้ยวแห่งความวิกลจริตโดยเล็งไปที่ดาบของฝ่ายตรงข้ามที่ฟาดลงมาราวกับสายฟ้า
แคร้ง!
การปะทะกันระหว่างดาบสองเล่มซึ่งเต็มไปด้วยออร่าทำให้พื้นที่น้ำแข็งโดยรอบแตกร้าว
"ป้องกันได้งั้นเหรอ?”
ดวงตาของเทอร์ก้าเบิกกว้าง
"ผมบอกแล้ว"
ราอนผลักดาบหนักออกด้วยดาบบางของเขาและยิ้มอย่างเย็นชา
"ดาบของผมค่อนข้างดุร้าย”
"ฮึ่ม!”
ดาบของเทอร์ก้ากระเด็นออกไปทางด้านขวา ราอนไม่พลาดโอกาสนี้และยกหมัดซ้ายขึ้นมา
ปั่ก!
หมัดบดขยี้ลมและฟาดไปที่เอวด้านขวาของเทอร์ก้า
"อึก!"
เทอร์ก้าล้มลงกับพื้น
"อู้ว..."
"เทอร์ก้าแพ้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?"”
“เขาน่าจะเป็นหนึ่งในสิบคนที่แข็งแกร่งที่สุดในกองกำลังทหารรับจ้างหมาป่านี่นา”
“หมัดเปล่าๆ ทำให้เกิดเสียงดังสะเทือนโลกขนาดนี้ได้ยังไง?”
“เขาใช้ดาบบางๆ ปัดดาบหนาๆ นั่นออกได้ไง? แปลกจริงๆ”
ทหารรับจ้างและผู้ชมมองไปมาระหว่างราอนและเทอร์ก้าด้วยความประหลาดใจ
“ลุกขึ้นมาก่อน”
ราอนวางดาบบนไหล่ของเทอร์ก้าอย่างสบาย ๆ
“อึก…”
เทอร์ก้าพยุงร่างกายขึ้นด้วยดาบ ดวงตาสีเหลืองของเขาสั่นไหวราวกับเรือใบที่เผชิญกับคลื่นยักษ์
“คุณขอให้ผมแสดงดาบให้เห็น แต่ผมยังไม่ได้เริ่มเลย”
"ย๊ากกก"
เทอร์ก้ากัดฟันและพุ่งเข้ามาหาเขา เขายังคงรักษาความเยือกเย็นได้แม้จะอยู่ในสภาวะสับสน สมกับเป็นทหารรับจ้างที่มีประสบการณ์การต่อสู้มานับครั้งไม่ถ้วน
ราอนยกดาบขึ้นมา
แคร้ง!
เสียงเหล็กดังก้องและดาบของเทอร์ก้าก็ถูกผลักกลับไป แม้ว่าเขาจะเกือบแพ้แต่ดวงตาของเขายังมีชีวิตอยู่ เขาหมุนตัวกลางอากาศเพื่อฟาดดาบลงมา
"ดีกว่าเมื่อกี้นี่นา”
ราอนย่อตัวเล็กน้อยและฟันดาบของเขาจากด้านล่าง
แคร้ง!
ข้อมือของเทอร์ก้าที่ถือดาบถูกบิดออกราวกับว่ามันหัก เป็นเพราะเขี้ยวแห่งความวิกลจริตที่สร้างจุดอ่อนให้กับคู่ต่อสู้
"อึ่ก!”
เทอร์ก้าถอยออกไปอย่างรวดเร็วและราอนก็ก้าวตามไปราวกับพายุ
ฉึก!
เขาแทงเข้าไปในจุดอ่อนของเทอร์ก้า
"อึ่ก...”
เทอร์ก้าทรุดตัวลงและดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีขาว น้ำลายไหลออกมาจากปากของเขา
ราอนปัดฝุ่นจากมือเบาๆ และมองไปข้างหลัง
ท่ามกลางสายตาที่จ้องมองมาที่เขาอย่างประหลาดใจ เขาชี้ไปที่สมาชิกของกองกำลังทหารรับจ้างหมาป่าที่กำลังมองพวกเขาโดยอ้าปากกว้าง
"คนต่อไปเข้ามาได้เลย”
ราอนยิ้มด้วยความตื่นเต้นและกุมดาบของเขา
“คงไม่ได้คิดว่ามันจะจบแค่นี้หรอกใช่ไหม?”
* * *
* * *
หลังจากทิ้งกระเป๋าไว้ในที่พักแล้วราดินก็รีบไปที่ห้องผู้บัญชาการทันที
ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังอยู่ระหว่างการประชุม ผู้บัญชาการมิลแลนด์กำลังดูแผนที่พร้อมกับลูกชายของเขาหรือก็คือรองผู้บัญชาการเทอเรียน
“แกน่าจะกลับมาในอีกสองวันไม่ใช่เหรอ?”
มิลแลนด์เงยหน้าขึ้นหลังจากปักธงจำลองสีแดงบนแผนที่
“มันมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นน่ะครับ”
เมื่อได้ยินเสียงจริงจังของราดิน ราดินก็วางธงจำลองขนาดเล็กลง
"ว่ามา”
“ฉลามตุ่นมาที่อุโมงค์ที่ห้า”
"ห้า? แต่อุโมงค์ที่ห้าอยู่ที่ชายป่านี่!”
เทอเรียนทุบโต๊ะอย่างแรงเพราะเขาไม่เชื่อ
“ใช่ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นฉลามตุ่นเข้ามาใกล้ภูเขาสตาลิน”
“มันมีกี่ตัว?”
“หกตัวเข้ามาพร้อมกัน”
ราดินวางห่อผ้าที่มีครีบของฉลามตุ่นลงบนโต๊ะ
"หือ!”
“พวกมันออกจากอาณาเขตมาถึงป่าเลยเหรอ…?”
ทั้งมิลแลนด์และเทอเรียนต่างประหลาดใจ
"เดี๋ยวก่อนสิ! ทำไมนายถึงยังสบายดีถ้ามีฉลามตุ่นตั้งหกตัวซุ่มโจมตี? แล้วคนบาดเจ็บล่ะ? มีคนตายกี่คน?”
“ไม่มีใครบาดเจ็บแม้แต่คนเดียว”
“หือ?”
"อะไรนะ?”
ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้างกว่าเดิมด้วยความประหลาดใจ
“ย-ยังไงนะ?”
“นายไม่น่าฆ่าฉลามตุ่นได้ด้วยตัวเองนี่?”
“ถ้างั้นผมขอถามบ้าง”
ราดินกลืนน้ำลายและเงยหน้าขึ้น
"ราอน เด็กที่ชื่อราอนเป็นใครกันแน่?”
ราดิแสดงสีหน้าตื่นตระหนก
“เหตุผลที่ผม ไม่สิ ที่พวกเราหน่วยสอดแนมยังมีชีวิตอยู่ก็เพราะราอน เขาเตือนเราล่วงหน้าเกี่ยวกับฉลามตุ่นที่เข้ามาใกล้แล้วก็ฆ่าฉลามตุ่นทั้งหกตัวด้วยตัวเอง ผมไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ”
“นายบอกว่าเขาฆ่าฉลามตุ่นหกตัวด้วยตัวเขาเองเหรอ?”
เสียงของเทอเรียนสั่นเทา
“ใช่ครับ เขาใช้การโจมตีหนึ่งครั้งต่อฉลามตุ่นหนึ่งตัว และเมื่อตัวสุดท้ายพยายามมุดหนีไปใต้ดิน เขาก็ขว้างกริชปักทะลุพื้นลงไป”
ดวงตาของราดินยังคงสั่น
“ผมเคยเห็นนักรบและวีรบุรุษมานับไม่ถ้วน แต่นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นคนที่แข็งแกร่งมากในวัยขนาดนี้ คุณเอาสัตว์ประหลาดที่ไหนมาอยู่กับเรากัน?”
“……”
มิลแลนด์เพียงแค่มองแผนที่โดยไม่ตอบกลับ
“ความสามารถในการสอดแนมของเขาเป็นยังไงบ้าง?”
"ผมโมโหมาก”
"ฮะ?"
มิลแลนด์หรี่ตาลงเพราะคำตอบที่ไม่ตรงกับคำถาม
“การระบุภูมิศาสตร์ เส้นทางมอนสเตอร์ เวลาและสภาพอากาศ การอ่านแผนที่และทิศทาง เขารู้ทุกอย่างเหมือนกับเป็นหน่วยสอดแนมที่อาศัยอยู่ที่นี่มานานหลายปี เขารู้แม้กระทั่งดินตรงไหนสามารถขุดเป็นหลุมหลบภัยได้”
ราดินถอนหายใจเสียงดัง
“เขายอดเยี่ยมมากจนผมหงุดหงิด แต่เขากลับทำให้ผมอุ่นใจในช่วงเวลาที่อันตราย”
“แปลว่านิสัยของเขาก็ยอดเยี่ยมสินะ”
เขาครุ่นคิดสักพัก จากนั้นมิลแลนด์ก็ใช้นิ้วสีดำที่เคยถูกไฟไหม้แตะบนโต๊ะตัวเก่า
"ใช่ครับ เขาไม่เคยคุยโวเกี่ยวกับความสามารถของเขาเลยและเขาก็ไม่ได้ถือตัวเพราะความรู้ของเขาด้วย เพียงแค่สองวันเขาก็เข้ากับหน่วยสอดแนมได้อย่างดี ถ้าผมไม่ได้เห็นทักษะดาบของเขาผมคงคิดว่าเขาคงเป็นทหารรับจ้างที่ใช้ชีวิตที่ยากลำบากมาตั้งแต่เด็ก”
“แล้วอีกคนล่ะ?”
"ดอเรียนเหรอครับ? พูดตามตรงนะว่าเด็กคนนั้นแปลกกว่าราอนอีก”
ราดินหลับตาลง
“ยังแปลกกว่านั้นอีกเหรอ?”
“ใช่ครับ เขาพกสิ่งของทุกอย่างติดตัวไปด้วย ผมไม่เคยคิดเลยว่าผมจะได้นอนบนที่นอนนุ่มๆ และได้ดื่มชาอุ่นๆ ระหว่างภารกิจสอดแนม”
“แล้วนิสัยของเขาล่ะ?”
"เขาเป็นเด็กดี เขาเป็นคนขี้ขลาดแต่เขาก็ใส่ใจคนรอบข้างและรู้จักแบ่งปันสิ่งของต่างๆ ผมอาจจะอยู่กับพวกเขาได้ไม่นานแต่ผมคิดว่าพวกเขาเป็นคนดีทั้งคู่”
ราดินให้ความเห็นเกี่ยวกับราออนและดอเรียนอย่างซื่อสัตย์
"ดังนั้นได้โปรดบอกผมหน่อยนะครับ! สัตว์ประหลาดแปลกๆ สองคนนั้นมาจากไหนกัน? พวกเขามาจากครอบครัวที่มีชื่อเสียงใช่ไหม? ผมน่าจะเดาได้ตั้งแต่เห็นใบหน้าอันดูดีของเขาแล้วสิ!”
"พวกเขา..."
ขณะที่มิลแลนด์กำลังจะตอบก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น
"ท่านผู้บัญชาการ!”
ชาร์ลส์ หนึ่งในผู้ช่วยของเขาเปิดประตูและเข้ามาด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ
"มีอะไร?"
"ค-ค คือ..."
“ใจเย็นๆ แล้วค่อยๆ พูด”
“เกี่ยวกับทหารใหม่สองคนที่เข้าร่วมกับเราเมื่อสองวันก่อน”
ดวงตาของทั้งสามคนเป็นประกายพร้อมกันเมื่อได้ยินคำว่าทหารใหม่
“หนึ่งในทหารใหม่กำลังต่อสู้กับเทอร์ก้าจากกองกำลังทหารรับจ้างหมาป่าอยู่ครับ พวกเขากำลังต่อสู้โดยใช้ดาบจริงอยู่หน้าร้านต้นไม้น้ำแข็ง”
"ฮะ? เกิดอะไรขึ้น?”
“แน่นอนอยู่แล้วว่า เทอร์ก้าไปขอให้ราอนสู้ด้วยหลังจากได้ยินข่าวเรื่องเขาฆ่าฉลามตุ่นด้วยตัวเอง”
เทอเรียนตอบราวกับว่าเขาเห็นเหตุการณ์นั้นด้วยตาของเขาเอง
"พวกหมาป่า..."
มิลแลนด์ขมวดคิ้ว กองกำลังทหารรับจ้างหมาป่าช่วยเหลือพวกเขาได้มากในระหว่างการต่อสู้กับมอนสเตอร์ เพราะความกล้าหาญและจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของพวกเขามีเยอะมาก แต่พวกเขาก็รักการต่อสู้มากเกินไป
พวกนั้นมักจะหาเรื่องสู้กันเองถ้าไม่มีคนนอกให้สู้ด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงมักก่อปัญหาอยู่บ่อยๆ
“ผมคิดว่าเราควรหยุดพวกเขาก่อนที่จะมีใครได้รับบาดเจ็บ แม้ว่าราอนจะฃแข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับฉลามตุ่นได้ แต่เขาก็คงไม่สามารถเอาชนะเทอร์ก้าที่มีประสบการณ์การต่อสู้มากมายได้”
“เฮ้อ ไอ้พวกหมาบ้านั่น”
มิลแลนด์เดาะลิ้นแล้วมองไปที่เทอเรียน
“งั้นเธอก็ไปที่นั่น หยุดพวกเขาซะ แล้วก็พาราอนกลับมาที่นี่”
“รับทราบครับ”
เทอเรียนพยักหน้าและออกจากห้องผู้บัญชาการ ราดินบอกว่าเขาจะไปด้วยและรีบตามไปทันที
“อืม…”
มิลแลนด์ถอนหายใจเบาๆ มองที่ครีบฉลามตุ่น
“การเปลี่ยนแปลงกำลังจะมาเหรอ?”
ทหารแก่ๆ ที่ปกป้องสถานที่แห่งนี้มาตลอดไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงเลย เขาถอนหายใจเบาๆ และหวังว่าร่างกายแก่ชราของเขาจะสามารถอดทนต่อการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นได้
* * *
“ไอ้หมาป่าพวกนั้นชอบสร้างปัญหาอยู่ตลอดเลย!”
ราดินขมวดคิ้วและวิ่งไปที่ร้านต้นไม้น้ำแข็ง
“ผมถึงบอกไงว่าสมองของพวกมันมีแต่กล้ามเนื้อ เราไม่ควรรับพวกมันเข้ามาตั้งแต่แรก!”
“แต่พวกเขามีประโยชน์อย่างมากในการรบ ถ้าพูดถึงการต่อสู้ระยะประชิดก็ไม่มีกลุ่มไหนเอาชนะพวกเขาได้อีกแล้ว”
เทอเรียนตอบตามจริง
"ก็จริงแหละครับ”
ราดินเลียริมฝีปากและพยักหน้า
“อย่างไรก็ตาม ผมจะไม่ปล่อยให้พวกมันหนีไปได้แน่นอนถ้าพวกมันแตะต้องทหารใหม่ของผม”
“นายไม่ได้พึ่งบอกว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาดแปลกๆ เหรอ?”
“สัตว์ประหลาด ผี หรืออะไรก็แล้วแต่ ตอนนี้เขาเป็นคนใต้บังคับบัญชาของผมเพราะเขาเข้าร่วมหน่วยสอดแนมที่สามแล้ว! ผมจะปกป้องเขาจนกว่าเขาจะออกจากหน่วย แล้วผมก็ยังเป็นหนี้ชีวิตเขาอีก”
“เฮอะ”
เทอเรียนแสยะยิ้ม ราดินเป็นคนที่จิตใจภายในอบอุ่นแตกต่างจากรูปลักษณ์ภายนอก
'เรื่องนั้นไว้ก่อน...'
เขาหวังว่าราอนจะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส
แม้ว่าเขาจะมาจากซีกฮาร์ทและมีพรสวรรค์โดดเด่นแต่เขาก็ไม่น่าจะสามารถเอาชนะเทอร์ก้าผู้ซึ่งมีประสบการณ์ต่อสู้มากมายได้
การต่อสู้กับมอนสเตอร์และการต่อสู้กับคนเป็นสิ่งที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
"โว้ว!”
พวกเขาเพิ่มความเร็วกันอีกเล็กน้อยและก็มาถึงร้านต้นไม้น้ำแข็งจนได้ เสียงตะโกนดังไปทั่ว บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยผู้คนจนไม่มีที่ให้พวกเขาแทรกเข้าไปได้
"ฮึบ!'
เทอเรียนถอยหลังและกระโดดข้ามกำแพงคนที่ยืนขวางไป
“ฮะ...?”
เมื่อกระโดดลงที่ข้างสนามประลองชั่วคราวแล้ว เขาก็ตัวแข็งทื่อ
'ทำไมพวกเขา...?’
ทหารรับจ้างผู้กล้าหาญห้าคนนอนกองอยู่บนพื้นโดยที่ใบหน้าของพวกเขากลายเป็นสีซีด
และ...
ปึ่ก!
พร้อมกับเสียงทุบก้อนหินอันทรงพลัง ทหารรับจ้างอีกคนถูกกระแทกลงกับพื้นเหมือนเสาเข็ม
"โว้ววว!”
“เขาชนะอีกแล้ว!”
“ชนะหกนัดรวด! เด็กคนนั้นเอาชนะทหารรับจ้างหมาป่าหกคนด้วยตัวคนเดียวเลย!”
"บ้าไปแล้ว! ข่าวลือไม่ใช่เรื่องโกหก!”
“เขาเป็นปีศาจดาบ ปีศาจดาบ ปีศาจดาบ!”
ผู้ชมต่างตะโกนยกย่องราอนที่สามารถเอาชนะทหารรับจ้างหมาป่าทั้งหกได้ด้วยตัวเอง
“อา….”
เทอเรียนมองไปทางขวาด้วยตัวที่สั่นเทา
นักดาบผมทองที่เต็มไปด้วยแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัว กำลังชี้ดาบของเขาไปที่กองกำลังทหารรับจ้างหมาป่า
“มันเริ่มน่าเบื่อแล้ว เข้ามาพร้อมกันเลยสิ”
เมื่อได้เห็นจิตวิญญาณที่ออกมาจากดวงตาสีแดงของเขา เทอเรียนก็ก้าวถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว