ตอนที่แล้วนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 112
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 114

นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 113


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 113

"ใจร้ายมาก!"

ดอเรียนสูดจมูก

“ลืมผมได้ยังไง!”

“ขอโทษที สถานการณ์มันพาไปน่ะ ฉันเผลอลืมนายไปเลย”

“ฮือๆ ผมไม่มีตัวตนเลยเหรอ…”

ดอเรียนคอตก

“แต่นายก็ได้ดาบดีๆ มาแล้วนี่ แค่นั้นยังไม่พอเหรอ?'

ราอนชี้ไปที่ดาบเล่มที่สองที่ห้อยอยู่ตรงเอวของดอเรียน เขาได้รับดาบเล่มใหม่หนึ่งเล่มมาจากคูเบรัด

"มันก็จริง แต่ว่า..."

“ฉันว่าการที่เราถือดาบหลายเล่มมันดูแปลกๆ”

ตอนนี้ราอนกำลังมีทั้งดาบของซีกฮาร์ท ดาบของคูเบรัด และกริชแห่งเรควีเอ็มห้อยอยู่บนเอว ดอเรียนเองก็มีดาบสองเล่มอยู่ที่เอว

พวกเขาดูเหมือนเด็กที่พยายามทำให้ตัวให้ดูเท่ในสายตาผู้ใหญ่ แต่มันไม่เป็นอย่างนั้น

อืม รู้ตัวแล้วรึ มีแต่พวกอ่อนแอมักจะชอบไปไหนมาไหนกับอาวุธหลายชิ้น หากหวนกลับไปในดินแดนปีศาจ ราชาแห่งแก่นแท้พิชิตดินแดนโดยใช้เพียงกำปั้น...

ราธปล่อยไอความเย็นออกมารอบๆ ตัวราอน มันโกรธที่ก่อนหน้านี้ราอนปฏิบัติต่อมันเหมือนปรสิต แล้วมันก็เริ่มพูดจาอวดโม้ยืดยาวอีกครั้ง ราอนจึงเมินมันไป

“แล้วไม่ดีเหรอครับ? เราเหมือนคนที่ใช้ดาบคู่ได้เลยนะ หือ?”

“หืม?”

ขณะที่พวกเขากำลังจะออกจากประตูเมืองคาเมลูน พวกเขาก็พบกับอัศวินที่สวมชุดเกราะสีเงินที่มีสัญลักษณ์สิงโต พวกเขาคืออัศวินของโอเว่น

"โอ๊ะ! เจอกันที่นี่อีกแล้ว”

ชายผมทองที่ยืนอยู่ด้านหน้าเหล่าอัศวินโบกมืออย่างร่าเริง เขาคือเจ้าชายคนที่สามของโอเว่น เกรียร์ เดอ โอเว่น

"ครับ"

ราอนจับมือที่เกรียร์ยื่นออกมาพร้อมรอยยิ้ม

“ผมได้ดาบดีๆ มาเล่มหนึ่งด้วย ขอบคุณครับ”

"ขอบคุณเช่นกันครับ!”

ดอเรียนหมุนตัวเพื่อให้เกรียร์เห็นดาบที่เขาเพิ่งได้มา

“ดูเหมือนว่าพวกนายจะได้ดาบดีๆ มา”

เจ้าชายพยายามฉีกยิ้มอย่างอ่อนโยนแต่มันออกมาแปลกๆ

“ผมพอใจกับดาบเล่มนี้มาก...แล้วผมไม่ได้คิดว่าเขาจะอยู่ที่นี่”

“ฉันรู้ๆ เขายังยืนกรานที่จะปักหลักอยู่ที่นั่นแม้ว่าฉันจะพยายามดึงกางเกงลากเขาออกมาแล้วก็ตาม”

เขาพึมพำว่ามันน่าอายมาก และมองดูดาบที่ห้อยอยู่ที่เอวของราอน

“แต่ดูเหมือนมันจะเป็นอย่างที่ฉันคิด”

"ครับ?”

“เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะให้ดาบกับใครสักคนเพียงแค่ฉันแนะนำ เขาคงให้ดาบนายเพราะเขาชอบนายแน่นอน นายรู้ไหมว่าช่างตีเหล็กมีความถือตัวมากแค่ไหน”

เกรียร์บอกว่าเขาน่าทึ่งมากสมกับที่เขายอมรับ ดูเหมือนว่าเขาอยากจะประลองกันอีกรอบ

"แล้วพวกนายจะไปที่ไหน?”

"ตอนนี้ผมต้องมุ่งไปทางเหนือ”

“งั้นจะไปกับเราไหม? เราต้องเดินทางไปทางเหนือหนึ่งวันพอดี”

เขาชี้ไปที่อัศวินข้างหลังเขา ราอนจำใครไม่ได้เลยยกเว้นเซตันที่เสมอกับเบอร์เรนเมื่อครั้งก่อน

"ได้ครับ"

เขาไม่จำเป็นต้องปฏิเสธ เขาได้รับกริชแห่งเรควีเอ็มมาก็เพราะเกรียร์ดังนั้นเขาจึงอยากเล่าเรื่องของมันให้เกรียร์ฟัง

"งั้นก็ดีเลย! การเดินทางของเราจะได้ไม่น่าเบื่อ!”

"เจ้าชายครับ”

อัศวินผมแดงที่เฝ้าดูจากด้านหลังก้าวขึ้นมาข้างๆ เกรียร์

“เรากำลังอยู่ระหว่างภารกิจ เราไม่ควรรับสหายใหม่โดยประมาท…”

"ชายคนนี้คือราอนนะ ราอน ซีกฮาร์ท! การมีเขาอยู่ด้วยมีแต่จะเป็นประโยชน์”

"หือ? ราอน?"

สายตาของอัศวินเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินชื่อ 'ราอน ซีกฮาร์ท' พวกเขามองสำรวจร่างกายของราอนอย่างละเอียด

อัศวินไม่สามารถมองเห็นระดับของราอนได้ด้วยความสามารถของพวกเขาตอนนี้ พวกเขาอาจจะมองว่าราอนเป็นผู้ใช้ดาบที่เก่งกว่าทั่วไปนิดหน่อย

ในทางกลับกัน ราอนได้วิเคราะห์ความสามารถของพวกเขาทั้งหมดแล้ว เกรียร์อยู่ในระดับสูงสุดของผู้ใช้ดาบ ส่วนอัศวินคนอื่นๆ อยู่ระดับเริ่มต้นถึงระดับกลาง

เขาสังเกตเห็นความผิดหวังในสายตาของอัศวิน

'กะไว้อยู่แล้ว’

อัศวินพวกนั้นไม่มีทางมองเห็นความสามารถที่แท้จริงของเขาได้ และมองว่าเขาแย่กว่าที่เคยได้ยินมา

พวกเขาคือความอัปยศของเหล่าอัศวิน

'พวกเขายังอายุไม่มาก ฉันมั่นใจว่าพวกเขาจะเปลี่ยนไปพอพวกเขามีประสบการณ์มากขึ้น'

เจ้าก็อายุไม่มาก เป็นเด็กด้วยซ้ำ

'ฉันเป็นอีกกรณีหนึ่ง'

เจ้าคิดว่าเจ้าพิเศษรึ? พิเศษคือฉายาของราชาแห่งแก่นแท้ ข้าเป็นสิ่งมีชีวิตทีสูงส่งและสง่างามที่มีเพียงหนึ่งเดียว...

'เฮ้อ...'

เห็นได้ชัดว่ามันชอบคุยโวเกี่ยวกับตัวเองในทุกๆ สถานการณ์ เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเมื่อได้ยินมัน

"ไปกันเถอะ นายเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง? รู้ไหมว่าฉันกังวลอยู่ตลอดเลย”

เกรียร์กวักมือให้เขาตามไป ราอนหัวเราะและแตะไหล่ของดอเรียน

"ไปกันเถอะ”

* * *

* * *

มีเพียงขุนนางชั้นสูง ราชวงศ์ และคนที่มีชื่อเสียงเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในห้องวีไอพีในชั้นใต้ดินที่สี่ของตลาดมืด

ภายในห้องนั้นมีหญิงสาวผู้หยิ่งทนงสวมชุดกระโปรงสีดำกำลังนั่งไขว่ห้างอยู่ใต้แสงสลัวๆ

เธอคือเจ้าหญิงแห่งบัลการ์ เจย์น่า

ขณะที่เธอกำลังเคาะโต๊ะด้วยความเบื่อหน่าย ประตูก็เปิดออก และผู้หญิงที่มีดวงตาเรียวเล็กกับผมสีม่วงยาวถึงเอวก็เข้ามา

"ขออภัยที่ให้รอนะคะ”

“เพื่อที่จะได้พบกับคุณผู้หญิงโอเรียนผู้มีอำนาจของเมฆาดำ แค่นี้ไม่เป็นไรเลยค่ะ”

เมฆาดำเป็นองค์กรข่าวกรองที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วทั้งทวีป ความสามารถด้านสติปัญญาที่ยอดเยี่ยมของพวกเขาทำให้ผู้คนพูดกันว่า ถ้าพวกเขาไม่รู้ พระเจ้าก็ไม่รู้

“ดิฉันไม่ใช่ผู้มีอำนาจเลย”

ผู้หญิงที่ชื่อโอเรียนหลุบตาลงและส่ายหัว เธอเชิดคางขึ้นมาเล็กน้อยแล้วพูดต่อ

“ดิฉันมารายงานข้อมูลที่คุณร้องขอ ให้ฉันเล่าให้คุณฟังไหม? หรือคุณชอบเอกสาร...”

"เล่ามาเลยค่ะ”

"โอเค"

ผู้หญิงชื่อโอเรียนพยักหน้าและยืดไหล่ของเธอให้ตรง

“สมาชิกสายตรงที่ชื่อ ราอน ซีกฮาร์ท ไม่มีอยู่ในโลกนี้”

"อะไรนะ?”

เจย์น่าตอบอย่างความประหลาดใจ

“หมายความว่า ไม่มีใครในสายตรงของซีกฮาร์ทที่ชื่อ ราอน”

"ต-แต่นั่นมันไม่สมเหตุสมผลเลยนะ!”

"คะ?"

“เธอแน่ใจนะว่าข้อมูลของเธอถูกต้อง?”

เธอลืมแม้กระทั่งการปฏิบัติตัวแบบเจ้าหญิง

"ถูกต้องแล้วค่ะ"

โอเรียนกระพริบตาของเธออย่างใจเย็น

“อืม… เราอาจจะหาข้อมูลได้ไม่มากนักเพราะซีกฮาร์ทเป็นตระกูลที่ไม่ค่อยเปิดเผยข้อมูลสู่ภายนอก แต่อย่างน้อยเราก็รู้ชื่อและหน้าตาของสายตรงของพวกเขา สายรองระดับสูง กับครอบครัวขุนนาง และสมาชิกสายตรงที่ชื่อราอนไม่มีอยู่ในซีกฮาร์ท”

"นั่นเป็นไปไม่ได้! ไม่มีทางน่า!”

เจย์น่าทุบโต๊ะด้วยกำปั้นแล้วลุกขึ้นยืน

'หรือฉันจะถูกผีสิงเหรอ?'

แรงกดดันที่โดดเด่นของราอนควรจะเป็นสายตรงของซีกฮาร์ท แล้วเขาก็คุ้นเคยกับเกรียร์ เจ้าชายคนที่สามของโอเว่นด้วย

'อะไรกัน?’

ไม่มีทางที่เกรียร์จะโกหก เพราะเขาพูดเกี่ยวกับราอนว่าเป็นดาวรุ่งของซีกฮาร์ท อัจฉริยะด้านดาบ และจะกลายเป็นหัวหน้าตระกูลในอนาคต

'เขาต้องเป็นสมาชิกสายตรงแน่ๆ เขายังบอกอีกว่าเขาเป็นสายตรง…เดี๋ยวก่อนนะ'

เจย์น่ากลืนน้ำลาย

'ไม่ เขาไม่เคยพูด ไม่มีใครเคยบอกว่าเขาเป็นสายตรง!'

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เธอเชื่อแบบนั้น แต่ไม่มีใครเคยพูดว่าเขาเป็นสมาชิกสายตรงเลย

'บ้าเอ๊ย! เขาเป็นสายรองต่างหาก!’

นั่นเป็นอย่างเดียวที่จะอธิบายสถานการณ์ที่แปลกประหลาดนี้ได้

“ฮะๆ!”

เธอหัวเราะให้ตัวเองเมื่อคิดได้ว่าเธอได้โค้งคำนับขอโทษให้เด็กที่เป็นแค่สายรอง เธอต้องการตามจับเขาและทำให้เขาคุกเข่าให้ทันที

เจย์น่ากัดฟันและมองไปที่โอเรียนที่เธอยืนอยู่ตรงหน้าเธอ

นี่เป็นข้อเสียของเมฆาดำ แม้พวกเขาจะรู้ว่าราอนเป็นเพียงสายรองก็ตามแต่คำตอบของพวกเขาจำกัดอยู่เพียงคำถามที่เธอถาม

“ฉันอยากถามอีกอย่างหนึ่ง”

"นั่นต้องจ่ายเพิ่ม”

"ได้!"

โอเรียนผายมือให้เธอถาม

“ฉันอยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับสายรองของซีกฮาร์ทที่ชื่อราอน”

"เขาอายุสิบห้าปี เขาเป็นสายรองอย่างที่คุณพูด ปัจจุบันเป็นตัวแทนของเด็กฝึกหัดในสนามฝึกที่ห้าของซีกฮาร์ท เขาเอาชนะเกรียร์ เดอ โอเว่น เจ้าชายคนที่สามของอาณาจักรโอเว่นได้สำเร็จ และเขาได้ปราบปรามกลุ่มโจรสโนว์ไทเกอร์ที่กำลังจะเข้าร่วมสหพันธ์เหนือ-ใต้ แล้วก็..."

เธอบอกรายละเอียดเพิ่มเติมเล็กน้อยให้เธอฟัง แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวกับอีเดนออกมาจากปากของเธอ

“เฮ้อ…”

เจย์น่าฟังจบก็ใบหน้าแดงก่ำก่อนจะลุกขึ้นยืน เธอหยิบถุงเงินออกมาจากกระเป๋าของเธอแล้วโยนมันลงบนโต๊ะพร้อมรอยยิ้มอันเย็นชา

“เก่งเรื่องธุรกิจกันจริงๆ”

“ขอบคุณ”

โอเรียนยิ้มโดยแสร้งทำเป็นว่าการเสียดสีของเธอคือคำชม

“เฮอะ!”

เจย์น่าออกจากห้องแล้วกระแทกประตูปิด

"บ้าเอ๊ยยยยย!”

เสียงโกรธของเธอได้ยินมาแต่ไกล

“สายรองของซีกฮาร์ททำให้เจ้าหญิงแห่งบัลการ์กลายเป็นคนโง่… เรื่องนี้น่าสนใจนะเนี่ย?”

โอเรียนสะบัดนิ้วของเธอและเงาสีดำใต้แสงไฟก็เปลี่ยนไป

“ไปรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับราอนซีกฮาร์ทมา”

ริมฝีปากสีแดงของเธอโค้งขึ้นราวกับพระจันทร์เสี้ยว

“ฉันคิดว่าเขาเป็นของจริง ซึ่งฉันไม่ได้เห็นมานานแล้ว”

* * *

ที่เนินเขาเตี้ยๆ ห่างจากคาเมลูนประมาณหนึ่งวันเดินทาง

ราอน เกรียร์ และดอเรียนกำลังนั่งอยู่หน้ากองไฟที่ช่วยให้อบอุ่นในลมหนาวยามค่ำคืน

เหล่าอัศวินออกไปลาดตระเวน ราอนจึงคิดว่านี่เป็นโอกาสที่จะบอกเกรียร์เกี่ยวกับกริชอันนั้น

แม้ว่าเขาจะได้พูดแค่ประโยคแรกเท่านั้น แล้วดอเรียนก็พูดพล่ามส่วนที่เหลือต่อ

"ผมแทบไม่อยากเชื่อเลยต่อให้ผมจะได้เห็นด้วยตาของตัวเอง พลังงานสีแดงอันน่าสยดสยองออกมาจากกริชและเริ่มแพร่กระจายเหมือนหนวดปลาหมึก…”

“โอ้ มหัศจรรย์มาก”

“เจ้าชายควรจะได้เห็นมัน ช่างตีเหล็กกับผมต่างก็ตกใจจนแทบช็อก ผมแค่เคยได้ยินเกี่ยวกับดาบที่ถูกสิงมาก่อนแต่...”

“เฮ้อ…”

ราอนส่ายหัว มันเป็นเรื่องเหลวไหลทั้งนั้น เพราะตอนนั้นดอเรียนแค่นั่งกินขนมมองเขาอยู่เฉยๆ

“และพอคุณชายพูดว่า 'จงมากับฉันซะ!' กริชก็ส่งเสียงดังก้องกังวาน! มันเหมือนกับฉากในภาพวาดเลย!”

"ว้าว!”

เกรียร์อุทานด้วยดวงตาเป็นประกาย เขาดูเหมาะกับการเป็นอัศวินหรือวีรบุรุษมากกว่าการเป็นเจ้าชาย

"นั่นเป็นประสบการณ์ที่น่าทึ่งจริงๆ ฉันอิจฉาแฮะ”

ดวงตาของเกรียร์เป็นประกายในขณะที่เขามองไปที่กริชแห่งเรควีเอ็มที่ห้อยลงมาจากเอวของราอน แต่เขาก็ไม่ได้ขอให้ราอนเอาออกมาให้เขาดู แน่นอนว่าเขารู้จักมารยาท

“แต่นั่นก็มีเรื่องน่าเศร้าเช่นกัน การกระทำชั่วร้ายของลัทธิโลหิตขาวกำลังแพร่กระจายไปทั่วทั้งทวีปเลย”

"ใช่ครับ"

ราอนพยักหน้า กลุ่มลัทธินั่นแพร่กระจายอย่างรวดเร็วและมีผู้ศรัทธาอยู่เกือบทุกที่ในทวีป

“ที่จริงแล้วภารกิจของเราก็เกี่ยวข้องกับลัทธิโลหิตขาวด้วย”

เกียร์เคาะดาบที่มีสัญลักษณ์สิงโต

"เหรอครับ?”

“เรากำลังขนส่งบางอย่างจากสาขาย่อยของลัทธิโลหิตขาวไปยังอาณาจักร นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องใช้อัศวินหลายคน…”

"เดี๋ยวก่อนครับ"

ราอนหยุดไม่ให้เกรียร์พูดต่อและยืนขึ้น เขารู้สึกได้ถึงตัวตนของคนหลายคนกำลังมาทางพวกเขา

"ก-เกิดอะไรขึ้น?”

"มีคนกำลังมาทางนี้”

“ม-ไม่ใช่พวกอัศวินหรอกเหรอ?”

ดวงตาของดอเรียนสั่นไหวและหวาดกลัวขึ้นมา

“ดูจากจำนวนแล้วไม่ใช่เลย พวกอัศวินก็สังเกตเห็นเหมือนกันและกำลังกลับมาแล้ว เจ้าชายเตรียมตัวให้พร้อมเถอะครับ”

"โอเค”

เกรียร์สวมหมวกเกราะและยืนขึ้นทันทีเพราะเขาเชื่อใจราอน

"เจ้าชาย!”

"เรากำลังมีปัญหา! ลัทธิโลหิตขาว...ฮะ?”

ไม่นานอัศวินก็กลับมาและเห็นราอนกับเจ้าชายเตรียมตัวพร้อมแล้ว ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้าง

“ฮะ? พวกคุณรู้ถึงการลอบโจมตีของพวกเขาแล้วเหรอ?”

“นักดาบราอนบอกฉันแล้ว ลัทธิโลหิตขาวกำลังมาใช่ไหม?”

"อา ใช่ครับ!"

อัศวินมองที่ราอนด้วยสีหน้าตกตะลึง พวกเขาสงสัยว่าเขารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร

“มีผู้ศรัทธาอย่างน้อยๆ ห้าสิบคน นักบวชห้าคน และบาทหลวงหนึ่งคนครับ!”

“อืม…”

เมื่อได้เสียงเคลือนไหวจากในป่า เกรียร์ก็คว้าดาบของเขา

“ทุกคน เตรียมพร้อมต่อสู้!”

"เตรียมพร้อมต่อสู้!”

เหล่าอัศวินต่างส่งเสียงกู่ร้องออกมาและยืนหน้าเจ้าชายเพื่อปกป้องเขา

“ต้องขอโทษด้วยนะ ถ้ารู้ว่ามันจะเกิดขึ้นฉันคงไม่ชวนนายมาด้วย”

เกรียร์หันกลับไปพูดกับราอนและดอเรียนแล้วถอนหายใจ

“ฉันไม่คิดว่าพวกมันจะกล้ามาโจมตีเราในพื้นที่ของคาเมลูนกับโอเว่น”

"ไม่เป็นไรครับ"

ราอนส่ายหน้าและขึ้นไปยืนเรียงแถวเดียวกับอัศวิน

'ดูเหมือนพวกมันจะอยากได้ของนั่นคืน'

เจ้าชายบอกว่าพวกเขากำลังขนส่งอะไรบางอย่างจากลัทธิโลหิตขาว เป้าหมายของพวกมันต้องเป็นสิ่งนั้นแน่

แซ่กๆๆ

ผู้ศรัทธาโลหิตขาวที่สวมเสื้อคลุมสีดำสนิทตั้งแต่หัวจรดเท้าออกจากป่ามาพร้อมกับเสียงฝีเท้าแปลกๆ

เสื้อคลุมสีดำของพวกมันบางคนมีขีดสีขาวหนึ่งกับสองเส้นบนนั้น คนพวกนั้นคือนักบวชกับบาทหลวง ราอนรู้สึกได้ว่าพวกเขามีความสามารถที่สูงกว่าคนอื่นๆ ที่มาด้วยกัน

"อ๊า! พ-พวกเขามาที่นี่จริงๆ ด้วย!”

ดอเรียนเริ่มร้องเมื่อเห็นการปรากฏตัวของลัทธิโลหิตขาว ตัวของเขาสั่นแต่เขาก็ประคองสติไว้ได้

“เฮ้อ…”

ราอนถอนหายใจออกเบาๆ และจับดาบที่เขาเพิ่งได้มา

'ไม่คิดว่าจะได้ทำตามสัญญาเร็วขนาดนี้'

ขณะที่เขากำลังจะชักดาบเล่มใหม่ออกมา เรื่องประหลาดก็เกิดขึ้น—

วืด!

กริชแห่งเรควีเอ็ม สั่นสะเทือนจนเกิดเสียงดังพอที่จะสะท้อนไปทั่วทั้งเนินเขา

'จะให้ฉันใช้แกเหรอ?’

มันสั่นสะเทือนรุนแรงกว่าเดิมราวกับเป็นคำตอบ

'มันต้องการแก้แค้นด้วยพลังของมันเอง...'

ราอนพยักหน้า เขาเองก็ไม่ยอมให้คนอื่นแก้แค้นเดรุสโรเบิร์ตแทนเขาเหมือนกัน เขาดึงกริชแห่งเรควีเอ็มออกจากปลอก

แกร๊ก!

พลังงานอันน่าสยดสยองลุกโชนบนกริชสีแดงที่เหมือนกับสีของเลือด

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด