บทที่ 23: หากต้องการมีชีวิตรอด จงโต้คลื่นที่ซัดเข้ามาให้ดี (4-2)
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 23: หากต้องการมีชีวิตรอด จงโต้คลื่นที่ซัดเข้ามาให้ดี (4-2)
ฉันกลืนน้ำส้มจากแก้วพลาสติกลงไป
แล้วจากนัน้จึงโยนแก้วไปที่เคาน์เตอร์ล้างจาน ลงเป้า!
“เธอใช้อินเทอร์เน็ตได้ไหม?”
[อินเตอร์เน็ตเหรอ?]
“ใช่ ถ้าเธอสามารถเข้าระบบพิกมีอัพได้ เธอก็จะต้องสามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้เช่นกันใช่ไหม?”
[นี่ยังกล้าจะถามฉันอีกเหรอ?]
“ฉันมีอะไรจะบอก ถ้าเกิดเธอตอบฉัน”
[ก็ได้ การเล่นเน็ตมันคืองานอดิเรกของฉัน]
“คำแนะนำที่เธอส่งไปจะคงจะมาจากเมต้าของเกมที่บอกเอาไว้ว่า หลังจากอัญเชิญอาวุธครบ 10 ชิ้น จากนั้นยกระดับศูนย์ฝึกเป็นระดับ 1 และทำการสร้างโรงตีเหล็กสินะ”
มันเป็นโพสต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกลุ่มผู้เล่นพิกมีอัพ การันตีด้วยยอดวิว 20 ล้านวิว 5 ล้านคอมเม้น กลยุทธ์ดังกล่าวได้รับการแชร์ไปยังหน้าเว็ปไซต์อื่นๆ ทางอินเทอร์เน็ต ได้รับการแปลและเผยแพร่ไปทั่วโลก
มันถูกโพสต์โดยนายท่านคนหนึ่ง และชื่อบัญชีของผู้เขียนคือ “โลกิ”
บทความนั้นได้อธิบายถึงการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกที่ใช้ และวิธีการคัดเลือกและฝึกฮีโร่
[นายรู้จักท่านโลกิเหรอ?]
"แน่นอน ฉันก็เล่นพิกมีอัพด้วยนะ”
[ฮ่าๆ ถึงงั้นแกมันก็แค่พวกระดับต่ำที่วิ่งเห่าไปมาอยู่รอบๆ ชั้นล่างสินะ! แกไม่สามารถเทียบกับท่านโลกิได้หรอก เขาคือนายท่านในหมู่นายท่าน เขาเป็นเทพเจ้าแห่งพิกมีอัพ! หากท่านโลกิได้ครอบครองฮีโร่ 7 ดาวล่ะก็ เขาคงเป็นนายท่านอันดับหนึ่งของโลกไปแล้ว!]
ฉันหัวเราะเบาๆ
“ทำไมเธอถึงดูชอบโลกินักล่ะ?”
[เพราะเขาเป็นคนที่สามารถทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ยังไงล่ะ!]
“โอ้โห เขาทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้เลยเหรอ?”
[แกก็เล่นนิพิกมีอัพ ทำไมถึงไม่รู้?]
“ฉันรู้สิ เพราะฉันคือโลกิ”
[พูดอะไรนะ พูดบ้าอะไรของแกกัน?!]
“ฉันคือโลกิ”
[น-น-นี่แกคิดว่าล้อเล่นกับใครอยู่หา?!]
“เลขที่บัญชี 46631913”
ดวงตาของไอเซลล์พลันเบิกกว้าง
มีเพียงเจ้าของบัญชีและเจ้าของเกมพิกมีอัพเท่านั้นที่สามารถทราบหมายเลขบัญชีของนายท่าน เหตุผลที่ไม่การเปิดเผยหมายเลขบัญชี นั้นเพราะอาจนำไปสู่การเจาะเข้าบัญชีผู้อื่นได้
[มะ ไม่ ไม่ใช่สิ แกไม่ใช่…แกคือท่านโลกิงั้นเหรอ?]
“ไม่เชื่อฉันเหรอ? ฉันยังสามารถให้บัญชีกูเกิ้ลได้เลยนะ! เชิญตรวจสอบได้เลย”
ฉันยังบอกอีเมลและรหัสผ่านสำหรับบัญชีให้เธอทราบอีกด้วย
ไอเซลล์หายตัวไปด้วยความลุกลี้ลุกลน จากนั้นไม่นานก็ปรากฏตัวกลับมาอีกครั้ง
[…เซ็นนี้สิ]
"อะไร?"
[ขอลายเซ็นไง เจ้าบ้านี้!]
ไอเซลล์ยื่นปากกาและกระดาษให้ฉันด้วยใบหน้าแดงก่ำ
ฉันหยิบกระดาษขึ้นมาเขียนอย่างรวดเร็วแล้วส่งคืนให้ไอเซลล์ เธอประทับริมฝีปากของเธอกับเส้นลายขยุกขยิกที่ฉันเพิ่งเขียนลงไปในกระดาษ
"ฉันน่ะ! ฉันเป็นสมาชิกอันดับต้นๆ ของแร็กนาโลกิด้วยนะ!]
“แร็กนาโรกิคืออะไรเหรอ?”
[ชื่อแฟนคลับของนายท่านโลกิไงเล่า! ต้องมีลายเซ็นของท่านโลกิก่อนจึงจะขึ้นเป็นสมาชิกระดับต้นๆ ได้!]
มีอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ?
มันเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับฉันเลย
ว่าแต่แร็กนาโลกินี่มันอะไรกัน? ตั้งชื่อได้ห่วยแตกสุดๆ
[แต่ยังไงก็ตามนะ แก…ไม่สิ นายท่านโลกิ…]
“พูดเหมือนเดิมได้ไหม? มันชักอึดอัดแล้วนะ”
[ท่านคือโลกิจริงๆ เหรอ? เป็นเรื่องจริงใช่ไหม?]
“มันเป็นเรื่องจริง ไม่เชื่อก็ตามใจ”
[อร๊ายยยยยยย!]
ไอเซลล์ที่กำลังบินกระโดดไปมา จู่ๆ ก็ได้สติและพูดขึ้น
[เดี๋ยว นี่ฉันพูดหยาบคายและหยิ่งยโสกับท่านโลกิมาตลอดเลยเหรอ?]
“ตอนนี้ ฉันเป็นเพียงพวก 1 ดาวที่ต่ำต้อย พูดหยาบคายไปแล้วใครจะสนกันล่ะ?”
[ฉัน… ฉันเรียกท่านโลกิว่าไอ้ลูกหมาเนี่ยนะ…!]
ไอเซลล์เริ่มตื่นตระหนก
ฉันไม่เข้าใจเธอสักเท่าไร
[ขอโทษนะคะ! ถ้าฉันรู้ว่าท่านคือโลกิ ฉันคงไม่พูดแบบนั้น! จริงๆ นะ!]
“ใจเย็น ฉันไม่ได้โกรธอะไรหรอก”
[ทำไมนายท่านโลกิถึงมาที่นี่…อ๊าก!]
ไอเซลล์ทึ้งผมบนหัวของเธอแล้วกรีดร้องออกมา
[เป็นไปได้ยังไงกัน...?]
“…”
มันน่าตกใจขนาดนั้นเลยเหรอ?
ไอเซลล์ที่กำลังทึ่งผมของเธอ จู่ๆ ก็ลุกขึ้นยืนและพูดว่า
“รอก่อนนะคะ! แล้วถ้าไม่มีคุณจะเกิดอะไรขึ้นกับนิฟล์กัน?”
นิฟล์เฮมร์คือชื่อห้องรอของบัญชีฉัน
ห้องรอของฉันมีทั้งหมด 13 ชั้น เป็นที่รู้จักในฐานะสุดยอดของการสร้างโครงสร้างพื้นฐานในกลุ่มผู้เล่น มันสามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 20,000 คน ซึ่งฮีโร่ส่วนใหญ่ของฉันก็จะอยู่ที่ระดับ18-22 กัน
แต่ถึงงั้นแล้วมันยังไง?
นายท่านผู้ยิ่งใหญ่คนนี้…
สุดท้ายกลับต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ยังไงล่ะ
สิ่งที่ทำไปมันไม่มีความหมายอะไรเลย
เมื่อคิดถึงเรื่องนั้น ฉันก็ได้แต่ถอนหายใจลึกๆ
“ไม่รู้”
[งั้นท่านกำลังคิดที่จะเลิกเล่นเหรอคะ?]
“ฉันจะทำอะไรได้อีกในสถานการณ์แบบนี้”
[แต่ถ้านายท่านโลกิไม่อยู่…]
“ถ้ารู้สึกผิดหวังมากขนาดนี้ ก็ส่งฉันกลับสิ”
[ฉันไม่สามารถทำอย่างนั้นได้หรอกค่ะ]
ไอเซลล์ก้มศีรษะด้วยสีหน้าเศร้าหมอง
ฉันรู้ดี เด็กผู้หญิงคนนี้เป็นเพียงผู้ดูแลระบบระดับกลาง
“ถึงไงก็เถอะ นายท่านที่เป็นเจ้าของห้องนี้เป็นมนุษย์จากโลกใช่ไหม?”
[ใช่]
เยี่ยมมาก ตอนนี้เธอก็ให้ความร่วมมือแล้ว
ฉันตัดสินใจใช้โอกาสนี้ถามเกี่ยวกับสิ่งที่ฉันอยากรู้
“ฮีโร่ที่ถูกอัญเชิญก็ไม่ใช่เอไอเหมือนกันใช่ไหม?”
[ใช่ค่ะ ถึงที่พวกเขาจากมาจะแตกต่างกันเล็กน้อย แต่พวกเขาก็ล้วนเป็นมนุษย์เหมือนกัน]
“ถ้าฉันปีนหอคอยขึ้นไปถึงชั้นที่ 100 ฉันจะกลับโลกได้ไหม?”
[นั่น… ฉันไม่รู้]
“เธอไม่รู้จริงเหรอ?”
[ฉันพูดจริงนะ! เชื่อฉันสิค่ะ!]
"คำถามต่อไปนะ ใครพาฉันมาที่นี่”
[…ฉันไม่สามารถตอบได้ค่ะ]
“เฮ้อ”
[ขอโทษค่ะ]
“ไม่เป็นไร ถ้าอย่างนั้นฉันคงต้องปีนหอคอยถึงจะรู้เองสินะ คำถามต่อไป อำนาจของนายท่านที่เธอดูแลนั้นมีมากแค่ไหน?”
[ตอนนี้ฉันสามารถทำได้แค่ให้ความช่วยเหลือ เปิดและปิดข้อความช่วยเหลืออัตโนมัติต่างๆ และตัวเลือกการสนับสนุนค่ะ]
คำที่ฉันถามออกไปนี้คือกุญแจคำคัญ
“ห้องรอของนายท่านคนอื่นเหมือนกับห้องรอนี้หรือเปล่า?”
[รายละเอียดต่างกันเล็กน้อย แต่พื้นฐานก็เหมือนกันค่ะ]
“…”
มีโลกแบบนี้ถึง 100 ล้านโลกจริงๆ สินะ
ฉันระเบิดเสียงหัวเราะกับเรื่องไร้สาระที่ได้ยินมาทั้งหมดนี้
ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสิ่งที่เป็นเพียงเกมตอนนี้กลายเป็นความจริงในอีกโลกหนึ่งไปแล้ว การตัดสินใจแบบไม่ได้ไตร่ตรองของฉันอาจเป็นเหมือนโทษประหารสำหรับฮีโร่ในเกมเลยก็ได้
ถ้าฉันต้องการกลับไปยังโลก ฉันต้องปีนขึ้นข้างบนไปและรักษาฮีโร่ให้ได้มากที่สุด ฉันจะคัดฮีโร่แต่ละคนให้เหมาะสมกับหน้าที่ต่างๆ มากกว่านี้
วิธีที่ฮีโร่สามารถช่วยนายท่านได้นั้นไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การต่อสู้เท่านั้น แต่ตอนนี้ห้องรอนี้ถูกล็อคการใช้งานส่วนต่างๆ เอาไว้ แต่เมื่อระดับห้องรอเพิ่มขึ้นและปลดล็อคระบบต่างๆ ฮีโร่ที่ไม่เก่งการต่อสู้ก็สามารถหาทำอย่างอื่นเพื่อเป็นประโยชน์กับนายท่านได้
“สงสัยเหลือเกินว่าฮีโร่ในนิฟล์เฮมร์จะอยู่ได้โดยไม่มีฉันได้หรือเปล่านะ?”
หากเหล่าฮีโร่ยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาคงสังเกตเห็นแล้วว่าฉันหายตัวไป
ฉันคงไม่สามารถกลับไปได้อีกสักระยะหนึ่ง
ในพิกมีอัพ จะมีระบบที่สามารถมอบหมายให้ฮีโร่คนใดคนหนึ่งควบคุมห้องรอเมื่อนายท่านไม่อยู่เป็นเวลานาน
“เซรีสคงจะจัดการมันเองแหละนะ”
เซรีสเป็นรองหัวหน้าของนิฟล์เฮมร์ เธอเป็นคนฉลาดมาก
เธอมีพรสวรรค์และเข้าใจสิ่งที่ฉันต้องการ จริงๆ แล้วมันก็ยากมากที่จะเชื่อว่าเธอเป็นเพียงเอไอ
ทว่าตอนนี้ฉันคงไม่สามารถช่วยพวกเขาได้แล้ว พวกเขาต้องคิดให้ออกเองว่าพวกเขาจะอยู่ได้ยังไงโดยไม่มีฉัน หรือจนกว่าฉันจะรอดจากสถานที่แห่งนี้ออกไป
เพราะตอนนี้ฉันต้องอยู่ที่นี่ และฉันก็ต้องปรับตัวเพื่อเอาตัวรอด
"ไอเซลล์"
[คะ?]
“เธอต้องการที่จะปีนหอคอยไหม?”
ไอเซลล์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพยักหน้าตอบรับ
"ฉันจะช่วยเอง ฉันและเธอจะปีนขึ้นไปด้วยกัน แต่เธอต้องเชื่อฟังฉัน”
คราวนี้เธอพยักหน้าโดยไม่ลังเล
ตอนนี้ถึงชั้น 3 แล้ว
ในที่สุดการดำเนินการฝึกอัตโนมัติก็เริ่มเปิดใช้งานแล้ว ส่วนโรงตีเหล็กก็เปิดอยู่
ฉันจะต้องเร่งทำทุกอย่างให้เร็วขึ้นตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป
หากไอเซลล์ช่วยได้ก็คงจะทำอะไรได้มากกว่าที่เคยทำ
ฉันพิงโซฟาแล้วมองขึ้นไปบนเพดาน
ท้องฟ้าสีครามยังคงเหมือนเดิม