ตอนที่ 645 รังอีกาดำ
ตอนที่ 645 รังอีกาดำ
“ถึงแม้ฉันจะไม่รู้ว่าพวกมันคือตัวอะไร แต่ในเมื่อพวกมันคิดจะคุกคามมนุษยชาติ ฉันก็ไม่คิดจะปรานีศัตรูของตัวเอง ดังนั้นถ้าหากเป็นไปได้พวกเราจะทำการกำจัดพวกมันให้สูญพันธุ์ไปจากจักรวาล” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างเย็นชา
“ฉันเห็นด้วยกับแผนการของคุณ แต่ศัตรูอยู่ห่างออกไปมากกว่า 1,300 ล้านปีแสง กองยานของพวกเราคงจะต้องใช้เวลานานมากกว่าพวกเราจะเดินทางไปจนถึงที่นั่น” วอร์สตาร์กล่าว
“ไม่ต้องห่วง ในช่วงแรกฉันจะเริ่มออกค้นหาและกำจัดพวกมันก่อนเอง ครั้งนี้ฉันจะไม่มีวันปล่อยพวกมันไปอย่างเด็ดขาด” เซี่ยเฟยกล่าว
“นี่คุณจะเดินทางไปด้วยตัวเองเหรอ? แล้วถ้าปรสิตพวกนี้มันเกาะติดคุณล่ะจะทำยังไง?” มอร์โรว์กล่าวถามอย่างเป็นห่วง
“นายคิดว่าพวกปรสิตนั่นมันจะสามารถเจาะทะลุชุดเกราะนี้เข้ามาได้ไหมล่ะ?” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้มขณะชี้นิ้วไปยังชุดเกราะชาร์ปเลสบนร่างกายของเขา
“นั่นสินะ ชุดเกราะชาร์ปเลสคือชุดเกราะที่ซับซ้อนที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา และตราบใดก็ตามที่คุณไม่ถอดมันออกพวกปรสิตย่อมไม่สามารถทำร้ายคุณได้อย่างแน่นอน แต่อย่าลืมนะว่าขนอุยไม่ได้มีชุดเกราะป้องกันเหมือนกับคุณ” มอร์โรว์กล่าว
เซี่ยเฟยเหลือบสายตามองไปยังขนอุยที่อยู่บนไหล่ และแน่นอนว่าในความคิดของเขาปรสิตพวกนั้นย่อมไม่สามารถที่จะเข้าครอบครองร่างของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ได้ด้วยเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในปัจจุบันก็ไม่ค่อยดีนัก เขาจึงยังไม่คิดที่จะนำมันเดินทางไปพร้อมกับเขาด้วย
“รอบนี้นายอยู่กับแอวริลนะ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับลูบหัวเจ้าตัวเล็ก
ห๊ะ!
เมื่อขนอุยได้ยินเซี่ยเฟยบอกว่ามันจะต้องอยู่กับแอวริล ใบหน้าน้อย ๆ ของมันก็รีบส่ายหัวอย่างสิ้นหวัง และถึงแม้ว่ามันจะเป็นอสูรที่หยิ่งทะนงตั้งแต่เกิด แต่น่าแปลกที่มันกลับรู้สึกหวาดกลัวหญิงสาวมาก
ครู่ต่อมาขนอุยก็ถูกส่งไปอยู่ในอ้อมแขนของแอวริล ซึ่งภายในปากของมันก็ยังคงดูดกลืนคริสตัลต้นกำเนิดอยู่ตลอดเวลา โดยวิธีการนี้คือวิธีการแก้แค้นที่มันพอจะทำได้ เพราะในเมื่อเซี่ยเฟยต้องการให้มันอยู่ที่นี่ มันก็จะกินคริสตันต้นกำเนิดไปเรื่อย ๆ โดยหวังว่าจะทำให้ชายหนุ่มยากจนจากการกินของมัน
น่าเสียดายที่ขนอุยคำนวณผิดพลาดไป เพราะในตอนนี้เซี่ยเฟยมีคริสตัลต้นกำเนิดอยู่ในครอบครองเยอะมาก และเขาก็ยังอยากให้มันกินเยอะ ๆ เพื่อที่จะได้เติบโตขึ้นมาเร็ว ๆ อีกด้วย
ด้วยเหตุนี้แผนการของขนอุยจึงไม่เพียงแต่จะไม่สามารถแก้แค้นเซี่ยเฟยได้เท่านั้น แต่การกินของมันกลับทำให้ชายหนุ่มรู้สึกมีความสุขมากกว่าเดิม
“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวฉันจะดูแลเจ้าตัวเล็กนี้เป็นอย่างดีเอง” แอวริลกล่าวด้วยรอยยิ้มพร้อมกับลูบขนนุ่ม ๆ อย่างมันมือ
ในความเป็นจริงแอวริลชอบขนอุยมากจนเคยขอให้เซี่ยเฟยนำสัตว์อสูรชนิดนี้มาให้เธอเลี้ยงสักตัวหนึ่ง แต่น่าเสียดายที่มารขาวคืออสูรศักดิ์สิทธิ์ที่มีเพียงตัวเดียวในจักรวาล เขาจึงไม่สามารถหาขนอุยตัวที่ 2 มาให้หญิงสาวเลี้ยงได้จริง ๆ
—
หลังจากเปิดประตูมิติแล้วเข้าไปในจักรวาลอีกครั้ง ชายหนุ่มก็นำยานของเผ่ามารออกมาจากแหวนมิติ ก่อนที่จะเปลี่ยนการเดินทางเป็นการเดินทางภายในยานอวกาศแทน
ยานลำนี้ค่อนข้างที่จะเล็กเกินไปจริง ๆ แล้วมันก็แทบที่จะไม่สามารถรองรับมนุษย์พร้อมกัน 2 คนได้ด้วยซ้ำ โดยเฉพาะหลังจากที่เซี่ยเฟยคุ้นชินกับขนาดและความสะดวกสบายภายในยานฟินิกซ์ มันก็ทำให้เขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อยทุกครั้งที่เขาได้ขึ้นมายังยานของเผ่ามารลำนี้
อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีที่ใช้บนยานเผ่ามารก็ยังคงเป็นเทคโนโลยีที่สูงมาก จนทำให้ยานลำนี้มีความเร็วมากกว่ายานของพันธมิตรถึง 12 เท่า และทำให้มันกลายเป็นยานที่เหมาะสำหรับภารกิจค้นหามากที่สุด
“ถ้าไม่มีขนอุยคอยช่วยเหลือ กำลังการรบของนายจะลดลงจากเดิมไปมาก ช่วงนี้จะทำอะไรก็ระวังตัวเอาไว้ดี ๆ ด้วย” อันธกล่าว
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับขณะบังคับยานให้มุ่งหน้าตรงไปยังเขตพื้นที่ต้องห้ามที่ไทเกอร์เคยเล่าให้เขาฟัง
ยานเผ่ามารเคลื่อนที่ไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งในระหว่างนั้นชายหนุ่มก็จ้องมองไปยังระบบเรดาร์อย่างตั้งใจ
เวลา 1 ชั่วโมงผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว ในที่สุดเซี่ยเฟยก็เดินทางมาจนถึงน่านฟ้าที่กองยานของบุชเชอร์เคยถูกทำลาย ทำให้พื้นที่บริเวณนี้เต็มไปด้วยซากปรักหักพังของยานรบอย่างมากมาย แต่ถึงกระนั้นระบบเรดาร์ก็ยังคงแสดงว่าไม่มีวัตถุใดผิดปกติอยู่ในบริเวณนี้
แต่ในทันใดนั้นเองมันก็มีระเบิดคลื่นแม่เหล็กถูกยิงออกมาอย่างกะทันหัน จนทำให้ยานรบของชายหนุ่มไม่สามารถที่จะทำการวาร์ปต่อไปได้
ระเบิดคลื่นแม่เหล็กไม่ได้มีพลังทำลายสูงมากนัก แต่มันมีคุณสมบัติทำให้ยานรบของศัตรูไม่สามารถที่จะวาร์ปหนีออกไปจากสนามรบได้ วิธีการนี้จึงเป็นวิธีการทั่วไปในการล้อมจับยานรบของศัตรู เพราะเมื่อยานรบทำได้เพียงแต่เดินหน้าด้วยเครื่องยนต์ปกติ มันก็จะกลายเป็นเป้าหมายสำหรับการทำลายได้ทุกเวลา
อย่างไรก็ตามเซี่ยเฟยก็ยังคงรัวนิ้วลงบนหน้าจออย่างเชี่ยวชาญ และถึงแม้ว่าเขาจะถูกสกัดกั้นโดยระเบิดคลื่นแม่เหล็กแต่มันก็ไม่ได้สร้างปัญหาให้กับเขาเลย
“ต้องใช้เวลาฟื้นฟูเครื่องยนต์วาร์ป 15 นาที ดูเหมือนว่านี่จะเป็นกับดักที่ศัตรูวางเอาไว้สินะ เมื่อไหร่ก็ตามที่มียานรบผ่านมาในบริเวณนี้ ระเบิดคลื่นแม่เหล็กที่ถูกติดตั้งเอาไว้ก็จะถูกจุดชนวนขึ้นมาโดยอัตโนมัติ” เซี่ยเฟยกล่าว
“แสดงว่าพวกมันจะต้องซ่อนความลับอะไรบางอย่างอยู่แน่ ๆ ว่าแต่นายวางแผนจะทำยังไงต่อไป?” อันธกล่าวถาม
“ฉันว่าใกล้ ๆ นี้น่าจะมีระเบิดคลื่นแม่เหล็กถูกติดตั้งเอาไว้ใกล้ ๆ อีกหลายลูก การพยายามขับผ่านพื้นที่นี้ไปคงจะไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ ๆ เพราะทุกครั้งที่เครื่องยนต์วาร์ปเริ่มทำงาน คลื่นพลังงานที่รั่วไหลออกมาก็จะไปจุดชนวนระเบิดพวกนั้นด้วยเหมือนกัน”
“พวกมันมาแล้ว! ตอนนี้มียานรบที่ไม่รู้จักเกือบ 50 ลำกำลังเคลื่อนที่เข้ามาใกล้”
“พวกแกคิดจะหยุดฉันเอาไว้งั้นเหรอ ยิ่งพวกแกไม่อยากให้ฉันเข้าไปมากเท่าไหร่ ฉันก็จะเข้าไปดูให้ได้ว่าพวกแกซ่อนอะไรเอาไว้ข้างในนั้นกันแน่?” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างเย็นชา
ทันใดนั้นชายหนุ่มก็ตัดสินใจกระโดดออกไปนอกตัวยานและเก็บยานรบเผ่ามารกลับเข้าไปภายในแหวนมิติของเขาอีกครั้ง ท้ายที่สุดพื้นที่บริเวณนี้ก็ไม่อนุญาตให้ยานรบใช้เครื่องยนต์วาร์ปได้อยู่แล้ว การเดินทางด้วยชุดเกราะชาร์ปเลสจึงมีความคล่องแคล่วมากยิ่งกว่าการเดินทางผ่านยานรบของเผ่ามาร
ฟู่!
ร่างของชายหนุ่มเคลื่อนไหวอย่างว่องไวราวกับสายฟ้า และสีหน้าของเขาก็ยังคงนิ่งเฉยแม้ว่าตรงหน้าจะมียานรบสีทองหลายสิบลำรอคอยเขาอยู่ก็ตาม
ปัง!
เมื่อสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ได้พบเซี่ยเฟยในชุดอวกาศ พวกมันก็รีบยิงปืนใหญ่ออกไปอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามชายหนุ่มก็สามารถที่จะหลบหนีปืนใหญ่เหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย ก่อนที่เขาจะเข้าไปประชิดกองยานตรงหน้าได้ในที่สุด
เมื่อเขาได้เข้าไปในระยะประชิดขนาดนี้ พวกยานรบก็ไม่สามารถที่จะใช้ปืนใหญ่ในการจู่โจมได้อีกต่อไป แต่ในทางกลับกันระยะนี้มันคือระยะในการจู่โจมของเซี่ยเฟย
เปลี่ยน!
ดาบดราก้อนสเกลถูกเปลี่ยนเป็นดาบยักษ์ที่มีความยาวมากกว่า 2 เมตร จากนั้นเขาก็ทำการตวัดดาบยาวออกไปจนทำให้ใบดาบกรีดผ่านเกราะของยานรบราวกับใบมีดร้อนที่กำลังผ่าเนย
หมัดพายุคลั่ง!
หมัดที่แฝงไปด้วยพลังของกฎแห่งความโกลาหลถูกปล่อยออกไปอย่างบ้าคลั่ง จนทำให้ยานรบสีทองลำนั้นถูกทำลายจนแยกออกเป็น 2 ส่วนด้วยการโจมตีของเขา
ไม่ว่าภายในยานลำนั้นจะมีมนุษย์หรือสัตว์ประหลาดอาศัยอยู่ แต่เมื่อตัวยานถูกทำลายลงไปแล้วพวกมันก็ไม่เหลือทางเลือกอื่น นอกเสียจากจะต้องทิ้งชีวิตในทะเลที่เต็มไปด้วยดวงดาว
เหล่าบรรดาสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนยานพยายามหลบหนีอย่างสิ้นหวัง ซึ่งบางคนก็พยายามใช้ยานกู้ชีพเพื่อหลบหนีออกไปจากยานรบที่กำลังจะระเบิด
“จะหนีไปไหน?”
เซี่ยเฟยเร่งเครื่องยนต์ควอนตัมและออกไล่ล่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่พยายามหลบหนีออกมาจากตัวยาน
ตูม!
ชายหนุ่มต่อยทำลายยานกู้ชีพลงภายในหมัดเดียว จนทำให้ศพหลายสิบศพลอยเคว้งคว้างไปในจักรวาลอันกว้างใหญ่
ตูม! ตูม! ตูม!
ชายหนุ่มยังคงจู่โจมต่อไปโดยไม่มีความเมตตาเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งภายในเวลาเพียงแค่พริบตาเซี่ยเฟยก็ทำลายยานรบของศัตรูไปไหนแล้วถึง 3 ลำ
ศัตรูมีกองยานแล้วยังไงล่ะ!?
เมื่อเซี่ยเฟยมีความเชี่ยวชาญพลังของกฎ ยานรบเหล่านี้ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอีกต่อไป
แม้ว่านี่จะเป็นการเผชิญหน้าระหว่างมนุษย์ตัวคนเดียวกับกองยานที่มียานรบหลาย 10 ลำ แต่ท้ายที่สุดยานรบเหล่านั้นก็ไม่สามารถที่จะแตะต้องเซี่ยเฟยได้อยู่ดี
การจู่โจมของชายหนุ่มในแต่ละครั้งมีพลังทำลายมากกว่าลูกกระสุนปืนใหญ่ และถึงแม้ยานรบสีทองจะพยายามต่อต้านอย่างสิ้นหวัง แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังไม่สามารถที่จะทำอะไรเซี่ยเฟยได้
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดียานรบในส่วนที่เหลือจึงพยายามจะหันหลังหนี ซึ่งภาพเหตุการณ์ในลักษณะนี้คงไม่ใช่ภาพที่หาพบได้ง่าย ๆ อย่างแน่นอน
พายุมิติปิดล้อม!
คลื่นมิติอันรุนแรง 7 คลื่นก่อตัวเป็นพายุในฟากฟ้าแล้วเริ่มกวาดล้างทำลายยานรบตรงหน้าในทันที
แม้ว่าพายุมิติเหล่านี้จะไม่มากพอที่จะทำลายยานรบพวกนั้นได้ แต่มันก็มีพลังมากพอที่จะทำให้ยานรบลำสีทองสูญเสียการควบคุมและเริ่มมียานรบบางลำมุ่งหน้าเข้าไปปะทะกันเอง
สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นคือคลื่นกระแทกจากการที่ยานรบขับชนกันเอง และจากบรรดายานรบเกือบ 50 ลำ มันก็มียานรบที่สามารถหลบหนีไปได้ไม่ถึง 10 ลำเท่านั้นเอง
เซี่ยเฟยมองไปยังยานรบที่กำลังหลบหนีด้วยใบหน้าที่เย็นชา แต่ในตอนนี้เขาก็ไม่สามารถที่จะหยุดยานรบพวกนั้นได้อีกแล้ว
“ทำไมพวกมันกระจอกจัง” เซี่ยเฟยพึมพำขึ้นมาเบา ๆ
“พวกมันไม่ได้กระจอกแต่นายแข็งแกร่งเกินไปต่างหาก อย่าลืมสิว่าทำไมผู้ใช้กฎถึงถูกห้ามไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวในดินแดนชั้นล่าง นั่นก็เพราะว่าพลังของกฎอยู่คนละระดับกับอาวุธพวกนั้นราวกับอยู่กันคนละโลก”
“ยิ่งไปกว่านั้นนายไม่เพียงแต่จะมีพลังของกฎเท่านั้น แต่นายยังมีชุดเกราะชาร์ปเลสที่เป็นชุดเกราะชั้นยอดแม้กระทั่งภายในกลุ่มดาวม้าขาวอีกด้วย ด้วยความแข็งแรงของนายในปัจจุบันมันก็อย่าว่าแต่พวกสิ่งมีชีวิตพวกนี้เลย แม้แต่เผ่าพันธุ์ที่มีอารยธรรมเป็นของตัวเองก็คงจะไม่สามารถหยุดนายเอาไว้ได้” อันธกล่าว
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับก่อนที่เขาจะนำยานเผ่ามารออกมาเดินทางอีกครั้ง
ในที่สุดเขาก็ได้ออกกำลังกายหลังจากได้รับบาดเจ็บกลับมาทำให้เขาพอที่จะยืดเส้นยืดสายได้เล็กน้อย แต่น่าเสียดายที่ยานรบพวกนั้นไม่ค่อยแข็งแกร่งมากนัก ก่อนที่เซี่ยเฟยจะยืดเส้นยืดสายจนพอใจยานพวกนั้นก็รีบหนีกลับไปจนหมดแล้ว
ฟู่!
ยานรบของชายหนุ่มเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วมาก และมันก็อาจจะเป็นเพราะยานสีทองพวกนั้นถูกเซี่ยเฟยทำลายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ชายหนุ่มจึงไม่ได้พบกับอุปสรรคในระหว่างทางเลย
พื้นที่เขตดาวค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ก่อนที่ชายหนุ่มจะได้พบกับดวงดาวเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน เรียงตัวกันเป็นเกลียวโดยมีเมฆหมอกสีดำอยู่ตรงกลาง
เมฆหมอกสีดำนี้ไม่ใช่หลุมดำ แต่มันกลับมีความลึกล้ำราวกับว่ามันคือหลุมดำที่ดูดกลืนทุกสิ่งเข้าไปด้านใน
“นี่มันอะไร? ทำไมมันถึงมีดาวอยู่รอบ ๆ หมอกสีดำนั่นเต็มเลย” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาอย่างประหลาดใจ และถึงแม้ว่าเขาจะมีประสบการณ์เดินทางในจักรวาลอยู่บ่อยครั้ง แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นอะไรแปลกประหลาดแบบนี้
“นั่นมันรังอีกาดำ!” จู่ ๆ โอโร่ก็กล่าวขึ้นมาอย่างกะทันหันราวกับว่าเขาเพิ่งตื่นขึ้นมาจากการหลับใหล
“รังอีกาดำ? มันคืออะไร?” เซี่ยเฟยถามอย่างสงสัย
“รังอีกาดำเป็นสถานที่ที่คล้าย ๆ กับดินแดนลับของหุ่นยนต์ที่นายอาศัยอยู่ มันเป็นพื้นที่ที่ก่อกำเนิดขึ้นมาจากความวุ่นวายในอวกาศ เพียงแต่ดินแดนลับของหุ่นยนต์ลึกลับกว่ารังอีกาดำมาก จนทำให้แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎแห่งมิติก็ยังไม่สามารถที่จะค้นพบมันได้ง่าย ๆ”
“ถ้านายสังเกตให้ดี ๆ เนบิวลาสีดำพวกนั้นมันจะมีการเกาะกลุ่มกันคล้ายกับอีกา มันจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมปรากฏการณ์ลักษณะนี้ถึงถูกเรียกว่ารังอีกาดำ” โอโร่กล่าวอธิบาย
“แล้วมันมีขนาดใหญ่มากแค่ไหน? ด้านในของมันมีอะไรซุกซ่อนเอาไว้อยู่กันแน่?” เซี่ยเฟยถามอย่างสงสัย
“ปกติพื้นที่ภายในรังไม่ค่อยใหญ่มากนัก ฉันเดาว่าทางเข้าของรังก็อาจจะไม่ค่อยเสถียรมากเท่าไหร่ด้วย เจ้าพวกตัวเล็กนั่นเลยกลัวว่าทางเข้าอาจจะถูกทำลาย พวกมันจึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันไม่ให้ใครคนอื่นเข้ามาใกล้” โอโร่กล่าวตอบอย่างเฉยเมย
***************
แหล่งฟาร์มไหมนะ?