บทที่ 1037 (158) คนที่ทำให้หัวใจของฉันเจ็บปวด (ตอนฟรี)
บทที่ 1037 (158) คนที่ทำให้หัวใจของฉันเจ็บปวด (ตอนฟรี)
“เพื่อนเก่า? เพื่อนเก่าคนไหน?” จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะตกใจเล็กน้อย “พี่รอง พูดมาให้ชัดๆเลยดีกว่าว่าเขาเป็นใคร?”
“นายมาถึงเมื่อไหร่เดี๋ยวนายก็รู้เองนั่นแหละ!” จี้ช่าวเหลยพูดด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ “เอาเป็นว่ามื้อเย็นนี้นายต้องมากินข้าวกับฉัน... จำที่อยู่ได้ใช่มั้ย? อย่ามาสายล่ะ!”
“จำได้ สปริงฟลาวเวอร์มูนไลท์คลับเฮ้าส์ใช่มั้ย? ผมจะไปให้เร็วที่สุดก็แล้วกัน” เมื่อเห็นว่าจี้ช่าวเหลยไม่ได้ตอบอะไร จี้เฟิงก็ไม่รอคำยืนยันและพูดด้วยรอยยิ้ม “พี่รอง ผมว่าเราตกลงกันก่อนดีกว่า พี่จะไม่ทำอะไรแปลกๆ หรือเอาผมไปต้มยำทำแกงใช่มั้ย?”
“นายเห็นฉันเป็นคนแบบไหนเนี่ย?! ไม่ต้องห่วงหรอกหน่า นายมาถึงเดี๋ยวก็รู้เองนั่นแหละ!” จี้ช่าวเหลยพูดด้วยรอยยิ้ม
จี้เฟิงยิ้มเล็กน้อยแล้วกดวางสาย เขาไม่ได้กังวลใจอะไรนัก แน่นอนมันเป็นเพราะเขารู้จักนิสัยพี่ชายคนที่สองของเขาดี จี้ช่าวเหลยไม่ใช่คุณชายเพลย์บอยประเภทนั้น แต่ปัญหาคือเพื่อนเก่าที่เขาพูดถึงจะมาในรูปแบบไหน? นี่เป็นเรื่องยากที่จะพูดคุยในสังคมสมัยนี้ ไม่มีใครรับประกันได้ว่าเขาจะไม่ขอร้องในเรื่องที่น่าลำบากใจ
จริงๆแล้วความผิดพลาดและปัญหามากมายเกิดจากความหัวร้อนจนนำไปสู่สถานการณ์ที่ยากจะรับมือในที่สุด มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง
ดังนั้นจี้เฟิงจึงต้องการอธิบายจุดยืนของเขาล่วงหน้า ไม่เช่นนั้นมันจะค่อนข้างน่าเกลียดหากเข้าปฏิเสธในภายหลัง โดยเฉพาะผู้ที่มาหาในฐานะ “เพื่อนเก่า”
หลังจากบอกกล่าวเซียวหยูซวนและถงเล่ยแล้ว จี้เฟิงก็ไปส่งถงเล่ยและหานเซิ่นกลับบ้านก่อนจะขับรถตรงไปยังสปริงฟลาวเวอร์มูนไลท์คลับเฮ้าส์
ถงเล่ยและคนอื่นๆอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย พวกเธอกลัวว่าจี้เฟิงจะขอนอนกับแฟนสาวทั้งสองคนของเขาอีกครั้งในวันนี้ มันเป็นเรื่องที่ชวนให้อึดอัดและเขินอายมากจริงๆ ตลอดทั้งวันพวกเธอยังคงเขินอายมากเพียงแค่นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา
ในขณะที่จี้เฟิงออกไปข้างนอก เซียวหยูซวนและถงเล่ยต่างคิดในใจว่าพวกเธอจะต้องเข้านอนให้เร็วที่สุด เพราะหลังจากที่จี้เฟิงกลับมา เขาจะได้ไปนอนที่ห้องนอนของเขาเท่านั้น
ในทางกลับกัน เดิมทีจี้เฟิงต้องการที่จะดำเนินชีวิตตามใจของเขาต่อไปในวันนี้ สิ่งนี้จะทำให้เซียวหยูซวนและถงเล่ยเลิกสำรวมและเหนียมอายได้ไวที่สุด และยังช่วยให้หานเซิ่นและเสี่ยวอิงไม่ต้องเขินอายและปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์เช่นนี้ได้โดยเร็วที่สุด ช่างเป็นชีวิตที่ไร้สาระแต่กลับมีผลทางจิตใจมากจริงๆ!
แต่สายของจี้ช่าวเหลยทำให้แผนของเขาเปลี่ยนไปอย่าไม่ต้องสงสัย แต่ถึงอย่างนั้น จี้เฟิงก็ตัดสินใจว่าเขาจะอยู่ที่คลับเฮ้าส์ไม่นานและจะรีบกลับโดยเร็ว เผื่อว่าเซียวหยูซวนและถงเล่ยอาจจะหนีเขาและเข้านอนเร็ว...
.............
จี้เฟิงมีความคุ้นเคยกับสปริงฟลาวเวอร์มูนไลท์คลับเฮ้าส์มาก เขามาที่นี่หลายครั้งแล้ว แต่ครั้งที่เขารู้สึกประทับใจมากที่สุดคือตอนที่เขามาที่คลับเฮ้าส์แห่งนี้เป็นครั้งแรก
สปริงฟลาวเวอร์มูนไลท์คลับเฮ้าส์ เป็นที่ที่เขาได้พบกับจี้ช่าวเหลยเป็นครั้งแรก นอกจากนี้พวกเขายังได้พบกับอดีตสามีของฉินซูเจี๋ย ดูเหมือนว่าเขาจะชื่อเจิ้งฮ่าวหยู.. หรืออะไรสักอย่าง จี้เฟิงไม่อยากจะจำด้วยซ้ำ
ต่อมา เมื่อจี้เฟิงได้ยินฉินซูเจี๋ยพูดถึงพฤติกรรมบางอย่างของเจิ้งฮ่าวหยู มันก็ยิ่งทำให้เขาไม่ชอบผู้ชายคนนี้มากยิ่งขึ้น เขารู้มาว่า จี้ช่าวเหลยฉินซูเจี๋ยและเจิ้งฮ่าวหยูเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันมาก่อนตอนเรียนมหาวิทยาลัย แต่หลังจากนั้นจี้ช่าวเหลยก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้อีกและจี้เฟิงก็ไม่อยากจะถามด้วย ท้ายที่สุดแล้ว ผู้ชายสารเลวแบบนั้น ไม่มีค่าพอให้เขาต้องสนใจ
แต่ตอนนี้ เมื่อพูดถึงสปริงฟลาวเวอร์มูนไลท์คลับเฮ้าส์ จี้เฟิงก็นึกถึงฉินซูเจี๋ยขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ผู้หญิงที่สวยสะพรั่ง เธอมีเสน่ห์แบบผู้ใหญ่ที่ดึงดูดผู้ชายเป็นอย่างมาก
และก็เป็นฉินซูเจี๋ยอีกเช่นกันที่ทำให้จี้เฟิงได้รับทรัพย์ก้อนโตจากหินหยก หลังจากนั้นพวกเขาได้มีการพบปะพูดคุยกันอีกหลายครั้งเกี่ยวกับธุรกิจในด้านนี้ และในระหว่างการประชุม อาคารอี้เหอได้ถูกโจรปล้น จี้เฟิงคือคนที่เข้าไปช่วย ก่อนหน้านั้น ผู้อำนวยการสำนักงานทั่วไปของสหพันธ์มหาวิทยาลัยที่ชื่อฉิน เป็นพี่ชายคนโตของฉินซูเจี๋ย อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายไม่ค่อยดีนัก อาจกล่าวได้ว่าแย่มาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พี่สะใภ้ของฉินซูเจี๋ย คำพูดและกิริยาเพียงเล็กน้อยของเธอก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้คนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว และฉินซูเจี๋ยก็เข้ามาพัวพัน และเนื่องจากพฤติกรรมที่เลวร้ายของพี่สะใภ้และพี่ชายคนโตของเธอ ทำให้ฉินซูเจี๋ยดื่มเหล้าย้อมใจและระบายความขมขื่นต่อหน้าจี้เฟิง จนเกิดสถานการณ์ที่ล่อแหลม ทั้งคู่ได้รับประสบการณ์ที่ค่อนข้างโรแมนติกเล็กๆน้อยๆจากเหตุการณ์นั้น
แน่นอนว่าจี้เฟิงสามารถยับยั้งชั่งใจได้ในที่สุด แต่สุดท้ายแล้วมันก็เป็นเหตุการณ์ที่ยากจะลืม ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถลบออกไปได้ ดังนั้นเมื่อมาคิดคำนวนดูดีๆแล้ว เขาและฉินซูเจี๋ยมีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างซับซ้อนยุ่งเหยิง
“ไม่รู้ว่าผู้หญิงหุ่นสวยที่มีเสน่ห์แบบผู้ใหญ่อย่างเธอจะกำลังทำอะไรอยู่ในตอนนี้...” จี้เฟิงที่กำลังขับรถอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวเล็กน้อย มีร่องรอยคาวมเศร้าเกิดขึ้นในใจของเขา “ตอนนี้ฉินซูเจี๋ยจะยังคงมุ่งความสนใจไปที่บริษัทและลูกสาวของเธออยู่หรือเปล่า?”
หลังจากที่คิดอย่างรอบคอบแล้ว ดูเหมือนว่าเขาและฉินซูเจี๋ยจะไม่ได้เจอกันเป็นเวลาหลายเดือน พูดตามตรง เขาเองก็คิดถึงเธออยู่เหมือนกัน
“เฮ้อ.. ช่างเถอะ!”
จี้เฟิงส่ายหัวกับตัวเองอีกครั้ง “ฉันมีแฟนสามคนแล้ว! อย่าคิดเรื่องอื่นให้ชีวิตวุ่นวายไปมากกว่านี้เลยดีกว่า.. ตอนนี้สิ่งที่ฉันจะต้องคิดคือจะทำยังไงให้หยูซวนกับเล่ยเล่ยยอมรับซูหยวนให้ได้...”
จี้เฟิงยังไม่ได้เริ่มจัดการอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยจริงๆ นั่นเป็นเพราะเขามีงานที่ต้องทำอีกมาก
ตัวอย่างเช่น องค์กรใต้ดินหวางฉาวที่มีอำนาจยังคงมีอยู่ และมีคนกำลังจับตาดูเขาอยู่และดูเหมือนว่าอีกฝ่ายต้องการจะกำจัดเขาโดยเร็ว อีกตัวอย่างหนึ่งคือตระกูลอู๋ยังคงสร้างปัญหาอยู่ทุกหนทุกแห่ง และกิจการของหรงเผิงกรุ๊ปก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข ยังมีเวลาอีกเกือบสองปีกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง พ่อของเยขาจะเลื่อนตำแหน่งขึ้นไปได้อย่างราบรื่นหรือไม่? ไหนจะเรื่องของเถิงเฟยกรุ๊ป กลุ่มบริษัทเถิงเฟยจะมีทิศทางการพัฒนาไปอย่างไร? การวางแผนควรเป็นไปในรูปแบบไหนถึงจะบรรลุตามเป้าหมายที่เขาต้องการได้...
ฯลฯ ฯลฯ ....
ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาต้องทำ หลายสิ่งหลายอย่างมากจริงๆ.. ดังนั้นเขาจะไม่ยอมให้ตัวเองต้องสับสนและตกอยู่ในความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างเขากับแฟนสาวของเขามากนัก และนี่ก็เป็นความสัมพันธ์ที่สามารถระบุได้อีกด้วย
บางครั้งคนเราต้องรู้จักเรียนรู้ที่จะพอใจและต้องไม่โลภเกินไป ไม่ช้าก็เร็วคุณอาจจะจุกหรือไม่ก็สำลักจนตายหากเป็นคนตระกละตระกลาม!
แต่ถึงอย่างนั้น...
เรื่องของความรู้สึก เขาไม่สามารถบังคับตัวเองไม่ให้คิดถึงฉินซูเจี๋ยได้ ในบางครั้ง ในใจของเขายังคงคิดถึงหญิงสาวแสนสวยที่มีเรือนร่างเต็มไปด้วยมีเสน่ห์เย้ายวนเกินจะห้ามใจ มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย และมันก็ยากที่จะลืม
มันเหมือนคุณเคยชอบผู้หญิงคนหนึ่งเมื่อคุณยังเด็ก หรือเป็นรักแรกพบที่ทำให้คุณตกหลุมรักในทันที หรือถูกปฏิเสธโดยผู้หญิงคนหนึ่ง...
และอีกหลายปีต่อมา ในใจของคุณยังคงนึกถึงชื่อผู้หญิงคนนั้น น้ำเสียง รอยยิ้ม และแม้กระทั่งคำพูดที่เธอเคยพูด เธอสดใสร่าเริงแค่ไหน ตลกและน่ารักแค่ไหน
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อใดก็ตามที่คุณคิดถึงสิ่งเหล่านี้ หัวใจของคุณจะรู้สึกหวิวๆและเจ็บปวดเล็กน้อยอยู่เสมอ มันเป็นความจนใจที่ไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ด้วยเหตุผลต่างๆนาๆและชะตากรรมที่บีบคั้นหัวใจ
แน่นอนว่าอาจมีบางคนที่ถูกสาวๆทำร้าย หรือถูกหญิงสาวดูถูกในตอนแรกก่อนที่เขาจะประสบความสำเร็จ แม้จะเป็นอย่างนั้น ในใจกลับนึกถึงพวกเธอเป็นครั้งคราว ในอดีตที่พวกเธอเคยเชิดใส่อย่างหยิ่งผยอง เคยมองเขาด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม แต่ในตอนนี้เธอจะรู้สึกเสียใจมากแค่ไหนเมื่อคนที่เธอเคยดูถูกประสบความสำเร็จ?
..... ความคิดที่เหมือนการเคียดแค้นฝังใจแบบนี้ แตกต่างจากความคิดของจี้เฟิงในเวลานี้อย่างสิ้นเชิง
เพราะตอนนี้ แม้ว่าเขาจะได้พบกับฮูซู่ฮุ่ยอีกครั้ง เขาก็ไม่ได้มีความรู้สึกเจ็บแค้นใดๆเลย แต่นี่ก็ไม่ใช่เพราะว่าเขาเป็นคนใจกว้าง แต่เป็นเพราะระยะเวลาที่เปลี่ยนผันไป ความคิดและทัศนคติหลายๆอย่างก็เปลี่ยนตามไปด้วย นี่เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการเจริญเติบโต...
จี้เฟิงส่ายหัวเล็กน้อยและสลัดความคิดที่ซับซ้อนและสับสนเหล่านี้ออกไป เขาอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ ในความเป็นจริง ชะตากรรมและวิถีชีวิตของแต่ละคนก็ทำให้ใครบางคนทำอะไรไม่ถูกจริงๆ ทุกอย่างล้วนมีไม่แน่นอน
ดังนั้นมันจะดีกว่าหากเราทำความเข้าใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ได้ก่อนแล้วค่อยคิดถึงเรื่องอื่น!
แต่จี้เฟิงไม่รู้ว่า เมื่อความคิดเหล่านี้แวบเข้ามาในใจของเขา มันได้อธิบายทัศนคติของเขาที่มีต่อฉินซูเจี๋ยไปแล้ว!
ในขณะที่คิดถึงสิ่งต่างๆ จี้เฟิงได้ขับรถมาถึงทางเข้าของสปริงฟลาวเวอร์มูนไลท์คลับเฮ้าส์ หลังจากที่เขาจอดรถเรียบร้อย เขาก็เดินเข้าไปในคลับอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกัน เขาก็โทรหาจี้ช่าวเหลยอีกครั้งเพื่อขอหมายเลขห้อง จากนั้นพนักงานต้อนรับก็พาจี้เฟิงไปยังห้องอาหารส่วนตัวตามหมายเลขที่จี้เฟิงบอก
“น้องสาม!”
ทันทีที่จี้เฟิงเปิดประตู จี้ช่าวเหลยก็เดินออกมารับด้วยรอยยิ้ม เขาตบไหล่จี้เฟิงแล้วเดินเข้าไปพร้อมกัน “ดูสิว่าใครอยู่ที่นี่!”
ในตอนนี้ จี้เฟิงเห็นรอบๆห้องอาหารส่วนตัวอย่างชัดเจน และเห็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลายืนอยู่ กำลังมองมาทางเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มดูเป็นมิตรมาก
“ต้วนเผิง?!” จี้เฟิงสะดุ้งเล็กน้อย “คุณกลับมาจากต่างประเทศแล้วเหรอ?”
ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเขาในเวลานี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเพื่อนสมัยเด็กของจี้ช่าวเหลยสมัยที่อยู่หยานจิง และได้มารู้จักกับจี้เฟิงในภายหลังด้วย
จี้เฟิงจำได้ว่าครั้งสุดท้ายต้วนเผิงได้ออกจากประเทศจีนไปนานแล้ว เพราะเขาทำให้ตระกูลเฉียวขุ่นเคือง ทรัพย์สินของเขาทั้งหมดในประเทศจีนได้ถูกขายไป และก่อนจะจากไป เขาได้มอบรถดีๆคันหนึ่งให้แก่จี้เฟิง แต่จี้เฟิงปฏิเสธ
มันก็น่าจะผ่านมาได้เกือบหนึ่งปีแล้วสินะ?
จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกๆเล็กน้อย ต้วนเผิงไปได้ดิบได้ดีที่ต่างประเทศแล้ว ทำไมจู่ๆเขาถึงกลับมา... เป็นไปได้ไหมว่ามีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นกับเขาอีกครั้ง?
“เหล่าจี้!”
ต้วนเผิงทักทายจี้เฟิงด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “พบกันอีกแล้วนะครับ!”
“นั่นน่ะสิครับ ผมก็ไม่คิดว่าจะได้เจอคุณในวันนี้ เซอร์ไพรส์มาก!” จี้เฟิงทักทายด้วยรอยิย้มและนั่งลงบนโซฟาใกล้ๆต้วนเผิง และถามขึ้นว่า “แล้วทำไมจู่ๆคุณถึงกลับมาล่ะ? มาเที่ยวหรือมาเยี่ยมหาใครหรือเปล่า?”
“มันอยากที่จะอธิบายเป็นคำพูด!” ต้วนเผิงถอนหายใจ
จี้ช่าวเหลยยิ้มและกล่าวว่า “เดี๋ยวค่อยคุยหน่า! น้องสาม นายอยากกินอะไร เราสั่งอาหารมากินกันก่อนดีกว่า ค่อยคุยกันหลังกินเสร็จเถอะ!”
“ผมกินอะไรก็ได้ พี่กับต้วนเผิงเลือกแล้วสั่งมาได้เลย!” โดยพื้นฐานแล้ว จี้เฟิงไม่ใช่คนเลือกกิน เขากินอะไรก็ได้ขอแค่อิ่มท้องก็พอแล้ว ส่วนอาหารจะดีหรือไม่ดี เป็นเพียงแค่รสชาติที่แตกต่าง
“ฉันขี้เกียจเลือกอ่ะ ให้พวกเขาจัดอาหารชุดมาซักชุดก็แล้วกัน!” จี้ช่าวเหลยโยนเมนูลงบนโต๊ะแล้วกดกริ่งเรียกพนักงาน
ไม่นาน พนักงานเสริฟก็เข้ามาแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ขอโทษค่ะ คุณลูกค้าต้องการให้เราทำอะไรคะ?”
จี้ช่าวเหลยพูดด้วยรอยยิ้ม “จัดอาหารมาให้เราชุดหนึ่ง!”
พนักงานเสิร์ฟพยักหน้ารับและออกไปทันที อันที่จริง คลับแบบนี้มีวิธีพิเศษสำหรับจัดการกับลูกค้าที่รับมือยาก สิ่งที่ร้านอาหารหลายๆร้านกลัวมากที่สุดไม่ใช่การที่ลูกค้าสั่งของจู้จี้จุกจิก แต่เป็นการที่ลูกค้าปล่อยให้ทางร้านจัดสรรอาหารรสชาติอร่อยให้กับพวกเขา
ใครจะไปรู้ว่าใครชอบรสชาติไหน? แบบไหนถึงจะอร่อยสำหรับลูกค้า?
ดังนั้นโดยทั่วไป เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ เชฟในคลับหรือร้านอาหารจะใช้ทักษะที่ดีที่สุดในการปรุงอาหาร พวกเขาจะรังสรรมันอย่างระมัดระวัง แม้ว่าแขกจะไม่ได้ร้องขอเป็นพิเศษก็ตาม
หลังจากพูดคุยกันสักพัก พนักงานเสริ์ฟก็เริ่มทยอยเสริ์ฟอาหาร มันเร็วมากจนพวกเขาไม่ทันจะได้พูดเรื่องจริงจังด้วยซ้ำ
ในทางกลับกัน จี้เฟิงไม่ได้กังวลเรื่องอาหารหรือความเร็วในการเสิร์ฟ แต่กำลังสงสัยเกี่ยวกับการกลับมาอย่างกะทันหันของต้วนเผิง ดูหมือนว่าต้วนเผิงจะมาหาเขาโดยเฉพาะ... มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
.....จบบทที่ 1037
