ตอนที่ 153 รู้ตัวคนร้ายได้ไม่ยาก
ตอนที่ 153 รู้ตัวคนร้ายได้ไม่ยาก
ในเวลานี้ ชุนหยา กำลังเตรียมอาหารเย็นที่ร้านอาห จู่ ๆ เธอก็จามสามครั้ง "ห๊ะ?! ใครนินทานะ?! อาจจะเป็นพ่อของข้าก็ได้"
แต่ซือต๋า ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านซานหยวน ไม่มีเวลาคิดถึงลูกสาวเลยในตอนนี้ เขายังไม่ได้พักตั้งแต่มาถึง
ทันทีที่เขามาถึงหมู่บ้านก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไร เขาก็ถูกพ่อของเขาลากไปที่ภูเขา
เรื่องการขุดบ่อเลี้ยงกุ้งที่ถูกคิดขึ้นโดยชุนหยาตั้งแต่เขามาถึงประตูบ้าน ชายชราซือ คิดว่าซือต๋าผู้เป็นพ่อควรจะรับหน้าที่แทนลูกสาว
แม้ว่าโครงสร้างของบ่อกุ้งนี้จะเรียบง่าย แต่ก็ลำบากมากในการขุด ก่อนที่ชายชราซือ จะมาถึงที่นี่เขาขับรถไปตามทางน้ำที่สร้างขึ้นใหม่ มันต่อลงมาเป็นระดับจากน้ำพุที่ต้าจิ้นเคยขุดเจอ และวันนี้พวกเขาก็ยังคงขุดด้วยมือทั้งหมด พื้นโคลนกลายเป็นน้ำหลังจากถูกขุดลงไปสองฟุต งานหนักคือการขุดและการขนส่งยากขึ้นเรื่อย ๆ
ขณะที่ขุดซือต๋า พึมพำว่า "เจ้าชุนหยาขยันหางานและความเหนื่อยยากให้ข้าจริง ๆ และคราวนี้เมื่อกลับไปข้าจะต้องให้แม่ของนางจัดการกับนางซักหน่อย"
เมื่อเห็น ซือต๋า พึมพำกับตัวเองซือฝา จึงถามว่า "พี่..ท่านพึมพำอะไรอยู่คนเดียว? ยังคิดเรื่องคนขโมยกระต่ายอยู่หรือเปล่า?"
ซือต๋า กลอกตาไปที่น้องชาย "ไม่..ข้าต้องการเผชิญหน้ากับขโมยที่มีแซ่เย่อคนนั้น เราต้องจับมันให้ได้คาหนังคาเขาและตะโกนเสียงดัง ๆ ให้ชาวบ้านรู้”
ซือฝา มองไปทางซ้ายและขวา แต่ไม่มีใครอยู่ที่นั่น แต่เขาลดระดับเสียงลงโดยไม่รู้ตัว "ตามที่พี่พูดข้าเห็นด้วยมาก ไม่เช่นนั้นหากวันนี้ขโมยกระต่ายและจะต้องขโมยไก่ในวันพรุ่งนี้จะปล่อยให้มารังแกกันง่าย ๆ ไม่ได้"
หลังงจากหารรือกันแล้วพวกเขาสามารถรู้ได้โดยง่ายว่าขโมยที่ว่านั้นเป็นใคร แต่คดีได้ตกลงกันว่าจะยุติลงที่ตระกูลซือของพวกเขา โจรที่ขโมยกระต่ายตอนนี้พวกเขาเชื่อว่าคือ เย่อลั่วเอ๋อ ที่อาศัยอยู่ข้างบ้าน
ในหมู่บ้านซานหยวน ของพวกเขา เกือบทุกครัวเรือนรู้วิธีการสานตะกร้าไม้ไผ่ แต่ทุกครอบครัวจะมีความต่างกันออกไป ถ้ามีแบบที่ดูดีมากก็ขายในตลาด ถ้าไม่ดีก็เก็บไว้ใช้เอง
ในตอนเช้า ทันทีที่ ซือต๋า หยิบตะกร้าไม้ไผ่ที่มีกระต่ายออกมาซือจื้อก็บอกได้ทันทีว่ามันเป็นงานฝีมือของ เย่อลั่วเอ๋อ ที่อยู่ข้างบ้าน และพวกเขาอาศัยอยู่ข้างบ้านกันตั้งแต่ยังเด็กและใช้เวลาในการสานตะกร้าไม้ไผ่ด้วยกันบ่อยครั้ง กุญแจสำคัญคือคนที่ขายกระต่ายให้นางจางบอกว่าคนนามสกุลคือเย่อเป็นคนน้ำกระต่ายมาส่งเขาที่ร้าน ดังนั้นต้องใช่เขาอย่างแน่นอน
"พี่ชาย ท่านคิดว่าเราควรทำอย่างไรกับเรื่องนี้ได้บ้าง" แม้ว่าซือต๋า ต้องการเผชิญหน้ากับเย่อลั่วเอ๋อตัวต่อตัว แต่ปัญหาก็คือพวกเขาเป็นเพื่อนบ้านกันมานานและพวกเขาอาจจะไม่สามารถมองหน้ากันได้อีก มันยังคงต้องรอบคอบให้มาก
ซือต๋า พิงด้ามไม้ของพลั่วและพูดว่า "ข้าไม่สนใจ ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าใครเป็นขโมย มันต้องระวังตัวให้ดี นอกจากนี้ข้าวางแผนที่จะล่อให้มันขึ้นมาขโมยอีกครั้งที่ภูเขาของเรา..."
“ลี่ซาน หลานสาวตั้งชื่อมันว่าเขาหลี่ซาน..” ซือฝา รีบแก้ไขชื่อภูเขา
"ลี่ชานเหรอ? นี่ชื่ออะไรกันนะ? เฮ้ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ข้าแค่อยากจะล้อมภูเขานี้ให้แข็งแรงและทำให้เป็นเขตที่ชัดเจนของเราแต่ตอนนี้เราไม่มีเงิน ดังนั้นเราจะสร้างมันด้วยการล้อมแบบง่าย ๆ ไปก่อน อีกอย่างตอนนี้หลานสาวของเจ้าให้ปลูกต้นผลไม้ล้ำค่าไว้แล้ว วันข้างหน้ามันจะออกผลและขายได้ ถึงวันนั้นเราก็จะมีเงินมาสร้างมันอีกครั้ง" ในที่สุดซือต๋า ก็นึกถึงจุดประสงค์ของการเดินทางย้อนเวลามาที่นี่ของเขา ซึ่งอาจเป็นเพราะซือต๋าที่จากไปในกาลเวลาต้องการให้เขากลับมาชดเชยสิ่งเหล่านี้ให้กับครอบครัวซือ
ซือฝามองไปที่ต้นผลไม้บนภูเขาและกังวลว่า "พี่ชาย ท่านคิดว่าผลไม้ของเราสามารถเติบโตได้หรือไม่?"
ซือต๋า ทิ้งตัวนั่งลงแล้วพูดว่า : "ไม่รู้สิ มันขึ้นอยู่กับโชคของเราด้วย"
"มันคือผลไม้ชนิดใด ที่ปลูกยากเช่นนี้" ซือฝา ได้ยิน หวังซุน ผู้ส่งกล้าผลไม้พูดอย่างชัดเจนว่ามันชื่อว่า ลูกแพร์ ลูกพีช และต้นวอลนัทสองสามต้น แต่เขาไม่เคยเห็นที่หมู่บ้านมาก่อน และจะต้องสร้างวงกลมขนาดใหญ่สำหรับล้อมต้นไม้เหล่านี้ไม่ให้หักล้มหรือได้ ไม่รู้ว่ามันจะผลที่คุ้มค่าไหม?
"ฮ่า..เจ้าเชื่อที่หลานสาวของเจ้า บอกว่านางอยากปลูกลูกพีชนี้ให้ออกมาอร่อยที่สุดนี้หรือไม่" ซือต๋าเองก็ยังไม่แน่ใจ
ซือฝา ก็ไม่กล้าที่จะเชื่อเช่นกัน แต่ก่อนที่เขาจะได้พูด เขาได้ยินเสียงคำรามของชายชราซือ จากที่นั่น: "เจ้าคน! กำลังทำอะไรอยู่? รีบไปทำงาน!"
จนกระทั่งพระอาทิตย์ตก ชายชราซือ ตะโกนเรียกให้พอเท่านี้! สองพี่น้องลากพลั่วกลับบ้านเหมือนศพเดินได้
เมื่อพวกเขากลับถึงบ้านก็เห็นผู้คนจำนวนมากล้อมรอบที่กันอยู่นอกประตูของบ้านครอบครัวเย่อ ที่อยู่ข้าง ๆ และได้ยินเสียงตะโกนและสาปแช่งเล็กน้อย เช่นเดียวกับที่ชายชราซือ ต้องการแอบฟังอย่างระมัดระวังว่าเกือดอะไรขึ้นตอนนี้ เขาเห็นนางโจวรีบวิ่งไปหาพวกเขา "ท่านพ่อ ท่านพี่ พวกท่านกลับมาแล้ว ท่านแม่เพิ่งได้ยินเรื่องกระต่ายจากพี่สะใภ้คนที่สอง และท่านแม่บอกว่านางต้องการจัดการกับโจรที่ขโมยกระต่าย และตอนนี้ท่านแม่ก็ทะเลาะกับพี่สะใภ้ของตระกูลเย่ออยู่ ท่านควรไปดู!"
"ข้าคงไม่ต้องล่อคนร้ายออกมาแล้ว ท่านแม่ของเรานี่จัดการได้ตรงจุดจริง ๆ " ซือต๋า พูดและพยักหน้าพร้อมกับถอนหายใจก่อนจะเดินไป ต้องชื่นชมนางไค่จริง ๆ ใครที่กล้ารังแกเธอหรือคนในครอบครัว ไม่สำคัญว่าคน คนนั้นจะเป็นใคร เธอพร้อมที่จะพุ่งตรงไปทันที