บทที่ 25: การวางรากฐานให้มั่นคง (1-2)
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 25: การวางรากฐานให้มั่นคง (1-2)
สำหรับฮีโร่ระดับ 1 ดาวที่ไม่มีได้ทักษะพิเศษใดๆ หากพวกเขาถูกส่งออกไปต่อสู้ก็มักจะจบลงด้วยความตาย กรณีเช่นนี้อัตราการรอดชีวิตของฮีโร่จะน้อยมาก
ในตอนนี้ ฉันคิดถึงการจัดองค์ประกอบของกลุ่มที่ฉันมีโดยยึดหลักความสมดุล
ขั้นแรก ฮีโร่ที่ใช้ดาบจะเป็นผู้นำทัพในการสู้พร้อมโล่และดาบในมือ
ต่อมา ฮีโร่ที่ใช้หอกจะคอยช่วยผู้เล่นที่ใช้ดาบจากระยะกลาง
และสุดท้าย ฮีโร่ที่ใช้ธนูจะมีบทบาทสำคัญในการซุ่มยิงและสร้างความเสียหายจากระยะไกล
หากมีการกระจายกำลังตามนี้ ไม่เพียงแต่พลังการต่อสู้เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้อัตราการรอดชีวิตพุ่งสูงขึ้นอีกด้วย นี้แหละคือการวางหน้าที่ของแต่ล่ะคนอย่างเหมาะสม
“แสดงทักษะที่มีออกมาสิ”
ฉันยกโล่ไม้และดาบไม้ของฉันขึ้นมาไว้ในมือ
อารอนที่ยืนอยู่นั้นถือหอกด้วยท่าทางพิลึก
"ทำอะไรอยู่? ไม่เตรียมตัวต่อสู้เหรอ?”
“สะ-สู้เหรอ? ไม่สอนผมก่อนเหรอครับ?”
“ให้ฉันสอนทั้งๆ ที่ฉันเองก็ไม่เคยถือหอกมาก่อนเลยงั้นเหรอ?”
"ถ้าอย่างนั้น…"
“ฉันเรียนรู้ด้วยตัวเองเหมือนกัน นายเองก็สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองแบบเดียวกับฉัน นายควรรู้สึกขอบคุณที่มีคนให้ฝึกด้วย ตอนฉันฝึกน่ะมีแค่หุ่นเท่านั้นเอง”
อารอนเริ่มขยับท่าทางของเขา แต่การอาการหวาดกลัวของเขาปรากฏชัดบนสีหน้า
"ย๊าาาาาาก!"
อารอนตะโกนเต็มแรงขณะที่เขาแทงหอกไปข้างหน้า
ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยความเครียด และปิดตาทั้งสองข้าง ขณะที่ฉันกระโดดหลบหอกที่แทงผ่านอากาศ
ช่การต่อสู้ที่คือการต้องมีชีวิตรอดและฆ่าศัตรู
ถ้าเขากลัวแบบนี้ เขาจะเป็นยังไงในการต่อสู้จริง?
ฉันดึงหอกมาหาฉันด้วยมือซ้ายและถือโล่ไว้
อารอนล้มลงกับพื้น
“แฮ่ก…แฮ่ก…”
"ลุกขึ้น นายทำได้แค่นี้เหรอ? ถ้าฉันเป็นสัตว์ประหลาดพวกนั้น นายตายไปแล้วแน่นอน”
“ผ-ผมจะสู้”
แม้ว่าท่าทางอารอนจะดูงุ่มง่ามน่าสิ้นหวังก็ตาม แต่ปัญหาหลักอยู่ที่ความคิดของเขา เขาไม่มีความปรารถนาที่จะชนะ ไม่มีความใจเย็นในการมองหาจุดอ่อน
มันดูเหมือนเขากำลังบังคับตัวเองให้ทำเพราะเขาไม่อยากตาย
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป
“ฮะ ฮะ ฮะ แฮ่ก…”
อารอนนอนแผ่เหยียดยาวอยู่บนพื้นสนามฝึกซ้อม หน้าอกของเขาขยับขึ้นลงถี่ๆ แต่ในทางตรงกันข้าม ฉันแค่เสียเหงื่อเล็กน้อยเท่านั้น
ความแตกต่างมันเกือบสองเท่าระหว่างฉันที่อยู่ในระดับ 7 และอารอนที่อยู่ในระดับ 1
ทว่า ไม่ว่าร่างกายและทักษะของฉันจะเหนือกว่าแค่ไหน มันก็ค่อนข้างน่าท้อใจที่เขาใช้อาวุธมาโดนฉันไม่ได้ด้วยซ้ำ ทั้งที่ความแตกต่างมันก็ไม่ได้มายมหาศาลอะไรเลยนะ
"ลุกขึ้น สู้อีกกันรอบ”
“ผ-ผมทำไม่ได้…อีกต่อไปแล้ว…ผมไม่มีแรง”
“ถ้าอย่างนั้น พรุ่งนี้อย่ามาอีก”
อารอนพยุงร่างของเขาแล้วลุกขึ้นอย่างช้าๆ ร่างกายของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อ
เจนนาพูดว่า “เราพักกันดีกว่าไหม?”
“ฉันไม่ได้วางแผนที่จะแบกห่ามตัวภาระแบบนายตลอดไปนะ ถ้าตามไม่ทันฉันจะทิ้งนายไว้ข้างหลัง”
“แฮ่ก แฮ่ก...”
อารอนถือหอกอย่างหมดแรง
“นี่ นายน่ะมีครอบครัวบ้างไหม?”
“มะ มี ผมมี…น้องสาวผม…น้องสาวผมกำลังรออยู่”
“นายดีกว่าฉันเยอะ ฉันไม่มีใครเลยสักคน”
ฉันเริ่มสะบัดดาบไม้ของฉัน
“ถ้านายฝึกแบบไม่เต็มใจแค่เพราะแค่รู้สึกผิดกับพวกเรา ก็อย่าเริ่มทำอะไรที่นายไม่สามารถทำได้ เชื่อฉัน ถ้านายจะตายด้วยน้ำมือของสัตว์ประหลาด มันคงจะเจ็บปวดยิ่งกว่าการตายจากการหลอมรวมนายพอจะเข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม?”
“ผม…ผมอยาก…ปกป้องน้องสาว”
“ปกป้องน้องสาวเหรอ? งั้นนายก็ต้องมีชีวิตรอดกลับไปก่อน!”
สายตาการของอารอนพลันเปลี่ยนไปทันที
“ต้องมีสายแห่งความมุ่งมั่นแบบนั้นแหละ”
"เข้ามาได้เลย!"
หลังจากการฝึกสิ้นสุดลง เจนน่าก็พาอารอนที่เหนื่อยล้าจนหมดแรงไปที่หอพัก
แม้ว่าเขาจะยังโจมตีฉันไม่ได้ แต่อารอนก็สามารถบังคับหอกได้สำเร็จ เขาเริ่มลองใช้เทคนิคเช่นการแกว่งมากกว่าแค่การแทง มันเป็นความก้าวหน้าที่ดี ถ้าเขาขัดเกลาทักษะของเขาอีกสักหน่อย ฉันคงไม่ต้องกังวลว่าเขาจะเป็นภาระเรา
เช้าวันรุ่งขึ้น อารอนเข้าร่วมการฝึกกับเราด้วย
เขาอยู่ตามหลังเราค่อนข้างมาก ฝึกการหายใจเข้าและการหายใจออกขณะถือกระสอบทรายและวิ่งไปด้วย แต่ดูเหมือนความตั้งใจของเขาเพิ่มขึ้นและไม่คิดที่จะยอมแพ้ เขารู้สึกดีขึ้นและมีพลังทุกครั้งที่เขาพูดถึงน้องสาวของเขา
หลังอาหารกลางวัน เราก็เริ่มซ้อมอีกครั้ง
คราวนี้อารอนซ้อมกับเจนน่าแทนซ้อมกับฉัน เจนน่าต้องการอาวุธสำรองในกรณีที่เธอลูกธนูหมดหรือใช้ธนูไม่ได้ โชคดีที่มีกริชไม้อย่างดีอยู่
หอกและกริช
ทั้งสองมีข้อแตกต่างระหว่างอาวุธและพลัง อีกทั้งตัวเจนน่าไม่เคยกริชมาก่อนด้วย แต่เธอกลับสามารถเอาชนะอารอนได้อย่างต่อเนื่อง
“ทำไมเธอถึงเป็นแค่ระดับ 1 ดาวล่ะ”
ฉันรู้สึกว่าระบบการจัดอันดับมันไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไร
หลังจากการฝึกในวันนี้สิ้นสุดลง อารอนก็กลับไปที่หอพักด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจในฝีมือตัวเองนัก
“ฉันจัดการเขาได้อย่างง่ายดายเลย”
“อย่าอวดดีให้มาก”
ฉันจิ้มไปที่หน้าผากของเจนน่า
"มันเจ็บนะ ทำไมทำอย่างนั้นล่ะ? ฉันเป็นลูกสมุนคนแรกของนายเลยนะ!”
“ฉันเคยขอให้เธอมาเป็นหรือเปล่าล่ะ?”
ฉันแลบลิ้นใส่เธอแล้วเดินออกไปที่จัตุรัส เจนน่าก็รีบวิ่งตามมาติดๆ
“แค่มุขตลกเอง! อย่าคิดมากสิ”
“ยังไงก็เถอะ ตามมากับฉันสิ…ฉันมีบางอย่างต้องทำ”
"มันคืออะไรเหรอ?"
“เดี๋ยวก็รู้เอง”
ฉันยืนอยู่หน้าประตูเหล็กตรงหัวมุมของจตุรัส ป้ายที่หน้าประตูเขียนว่า 'โรงเก็บของ'
“ไอเซลล์เปิดโรงเก็บของให้หน่อย”
[รอสักครู่ค่ะ!]
เสียงดังเอี๊ยดแสบแก้วหูดังขึ้น...
เสียงอาจจะดังสักหน่อย เพราะว่ามันค่อยข้างเก่า สักพักประตูก็เปิดออก
เราเข้าไปข้างใน ข้างในมีชั้นวางโลหะขนาดใหญ่มีช่องเก็บของหลายร้อยช่อง ช่องส่วนใหญ่ว่างเปล่า แต่มีสิ่งของกระจัดกระจายอยู่ในบางช่อง ที่ทางเข้ามีรถเข็นล้อเลื่อนอยู่
ฉันลากรถเข็นที่ทางเข้าแล้วส่งต่อให้เจนน่า
“เข็นตามฉันมานะ”
“คิดจะทำอะไรเหรอ?”
“หยุดถามคำถามสักนาทีได้ไหม?”
ฉันและเจนน่าที่กำลังบ่นงึมงำกับก็เดินไปที่มุมหนึ่งของชั้นใส่ของ ในช่องด้านบนมีสิ่งที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาลมัดอยู่ ฉันหยิบสิ่งนั้นออกมาและตรวจสอบสิ่งที่อยู่ในนั้น
[แร่เหล็ก (C)]
ภายในนั้นมีแร่เหล็กอยู่
ฉันวางแร่เหล็กที่ห่อกระดาษไว้ในรถเข็น เมื่อมองไปที่ช่องอื่นๆ ก็มีหนังและไม้ด้วย ฉันเลือกบางส่วนแล้ววางไว้บนรถเช่นกัน
['ฮาน (★)' ได้นำแร่เหล็ก 6 อัน (C), หนัง 3 อัน (C) และกระดาษแข็ง 4 อัน (C) ออกจากคลังเก็บของ]
กว่าจะรู้ตัวรถเข็นก็เต็มแล้ว
ฉันพาเจนน่าแล้วเดินกลับไปที่จัตุรัส
“เปิดโรงตีเหล็กที”
[ได้ค่ะ!]
ประตูเริ่มเปิดออก
“กำลังวางแผนอะไรอยู่เหรอ?”
“เราไม่สามารถใช้ดาบเหล็กเก่าๆ ตลอดไปได้หรอก เธอรู้ใช่ไหม?”
เรามีวัสดุ โรงตีเหล็กเองก็เปิดอยู่ และสามารถจัดการทุกอย่างได้โดยอัตโนมัติ
เราต้องผลิตอาวุธที่แข็งแกร่งขึ้นมากกว่านี้