บทที่ 79 สงครามที่เกิดจากกล้วย
บทที่ 79 สงครามที่เกิดจากกล้วย
“ท่านสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ เราไปล่าสมบัติกันดีไหม? บางทีในพวกสมบัติอาจมีสิ่งที่ท่านกำลังมองหา?”
โอลกะชูแผนที่ขุมทรัพย์ในมือของเธอให้เขาดู แม้ว่าจะเป็นแค่ของแถม แต่เธอก็เปรียบเทียบมันกับแผนที่ทะเลหลังจากกลับมา และยืนยันว่าสถานที่บนเกาะนั้นมีอยู่จริงบนเกาะบางแห่งในนิวเวิลด์
สัญชาตญาณของเธอกำลังบอกเธอว่าอาจมีบางสิ่งที่ดีอยู่ในนั้น และเธอก็มั่นใจในสัญชาตญาณของเธอซะด้วย ท้ายที่สุดแล้ว เธอรอดชีวิตมาได้หลายปีในท้องของปลาตกเบ็ดยักษ์โดยการพึ่งพามัน
บนเกาะมีผลไม้มากมาย แต่เธอสามารถหลีกเลี่ยงพิษได้ ได้พบกับเอลิซาเบธผู้เป็นมิตร จากนั้นหลบเลี่ยงการโจมตีของพวกไดโนเสาร์ และหลีกเลี่ยงกระแสน้ำกรด
นอกจากนี้ การล่าสมบัติยังถือเป็นอาชีพหลักของโจรสลัดอีกด้วย แม้ว่าเธอจะสนใจมันเล็กน้อย แต่เธอก็ตระหนักดีว่าความพยายามใดๆก็ตามที่จะค้นหาสมบัติด้วยตัวเธอเองจะไม่ประสบผลสำเร็จ และเธอก็จะสร้างแต่ปัญหาให้กับผู้อื่นเท่านั้น
หากเธอไปหาไคโด ก็มีโอกาสสูงที่เขาจะยอมรับคำขอของเธอ เพราะยังไงเสียเด็กฝึกคือคนโปรดของกัปตันอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ด้วยอุปนิสัยของไคโด เขาคงจะส่งเธอไปเพื่อฝึกเดี่ยวอย่างไม่ต้องสงสัย
เชย์น่าก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่ใช้ได้เช่นกัน เธอจะถือว่างานที่ไร้ความหมายดังกล่าวเป็นการเสียเวลาและอาจคิดว่าโอลกะว่างเกินไปแล้ว และมันจะทำให้เธอถูกจับไปฝึกเพิ่มเติม
หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน มีเพียงอาร์เซอุสเท่านั้นที่จะเห็นด้วยกับคำขอนี้
และเธอก็ไม่ได้คิดผิด เป้าหมายของอาร์เซอุสคือการค้นหาศิลาแห่งชีวิต แต่เขาไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน ดังนั้นเกาะทั้งหมดในทะเลอาจเป็นเป้าหมายของเขาได้ทั้งนั้น
เมื่อมีศิลาแห่งวารีอยู่ในมือ ทะเลจะกลายเป็นเหมือนสนามหญ้าหลังบ้านของเขา และเขาจะไม่ต้องกังวลกับการเผชิญกับปัญหาใดๆ
หลายเดือนผ่านไปโดยไม่มีความคืบหน้ามากนัก และเนื่องจากโอลกะได้รับสิ่งที่เรียกว่าแผนที่สมบัติ จึงไม่เสียหายที่จะลองเสี่ยงโชคกับมันดูสักหน่อย ใครจะรู้ คราวนี้เขาอาจจะพบบางสิ่งบางอย่างจริงๆก็เป็นได้
โอลกะได้สร้างเครื่องหมายไว้มากมายบนแผนที่สมบัติแล้ว และโดยพื้นฐานแล้วเส้นทางและเป้าหมายก็ถูกกำหนดไว้แล้วเช่นกัน
“การไปล่าสมบัติและเสี่ยงโชคอาจเป็นความคิดที่ดีก็ได้ บอกเชย์น่าให้เตรียมเรือเสีย เราจะออกเดินทางพรุ่งนี้”
“เย้ ท่านสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ หนูจะไปบอกพี่สาวเชย์น่าทันที!”
อาร์เซอุสเลือกจุดหมายปลายทางใหม่ และกำลังคนที่คัดสรรก็เตรียมไว้พร้อมแล้ว
ในขณะเดียวกัน ควีนก็ต้อนรับฤดูเก็บเกี่ยวแรกของกล้วยที่เขาปลูก
กล้วยของโทรพิอุสนั้นไม่ใช่กล้วยธรรมดา หลังจากที่ควีนปลูกมัน หน่อกล้วยเหล่านี้ก็เติบโตอย่างรวดเร็วมาก และในเวลาเพียงหกเดือนพวกมันก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว
ผลไม้พวกนี้ยังไม่สุกเต็มที่ แต่ควีนรู้อยู่แล้วว่าเขาประสบความสำเร็จในการปลูกมัน
เมื่อกล้วยเหล่านี้สุกเต็มที่ มันก็จะสายเกินไป โดยปกติแล้วมันจะถูกเด็ดก่อนที่จะสุกเต็มที่แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้สุก เฉพาะผู้ที่ทำงานในไร่เท่านั้นที่สามารถลิ้มรสผลสุกคาต้นแบบเต็มที่ได้
ก่อนหน้านี้ ควีนเคยลองชิมกล้วยที่เก็บมาแต่เนิ่นๆ แม้ว่าพวกมันจะไม่ดีเท่าอันที่งอกจากคางเขา แต่ก็ยังหวานกว่ากล้วยทั่วไป
นอกจากนี้ เขายังรู้สึกประหลาดใจที่พบว่ากล้วยเหล่านี้มีอายุการเก็บรักษานานกว่า ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีอย่างไม่ต้องสงสัย อย่างไรก็ตามสวนกล้วยของเขาก็ได้ประสบปัญหา
เกือบทุกเกาะที่มีคนอาศัยอยู่ในนิวเวิลด์มีเจ้าของ แต่ที่ชายแดนร่วมของกองกำลังที่แตกต่างกัน มักจะมีเกาะที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ซึ่งทำหน้าที่เป็นจุดสังเกต
ควีนเลือกเกาะแห่งหนึ่ง ซึ่งเขานำโจรสลัดที่เป็นเชลยมาเพื่อสร้างสวนกล้วย
เมื่อเทียบกับการขุดแร่ การปลูกกล้วยดูเหมือนจะง่ายกว่าเล็กน้อย อย่างน้อยพวกเขาก็ได้เห็นแสงแดดทุกวัน ผู้คนจำนวนมากจึงอยากมาที่นี่
มีเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่เกิดมาแล้วก็เป็นโจรสลัดเลย ก่อนที่จะออกทะเล โจรสลัดจำนวนมากเป็นเพียงชาวนา พ่อค้า หรือชาวประมงธรรมดาๆ พวกเขามาอยู่บนเส้นทางนี้ด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น ความปรารถนาหรือแรงกดดันจากแรงภายนอก
การปลูกกล้วยเป็นอาชีพเก่าแก่สำหรับหลายคนในกลุ่มนี้
อย่างไรก็ตาม เกิดการต่อสู้ขึ้นบนเกาะแห่งนี้และเหตุผลก็คือกล้วยเหล่านี้
ในตอนเช้าผู้คนบนเกาะก็เริ่มดูแลกล้วยกันตามปกติ นอกจากนี้ยังมีสมาชิกของกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรอีกหลายสิบคนที่ทำหน้าที่เป็นหัวหน้างานที่นี่
เกาะเขตร้อนแห่งนี้แต่เดิมไม่มีคนอาศัยอยู่ และควีนก็เพาะปลูกเพียงส่วนเล็กๆเพื่อการเกษตรเท่านั้น เป็นผลให้มีเพียงส่วนหนึ่งของเกาะเท่านั้นที่ถูกครอบครองโดยคนของเขา และพวกเขาไม่จำเป็นต้องปกป้องอะไรเลย อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ ควีนค้นพบว่ากล้วยสองสามกล่องซึ่งถูกเก็บเกี่ยวก่อนเวลาอันควรและกำลังสุกงอมนั้นได้หายไป
สิ่งนี้ทำให้เขาโกรธมาก เขาจึงสั่งให้โจรสลัดบนเกาะเพิ่มกำลังการลาดตระเวน
ในตอนนี้ มีเรือโจรสลัดอีกลำมาจอดเทียบท่าที่อีกฟากหนึ่งของเกาะ
เรือโจรสลัดลำนี้ดูเหมือนว่าจะมีเจ้าของเป็นผู้หญิงมาก เพราะมีของประดับตกแต่งมากมายที่ดูเหมือนของหวาน ธงโจรสลัดมีกระโหลกมนุษย์เขียนด้วยลิปสติก และกระดูกไขว้ด้านหลังถูกแทนที่ด้วยสิ่งที่คล้ายลูกกวาด
มันคือกลุ่มโจรสลัดบิ๊กมัม และผู้นำคือชาร์ล็อตต์ เปโรเปรอส ลูกชายคนโตของตระกูลชาร์ล็อตต์
ในฐานะลูกชายคนโตของครอบครัว เปรอสเปโรได้รับความไว้วางใจให้รับผิดชอบงานอันยิ่งใหญ่ เมื่อไม่นานมานี้ เมื่อเรือของบิ๊กมัมแล่นผ่านเกาะใกล้เคียง จู่ๆโรค 'การกินผิดปกติ' ของชาร์ลอตต์ หลินหลินก็เกิดขึ้น
ความผิดปกติของการกินของเธอเป็นเรื่องของโชคจริงๆ ถ้าเธอไม่สามารถหาอาหารที่เธอต้องการได้ เธอจะทำลายข้าวของต่างๆต่อไป ครั้งที่แล้ว ความผิดปกติในการกินของเธอคือมูสกล้วย และสมาชิกกลุ่มโจรสลัดบิ๊กมัมก็ต้องค้นหาส่วนผสมไปทุกแห่ง
มีคนขโมยกล้วยไปสองสามกล่อง และโจรสลัดบนเกาะก็หลับกันหมดและไม่คิดว่าจะมีใครมาขโมยกล้วยหรอก
ชาร์ลอตต์ หลินหลินก็ประสบความสำเร็จในการแก้การกินผิดปกติของเธอด้วยรสชาติมูสกล้วย หลังจากนั้นไม่ว่าเธอจะกินกล้วยอะไรเธอก็รู้สึกว่ามันไม่อร่อย ดังนั้นลูกๆของเธอจึงวางแผนที่จะยึดครองเกาะนี้
ครั้งสุดท้ายที่พวกเขามาตอนกลางคืนโดยที่พวกโจรสลัดไม่ได้สังเกต แต่คราวนี้ พวกเขาปรากฏตัวในเวลากลางวันแสกๆ เมื่อโจรสลัดในไร่เห็นคนของบิ๊กมัมปรากฏตัว พวกเขาก็ตกตะลึงกันไปหมด
“พวกแกเป็นใคร!”
“คุคุคุ~ เรามาที่นี่เพื่อยึดเกาะนี้ จากนี้ไปนี่คืออาณาเขตของเรา ตราบใดที่พวกแกจัดหากล้วยให้เพียงพอทุกปี แกก็สามารถยืมธงของเราได้”
นอกเหนือจากเกาะที่ถูกยึดครองภายในอาณาเขตของท็อตโตะแลนด์แล้ว เกาะอื่นๆที่ถูกยึดครองเพียงยืมธงและไม่จำเป็นต้องสละอายุขัยของพวกเขา แต่ต้องถวายส่วยให้เพียงพอทุกไตรมาส มิฉะนั้นพวกเขาจะเผชิญกับความพินาศ
พวกเขาอาจจะทำนาเองไม่ได้ และไม่มีแรงงานเพียงพอที่จะทำ จึงเป็นเหตุให้ต้องอาศัยคนในพื้นที่ทำแทน
แม้ว่าเปโรเปรอสจะพูดเช่นนั้น แต่จริงๆ แล้วเขากำลังแจ้งให้พวกเขาทราบเท่านั้น
“นี่มันเรื่องตลกอะไรเนี่ย? แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร ไอ้เด็กเหลือขอ? นี่คืออาณาเขตของกลุ่มร้อยอ…” คำพูดของบุคคลนั้นถูกตัดขาดเมื่อมีขนมจำนวนมากพันรอบตัวเขา และทำให้เสียงของเขาอู้อี้
“นี่ไม่ใช่การโต้เถียงกัน มันเป็นคำสั่งนะเว้ย! มีใครจะคัดค้านอีกไหม?”
ทันใดนั้นเมื่อรู้สึกถึงภัยคุกคามจากท้องฟ้า เปโรเปรอสจึงเปลี่ยนลูกกวาดให้เป็นกำแพงและสกัดกั้นการโจมตีนั้น เมล็ดพืชถูกฝังอยู่ในกำแพงลูกกวาดของเขา
“งั้นก็เป็นพวกแกเองซินะ ไอ้พวกเวรที่ขโมยกล้วยของฉันไปเมื่อสองสามวันก่อน ฮ่ะ!?”