บทที่ 72 ความชื่นชมและความเร่าร้อน
บทที่ 72 ความชื่นชมและความเร่าร้อน
เปลี่ยนแขนเป็นปืนกลแกตลิ่ง แทนที่ข้อต่อดวยชิ้นส่วนโลหะ และด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่อประสาทแบบพิเศษควีนทำการดัดแปลงเสร็จภายในวันเดียว
แม้ว่าร่างกายของสก็อตจะเทอะทะมากขึ้นหลังจากการดัดแปลง แต่เขาก็ยังสามารถต่อสู้ได้เมื่อเทียบกับตอนที่เขาพิการ ด้วยความสามารถของตัวเขาเอง สิ่งนี้ช่วยเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ของเขาอย่างมหาศาล
แม้แต่ในนิวเวิลด์ ไม่ใช่ทุกคนที่เชี่ยวชาญด้านฮาคิหรือสามารถตัดเหล็กได้ ในหลายๆสถานการณ์ ไซบอร์กสามารถมีบทบาทสำคัญได้มากกว่า
อย่างไรก็ตาม ยังมีเพียงไม่กี่คนที่เต็มใจที่จะดัดแปลงตัวเอง ดังนั้นความสนใจจึงพุ่งไปที่บาบานูกิมากกว่าเขา
“บาบานูกิหลับไปนานแค่ไหนแล้ว?”
“สองวันสองคืนนี้ก็เข้าสู่วันที่สามแล้ว ใครจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา”
จากความอยากรู้อยากเห็นไปกลายเป็นความสับสน จนถึงการพูดคุยกันอย่างออกรสออกชาติ โจรสลัดธรรมดาๆคิดว่าบาบานูกิจะได้รับเงินก้อนโตหรืออย่างอื่น แต่ดูเหมือนว่าผลลัพธ์จะแตกต่างออกไปจากที่พวกเขาคิดไว้มากเกินไป
จนกระทั่งเที่ยงของวันที่สาม หลังจากบาบานุกิหลับไปทั้งหมดหกสิบชั่วโมง เขาก็ได้ลืมตาขึ้น
"เฮ้ย! พวกเรา! บาบานูกิตื่นแล้ว!”
โจรสลัดที่อยู่รอบๆ รีบวิ่งเข้ามาล้อมบาบานุกิที่ตื่นแล้ว แล้วถามอย่างสงสัยว่า “นี่ก็เป็นวันที่สามแล้วที่นายหลับไป แล้วได้อะไรมาบ้างล่ะ?”
“ไว้ค่อยคุยกันทีหลังเถอะ ตอนนี้มีอะไรกินบ้างไหม?”
ระยะเวลาในการเรียนรู้ขึ้นอยู่กับความสามารถเป็นหลัก เชย์น่าใช้เวลาเจ็ดชั่วโมงเพื่อที่จะใช้การระบำดาบได้อย่างเชี่ยวชาญ แต่ไคโดก็ทำได้เร็วกว่าเธอซะอีก ในขณะที่บาบานูกิใช้เวลาหกสิบชั่วโมง ซึ่งนับเป็นเวลาทั้งหมดสองเดือนในพื้นที่การเรียนรู้ และยิ่งไปกว่านั้น เขาเพิ่งอยู่แค่ระดับเริ่มต้นเท่านั้น
ในเวลาเดียวกัน ยังนำมาซึ่งความเหนื่อยล้าทางจิตวิญญาณและความหิวโหยอีกด้วย โจรสลัดคนอื่นๆ ต่างร่วมรับประทานอาหารกันตลอดเวลา แม้ว่าจะไม่ใหญ่โตเหมือนตอนเริ่มแรก แต่อาหารก็อุดมสมบูรณ์อยู่เสมอ
เขาตรงไปที่ด้านข้างเพื่อทานอาหาร และลุกขึ้นยืนอีกครั้งหลังจากถูกพี่น้องเหล่าโจรสลัดเซ้าซี้ถึงพลังที่เขาได้รับมา
“อย่ารีบร้อนไปเลยพวก ให้ฉันแสดงให้พวกนายดูว่าได้อะไรมาบ้าง”
หลังจากที่เขาพูดเสร็จ เขาก็มองไปรอบๆราวกับว่ากำลังมองหาเป้าที่เหมาะสม ในที่สุด เขาก็สบตาเข้ากับก้อนหินยักษ์ที่ถูกฝังไว้ครึ่งหนึ่ง เขาเดินขึ้นไปบนก้อนหินแล้วโอบกอดมันด้วยแขนทั้งสองข้าง
“นายยังมึนงงจากการหลับอยู่หรือเปล่าเนี่ย? ไม่ใช่ว่านายจะดึงมันออกมาด้วยแรงแขนเพียงอย่างเดียวนะ?!?”
ส่วนที่โผล่ออกมาของก้อนหินนั้นโพล่มาให้เห็นมากกว่าส่วนอื่นๆ และส่วนที่อยู่ใต้พื้นดินนั้นยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด และมันอาจเชื่อมต่อไปถึงชั้นหินด้านล่างด้วยซ้ำ พวกเขารู้ว่าบาบานูกิมีความสามารถอะไร และนี่เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะยกมันขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาถัดมา แขนของบาบานูกิดูเหมือนจะขยายใหญ่ขึ้นสองเท่า และเมื่อสุดเสียงคำราม เขาได้ยกก้อนหินที่ฝังไว้ออกจากพื้นแล้วยกมันขึ้นเหนือศีรษะก่อนที่จะโยนมันไปยังทะเลอันห่างไกล
เขาค่อนข้างโชคดี มันเป็นเพียงส่วนที่หักของก้อนหิน และแม้ว่าน้ำหนักของส่วนล่างจะไม่เบาเท่าไหร่ แต่มันก็ไม่ได้ "หยั่งรากลึกลงไปในชั้นหิน"
เมื่อเห็นสีหน้าตกตะลึงของโจรสลัดที่อยู่รอบตัวเขา บาบานูกิก็รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก
หากคุณเพิ่งได้รับความแข็งแกร่งและไม่สามารถแสดงออกมาต่อหน้าคนอื่นได้ คุณคงจะรู้สึกแย่มาก
แม้ว่าการใช้ทักษะนี้จะสิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก แต่ความแข็งแกร่งที่ได้มาก็คุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ แม้ว่าเขาจะออกแรงจนหมดก็คงไม่อาจยกมันขึ้นได้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการดึงก้อนหินที่ฝังอยู่ในพื้นเลย
“เห็นนั่นกันไหม? ถ้าพวกนายต้องการพลังนี้ จงออกไปต่อสู้และตามหาสิ่งที่เราต้องการ ตราบใดที่นายสามารถนำสิ่งเหล่านี้กลับมาได้ พวกนายทุกคนก็มีโอกาสที่จะได้รับพลังนี้!”
เงินอาจหมดไป แต่พลังไม่เคยหายไปไหน ผู้ที่ก้าวเดินบนเส้นทางของโจรสลัดย่อมไม่ชอบคนที่มีพลังมากเกินไป
การแสดงของบาบานูกิเกือบจะกระตุ้นให้เกิดความคลั่งไคล้ระลอกใหม่ และตำแหน่งของอาร์เซอุสก็ได้สูงขึ้นไปอีก
ไม่ใช่โจรสลัดทุกคนที่จะไม่กลัวตาย และยังมีโจรสลัดอีกหลายคนที่ระมัดระวังเป็นอย่างมากอีกด้วย
เนื่องจากแหล่งที่มาของพลังนี้คืออาร์เซอุส และไคโดทำได้เพียงเจรจากับอาร์เซอุสเท่านั้น เขาจึงไม่สามารถสั่งการอีกฝ่ายได้ กล่าวอีกนัยหนึ่ง หากพวกเขาสามารถได้รับการอนุมัติจากอาร์เซอุสพวกเขาก็จะได้รับอำนาจเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ กลุ่มพิเศษจึงถือกำเนิดขึ้นในกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูร ซึ่งเป็นกลุ่มที่ผลักดัน "จิตวิญญาณเลียแข้งเลียขา"* ให้ถึงขีดสุด แต่เป้าหมายของพวกเขาคืออาร์เซอุสไม่ใช่ไคโด
[ผู้แต่ง: *หมายถึงบุคคลที่เต็มใจทำทุกอย่างเพื่อบางสิ่งบางอย่าง อาจจะทำไปถึงขั้นทำให้ตนเองเสื่อมทราม]
ภายใต้การยุยงและการล่อลวงของพลัง ตำแหน่งของอาร์เซอุสในกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเขาก็ได้กลายเป็นเป้าหมายของการบูชา โดยมีเชย์น่าเป็นแกนหลัก ต้นแบบของศาสนาใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้นในหมู่สมาชิกกลุ่มแรกๆของกลุ่มร้อยอสูร
ในเวลาเดียวกัน ข้อมูลบางอย่างก็ถูกเผยแพร่ไปในตลาดมืดเช่นกัน โลกใต้ดินของโจรสลัดนั้นวุ่นวายมากและมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน แม้แต่กระดานค่าหัวพวกทหารเรือก็สามารถพบได้ที่นี่
อย่างไรก็ตาม พวกเขากล้าเผยแพร่ข้อมูลใดๆก็ตาม แต่จะมีใครเชื่อถือหรือไม่นั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรได้แพร่กระจายไปทั่ว โดยระบุว่าพวกเข้าอยากได้แร่ธาตุบางชนิด ผลปีศาจประเภทโซออน ศิลารูปทรงพิเศษ และอื่นๆอีกมากมาย
อย่างไรก็ตาม ตลาดมืดมันก็ไม่ได้มีความน่าเชื่อถืออยู่แล้ว และนโยบายปัจจุบันของอาร์เซอุสก็เป็นเพียงการขยายเครือข่ายออกไป ดังนั้น เขาจึงตั้งรางวัลสำหรับพวกมันด้วยราคาที่สูงมาก
ในตลาดมืด สกุลเงินที่แข็งที่สุดยังคงเป็นทองคำ และของเช่นผลปีศาจ ต้นไม้แห่งสมบัติอดัม พวกมันนั้นมีคุณค่าเป็นอย่างมากและสามารถการันตีว่าจะใช้แลกเปลี่ยนได้ และแม้แต่เบรีก็ยังมีค่าด้อยกว่าพวกมันเล็กน้อย รางวัลที่กลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรตั้งไว้คือเบรี
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาอีกมากมายในตลาดมืดเช่น ข้อตกลงที่ไม่ชัดเจน การฉ้อโกง และการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่ยุติธรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามที่คุณจินตนการ ทั้งหมดสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งหมดที่นี้
สิ่งที่สำคัญที่สุดในตลาดมืดคือความแข็งแกร่งที่เชื่อถือได้และวิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยม
สำหรับพวกพ่อค้าคนกลาง พวกเขาจะเป็นคนกลางให้ก็ต่อเมื่อพลังของคุณเท่ากับเขาเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากพลังของคุณไม่เท่ากับเขาและได้เข้าสู่ตลาดมืดที่โหดเหี้ยมนี้ โชคดีที่สุดที่จะเกิดขึ้นได้คือหนีไปจากที่นี้แบบมีชีวิตเท่านั้น
ขั้นต่อไป มันเป็นช่วงเวลาของการพัฒนา ไคโด อาร์เซอุส และเชย์น่าแยกออกเป็นสามกลุ่มเพื่อค้นหาร่องรอยของศิลาแห่งชีวิตบนเกาะใกล้เคียง ท้ายที่สุดแล้ว ไคโดยังคงจำเป็นต้องรักษาดินแดนของเขาให้มั่นคง ดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าที่จะไม่ออกไปค้นหาไกลเกินไปในตอนนี้
ในขณะเดียวกัน กลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรก็กำลังพัฒนาเศรษฐกิจของพวกเขาเช่นกัน หลายสิ่งหลายอย่างไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยกำลังเพียงอย่างเดียว และเบรีก็มีความสำคัญมากเช่นกัน
ตัวอย่างเช่น วัสดุที่จำเป็นสำหรับการต่อเรือ ไม้ที่สามารถนำไปทำเป็นกระดูกงูคุณภาพสูงนั้นมีราคาแพงในตลาดมืด เนื่องจากมันเกือบจะสามารถกำหนดอายุขัยของเรือได้เลย
เมื่อมีบาบานูกิเป็นตัวอย่าง สมาชิกของกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรก็ยิ่งดุร้ายมากขึ้นในการต่อสู้ โดยเฉพาะบาบานูกิ รางวัลนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะได้รับเพียงครั้งเดียว ด้วยทักษะที่ได้รับมา ตอนนี้เขามักจะกวัดแกว่งอาวุธหนักและพุ่งเข้าโจมตีเป็นแนวหน้าเสมอ
ทุกอย่างพัฒนาไปได้อย่างราบรื่นจนกระทั่งการมาถึงของนิวส์คู นอกจากหนังสือพิมพ์ที่มาส่งแล้ว นิวส์คูยังนำค่าหัวล่าสุดมาส่งอีกด้วย
ด้วยความที่ว่าค่าหัวที่ส่งมาล่าสุดไม่มีความแม่นยำอย่างมากเป็นสาเหตุให้เชย์น่าคว่ำโต๊ะลง และเปลงเพลิงของเธอก็ได้พวยพุ่งออกมาเผาห้องทั้งห้อง...