นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 114
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 114
ในชีวิตก่อน ราอนเคยเผชิญหน้ากับสี่ในห้าปีศาจ
หากให้เขาเลือกว่ากลุ่มไหนรับมือยากที่สุด ลัทธิโลหิตขาวต้องอยู่ในสองอันดับแรกแน่นอน
พวกมันเป็นกลุ่มคนคลั่งที่สามารถฆ่าได้แม้กระทั่งพรรคพวกเดียวกันตามเป้าหมายของลัทธิ
"ฆ่าพวกมันให้หมด”
บาทหลวงที่สวมเสื้อคลุมที่มีขีดสีขาวสองขีดยื่นมือออกมา และผู้ศรัทธาในโลหิตขาวก็เริ่มวิ่งมาหาพวกเขาด้วยดวงตาที่กระหายเลือด
'งั้นก็...'
ราอนถือกริชแห่งเรควีเอ็มแบบกลับด้าน และรวบรวมพลังงานจากหมื่นเปลวเพลิง
'มาแก้แค้นกัน’
ราอนพุ่งเข้าหากลุ่มผู้ศรัทธาโลหิตขาวอย่างรวดเร็ว
แคร้ง!
ผู้ศรัทธาลัทธิโลหิตขาวที่อยู่ด้านหน้าสุดชักดาบที่มีรูปร่างโค้งงอคล้ายจันทร์เสี้ยวออกมา มันเป็นดาบโค้งที่เป็นอาวุธหลักของลัทธิโลหิตขาว
มันฟันดาบโค้งมาที่คอของราอนโดยไม่พูดอะไร
'ว่าแล้วเชียว’
ลัทธิโลหิตขาวเชื่อว่าการฆ่าด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวถือเป็นความเมตตา พวกมันจึงมักมุ่งเป้าไปที่คอหรือหัวใจของคู่ต่อสู้ การโจมตีแบบนี้เป็นอันตรายถึงชีวิตแต่ก็สามารถหลบหลีกได้ง่ายกว่า
ราอนย่อเข่าเพื่อหลบดาบในระยะที่ใกล้เพียงกระดาษคั่น จากนั้นก็โจมตีกลับไปด้วยกริชแห่งเรควีเอ็ม
ตุบ!
หัวของผู้ศรัทธาตกลงบนพื้น
"หือ…”
ราอนอุทานขณะมองไปที่กริชแห่งเรควีเอ็ม
'เกิดอะไรขึ้น?’
มันเป็นเพียงการฟันที่เรียบง่ายธรรมดา แต่หัวของคู่ต่อสู้ก็ถูกตัดออกอย่างง่ายดาย ความคมของมันช่างน่าเหลือเชื่อ
'ความรู้สึกนี้มันอะไรกัน'
เขาเลียริมฝีปาก มองดูพลังงานอันน่าสยดสยองที่แผ่กระจายออกมาราวกับรากของต้นไม้อายุพันปี
'ไปสู้กันต่อเถอะ’
กริชแห่งเรควีเอ็มสะท้อนตอบกลับ
ฟุ่บ!
ราอนเตะพื้น เขาพุ่งไปหากลุ่มผู้ศรัทธาที่กำลังจะโจมตีเหล่าอัศวินและฟันกริชแห่งเรควีเอ็มอย่างโหดร้าย
พรูด!
พร้อมกับเสียงเลือดพุ่งอย่างน่าสะพรึงกลัว ร่างของผู้ศรัทธาโลหิตขาวห้าคนถูกฟันจนแยกออกจากกัน
วืด!
กริชแห่งเรควีเอ็มสะท้อนเสียงออกมาดังยิ่งขึ้น ความกระหายเลือดและคลื่นพลังงานอันน่าสยดสยองก็มากขึ้นเช่นกัน
ดวงตาสีแดงของราอนเป็นประกาย เขาวิ่งเข้าไปในสนามรบและปล่อยร่างกายของเขาไปตามพลังงานอันน่าสยดสยอง และเริ่มสังหารผู้ศรัทธาโลหิตขาวเหมือนหมาป่าสีแดงที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ท่ามกลางฝูงแกะ
"หยุด"
เมื่อเขาสังหารผู้ศรัทธาโลหิตขาวไปยี่สิบกว่าคน ชายที่มีขีดสีขาวหนึงขีดบนชุดคลุมก็ออกมาเผชิญหน้ากับเขา เขาคือนักบวชที่มีตำแหน่งสูงกว่าผู้ศรัทธาทั่วไป
วืด!
ดาบโค้งที่นักบวชถืออยู่เริ่มส่องแสงสีขาว
"ตาย”
นักบวชวิ่งเข้ามาหาเขาและเล็งดาบไปที่คอของเขา
'มันชัดเกินไป’
การโจมตีของเขาไม่ต่างจากผู้ศรัทธาคนอื่น
ราอนยื่นเท้าซ้ายไปทางด้านหลัง เขาฟันกริชแห่งเรควีเอ็มทันทีที่ดาบโค้งฟันไปที่พื้น
ฟึ่บ!
มันเป็นเพียงการฟันแบบโง่ๆ แต่หน้าอกด้านซ้ายของนักบวชกลับฉีกออก มันเป็นพลังที่น่าเหลือเชื่อมาก
'บ้าชัดๆ เลย'
กริชแห่งเรควีเอ็มยังต้องการแก้แค้นอีก เหมือนว่าเลือดของนักบวชคนเดียวจะไม่เพียงพอที่จะสนองความกระหายของมัน
“อืม...”
ราอนหรี่ตาลง มองดูเลือดของนักบวชที่กำลังซึมลงพื้นดิน
นั่นเป็นสีเลือดที่แปลกยิ่งนัก ต้องผสมน้ำจำนวนมากถึงจะมีสีแบบนั้นได้
ราธพูดถูก เลือดของนักบวชเป็นสีแดงอ่อนคล้ายกับมีสีขาวผสมอยู่เล็กน้อย
'นี่คือลักษณะเฉพาะของลัทธิโลหิตขาว'
ผู้ศรัทธาโลหิตขาวใช้เทคนิคการปลูกฝังที่เรียกว่างานเลี้ยงนองเลือดเพื่อรวบรวมพลังงานจากการนองเลือด จากนั้นก็เสริมพลังของมันด้วยการดื่มเลือดมนุษย์
เลือดของพวกมันจะเป็นสีขาวมากขึ้นเมื่อดื่มเลือดของมนุษย์และฝึกฝนมากขึ้น
ยิ่งเลือดมีสีขาวมากแค่ไหนก็ยิ่งมีตำแหน่งและพลังมากขึ้นเท่านั้น
พวกมันบ้ามากจริงๆ
'ใช่ เรียกว่าเป็นมนุษย์ยังไม่ได้ด้วยซ้ำ'
ราอนพุ่งเข้าไปที่นักบวชที่กำลังจะฟันคออัศวินผมแดง
“หือ!”
นักบวชหันมาอย่างรวดเร็วแต่มันก็สายเกินไปแล้ว
วูม!
การโจมตีอันเฉียบคมของกริชแห่งเรควีเอ็มทำให้แขนของนักบวชกระเด็นออกไป
"อ-อ้าก! ไอ้สารเลว!”
ราอนไม่ยอมให้เขาหนีและตามไปตัดหัวเขาทันที
“อึก…”
เมื่อได้ยินลมหายใจอันสิ้นหวังราอนก็มองไปด้านข้าง อัศวินผมแดงที่เกือบจะเอาตัวไม่รอดกำลังจ้องมองเขาอย่างตกใจ
ราอนพยักหน้าเล็กน้อยและก้าวไปข้างหน้า
แต่ละครั้งที่เขาเหวี่ยงกริชก็มีพวกโลหิตขาวถูกฆ่า จิตสังหารจำนวนมหาศาลปกคลุมกริชสีแดง
“ฉันไม่มีทางเลือก”
บาทหลวงผละจากเจ้าชายกับอัศวินสองคนแล้วหันมาหาเขา มันใช้ฝีเท้าแปลกๆ ที่ดูเหมือนเงาเพื่อก้าวมาหาราอน
"ฉันคงต้องฆ่าแกก่อน”
"คิดว่าทำได้เหรอ?"
ราอนเย้ยหยัน เขารู้สึกได้ว่าบาทหลวงแข็งแกร่งกว่าปีศาจนักรบที่เขาเคยสู้ด้วย แต่เขานึกภาพตัวเองพ่ายแพ้ไม่ออกเลย
"เดี๋ยวแกก็รู้”
ดาบโค้งเปื้อนเลือดพุ่งเข้าหาคอของเขา
ฟรึ่บ!
เขาเอียงตัวหลบ ดาบโค้งตัดปลายผมสีทองของเขาออกเล็กน้อย
'นี่ก็เหมือนกันสินะ’
แม้แต่บาทหลวงเองก็พุ่งเป้าที่คอและหัวใจของศัตรู
ขณะที่ราอนยืดหลังตรง บาทหลวงก็ยิงพลังสีขาวออกจากนิ้วชี้มาที่หัวใจของราอน
เป็นเทคนิคที่เรียกว่ากระสุนนิ้วเปื้อนเลือด ซึ่งเป็นการยิงออร่าออกมาจากนิ้ว
'ว่าแล้วเชียว’
ราอนตวัดกริชแห่งเรควีเอ็ม กระสุนนิ้วเปื้อนเลือดถูกผ่าครึ่งด้วยพลังของกริชและทำลายหินที่อยู่ข้างหลังมัน
เมื่อบาทหลวงดึงแขนของเขากลับไป ราอนก็พุ่งเข้าไปที่ช่องว่างของเขาและเหวี่ยงกริชแห่งเรควีเอ็มไปที่ดาบโค้ง
แคร้ง!
ดาบโค้งจันทร์เสี้ยวและกริชแห่งเรควีเอ็มที่มีพลังงานอันน่าสยดสยองปะทะกัน ทำให้เกิดเสียงที่คล้ายกับเสียงกรีดร้องของปีศาจ
ครืน!
พลังอันน่าสยดสยองของกริชแห่งเรควีเอ็มเรืองแสงสีแดงออกมาในความมืด
“ฮึ่ม!”
สีหน้าของบาทหลวงเริ่มหงุดหงิดขึ้นเมื่อเขาโดนกริชเล่มเล็กผลักออกมา
“แกเป็นใครมาจากไหน?”
“ขอโทษด้วย แต่ฉันไม่สามารถเปิดเผยตัวตนของตัวเองได้”
“ฉันจะดื่มเลือดของแก”
แรงกดดันอันรุนแรงของบาทหลวงแผ่ออกมา มันคงตั้งใจที่จะโจมตีโดยใช้ความสามารถที่มีทั้งหมด
'ก็มาสิ'
ราอนหลับตาลงและวางแผนที่จะใช้เทคนิคลับ แต่พลังงานอันน่าสยดสยองก็เริ่มไหลออกมาจากกริชแห่งเรควีเอ็มเสียก่อน
วืด!
พลังงานอันน่าสยดสยองพุ่งออกมาพร้อมกับเสียงสะท้อนดังกังวาลเป็นวิถีโค้ง มันดูเหมือนการเต้นรำและการกระพือปีกของผีเสื้อในเวลาเดียวกัน
'ให้ฉันทำตามเหรอ?'
กริชส่งเสียงอีกครั้งเพื่อยืนยัน
“แต่ฉันไม่มั่นใจเท่าไหร่นะ…”
ราอนพยักหน้าและเริ่มหมุนวงแหวนแห่งไฟ
วงแหวนไฟทั้งห้าสะท้อนพลังออกมาและทำให้เวลาเดินช้าลง เขามองเห็นการนำทางของกริชอย่างชัดเจน
'นั่น...'
เส้นทางของมันคือการรำดาบ การรำดาบแห่งความอุดมสมบูรณ์ที่ชาวบ้านไซเรนใช้บูชาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์โอเธลโล
การรำดาบแห่งความอุดมสมบูรณ์ได้กลายเป็นการรำดาบแห่งการแก้แค้นและความขุ่นเคืองเพื่อเชือดคอของศัตรู
"ตายซะ”
แสงสีขาวสาดออกมาจากดาบของบาทหลวง กำแพงที่มีดาบมากมายกำลังจะบดขยี้เขา มันเป็นเทคนิคลับของบาทหลวงที่ชื่อว่ากำแพงวิญญาณสีขาว
"งั้นลองดูก็ได้"
ราอนกวัดแกว่งกริชแห่งเรควีเอ็ม
'ฉันจะทำตามที่แกต้องการ’
เขาจัดท่าทางของตัวเอง
ออร่าของหมื่นเปลวเพลิงและพลังของกริชผสานรวมกัน ลากไปตามทิศทางการรำดาบ
กริ๊ง!
เมื่อกริชแห่งเรควีเอ็มเริ่มร่ายรำ พลังมากมายก็โพยพุ่งออกมา
ออร่าที่น่าสะพรึงกลัวแผ่ขยายออกมาจากมันพร้อมกับเสียงฟ้าผ่า
ตู้ม!
การผสมผสานของออร่าและพลังอันน่าสยดสยองได้ฉีกกำแพงวิญญาณสีขาวออกเป็นชิ้นๆ ในทันที และพุ่งไปที่บาทหลวงกับและผู้ศรัทธาที่อยู่หลังกำแพงนั้น
“อืก...”
ราอนชะงัก ดูเหมือนว่าเขาใช้ออร่ามากเกินไปจนทำให้หัวของเขาโล่งไปหมด
“เฮ้อ…”
เขาหายใจเข้าออกช้าๆ และเงยหน้าขึ้น
ฝุ่นืรายจางลงจนเหลือเพียงกองเลือด ผู้ศรัทธาโลหิตขาว นักบวช และบาทหลวงถูกกวาดล้างจนหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“อืม...”
ราอนมองไปที่กริชแห่งเรควีเอ็ม กริชมีสีแดงที่เข้มขึ้นหลังจากดูดซับพลังจากการตายของพวกโลหิตขาว
'ความแค้นของแกเยอะกว่าที่ฉันคิดไว้มาก'
ถึงขนาดที่มันเปลี่ยนการรำดาบแห่งความอุดมสมบูรณ์ให้เป็นการรำดาบเพื่อแก้แค้น
เขารู้สึกขมขื่นเล็กน้อยและหันหลังกลับ
"เอ่อ..."
“อ่า…”
เกรียร์และอัศวินถอยกลับด้วยดวงตาเบิกกว้าง ปากของพวกเขาอ้าๆ หุบๆ เหมือนอยากพูดแต่พูดไม่ออก
"ค-คุณชาย”
ดอเรียนล้มลุกคลุกคลานเข้ามาหาเขา แขนขาของเขาสั่นเทา
“เมื่อกี้มันคืออะไรครับ? เป็นเวทมนตร์อะไรสักอย่างเหรอครับ?”
“ไม่รู้สิ”
ราอนสะบัดเลือดออกจากกริชแห่งเรควีเอ็มและส่ายหัว
"ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน”
เขาไม่แน่ใจว่าจะอธิบายพลังของกริชออกมาอย่างไร
* * *
* * *
อึก!
อัศวินโรเรียลกลืนน้ำลายและจ้องมองเด็กชายผมทองที่ยืนอยู่อย่างมั่นใจ
'ม-เมื่อกี้มันอะไร?'
เขากวาดล้างพวกลัทธิโลหิตขาวด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว พลังแบบนั้นดูเหมือนพลังของผู้เชี่ยวชาญดาบระดับสูง
‘...เขาทำแบบนั้นได้ยังไง?’
เขาค่อยๆ พยุงตัวเองขึ้นจากพื้นดิน ดวงตาที่น่ากลัวของราอนส่องแสงราวกับเทพแห่งความตายแม้ว่าเขาจะเขาเป็นเด็กวัยไร้เดียงสาก็ตาม
'ฉันมั่นใจว่าเขายังไม่ถึงระดับผู้เชี่ยวชาญด้วยซ้ำ…'
พลังของราอนที่เขาเห็นที่คาเมลูนนั้นอ่อนแอมาก และก็อ่อนแอกว่าเจ้าชายมากด้วย
และยิ่งเขาพกดาบหลายเล่มก็ทำให้เขาดูเหมือนเด็กไร้เดียงสาเข้าไปอีก
ตอนแรกเขาคิดว่าเจ้าชายอาจจะมองคนผิด
'แต่นั่นไม่ใช่กรณีนี้'
ผู้ไร้เดียงสาก็คือตัวเขาเอง
ราอนแข็งแกร่งพอที่จะปิดบังพลังที่แท้จริงได้อย่างสมบูรณ์ เขาแข็งแกร่งขนาดนั้นด้วยกริชเพียงเล่มเดียว ไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าเขาจะมีพลังขนาดไหนหากเขาชักดาบจริงๆ ออกมา
'โง่เง่าจริงๆ...'
ในขณะที่โรเรียลกำลังโทษความโง่เขลาของตัวเอง เจ้าชายก็ลุกขึ้นยืน
“โห เขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมากเลย”
เจ้าชายอุทานด้วยความประหลาดใจแล้วพยุงตัวเองเดินไปหาราอน
“ฉันมั่นใจว่าฉันได้ฝึกฝนหนักไม่แพ้ใครเลย แต่ดูเหมือนว่าจะยังตามไม่ทันนายแน่ๆ”
เจ้าชายผู้ใจกว้างยอมรับในพลังของราอน
"ขอบคุณมาก ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณนายที่ช่วยชีวิตพวกเราไว้”
เขาก้มศีรษะลงเหมือนลืมเกี่ยวกับความแตกต่างในสถานะทางสังคมของพวกเขา แต่ไม่มีใครสามารถห้ามเขาได้เพราะราอนช่วยพวกเขาไว้จริงๆ
“ข-ขอบคุณนะ”
“ขอบคุณที่ช่วยพวกเราไว้”
“เธอมันสุดยอดจริงๆ”
ทันใดนั้นโรเรียลก็ลุกขึ้นและโค้งคำนับราอน อัศวินคนอื่นๆ ก็ไม่ลังเลที่จะเข้าหาเขาเพื่อแสดงความขอบคุณ
"ไม่เป็นไรเลยครับ”
ราอนเงยหน้ามองภูเขาสีเขียวหลังเนินเขาแล้วส่ายหัว
“ถึงผมไม่อยู่ที่นี่พวกคุณก็จัดการได้แน่นอน”
* * *
หลังจากเก็บกวาดพื้นที่พร้อมกับเหล่าอัศวิน ราอนก็แยกออกมานั่งพัก
เหล่าอัศวินเอาแต่จ้องมองเขา สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวไม่ได้ดูถูกเขาอีกต่อไป
'ต้องเห็นพลังถึงจะยอมทำดีให้กันสินะ'
แน่นอน มนุษย์ที่แข็งแกร่งดูถุกผู้อ่อนแอและผู้อ่อนแอก็ต่อต้านผู้แข็งแกร่ง นั่นเลวร้ายยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน
ราธพึมพำว่าพวกเขาแย่ยิ่งกว่าปีศาจหลังจากโผล่ออกมาจากสร้อยข้อมือดอกไม้
'กริชเล่มนี้ดุร้ายและอันตรายกว่าที่ฉันคิดไว้อีก'
เขาจ้องมองไปที่กริชแห่งเรควีเอ็มซึ่งส่องแสงสีแดง มันกลายเป็นแบบนี้เมื่อได้พบกับพวกลัทธิโลหิตขาว
หึ มันก็ยังเป็นอาวุธที่ห่วยแตก หากเจ้าให้ราชาแห่งแก่นแท้แสดงพลัง พื้นที่ทั้งหมดคงถูกแช่แข็งไปแล้ว
'แต่แกก็ทำไม่ได้หนิ’
อึก...
'หยุดพูดในสิ่งที่แกทำไม่ได้'
ข้าทำได้แต่ข้าแค่ไม่ได้ทำ เพราะราชาแห่งแก่นแท้ต้องใช้ร่างกายของเจ้า!
'แถอีกแล้ว’
แถงั้นรึ? หวนกลับไปในดินแดนปีศาจ ปีศาจนับไม่ถ้วนเข้ามาหาราชาแห่งแก่นแท้และขอยืมความแข็งแกร่ง หนึ่งในนั้นได้รับพลัง...
'เงียบน่า’
เมื่อราธเริ่มเรื่องราวอันน่าเบื่อของมัน กริชแห่งเรควีเอ็มก็สั่นสะเทือน
พลังงานที่สะสมอยู่บนกริชสีแดงไหลเข้าสู่ร่างกายของราอน
หยุดมันเดี๋ยวนี้นะ! ปรสิตตัวนั้นพยายามขโมยร่างของราชาแห่งแก่นแท้!
'ก่อนอื่นเลย นี่เป็นร่างกายของฉันไม่ใช่ของแก และอีกอย่างมันไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายฉัน'
ราอนส่ายหัว พลังงานที่เขาสัมผัสได้จากกริชแห่งเรควีเอ็มไม่ใช่พลังงานที่น่ากลัวแต่เป็นพลังงานบริสุทธิ์ ในขณะที่เขากำลังทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นก็มีข้อความขึ้นมาตรงหน้า
[กริชแห่งเรควีเอ็มเสนอพลังเลือดบริสุทธิ์ให้คุณ]