ตอนที่ 1370 มาให้ผมลองดีกว่า
โจทย์แคลคูลัสตรงหน้า ในมุมมองของ หลินฟาน ก็เหมือนกับภาพวาดผี(鬼画物)ในชุดภาพเขียนโบราณที่อ่านไม่ออกเลย เขารู้จักตัวเลข และตัวอักษรทั้งหมด แต่เมื่อรวมกันแล้ว กลับไม่เข้าใจเลย แม้แต่วิธีการอ่านก็ยังไม่เข้าใจ แล้วนับประสาอะไรกับการจะเข้าใจ ในความหมายของมัน…
“ติ๊ง!”
ในเวลานี้ ในหัวของ หลินฟาน ได้มีเสียงแจ้งเตือนของระบบดังขึ้น
“การลงชื่อเข้าใช้วันนี้สามารถเริ่มต้นได้แล้ว คุณต้องการลงชื่อเข้าใช้ทันทีหรือไม่?”
หลินฟาน ไม่คิดว่าจะมีมาให้ลงชื่อเข้าใช้ในเวลานี้ และเขาได้กล่าวขึ้นในใจทันทีว่า : “ลงชื่อเข้าใช้!”
“ติ๊ง!”
“ลงชื่อเข้าใช้สำเร็จ ได้รับรางวัล ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ระดับบนสุด!”
เมื่อนั้นกระแสข้อมูลอันบ้าคลั่งได้หลั่งไหลเข้ามาสู่จิตใจของ หลินฟาน มันถูกดูดซับไปโดยจิตสำนึกของ หลินฟาน ณ ในขณะนี้ หลินฟาน ได้กลายมาเป็นโปรแกรมเมอร์ และวิศวกรคอมพิวเตอร์อันดับต้นๆ ของโลก โดยเขามีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านซูเปอร์คอมพิวเตอร์ไปไกลเกินกว่ายุคปัจจุบันไปมากแล้วตอนนี้.. .
ราวกับว่าโลกทัศน์ได้ถูกรีเฟรชใหม่ ในขณะนี้ วิธีการมองโลกของ หลินฟาน ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปแล้ว เขาดูเหมือนจะเห็นอนาคตของมนุษยชาติ ตราบใดที่เขาร่างมันขึ้นมาก็จะสามารถนําเสนอโครงร่างของอารยธรรมที่ก้าวหน้าไปกว่าอารยธรรมสมัยใหม่ ในปัจจุบัน ..และก็คงมีเพียงเขาเท่านั้นที่จะสามารถสร้างมันขึ้นมาได้
อะไรคือการเปิดหูเปิดตา นาทีนี้นี่แหละ ..คือการเปิดหูเปิดตา
ต่อหน้า หลินฟาน ทุกอย่างกลายมาเป็นตัวเลข กลายเป็นโปรแกรม และทุกอย่างสามารถทำได้ รับรู้ได้ ..ด้วยการเขียนโปรแกรม
ในเวลานี้ เมื่อดูคําถามแคลคูลัสตรงหน้าเขาอีกครั้ง เขาสามารถเข้าใจมันได้อย่างทะลุปรุโปร่ง มันเหมือนกับนักศึกษาคนหนึ่ง มองคําถามเลขคณิตของโรงเรียนอนุบาล และคุณสามารถตอบคำถามนั้นได้โดยไม่ต้องคิด ทั้งยังสามารถแก้ปัญหา หรือสามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างคําถามที่ยากกว่านี้สิบเท่า หรือร้อยเท่ายังได้
หลินฟาน รู้สึกมีความสุขในใจ ระบบไม่เคยให้รางวัลโดยไม่มีเหตุผล.. ตอนนี้ระบบมอบทักษะคอมพิวเตอร์ระดับบนสุดให้กับเขา กล่าวคือ.. มันต้องมีจุดประสงค์บางอย่าง แล้ว.. จุดประสงค์นี้ไม่ใช่เพื่อให้เขาเอาชนะ สตีเฟน ที่ยืนอยู่ตรงหน้านี่หรือ ..อย่างไร
“ดูไอ้โง่นี่สิ ฉันกลัวว่าจะอ่านไม่ออกด้วยซ้ำมั้ง เอามา!”
คนผิวขาวที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้แย่งคว้าโจทย์ในมือของ หลินฟาน ไป และกําลังคิดจะไล่ หลินฟาน ให้ออกไป
“ฮ่าฮ่าๆๆ...”
ทุกคนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา จริงๆ แล้ว หน้าตาของ หลินฟาน เหมือนจะไม่เข้าใจโจทย์ข้อนี้เลยด้วยซ้ำ ท้ายที่สุดแล้ว ผู้ชายคนนี้ไม่ได้มาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน แม้แต่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยอิมพีเรียล ยังตกตะลึงกับคําถามนี้ แล้วเช่นนี้.. ผู้ชายคนนี้จะไปเข้าใจมันได้อย่างไร?
สตีเฟน มอง หลินฟาน ด้วยรอยยิ้ม แล้วพูดว่า : “ลืมถามคุณไปเลยว่าคุณเรียนเอกสาขาอะไรในมหาวิทยาลัย?”
หลินฟาน กล่าวว่า : “ผมเรียนศิลปศาสตร์ และไม่จําเป็นต้องสอบคณิตศาสตร์ ดังนั้นผมจึงไม่เคยเรียนวิชาคณิตศาสตร์มาแม้แต่วิชาเดียว นั่นรวมถึงแคลคูลัสด้วย”
สตีเฟน อดหัวเราะไม่ได้ เขาได้พูดว่า : “นี่คือผม ..ถือวิสาสะแล้ว จริงๆ ผมไม่ควรแจกโจทย์คำถามนี้กับคุณ เพราะคุณเองคงอ่านมันไม่เข้าใจ อย่างไรเรื่องนี้คงต้องขออภัย”
จากนั้นเขาก็มองไปที่ทุกคน และถามว่า : “ทุกคนคงได้อ่านกันแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง คําถามของผมมีใครสามารถแก้ได้หรือไม่?”
เหล่านักศึกษาโดยรอบได้พากันส่ายศีรษะ และบอกว่าพวกเขาตอบไม่ได้
“ช่างสมกับเป็นเทพเจ้าแห่งการเรียน ออกโจทย์ได้ยากเกินไปจริงๆ บอกตามตรง ฉันทําไม่ได้”
“ฉันก็ทําไม่ได้ แม้ว่าจะมองเข้าใจได้ แต่ในขณะนี้ ฉันกลับไม่มีแนวคิดในการแก้ปัญหานี้เลย”
“ฉันก็เหมือนกัน ไม่รู้จะลงมือแก้มันยังไง!”
มีอาจารย์คนหนึ่งกล่าวว่า : “นักศึกษา สตีเฟน โจทย์ข้อนี้น่าสนใจมาก ผมมีแนวคิดในการแก้คําถาม ซึ่งแก้มาได้ครึ่งทางแล้ว แต่ยังคงต้องคิดว่าจะทําอย่างไรต่อไป สรุปแล้วคือคุณออกโจทย์คําถามได้ดีมาก!”
ฉากนี้เริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที
“ว้าว.. นั่น อาจารย์แจ็ค และสมควรที่จะเป็น อาจารย์แจ็คจริงๆ ทั้งเขายังสามารถแก้มาได้ครึ่งทางแล้ว!”
“สตีเฟน น่าทึ่งมากจริงๆ หลังจากวันนี้ไปเขาจะเป็นราชา คําถามของเขาแม้แต่อาจารย์เองก็ยังนิ่งงันไป เมื่ออยู่ต่อหน้ามัน!”
“ฉันรับประกันได้ว่า สตีเฟน จะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยอิมพีเรียลของเรา เขาเป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะจริงๆ!”
ในเวลานี้ มีอาจารย์ชายผิวขาววัยกลางคนคนหนึ่งพูดอย่างช้าๆ ออกมาว่า : “คําถามนี้ผมพอแก้ปัญหาคร่าวๆ ได้แล้ว ยังขาดขั้นตอนสุดท้ายอีก แต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ให้เวลาผมอีกครึ่งชั่วโมงก็พอแล้ว คําถามนี้ค่อนข้างยากจริงๆ นักศึกษา สตีเฟน คุณเก่งมาก!”
ทุกคนต่างถูกดึงดูดโดยอาจารย์ชายผิวขาววัยกลางคนคนนี้
“อา.. ศาสตราจารย์ชาร์ลอตต์ เทพแห่งคณิตศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเรา!”
“ศาสตราจารย์ชาร์ลอตต์ เขานับได้ว่าเป็นพระเจ้าด้านคณิตศาสตร์จริงๆ คําถามนี้คงมีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถแก้ได้!”
“แน่นอน.. ต้องเป็นศาสตราจารย์ชาร์ลอตต์ของเรา!”
ทุกคนได้กล่าวชื่นชมอาจารย์ชายผิวขาวคนนี้อย่างมาก คำกล่าวชื่นชมนี้ดูไม่น้อยไปกว่า สตีเฟน ไม่มีทาง.. พวกเขาต่างเป็นอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยม และพวกเขาต่างเป็นคนที่จะได้รับรางวัลสูงสุดในสาขาคณิตศาสตร์ ในอนาคต
รางวัลสูงสุดในสาขาคณิตศาสตร์ เรียกว่า ‘ฟีลดส์ เมเดล (Fields Medal) เทียบเท่ากับรางวัลโนเบลสาขาเคมี และฟิสิกส์
โนเบลไม่มีรางวัลคณิตศาสตร์ แต่เคยมีดาราคนดังแสร้งทําเป็นไม่เข้าใจ แสร้งทําเป็นคนได้รับการศึกษา สร้างเรื่องตลกเกี่ยวกับ “รางวัลโนเบลสาขาคณิตศาสตร์” ซึ่งเป็นการเปิดโปงโฉมหน้าที่ไร้การศึกษาของตนเอง และทำให้ผู้คนหัวเราะเยาะ
ศาสตราจารย์ชาร์ลอตต์คนนี้ บางคนบอกว่าเขาจะได้รับรางวัล ฟีลดส์ เมเดล ในไม่ช้า เรียกได้ว่าเขาเป็นนักคณิตศาสตร์ที่เก่งมากๆ คนหนึ่ง
และไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาสามารถแก้โจทย์คําถามข้อนี้ของ สตีเฟน ได้ แต่ถึงอย่างไร.. แม้แต่ศาสตราจารย์ชาร์ลอตต์ ก็ยังคงขาดขั้นตอนสุดท้ายไป
สตีเฟน กล่าวด้วยความเคารพว่า : “ขอบคุณศาสตราจารย์ชาร์ลอตต์สำหรับคำตอบ และผมเองดีใจมากที่ทําให้ศาสตราจารย์ชาร์ลอตต์ให้ความสนใจมันได้..”
ในเวลานี้ นักศึกษาหญิงชาวจีนคนนั้นยังคงก้มหน้าก้มหน้าขีดเขียนลงในกระดาษ เธอเขียนลงไปบนหน้ากระดาษจนเต็มไปหลายหน้าแล้ว ..แต่ความคิดของเธอดูเหมือนจะยุ่งเหยิงมากขึ้น มันเหมือนทั้งหมดดูยุ่งเหยิงไปหมด ยิ่งคิดมันก็ยิ่งพันกันมากขึ้นเรื่อยๆ
ในที่สุดสายตาของ สตีเฟน ก็กลับมาที่นักศึกษาหญิงชาวจีนคนนี้ แล้วเขาพูดว่า : “ดูท่าทางของคุณแล้ว ถ้าคุณคิดหาคำตอบไม่ได้จริงๆ ก็ช่างมันเถอะ!”
นักศึกษาหญิงชาวจีน ส่ายศีรษะ เธอเองก็ค่อนข้างดื้อรั้นเล็กน้อย เพราะตอนนี้เธอกำลังตอบคําถามในนามของจีน ถ้าตอบไม่ได้ คนเหล่านี้ก็จะหัวเราะเยาะว่าจีนไม่สามารถแซงหน้าตะวันตกได้ หรือไม่นั้นก็จะกล่าวว่าตะวันตกเหนือกว่าจีน
แน่นอนว่า.. เธอไม่ยินยอม เธอไม่เต็มใจอย่างยิ่ง แต่สมองของเธอ.. ตอนนี้มันกลับยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว ทรมาน และเจ็บปวดใจมากจริงๆ ทั้งมันก็ดูเหมือนว่าไม่มีทางหาความเป็นไปได้ใดๆ ได้อีก เธอพยายามจะจัดระเบียบความคิดของเธอแล้ว แต่มันกลับไม่มีทางเลยที่เธอจะตอบคำถามนี้ได้
“ทําไมเธอถึงยังไม่เลือกยอมแพ้อีก ยอมรับความพ่ายแพ้ซะสิ? ยึดไว้มันจะไปมีประโยชน์อะไร!”
“ยอมรับออกมาตรงๆ เหอะ ว่าตัวเองทําไม่ได้ ยอมรับว่าจีนของพวกคุณทําไม่ได้ มันยากขนาดนี้เลยเหรอไง?”
“ฮ่าฮ่าๆๆ…”
นักศึกษาผิวขาวได้พากันหัวเราะ
สตีเฟน กล่าวว่า : “ถ้าตอบไม่ได้จริงๆ ก็ช่างมันเถอะ ผมไม่อยากทําให้คุณลําบากใจ”
“มาให้ผมลองดีกว่า”
มีเสียงหนึ่งได้พูดขึ้น ..ในขณะนี้ และมันดังมาจากข้างๆ
เมื่อทุกคนเห็นก็ได้พากันตกตะลึง สายตาของแต่ละคนพากันมองออกไป ที่แท้คนที่พูดคำนี้ออกมาก็คือ หลินฟาน!
“อะไรนะ เมื่อกี้เขาพูดว่าไงนะ?”
“เขาบอกว่าเขาจะลอง”
“อะไร เขาบอกจะลองเหรอ เขาเรียนสาขาศิลปศาสตร์ แม้แต่โจทย์ก็ยังอ่านไม่ออก เขาจะไปลองอะไรได้?”
“ผู้ชายคนนี้อยากทําให้เราหัวเราะเยาะมั้ง นี่คือเขาเป็นลิง ฮ่าฮ่าๆๆ…”
ทุกคนต่างตอบรับ และพากันหัวเราะเยาะออกมา พร้อมกับคำพูดอื่นๆ ที่เต็มไปด้วยเสียงประชดประชัน
นักศึกษาหญิงชาวจีนถอนหายใจ เธอตอบไม่ได้ นั่นเท่ากับว่า ..น่าอายมากแล้ว มาตอนนี้ หลินฟาน พูดแบบนี้ ฉากนี้ไม่เท่ากับยิ่งน่าอายมากขึ้นกว่าเดิมเหรอไงกัน หรือว่าครั้งนี้พวกเขาจะเสียหน้า ทั้งยังสร้างความอับอายให้กับประเทศ ..จริงๆ เหรอ?
หลินฟาน กลับเข้ามาหาเธอ ยื่นมือไปหาเธอ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มไปว่า : “ผมขอยืมกระดาษ และปากกาของคุณหน่อยได้ไหม?”
…ภาพวาดผี(鬼画物) เอามาลงให้ดูเล่นๆ ครับ
หลอพิ่น (罗聘 1733-1799), ‘แปดประหลาดแห่งหยางโจว (扬州八怪)’