นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 115
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 115
ราอนหรี่ตาลงเมื่ออ่านข้อความ
'พลังเลือดบริสุทธิ์...'
มันไม่ใช่แค่พลังเลือดธรรมดาแต่เป็นพลังเลือดบริสุทธิ์ ดูเหมือนว่ากริชแห่งเรควีเอ็มจะกลืนกินพลังจากเลือดพวกโลหิตขาวแล้วมอบส่วนที่บริสุทธิ์ให้กับเขา
'บริสุทธิ์มาก'
พลังของมันบริสุทธิ์กว่าหินเวททั่วไปเสียอีก และมันเป็นพลังที่ไม่ทำอันตรายเขาแต่อย่างใด
'มันกำลังเข้ามาในตัวฉัน'
เขาเอากำแพงออร่าที่ปิดกั้นมันไว้ออก แล้วพลังของกริชก็เริ่มซึมเข้าสู่ร่างกายของเขา
วืด!
พลังที่บริสุทธิ์และสะอาดเริ่มกระจายไปทั่วร่างกาย
[พลังเลือดบริสุทธิ์กำลังเสริมสร้างร่างกายและจิตใจ]
[แต้มสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 2 แต้ม]
พลังอันบริสุทธิ์และสดชื่นเติมเต็มร่างกายของเขา ราอนกำหมัดแน่น
แต่ข้อความไม่ได้มีแค่นั้น
[คุณสมบัติ 'การปรับตัวเข้ากับพลังสยดสยอง' ถูกสร้างขึ้น]
หน้าต่างใหม่ปรากฏขึ้นเพื่อแจ้งให้ทราบว่ามีการสร้างคุณสมบัติใหม่แล้ว
การปรับตัวเข้ากับพลังสยดสยอง(หนึ่งดาว)
ผู้ใช้งานจะใช้พลังน้อยลงเมื่อใช้งานอาวุธที่มีพลังสยดสยอง
ดวงตาของราอนเป็นประกายเมื่ออ่านคำอธิบาย
'นี่มันค่อนข้างดีเลย'
เขาใช้พลังกายและใจไปเยอะมากกับการใช้กริชเล่มนี้ที่มีพลังสยดสยอง แปลว่าตอนนี้เขาจะใช้ได้สะดวกขึ้นแล้ว
ช้าก่อน!
ในขณะที่ราอนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ ราธก็โผล่ออกมาและมองด้วยสายตาจ้องเขม็ง
ทำไมเจ้าถึงได้คุณสมบัติใหม่?
'แกบอกเองนี่ว่าระบบจะให้สิ่งให้ที่เป็นประโยชน์กับฉัน มันน่าจะสร้างคุณสมบัตินี้ขึ้นมาเพื่อช่วยให้ฉันใช้กริชแห่งเรควีเอ็มได้ดีขึ้น'
แล้วเจ้าคิดว่าระบบเอาคุณสมบัติมาจากไหน? มันเคยเป็นของราชาแห่งแก่นแท้ยังไงล่ะ! เห็นได้ชัดว่าระบบดึงมันมาจากร่างจริงของราชาแห่งแก่นแท้!
'มันก็แน่อยู่แล้วไม่ใช่รึไง?’
ฮึ่ย!
ราธขบฟัน น้ำแข็งเริ่มปรากฏขึ้นมาบนเปลวไฟสีน้ำเงิน
'นี่มันสะดวกจริงๆ'
เมื่อราอนปิดหน้าต่างสถานะกริชแห่งเรควีเอ็มก็สั่นเล็กน้อย มันเป็นการเคลื่อนไหวที่นุ่มนวลราวกับกำลังบอกว่ามันอยากสนิทกับเขา
'แกอยากให้เราเป็นคู่หูกันเหรอ?'
วืด!
กริชแห่งเรควีเอ็มสั่นสะเทือนอย่างชัดเจนเพื่อยืนยันคำพูดของเขา
'แกทำตัวมีประโยชน์มากเลย ไม่เหมือนปรสิตหมายเลข 1 งั้นฉันจะยกเลิกการเป็นปรสิตหมายเลข 2 ให้แล้วเรามาสนิทกันเถอะ’
วืด!
กริชแห่งเรควีเอ็มสั่นเพื่อแสดงความขอบคุณ
จ-เจ้าเพิ่งเรียกราชาแห่งแก่นแท้'ปรสิตหมายเลข 1'รึ? เจ้านั่นแหละที่เป็นปรสิต! เจ้าเป็นมนุษย์ที่ดูดพลังของข้าไปจนหมด!
'อืมๆ'
อ๊ากกกก!
ราอนตอบอย่างเย็นชา ราธก็เริ่มกรีดร้องและระเบิดความโกรธกับความหนาวเย็นออกมา ไฟสีน้ำเงินปะทุขึ้นเหมือนภูเขาไฟระเบิด
วือ!
อารมณ์โกรธแค้นที่มันมีอยู่ปะทุขึ้นอีกครั้งและบีบร่างกายของเขา
“อึก…”
มันเป็นความเจ็บปวดที่รุนแรงราวกับมีเข็มพันเล่มแทงเข้าที่ผิวหนัง ไม่ใช่แค่เขาที่แข็งแกร่งขึ้น ราธเองก็ฟื้นฟูพลังของมันกลับมามากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกัน ราอนค่อยๆ หายใจและเรียกใช้วงแหวนแห่งไฟกับหมื่นเปลวเพลิง
เมื่อระดับจิตวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้นแล้ว ความเจ็บปวดที่เกิดจากราธก็เริ่มบรรเทาลง
วงแหวนแห่งไฟกับหมื่นเปลวเพลิงเป็นโล่ที่สามารถป้องกันความหนาวเย็นและความโกรธของราธได้
จงมอบร่างกายกับจิตวิญญาณของเจ้ามาให้ราชาแห่งแก่นแท้ซะ!
'ไม่มีทาง’
ขนของเขาตั้งชันเพราะความเจ็บปวดแสนสาหัส แต่เขาแสร้งเป็นว่าไม่เป็นอะไรและยิ้มให้ราธ
“ฮู่ว...”
ในขณะที่เขาต้องทนกับความเจ็บปวดแสนสาหัส ข้อความก็ปรากฏขึ้น
[คุณทนต่อการรบกวนของราธได้]
[ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น 1]
[พละกำลังเพิ่มขึ้น 1]
มันเป็นรางวัลตอบแทนสำหรับการอดทนต่อความหนาวเย็นของกราธได้
บ้าเอ๊ย! ความสามารถของราชาแห่งแก่นแท้หายไปอีกแล้ว! อีกแล้ว!
ราธกระโดดออกมาจากร่างกายของราอน มันจ้องมองข้อความไร้สาระและกัดฟันกรอด
'แกเอาชนะฉันไม่ได้หรอกนะ’
ราอนเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากแต่แสร้งทำเป็นปัดผมขึ้น
'ประมาทไม่ได้เลยนะเนี่ย'
แม้จะพูดอย่างผ่อนคลายแต่หลังของเขาก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ
ถึงอย่างไรมันก็เป็นราชาแห่งปีศาจ แม้ว่ามันช่วยเขาไว้มากมายแค่ไหนก็วางใจไม่ได้
'ตอนแรกฉันคิดว่ามันคงเป็นเหมือนแก แต่นั่นไม่ใช่เลย'
เจ้าพูดถึงอะไร?
'กริชแห่งเรควีเอ็มมีดีกว่าแกมาก'
ราอนเยาะเย้ยราธและเช็ดกริชแห่งเรควีเอ็มจนสะอาด
ดีตรงไหนกัน มันเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตที่พยายามครอบงำร่างกายของเจ้า
'แต่มันไม่ทำแบบนั้นแล้ว ใครจะเป็นเหมือนแก’
นั่นไง ถ้ามันแข็งแกร่งพอๆ กับราชาแห่งแก่นแท้มันก็คงไม่รามือหรอก
วืด!
กริชแห่งเรควีเอ็มสั่นเพื่อปฏิเสธ
'มันบอกว่า อย่าคิดว่าฉันเหมือนแกสิ’
ในไม่ช้าข้าจะทำลายกริชผีสิงนั่นไปพร้อมกับเจ้า
ราธมองลงไปที่กริชแห่งเรควีเอ็มอย่างน่ากลัวและเริ่มปล่อยไอเย็นออกมา
'เอาเลยสิ แต้มสถานะของฉันจะได้เพิ่มอีก'
เฮอะ แกไม่มีวันตายดีแน่ต่อให้ไม่ใช่ฝีมือข้า เจ้ามันชอบแกว่งเท้าหาศัตรูอยู่แล้ว
'แต่ตอนนี้มีแค่แกที่เป็นศัตรูของฉัน'
ราอนมีศัตรูอีกคน แต่เขาไม่จะไม่บอกราธเด็ดขาด
"นักดาบราอน”
เกรียร์เดินเข้ามาหาเขาพร้อมห่อผ้าสีดำ
“เรารอดมาได้เพราะนาย ต้องขอบคุณอีกครั้ง”
เขายังคงทำตัวไม่เหมือนเจ้าชายอยู่เหมือนเดิม ราอนยิ้มและก้มหัวให้
"ผมคงต้องขอบคุณมันเหมือนกัน”
“นั่นก็จริง”
ราอนยกกริชให้เขาดูและเกรียร์ก็พยักหน้า
“มันเกินจินตนาการของฉันไปมาก พลังนั้นสุดยอดไปเลย นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นอาวุธแบบนี้”
“ผมก็เหมือนกัน มันมีความแค้นสะสมอยู่มากกว่าที่ผมคิด”
"แล้วนายไม่เป็นไรใช่ไหม? ฉันได้ยินมาว่ามีดดาบที่ถูกสิงจะสามารถโจมตีเจ้าของ..."
“ตอนนี้มันยอมรับผมเป็นเจ้าของอย่างสมบูรณ์แล้ว”
"อืม ฉันว่าแล้วว่านายแข็งแกร่ง สุดยอดมาก”
เขายิ้มและบอกว่าเขาจะฝึกซ้อมหนักยิ่งขึ้นเพื่อไล่ตามราอนให้ทัน เขาเป็นคนที่เท่มากจริงๆ
“ตอนนี้เราคงเป็นเพื่อนกันแล้วสินะ ฉันมีอะไรจะให้ดู”
เกรียร์หยิบลูกปัดสีขาวขนาดเท่าหัวเด็กออกมาจากห่อผ้าสีดำ
"หรือว่า..."
"นี่คือของที่เราเอามาจากลัทธิโลหิตขาว อย่างที่รู้กันว่าลัทธิโลหิตขาวจะดูดเลือดของชาวบ้านครึ่งหนึ่งและลักพาตัวอีกครึ่งหนึ่ง เราเชื่อว่าลูกปัดนี่ช่วยให้พวกเขาสามารถย้ายคนที่ถูกลักพาตัวไปยังสำนักงานใหญ่ของพวกเขาได้”
สายตาของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวัง
วืด!
กริชแห่งเรควีเอ็มเริ่มสั่นสะเทือนเมื่อได้ยินคำพูดของเกรียร์ เหมือนว่ามันต้องการแก้แค้นและช่วยเหลือผู้คนที่อาจยังมีชีวิตอยู่
'อืม'
ราอนมองไปที่กริชแห่งเรควีเอ็มด้วยความชื่นชม
'สุดยอดจริงๆ’
แม้จะเป็นแค่กริชแต่มันก็ยังต้องการช่วยเหลือผู้คน เขาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของชาวบ้านไซเรน
"แต่ว่าคุณชาย...”
ดอเรียนเริ่มพูด
“คุณเรียนรู้วิธีใช้กริชมาจากไหนครับ? นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นคุณใช้มันแต่คุณทำได้ดีมากจริงๆ”
“อืม จริงด้วย”
“มันเป็นเทคนิคกริชที่มีแบบแผน”
เกรียร์กับอัศวินก็หันมามองเขาเช่นกัน พวกเขาสงสัยว่ามันเป็นเทคนิคแบบไหนและเขาเรียนรู้มันได้อย่างไร
“...ฉันเรียนมาจากอาจารย์ริมเมอร์”
“อ๋า!”
"อย่างนี้นี่เอง"
“ถ้าเป็นเขาก็พอเป็นไปได้อยู่หรอก”
ดอเรียน เจ้าชาย และอัศวินยอมรับมัน
'ใช้ได้เหมือนเดิมเลยแฮะ’
การอ้างชื่อริมเมอร์ใช้ได้ผลเสมอ
ราอนยิ้มและใส่กริชแห่งเรควีเอ็มไว้ในปลอกตรงเอว
* * *
* * *
วันรุ่งขึ้นตอนเที่ยงวัน
ชายหนุ่มผมสีฟ้านั่งอยู่บนกิ่งไม้บางๆ ดวงตาของเขาเรียบนิ่งเหมือนกับป่าสน
ชายผู้มีบรรยากาศเงียบสงบผู้นี้เป็นหัวหน้าหน่วยหน่วยที่สามของอัศวินเงินแห่งอาณาจักรโอเว่น และเป็นหนึ่งในสิบสองดวงดาวแห่งทวีป: โบรินี คิทเท่น
ดวงตาสีน้ำตาลของเขากำลังจ้องมองราอนและเกรียร์ที่กำลังกล่าวคำอำลาและแยกทางกัน
“อืม”
โบรินีมองตามราอนไปแทนที่จะมองเจ้าชายลำดับที่สามที่เขาต้องปกป้อง
'เขารู้ตัวแล้วแน่นอน'
พลังของเขาลดลงไปพักหนึ่งตอนที่มีการโจมตีเกิดขึ้นเมื่อวาน และราอนก็ค้นพบตำแหน่งของเขาในช่วงเวลานั้น
'น่าทึ่ง'
ราอนรู้ตัวว่าเขาไม่ใช่ศัตรูเลยมุ่งความสนใจไปที่การจัดการลัทธิโลหิตขาวเพียงอย่างเดียว สมาธิและการตัดสินใจของเขานั้นคล้ายคลึงกับอัศวินผู้มากประสบการณ์
'ในส่วนเทคนิคกริชของเขาก็น่าทึ่งมาก'
เขาเคยได้ยินจากเจ้าชายว่าราอนซีกฮาร์ทเป็นอัจฉริยะด้านดาบ แต่เขาไม่คิดว่าราอนจะสามารถเชี่ยวชาญการใช้กริชได้เช่นกัน
เขาใช้อย่างชำนาญมากราวกับว่าเขาได้ฝึกฝนมาเป็นพันๆ ครั้ง
'และช่วงสุดท้ายก็เป็นผลงานชิ้นเอก'
มันเป็นการโจมตีที่ผสมผสานพลังสยดสยองและออร่าเข้าด้วยกัน พลังและออร่าของเขาอยู่ในระดับผู้เชี่ยวชาญระดับสูงสุด
"แล้วก็..."
สวยงามมาก
เจ้าชายและอัศวินคงไม่เห็น แต่โบรินีเฝ้าดูจากระยะไกลและเห็นทุกอย่าง
สิ่งที่ราอนแสดงตอนนั้นไม่ใช่แค่เทคนิคธรรมดา มันเป็นการร่ายรำดาบ ความโกรธแค้นที่อยู่ภายใต้การเต้นรำที่สวยงามช่างน่าเศร้า ทำให้หัวใจของเขาสั่นไหวอยู่ครู่หนึ่ง
“ราอน ซีกฮาร์ท…”
เขาแทบไม่เชื่อเมื่อเจ้าชายบอกว่าเขาเป็นอัจฉริยะที่แท้จริง แต่นั่นก็เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้
หน่วยอัศวินเงินที่เขาสังกัดอยู่นั้นแข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักร ไม่สิ แข็งแกร่งที่สุดในทวีป—แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่เคยเห็นใครเหมือนราอนมาก่อน
“หึ”
โบรินีคิทเท่นยิ้มเล็กน้อย มองดูแผ่นหลังของราอนที่ห่างออกไปเรื่อยๆ
“อีกไม่กี่ปีข้างหน้าคงมีดาวดวงใหม่ของซีกฮาร์ทถือกำเนิดขึ้น”
* * *
หลังจากใช้ประตูมิติเพื่อไปยังป่าจูเดียนที่อยู่ใกล้กับปราสาทฮาบุนที่สุด ราอนกับดอเรียนก็ยังต้องเดินทางต่ออีกเป็นเวลาสองสัปดาห์
ตอนนี้พวกเขาต้องเดินทางอีกหนึ่งวันก็จะไปถึงปราสาทฮาบุน ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นนรกตอนเหนือ
“เฮ้อ…”
ดอเรียนทิ้งตัวลงบนเตียงแบบพกพาที่เขาหยิบออกมาจากกระเป๋าหน้าท้อง เขาไม่หยุดตัวสั่นแม้กองไฟจะร้อนจัดและผ้าห่มก็หนามากก็ตาม
"ร-เราตายแน่ๆ เรากำลังจะไปชัดๆ!”
"ไม่ตายหรอก"
ราอนส่ายหัวขณะเช็ดทำความสะอาดกริชแห่งเรควีเอ็ม
“นายแค่ต้องทำสิ่งที่นายทำได้ ทำอย่างที่เคยฝึกฝนมาแล้วนายจะผ่านการทดสอบนี้”
ริมเมอร์ไม่ใช่อาจารย์ประเภทที่ให้พวกเขาทำในสิ่งที่พวกเขาทำไม่ได้ การที่ริมเมอร์ส่งพวกเขาไปที่นั่นก็หมายความว่าพวกเขาจะสามารถผ่านการสอบไปได้แน่นอน แม้ว่าตอนเกิดเรื่องปีศาจกระหายเลือดจะเป็นข้อยกเว้นก็ตาม
"แกก็เห็นด้วยใช่ไหม?”
วืด!
กริชแห่งเรควีเอ็มสั่นเพราะเห็นด้วย ใช้เวลาเพียงสองสัปดาห์มันก็สนิทสนมกับเขาแล้วก็ดอเรียนแล้ว
“ผมรู้นะแต่ผมก็กลัว! มันน่ากลัวเกินไป!”
ดอเรียนวางตะเกียงไว้บนหัวเตียงแล้วมุดตัวลงไปใต้ผ้าห่ม
ราอนคิดว่าเป็นเรื่องสิ้นเปลืองจริงๆ ที่มีทั้งตะเกียงไฟและมีเตียงพกพามาด้วย แม้ว่านั่นจะทำให้เขานอนหลับสบายมากก็ตาม
"เสร็จแล้วล่ะ”
ราอนใส่กริชแห่งเรควีเอ็มลงในปลอกหลังจากเช็ดทำความสะอาดแล้ว
ฮึ่ม!
ดูเหมือนว่าราธจะไม่พอใจกับอะไรสักอย่าง มันกระแอมไอและออกมาจากสร้อยข้อมือ
เจ้าไม่คิดว่าเจ้าทำดีเกินไปกับสิ่งที่เจ้าพึ่งรู้จักหรอ?
'ดีเกินไป?’
ใช่ เจ้าทำความสะอาดมันทุกวัน และเจ้าก็ยังคุยกับมันเป็นประจำด้วย
'แต่มันก็ช่วยฉันได้ตั้งหลายอย่าง'
แม้ว่าเขาจะไม่อยากใช้งานมันแต่กริชก็เสนอตัวเองให้เขาใช้มันเพื่อล่าสัตว์มาทำอาหาร
ต-แต่เรื่องนั้นเจ้าสามารถทำได้เองอยู่แล้ว
'แต่มันก็อยากทำเพื่อฉัน'
แน่นอนว่าเขาสามารถหาเหยื่อและจัดการเองได้อยู่แล้ว แต่เขารู้สึกขอบคุณที่มันเสนอตัวออกมาช่วย
'แล้วมันก็ยังสอนฉันถึงวิธีใช้พลังสยดสยองอีกด้วย'
กริชแห่งเรควีเอ็มสอนวิธีที่ดีที่สุดในการใช้พลังสยดสยอง รวมถึงวิธีทำความคุ้นเคยกับพลัง
ไม่แปลกที่เขาจะอยากทำความสะอาดและพูดคุยกับมันบ่อยๆ
การใช้พลังไร้สาระอย่างพลังสยดสยองมีแต่จะทำให้เจ้าดูน่าสมเพช
'แล้วไง ฉันจำเป็นต้องแข็งแกร่งขึ้น'
ราอนยิ้มเล็กน้อยและผลักราธที่กำลังทำหน้าบูดบึ้งออกไป
ราธเริ่มหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ราอนสนทนากับกริชแห่งเรควีเอ็มบ่อยๆ และสนิทสนมกับมันมากขึ้น
วือๆ!
กริชแห่งเรควีเอ็มสะท้อนเสียงราวกับกำลังหัวเราะเยาะราธ
ช่างกล้านะ!
'หยุดเดี๋ยวนี้เลย'
ขณะที่ราธกำลังจะบดขยี้กริชแห่งเรควีเอ็มด้วยความหนาวเย็น ราอนก็ปิดกั้นพลังของราธโดยใช้หมื่นเปลวเพลิง
ทำไมกัน!
'เพราะแกกำลังหาเรื่องมัน'
ราชาแห่งแก่นแท้คือราชาแห่งปีศาจเชียวนะ! ข้าไม่สามารถอยู่เฉยๆ ได้ในเมื่อมันกำลังพยายามต่อต้าน…
'ฉันจะนอนแล้ว เงียบซะ'
ฮึ…
ราอนบังคับให้ราธกลับเข้าไปในสร้อยข้อมือแล้วเอนตัวลงบนเตียงพกพา เมื่อรู้สึกถึงความนุ่มของมันเขาก็หลับตาลง
เมื่อเขาหายใจช้าลงและใกล้จะหลับ ราธก็โผล่ออกมาอีกครั้ง สายตาของมันดูเศร้าเล็กน้อยไม่เหมือนปกติ
เจ้าหลับหรือยัง?
'ยัง'
ถ้างั้น...
ราธกลืนน้ำลายแล้วพูดต่อ
จ-เจ้าอยากเรียนรู้วิธีใช้พลังน้ำแข็งจากราชาแห่งแก่นแท้หรือไม่?
ราอนหันหลังให้มันแล้วยิ้มเล็กน้อย
หลังจากผ่านไปสองสัปดาห์ ในที่สุดราชาแห่งแดนปีศาจก็ตกเป็นเหยื่อ