นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 109
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 109
อาณาจักรบัลการ์
เป็นอาณาจักรที่ทรงอำนาจ ครอบครองเวทมนตร์ลึกลับและทักษะการประดิษฐ์สิ่งประดิษฐ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ นั่นทำให้อาณาจักรนี้ได้เป็นหนึ่งในหกราชาเช่นเดียวกับซีกฮาร์ท
เจย์น่า รูน บัลการ์ เป็นเจ้าหญิงแห่งอาณาจักรที่ทรงอำนาจนี้
ความจริงที่ว่าเธอเป็นเจ้าหญิงบัลการ์ก็น่าทึ่งมากพอแล้ว แต่เธอยังมีพรสวรรค์ที่โดดเด่นในด้านเวทมนตร์และมีสกิลที่พิเศษอีกด้วย เป็นผลให้เธอกลายเป็นศูนย์กลางของความสนใจในทุกที่ที่เธอไป
เธอเป็นหนึ่งในราชวงศ์เพียงไม่กี่คนในทวีปที่ผู้คนแทบทุกคนจดจำเธอได้ แม้ว่าเธอจะปกปิดใบหน้าของเธอด้วยหน้ากากก็ตาม
และในฐานะเจ้าหญิงแห่งบัลการ์ เธอทนกับความพ่ายแพ้ไม่ค่อยได้
หากเธอแพ้การต่อสู้เธอก็จะต้องได้เอาคืน แม้ว่าเธอจะต้องฉีกม้วนคัมภีร์เวทย์ที่มีราคามากกว่าร้อยเหรียญทองก็ตาม และถ้าเธอแพ้การพนัน เธอจะต้องกลับมาเอาชนะแม้ว่ามันจะหมายความว่าเธอต้องเพิ่มเดิมพันอีกหลายสิบเหรียญทอง
เจย์น่าไปที่ร้านค้าหลังจากได้ยินว่าทหารรับจ้างที่ชนะพนันเธอไปที่นั่น จากนั้นก็สังเกตเห็นแหวนในมือของเขา
'แสงสีทอง?’
สกิลที่ชื่อว่า'สไตร์'ของเธอ ทำให้เธอสามารถมองเห็นระดับของอุปกรณ์ได้ สกิลนั้นจะเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติและมันกำลังบอกเธอว่าแหวนขึ้นสนิมที่เขาถืออยู่นั้นเป็นไอเทมระดับยูนีค
'ทำไมถึงมีของแบบนี้อยู่ที่นี่?'
ผู้ชายคนนั้นกำลังถือสิ่งของที่ไม่ควรมีอยู่ในร้านค้าโกโรโกโสแบบนี้
แหวนวงนั้นขึ้นสนิม แต่ระดับของมันทำให้มันมีค่ามากกว่าทองคำแท่งเสียอีก
เจย์น่าบอกชายคนนั้นว่าเธอจะซื้อแหวนในราคาสิบเท่า
จริงๆ แล้ว เธอคิดว่าเธอไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินสิบเท่าด้วยซ้ำ เขาควรจะมอบมันให้กับเธอหากเขารู้ว่าเธอเป็นใคร
แต่เขาก็ปฏิเสธข้อเสนออย่างหนักแน่น
แม้ว่าเธอจะเสนอราคาถึงห้าสิบเท่าแต่เขาก็ไม่เปลี่ยนใจ
แม้จะถูกปฏิเสธแต่เจย์น่าก็ยิ้มเยาะอยู่ข้างในใจ
'เขายังไม่รู้จักฉันสินะ'
ชายโง่เขลาที่ยังไม่รู้ว่าตัวตนของเธอเป็นใคร จะได้คลานไปบนพื้นเพื่อร้องขอให้เธอไว้ชีวิตในคราวหลัง เธอยอมปล่อยเขาไปเพราะเธอตั้งตารอวันนั้นอยู่
ชายคนนั้นไปที่โรงประมูลโดยไม่แสดงท่าทีใดๆ หลังจากถูกหัวเราะเยาะ
ดูเหมือนว่าเขาจะสนใจในผีเสื้อสีดำ
'นั่นคือเป้าหมายของเขาสินะ?’
เจย์น่ายิ้มกว้างและยกมือขึ้น ทุกครั้งที่ชายคนนั้นเพิ่มราคาประมูล เธอก็เสนอราคาทับเขาเพื่อให้ราคาสูงขึ้นไปอีก
ราคาทะลุสามสิบเหรียญทองในเวลาไม่นาน แล้วเขาก็่ค่อยๆ ยกมือขึ้นเป็นสี่สิบเหรียญทอง
'มีแค่สี่สิบเหรียญทองเหรอ?'
ชายที่ไม่ยอมขายแหวนให้เธอมีเงินติดตัวอยู่ไม่เกินสี่สิบเหรียญทองแน่นอน เธอยิ้มเยาะและเพิ่มราคามันขึ้นมาเป็นห้าสิบเหรียญทอง
“อึก…”
ชายคนนั้นลดมือลงและคร่ำครวญ และเขาก็ไม่ยกมือขึ้นอีกเลย
และหลังจากนั้นเจย์น่าก็ประมูลของทุกอย่างที่ชายคนนั้นร่วมประมูล เธอชนะประมูลของพวกนั้นในราคาเกือบสองเท่าของปกติ
สีหน้าของชายคนนั้นเริ่มแห้งเหือดเหมือนดอกไม้ที่ไม่ได้รดน้ำ เขาคงกำลังสงสัยว่าเขาไปทำให้ใครขุ่นเคืองหรือเปล่า
'นั่นเป็นท่าทียอดเยี่ยม'
เธอไม่ได้ใส่ใจเรื่องเงินเพราะมันเป็นจำนวนเล็กน้อยมากๆ สิ่งที่เธออยากเห็นจริงๆ คือการแสดงออกของความสิ้นหวังและความสับสน
"เฮ้อ!”
ชายคนนั้นออกจากห้องประมูลโดยวางกระเป๋าเอาไว้
'รู้แล้วสินะ'
เธอเห็นสีหน้าประหลาดใจของเขาหลังจากมองเห็นเธอ
เขาคงรีบไปล้างหน้าเพื่อเรียกสติ สิ่งที่เขาจะทำหลังจากนี้ก็มีไม่กี่อย่าง
เขากำลังจะคุกเข่าขอร้องและมอบแหวนวงนั้นให้เธอ เพราะไม่เคยมีใครในโลกนี้ที่ได้รับการไว้ชีวิตหลังจากเลือกเป็นศัตรูกับบัลการ์
ความคิดของเจย์น่าเต็มไปด้วยความคาดหวัง เธอนั่งไขว่ห้างและเพลิดเพลินไปกับการประมูลชิ้นต่อๆ ไป
หลังจากนั้นไม่นานชายคนนั้นก็กลับมา
'ฉันรู้อยู่แล้ว’
ใบหน้าที่เปียกชื้นของเขาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า เขาต้องประหลาดใจแน่ๆ เมื่อรู้ตัวตนของเธอ
"หึๆ”
เจย์น่าไปยืนอยู่ด้านหลังชายคนนั้น ปากของเธอโค้งงอด้วยรอยยิ้มที่เย่อหยิ่ง
“ดูเหมือนว่าพวกนายกำลังมีปัญหา”
เธอยิ้มเยาะ เธอคิดว่าเขาใกล้จะได้คุกเข่าและคำนับเธอแล้ว
แต่ท่าทีของเขาตรงกันข้ามกับที่เธอคาดหวังไว้
เขาถามเธอด้วยสีหน้ารำคาญว่าเธอหูหนวกใช่ไหมและโบกมือราวกับว่าเขากำลังไล่แมลงวันออกไป
'ไอ้หมอนี่ จริงจังเหรอ?'
หรือว่าเขายังไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร นั่นเป็นสิ่งเดียวที่จะอธิบายท่าทีที่เย่อหยิ่งของเขาได้
“ดูเหมือนนายจะยังไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร”
ขณะที่เธอกำลังจะถอดหน้ากากออก องครักษ์ที่อยู่ในห้องของเธอก็วิ่งเข้ามาหาเธออย่างเร่งรีบ
"ค-คุณหนู ของประมูลหายไปครับ!”
"อะไรนะ?”
“ผีเสื้อกับของประมูลอีกสี่ห้าอย่างหายไปจากห้อง ผ-ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น...”
องครักษ์ตัวสั่นและบอกว่าสินค้าที่ประมูลได้หายไปโดยที่ไม่มีผู้บุกรุก
“เรื่องบ้าบออะไรกัน…”
"ดูเหมือนว่าเธอก็กำลังมีปัญหาเหมือนกัน”
ชายคนนั้นยิ้มขณะพูดซ้ำสิ่งที่เธอบอกเขาก่อนหน้านี้ เขายิ้มเยาะใส่เธอ มันเป็นรอยยิ้มแบบที่เธอชอบทำกับคนอื่น
'มันเป็นคนทำ!'
สัญชาตญาณของเธอที่มักจะแม่นยำกำลังบอกกับเธอแบบนั้น ชายยาจกนี่เป็นผู้ร้ายที่อยู่เบื้องหลังการขโมย
“แกเป็นคนทำสินะ”
เจย์น่าพูดอย่างมั่นใจ
"ทำอะไร?”
"แกขโมยพวกมันไป!”
“ฉันไม่เข้าใจ? ขโมยอะไร?”
มีคนโง่เง่าที่อยู่ข้างๆ เขาที่ตัวสั่น
“พวกแกเล่นผิดคนแล้ว!”
เจย์น่ากัดริมฝีปากอย่างอดทนและถอดหน้ากากจิ้งจอกของเธอออก ไม่มีทางที่จะมีคนไม่รู้จักเธอแต่สีหน้าของเขายังคงนิ่งเฉย
"ทำอะไรน่ะ?"
"นายไม่รู้จักฉันเหรอ?”
"ไม่"
“ฮึ่ย!”
เธอโกรธมากยิ่งขึ้นเพราะเขาดูเหมือนไม่รู้จักเธอจริงๆ
"ฉันเจย์น่า ลูกสาวคนสุดท้องของกษัตริย์แห่งอาณาจักรบัลการ์ เดลัว บัลการ์”
"เป็นเจ้าหญิงแห่งบัลการ์เหรอ?”
ถึงแม้ว่ามันจะทำให้เธอเจ็บปวดแต่เธอก็แนะนำตัวเอง หมวกที่คลุมหัวของเขาสั่นอย่างเห็นได้ชัด ดูเหมือนว่าในที่สุดเขาก็ตระหนักได้ว่าใครที่เขากำลังคุยด้วย
“ใช่ และนายเพิ่งตั้งตัวเป็นศัตรูกับบัล…”
"แล้วไง?”
เสียงของชายคนนั้นที่ตอนแรกฟังดูประหลาดใจกลับกลายเป็นเสียงราบเรียบ
"ไอ้หมอนี่! จับมันไว้!”
"คุณหนูครับ?”
“ฉันมั่นว่าเขาขโมยของที่ถูกประมูลไป! จับและค้นตัวเขาซะ!”
เจย์น่ากรีดร้อง ไม่สำคัญว่าเขาเป็นคนทำจริงหรือไม่ เธอแค่อยากเห็นใบหน้าซีดเซียวของเขา
"ขออนุญาต”
องครักษ์ทำท่าทีหยาบคายแม้จะมีคำพูดที่สุภาพก็ตาม เมื่อพวกเขากำลังยื่นมือไปจับไหล่ของชายคนนั้น มือของชายคนนั้นก็วาดออกเป็นรูปครึ่งวงกลม
ฟึ่บ!
* * *
* * *
องครักษ์ถูกบิดแขนและกระแทกลงกับพื้น ชายคนนั้นวางเท้าบนหัวขององครักษ์แล้วหันหน้ามาหาเธอ
“คุณเพิ่งเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อน แน่ใจเหรอว่ารับมือกับผลลัพธ์ได้?”
ชายคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงมืดมน เขามองไปรอบๆ แต่ไม่มีใครพยายามที่จะช่วยเขา เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครอยากเป็นศัตรูของบัลการ์
"ไม่มีใครช่วยนายหรอก ฉันเป็นคนเอ่ยปากว่านายคือหัวข…”
“ราอน? นั่นราอนใช่ไหม!”
ขณะที่เธอกำลังจะใช้เวทย์มนตร์ ก็ได้ยินเสียงอันไพเราะดังมาจากด้านหลังพวกเขา
"เกิดอะไรขึ้น?”
ชายผมบลอนด์สวมเครื่องแบบหรูหราเดินมาหาชายคนนั้น
"เกรียร์?”
ดวงตาของเจย์น่ากว้างขึ้น
เกรียร์ เดอ โอเว่น เจ้าชายคนที่ 3 ของอาณาจักรโอเว่น ที่เธอพบค่อนข้างบ่อยในวัยเด็ก เขาดูดีใจเมื่อเห็นหน้ายาจกคนนั้น
"นายจริงๆ ด้วย! ฉันรู้ว่าเป็นนายเพราะเสียง!”
"ไม่ได้เจอกันนานนะครับ”
ดูเหมือนว่าเขาจะคุ้นเคยกับเกรียร์
"เกรียร์, นายรู้จักเขาเหรอ?”
"รู้สิ!"
เกรียร์พยักหน้าใหญ่โตแล้วชี้ไปที่ชายคนนั้น
“ที่เคยเล่าให้เธอฟังว่ามีนักดาบอัจฉริยะตัวจริงอยู่ในซีกฮาร์ทไง เป็นเขานี่แหละ ราอน ซีกฮาร์ท”
"ซีก...ฮาร์ท?”
เจย์น่ากลืนน้ำลายเมื่อได้ยินชื่อของเขา ตาของเธอสั่นไหวอย่างรุนแรง
“ข-เขาเพิ่งพูดว่าซีกฮาร์ทเหรอ?”
“ผู้ปกครองแดนเหนือ!”
“ม-หมายความว่าบัลการ์เพิ่งหาเรื่องซีกฮาร์ท?”
"ว้าว นี่มัน..."
ดวงตาเปล่งประกายจากผู้คนที่แอบดูอยู่ การปะทะกันระหว่างสองในหกราชา บัลการ์กับซีกฮาร์ท กระตุ้นให้ทกุคนเกิดความอยากรู้อยากเห็น
“หึ”
ผู้ชายที่ชื่อราอนถอดหมวกคลุมหัวออก ผมสีทองและดวงตาสีแดงของเขามีสีเดียวกับของเกล็น ที่เป็นหัวหน้าตระกูลคนปัจจุบันของซีกฮาร์ท
'สายตรง!’
เขาคงเป็นเชื้อสายโดยตรงของซีกฮาร์ทถึงได้มีดวงตาและผมสีนั้น เขาเป็นคนที่ไม่ควรเข้าไปยุ่งด้วยอย่างยิ่ง
“เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ? เธอบอกว่าฉันไม่รู้ที่ของตัวเองและเรียกฉันว่าหัวขโมย แล้วเมื่อกี้ก็เริ่มทำร้ายฉันก่อน”
ดวงตาของราอนเป็นประกายสีแดงเข้ม แรงกดดันอันร้อนแรงเกิดขึ้นและเริ่มครอบงำพื้นที่ คลื่นพลังงานที่รุนแรงมากๆ กำลังทำให้เธอหายใจไม่ออก
“ฉันว่าฉันพยายามอดทนกับมันแล้วนะ เธอรู้สึกยังไงล่ะ?”
"น-นั่นมัน..."
เจย์น่ากลืนน้ำลาย การจัดการกับทหารรับจ้างโง่เขลาไม่เหมือนกับสายตรงของซีกฮาร์ท
“ฉันควรนับว่ามันเป็นการท้าทายของบัลการ์ต่อซีกฮาร์ทไหม?”
“ฉ-ฉันแค่ไม่รู้ว่านายเป็นใคร...”
“ไม่บ้าไปกว่าเดิมอีกเหรอถ้าเธอดูถูกและหาเรื่องกับคนที่เธอไม่แม้แต่จะรู้จักด้วยซ้ำ? ต้องเป็นคนยังไงกันเนี่ย”
คำพูดอันยืดยาวของราอนเป็นการแดกดันเธอ
'หมอนี่...'
เธอร้อนรุ่มด้วยความโกรธ แม้ว่าเธอจะเป็นคนที่หาเรื่องก่อน แต่เธอก็ไม่สามารถระงับอารมณ์ได้เมื่อเขาเยาะเย้ยเธอกลับมา
"เหอะ แล้วไงล่ะ? นายพูดแทนซีกฮาร์ทได้เหรอ?”
แม้ว่าเขาจะเป็นสมาชิกสายตรง แต่การอ้างชื่อซีกฮาร์ทก็น่าจะเป็นเรื่องยาก เธอแน่ใจว่าเขาต้องยอมข้ามเรื่องนี้ไปแน่นอน
"ฉันทำได้”
"ว่าไงนะ?”
“ฉันบอกว่าฉันสามารถพูดในนามของซีกฮาร์ทได้”
เธอคาดหวังว่าเขาจะยอมแพ้ แต่เขาก็พยักหน้าอย่างมั่นใจ
“ฉันสามารถท้าสู้กับเธอโดยใช้ชื่อของซีกฮาร์ทได้เลย แล้วเธอล่ะทำได้ไหม?”
"ฉันไม่เชื่อ!”
เจย์น่าตัวสั่น
'มันเป็นเรื่องโกหก มันต้องเป็นเรื่องโกหกแน่ๆ!’
เธอคิดว่าเขาแค่พยายามโกหกเพื่อเอาชนะเธอ แต่แรงกดดันอันรุนแรงและแววตาที่ไม่สั่นคลอนของเขาไม่บอกอย่างนั้น
'เรื่องนั้น…'
เกรียร์เคยบอกเธอไว้ก่อนหน้านี้ว่าผู้ชายชื่อราอนมีพรสวรรค์และเชี่ยวชาญด้านดาบเป็นอย่างมาก ซึ่งสักวันหนึ่งเขาอาจจะได้เป็นหัวหน้าตระกูลซีกฮาร์ท
'และตอนนี้เขาเริ่มออกมาใช้ชีวิตข้างนอกก็หมายความว่าเขากลายเป็นนักดาบเต็มตัวแล้ว'
รูปลักษณ์อ่อนเยาว์ของเขา ความจริงที่ว่าเขาได้เป็นนักดาบในวัยนี้หมายความว่าเขาค่อนข้างโดดเด่น
“การพยายามขัดขวางนักดาบของซีกฮาร์ทและกล่าวหาว่าเป็นหัวขโมยเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมากกว่าที่คุณคิด”
“อึก…”
เจย์น่ากัดริมฝีปาก
"ฉันจะให้โอกาสสุดท้าย ขอโทษซะ ฉันจะมองข้ามเรื่องนี้หากเธอขอให้ฉันยกโทษตอนนี้ ถ้าไม่อย่างนั้นฉันจะไปเยือนบัลคาร์เป็นการส่วนตัว”
เสียงของราอนหนักอึ้งบนร่างกายของเธอ รู้สึกเหมือนปอดของเธอถูกบดขยี้ แรงกดดันอันหนักหน่วงทำให้เธอเริ่มตั้งคำถามว่าเขาอายุน้อยกว่าเกรียร์จริงหรือเปล่า
"ฉ-ฉันต้องการเวลาคิด..."
"ฉันจะให้เธอห้าวินาที ห้า, สี่..."
ความกดดัน การจ้องมอง วิธีที่เขาควบคุมสถานการณ์ ทุกอย่างล้วนไม่ธรรมดา ไม่มีทางที่คนอย่างเขาจะพูดเล่น
'บ้าจริง...'
เธอมองไปรอบๆ พนักงานในโรงประมูลและลูกค้าต่างก็มองดูพวกเขาอยู่ ในหัวของเธอเต็มไปด้วยความคิดที่ว่าเธอไม่ควรถอดหน้ากากออกเลย
"สาม สอง ....หนึ่ง”
“ฉ-ฉัน...ขอโทษ”
ทันทีที่ราอนนับถึงหนึ่ง เธอก็รีบขอโทษ แต่การแสดงออกของเขาไม่ได้ดีขึ้นเลย
"ใครเขาพูดคำขอโทษที่เบาขนาดนั้นกัน?”
“ฉ-ฉันขอโทษ”
เจย์น่ากัดฟันและขอโทษ
“ใครเขาเงยหน้าขึ้นตอนที่กำลังขอโทษ”
"ฮึ่ย!"
"ทำสิ”
เมื่อได้ยินคำสั่งของราอน เจย์น่าก็ตัวสั่นและก้มหัวลง
“ฉ-ฉันขอโทษ”
"ขอโทษเรื่องอะไร?”
“ฮู่ว…”
เธออยากจะยืนขึ้นใช้เวทย์มนตร์กับเขา แต่เธอก็ยั้งตัวเองไว้ เธอไม่สามารถปล่อยให้ความพยายามทั้งหมดที่ผ่านมาของเธอไร้ผลได้
“ฉ-ฉันต้องขอโทษที่หาเรื่องนายทั้งในโรงประมูลกับคาสิโน แล้วก็ขอโทษที่สงสัยว่านายเป็นหัวขโมย”
เธอไม่มีทางเลือก เจย์น่าสบสายตาของราอนหลังจากเงยหน้าขึ้น สายตาของเขาทำให้เธอขนลุก
“งั้นฉันยอมพอแค่นี้ก็ได้ คงไม่จำเป็นต้องทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่กว่านี้”
“อ๊ะ…”
“เธอควรระวังคำพูดและพฤติกรรมของตัวเองมากกว่านี้นะ ถ้าเธอไม่อยากสร้างความอับอายให้อาณาจักรอีก”
เขาออกไปหลังจากทำท่าทางเหมือนบ่งบอกว่าเขาเห็นเธอเป็นคนน่าสมเพช เกียร์ขมวดคิ้วมาทางเธอก่อนที่จะตามราอนไป
“……”
ความเงียบของเจย์น่าทำให้ทุกคนในโรงประมูลกลั้นหายใจไม่กล้าส่งเสียง
"ผู้จัดการ!”
"อ-อ๊ะ ครับ?”
ผู้จัดการโรงประมูลวิ่งขึ้นมาหาเธอเหมือนสุนัขที่ถูกไฟไหม้หาง
“ระบบรักษาความปลอดภัยของชั้นวีไอพีตรวจจับอะไรได้ไหม?”
“ม-ไม่ ไม่นะครับ”
"ห้องควบคุมอยู่ไหน?”
"ช-เชิญทางนี้ครับ”
ผู้จัดการพาเธอไปที่ห้องควบคุม
“เอาภาพบันทึกจากหินเวทมนตร์กับระบบรักษาความปลอดภัยทั้งหมดมาให้ฉัน!”
เจย์น่ากรีดร้องขณะทำลายโต๊ะภายในห้องควบคุม
'มันต้องมีสิ!'
เมื่อครู่นี้เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมแพ้ไปก่อน แต่เธอยังสามารถเอาคืนได้ตราบใดที่เธอพบหลักฐานการขโมยของเขา เธอต้องหาหลักฐาให้เขาได้ชดใช้
“ตรวจสอบให้หมดรวมถึงมดตัวเล็กๆ ด้วย! อย่ามองข้ามรายละเอียดแม้แต่นิดเดียว!”
แต่ไม่มีภาพของราอนปรากฏตัวที่ไหนเลย ไม่ว่าองครักษ์ของเธอและพนักงานของโรงประมูลจะตรวจสอบอย่างหนักแค่ไหนก็ตาม สิ่งเดียวที่พวกเขามีคือตอนที่ราอนเข้าและออกจากห้องน้ำ
"ไม่จริงน่า..."
เจย์น่าตัวสั่น สัญชาตญาณของเธอแทบไม่เคยผิดเลยแน่ๆ เธอมั่นใจว่าราอนเป็นหัวขโมยแต่กลับไม่มีหลักฐานแม้แต่ชิ้นเดียว
สถานการณ์ในช่วงท้ายของการประมูลรวมถึงปฏิกิริยาของชายที่มากับเขาล้วนชี้ไปในทิศทางเดียวกัน ว่าราอนเป็นคนขโมยของประมูลไป
แต่ก็ยังไม่มีข้อพิสูจน์
เธอคงมีปัญหาเข้าจริงๆ ถ้าเธอไปปรักปรำเขาอีกครั้งโดยไม่มีหลักฐานใดๆ
กรอด!
เจย์น่ากัดฟันและกระทืบเท้า
“ไอ้หมอนั่นเป็นใครกันแน่?!”