บทที่ 14: สุ่มฟรี 10 ครั้ง (3-1)
บทที่ 14: สุ่มฟรี 10 ครั้ง (3-1)
[ฮาน เจนน่า ดาจิล กริตเต้ คาร์ล !]
“ทำไมคนที่เข้าไปในนั้นแล้วถึงไม่กลับออกมาล่ะ…?”
ดาจิลบ่นพึมพำ
คาร์ลที่กำลังคร่ำครวญอยู่ก็พูดขึ้นมาว่า
“ท่านนางฟ้าผู้สูงศักดิ์ ฉันเป็นโรคข้ออักเสบ ตัวฉันเดินไม่ค่อยไหว พูดถึงเรื่องวิ่งยิ่งแล้วใหญ่เลย ได้โปรดยกเว้นฉันทีเถอะนะ”
“โรคข้ออักเสบ? ก็เดินได้อยู่ไม่ใช่เหรอ?” เจนน่าตะโกน
“ถ้ามันกำเริบขึ้นมา ฉันก็ทำอะไรไม่ได้เลยนะ”
[ไอ้พวกนี้ พูดบ้าบออะไรกัน…?]
ฉันยักไหล่แล้วเข้าไปที่ประตูหน้าจัตุรัส ภายในประตูเป็นห้องทรงกลมกว้างขวางพร้อมกระจกสูงตระหง่าน แต่ละบานมีขนาดใหญ่กว่า 10 เมตร มีข้อมูลเกี่ยวกับดันเจี้ยนดังกล่าวปรากฏอยู่เหนือกระจกที่ล้อมรอบพวกเรา
[ปีนขึ้นไปหอคอยและกอบกู้โลก!]
[ดันเจี้ยนหลัก: ชั้นที่พิชิตไปแล้ว – 0]
[ฉลองเทศกาลด้วยการเปลี่ยนแปลงดันเจี้ยทุกวัน!]
[ดันเจี้ยนธรรมดา]
[ปฏิเสธการเข้าใช้งาน! ต้องเคลียร์ดันเจี้ยนหลักชั้น 5 ก่อน]
[รวบรวมวัสดุหายากต่างๆ!]
[ดันเจี้ยนสำรวจ]
[ปฏิเสธการเข้าใช้! ต้องเคลียร์ดันเจี้ยนหลักชั้น 10 ก่อน]
ยกเว้นกระจกทางด้านซ้าย กระจกอีกสองบานก็เป็นสีดำสนิท
“เป็นอย่างนี้นี้เองสินะ”
ความรู้สึกในฐานะนายท่านและความรู้สึกในฐานะฮีโร่
โลกแห่งความแตกต่างนี้
ฉันทำได้ ฉันจะไม่ตายในสถานที่แบบนี้แน่
ความมุ่งมั่นที่อยากจะมีชีวิตอยู่แค่เพียงข้อเดียวนี้ทำให้ฉันมีสติและใจเย็นลง
หลังจากนั้นไม่นาน สมาชิกในปาร์ตี้คนอื่นๆ ก็เข้าไปในรอยแยกมิติและช่วงเวลา
“ฉันเป็นโรคข้ออักเสบนะ!”
“มาเถอะ เราจะช่วยคุณเอาตัวรอดเอง เราต้องไม่ตาย!” เจนน่าให้กำลังใจ
[เสียงดัง เสียงดัง เสียงดังน่าหนวกหู! หุบปากเงียบๆ แล้วเตรียมตัวกันได้แล้ว!]
“แล้ว….เราควรเตรียมอะไรบ้างเหรอ?”
“ฉันไม่เคยจับหอกมาก่อนเลยนะ…”
[ดันเจี้ยนหลัก ชั้นท้าทายปัจจุบันคือชั้น 1]
[ประตูจะเปิดใน 10 วินาที เตรียมพร้อม!]
ฉันสำรวจสมาชิกที่อยู่ข้างหลัง เจนน่าและคาร์ลยังคงทะเลาะกัน ดาจิลเหงื่อท่วมตัว และกริตเต้ก็ตัวสั่นอยู่ที่มุมหนึ่ง
“ที่นี่ไม่มีใครมีประโยชน์เลยเหรอ?”
ฉันถอนหายใจออกมา
กระจกทางด้านซ้ายเริ่มมีแสงสว่างส่องออกมา
แสงเริ่มสว่างจ้าขึ้น บดบังการมองเห็นของฉันและสว่างปกคลุมไปทั่วทั้งห้อง
“อะไรกัน แสงนี่มันอะไร!”
“อย่าเพิ่งหมดหวังนะทุกคน! เราจะไปกันแล้ว!”
ฉันตะโกนบอกสมาชิก แต่ก็บอกตัวฉันเองด้วย ในโลกนี้ฉันไม่มีใครที่พึ่งพาได้นอกจากตัวฉัน ถ้าฉันสูญเสียความสงบในจิตใจไป ทุกอย่างก็คงจะจบสิ้นลง
ฉันเอาแต่พูดซ้ำๆ กับตัวเองเหมือนเป็นการล้างสมอง
และเมื่อแสงสว่างนั้นค่อยๆ ลดลง ฉันก็พบว่าตัวเองอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย
[ชั้น 1]
[ประเภทภารกิจ – ปราบปราม]
[เป้าหมาย – ทำลายล้างศัตรูของคุณ!]
สายลมอ่อนโยนพัดผ่านมาอย่างแผ่วเบา
ที่ราบอันกว้างใหญ่ไพศาลที่ทอดยาวไปจนสุดขอบฟ้า
“เดี๋ยวก่อน ที่นี่ที่ไหนกัน?”
“มันจะเป็นที่ไหนได้อีกล่ะ? มันคือสนามรบ!”
ฉันเคาะโล่ไม้ของฉันด้วยดาบเหล็กเก่าๆ
ก็อบลินสี่ตัวรวมตัวกันอยู่ห่างออกไปประมาณ 10 เมตร พวกมันสวมหมวกเหล็กและถือดาบที่โค้งงอ
[ก็อบลิน Lv.3] X 4
พวกมันเลเวลเพิ่มขึ้น 2 ระดับจากที่เคยเจอ
ดวงตาของก็อบลินเปล่งประกายสีแดงฉาน
“ฉันบอกไปแล้วว่าถ้าเราไม่สู้เราจะตายเอง ถ้าอย่างงั้นก็เริ่มลงมือกันได้เลย...”
ขณะที่ฉันพูด ฉันก็มองกลับไปด้านหลัง
ไม่มีใครอยู่ที่นั่นเลยสักคนเดียว
“บ้าไปแล้ว”
['เจนน่า (★)' รู้สึกหวาดกลัว สถานะทั้งหมดลดลง 30%]
['ดาจิล (★)' รู้สึกหวาดกลัว สถานะทั้งหมดลดลง 30%]
['กริตเต้ (★)' รู้สึกหวาดกลัว สถานะทั้งหมดลดลง 30%]
['คาร์ล (★)' รู้สึกหวาดกลัว สถานะทั้งหมดลดลง 30%]
พวกเขาทั้งสี่วิ่งไปรอบๆ ด้วยความตื่นตระหนกโดยไม่รู้ว่าจะเดินหน้าหรือถอยหลัง
คาร์ลคนที่อ้างว่าเป็นโรคข้ออักเสบดันวิ่งเร็วมากกว่าคนอื่นซะอีก
ฉันคิดไว้แล้วว่าจะเป็นแบบนี้ แต่ไม่คิดว่าพวกเขาจะไร้ประโยชน์ขนาดนี้
คาร์ลสะดุดล้มลง ตามมาด้วยอีกสามคนที่เหลือ
“โอ๊ย! หลังฉัน!”
“ทำไมเราถึงออกไปไม่ได้?”
"เปิดนะ! ให้ฉันออกไปเถอะ! ฉันอยากกลับบ้าน!"
['ดาจิล (★)' ตกอยู่ในอาการตื่นตระหนก สถานะทั้งหมดลดลง 50%]
['กริตเต้ (★)' ตกอยู่ในอาการตื่นตระหนก สถานะทั้งหมดลดลง 50%]
['คาร์ล (★)' ตกอยู่ในความสิ้นหวัง สถานะทั้งหมดลดลง 80%]
พวกเขาหลบอยู่ในมุมหนึ่งโดยไม่ได้มีความตั้งใจที่จะต่อสู้กับก็อบลินเลย
ดาจิลเหวี่ยงขวานไปที่กำแพง และเขาก็ล้มลง กริตเต้โจมตีกำแพงด้วยหอก ส่วนคาร์ลกำลังพยุงตัวลุกขึ้นเพราะเขากำลังเจ็บหลังจากล้มขณะวิ่งหนี
มีเพียงเจนน่าเท่านั้นที่วิ่งกลับมา
“นี่ ถ้าเราเอาชนะก็อบลินพวกนั้นได้ เราจะออกไปจากที่นี่ได้ใช่ไหม?”
ดวงตาสีส้มเหมือนสีฟักทองของเธอสั่นเทา และมีเหงื่อเย็นผุดขึ้นบนหน้าผาก
เจนน่ากำธนูของเธอไว้แน่น
“รู้วิธีใช้ธนูเหรอ?”
“พ่อของฉันเป็นนายพราน”
“ดี ฉันจะออกไปสู้กับพวกมัน เธอก็ยิงจากทางด้านหลัง ทำได้ไหม?”
"ได้!"
['ดาจิล(★)' ตกอยู่ในความสิ้นหวัง สถานะทั้งหมดลดลง 80%]
['กริตเต้ (★)' ตกอยู่ในความสิ้นหวัง สถานะทั้งหมดลดลง 80%]
“แล้วคนพวกนั้นล่ะ…?” เจนน่ามองกลับไป
“อย่าไปสนใจ พวกเขาช่วยอะไรไม่ได้หรอก ไปกันเถอะ!”
ฉันใช้มือซ้ายซึ่งถือโล่และพุ่งไปข้างหน้า
ฉันไม่เคยใช้โล่ไม้มาก่อน เช่นเดียวกันกับการแกว่งดาบ แต่ตอนนี้ฉันต้องใช้มัน
ก็อบลินวิ่งอย่างบ้าคลั่งและพุ่งเข้ามาหาเรา
ก้อนหินกำลังลอยในอากาศพุ่งมาทางฉัน!
ฉันยกโล่ขึ้นบัง แรงกระแทกอันหนักหน่วงปะทะโล่ทางซ้ายของฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะโล่บังไว้ ฉันคงโดนก้อนหินนั้นไป ตอนนี้ฉันคงต้องหวังพึ่งทุกอย่างกับโล่ไม้นี้แล้ว
พอลดโล่ในมือซ้ายลง ฉันก็แทงก็อบลินที่พุ่งเข้ามาด้วยดาบในมือขวา!
ก็อบลินตัวที่โดนแทงมีรอยบาดลึกบนแขน มันได้แต่ถอยหลังกลับไป
ฉันถอยหลังไปสองสามก้าวพร้อมกับประเมินสถานการณ์
“ทำไมถึงมีตัวนั้นแค่ตัวเดียวที่อาวุธต่างจากตัวอื่นล่ะ?”
เหตุผลก็ชัดเจน ในไม่ช้าก็อบลินอีกสองตัวยกเว้นตัวที่ถืออาวุธคล้ายกับห่วงเชือกสำหรับเหวี่ยงก้อนหินได้คำรามเสียงดัง จากนั้นมันก็วิ่งไปหาสมาชิกของเรา แม้ว่าก็อบลินจะเข้ามาใกล้ แต่ทั้งสามคนนั้นก็ไม่อาจตั้งสติได้เช่นเดิม
“ลุงลุกมาสู้เถอะ! พวกก็อบลินมันกำลังจะมาแล้วนะ!”
เจนซึ่งรีบใส่ลูกธนูอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ยิงธนูออกไปทันที
ลูกศรพุ่งเหนือหัวของก็อบลินลงไปปักที่ทุ่งหญ้า
“ไม่นะ ฉันยิงพลาด!”
เจนน่าหยิบลูกธนูอีกดอกหนึ่งจากกระบอกเก็บลูกธนูของเธอด้วยสีหน้าหงุดหงิด
“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ต้องเป็นห่วงพวกเขา!”
ฉันตัดสินใจที่จะไม่สนใจพวกเขา
แต่มันก็ถือว่าเป็นโชคดีของฉันจริงๆ เนื่องจากคนเหล่านั้นทำหน้าที่เป็นเหยื่อล่อ ฉันจึงสามารถเอาชนะก็อบลินทีละตัวได้ ฉันพุ่งเข้าใส่ก็อบลิน กัดฟันและกำแขนแน่น ฉันหันหลบก้อนหินที่ลอยเข้ามาหาฉันและสกัดดาบของพวกมันด้วยดาบของตัวเอง จากนั้นก็โจมตีมันด้วยโล่!
“กรร!”
ก็อบลินล้มคว่ำหน้าเสียงดัง
ดี ฉันทำได้แล้ว ฉันทำได้แน่นอน! ฉันแทงดาบเข้าไปในอกของก็อบลินตัวที่ล้มลง
"กร๊าก กร๊าก..."
ก็อบลินก็น้ำลายฟูมปากและคอหักลงไป
"กร๊าก!"
“อ๊ากกก!”
['ดาจิล(★)' กลับสู่อ้อมกอดของเทพธิดาแล้ว จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้อันกล้าหาญของเขาจะถูกจดจำไปชั่วนิรันดร์]
ฉันไม่ได้หันมองกลับไปดูเลย
ยังเหลือพวกมันอยู่อีกหนึ่งตัว มันเป็นก็อบลินที่กำลังหมุนที่โยนหินมาทางฉัน ฉันยกโล่ขึ้นมาแล้วพุ่งเข้าใส่ทันที ก้อนหินถูกเหวี่ยงเข้ามาแต่ถูกฉันสกัดกั้นไว้ด้วยโล่ไม้
การเลือกโล่เป็นอะไรที่ถูกต้องแล้วจริงๆ
['กริตเต้ (★)' กลับสู่อ้อมกอดของเทพธิดาแล้ว จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้อันกล้าหาญของเขาจะถูกจดจำไปชั่วนิรันดร์]
ฉันได้ยินเสียงกรีดร้องอย่างสิ้นหวังและเสียงคำรามจากทางด้านหลัง มันเป็นเสียงที่หดหู่ บาดลึกและเจ็บปวดราวกับว่าเนื้อกำลังโดนฉีกแยกออกจากกัน
จากนั้นก็อบลินตัวที่อยู่ข้างหน้าก็เริ่มวิ่งเข้ามาหาฉัน
“แกคิดว่าแกกำลังวิ่งเข้ามาหาใครวะ?”
“กร๊ากกกก!”
ฉันจัดการกับก็อบลินที่ตัวกำลังวิ่งมาจากด้านหลัง ก็อบลินพยายามโยนหินมาเพื่อทุบหน้าผากฉัน แต่ฉันสกัดกั้นมันได้ด้วยโล่อีกครั้ง
“ทักทายโล่ไม้นี้สิ ไอ้พวกสารเลวเอ๊ย!”
ฉันแทงดาบเข้าไปที่ชายโครงของมัน ความรู้สึกของการเสียดสีระหว่างดาบกับกระดูกเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเท่าไร แต่ฉันก็ไม่สนใจมัน ฉันดันดาบเข้าไปลึกๆ และเมื่อดึงออกมา ฉันก็แทงมันเข้าไปซ้ำอีกครั้ง
ฉึก ฉึก ฉึก ฉึก!
หลังจากทำอย่างนั้นสี่ครั้ง ฉันจึงปล่อยมือออก และก็อบลินก็ทรุดลงเหมือนซากเรืออัปปาง