ตอนที่ 7 เผชิญหน้า
ตอนที่ 7 เผชิญหน้า
“หนอยแน่ ไอ้เจ้าหมีบ้านี่!!” ไลลาบ่นออกมาด้วยความหงุดหงิด ขณะกระหน่ำยิงลูกธนูใส่มันไม่หยุด แม้เธอจะยิงโดนตัวของมันอย่างเต็มแรง
แต่น่าเสียดายที่ลูกธนูเหล่านั้นไม่สามารถสร้างบาดแผลฉกรรจ์ให้มันได้เลยแม้แต่น้อย
ขณะที่เธอกำลังโจมตีเจ้าหมียักษ์อยู่นั้น เธอก็ต้องคอยวิ่งเปลี่ยนตำแหน่งจุดยืนไม่หยุด เพื่อคอยหลบการโจมตีของมัน
ทุกครั้งที่กรงเล็บของมันได้ฟาดโจมตีใส่เธอ ก็มักจะสร้างความเสียหายให้แก่บริเวณโดยรอบไปด้วย ต้นไม้ต้นแล้วต้นเล่าที่โดนกรงเล็บของมันได้ล้มหักโค่นและร่วงไปกองอยู่บนพื้น
ไลลาวิ่งหลบหนีการโจมตีของเจ้าหมียักษ์อยูได้สักพักนึง เธอก็เกิดพลาดท่า ในที่สุดเธอก็ถูกฝ่ามือของมันฟาดเข้าที่ร่างของเธออย่างจัง
โชคดีที่เธอสามารถดึงมีดที่เอวมาป้องกันกรงเล็บของมันได้ทัน แต่ด้วยพละกำลังที่มหาศาลของมัน ทำให้ร่างกายของเธอลอยกระเด็นไปไกล และไปกระแทกเข้ากับก้อนหินก้อนใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากบริเวณนั้น
"อ๊ะ โอ๊ยย!"
แม้จะไม่ถึงชีวิตแต่เพียงแค่ถูกการโจมตีของมันเพียงครั้งเดียว ร่างกายของเธอก็บอบช้ำไปหมดแล้ว
เธอได้สำลักเลือดออกมาคำโตไม่ต่างอะไรกับพี่สาวของตัวเอง ในขณะที่กำลังนั่งหลังพิงก้อนหินอย่างหมดสภาพ
เจ้าหมียักษ์มันได้จ้องมองไลลา ก่อนจะเดินตรงไปหาเธออย่างช้าๆ มันอ้าปากโชว์เขี้ยวอันแหลมคมที่กำลังมีน้ำลายไหลเยิ้มออกมา
“หยุดนะ!! ไอ้หมีเฮงซวย” ลีลาที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็ได้ร้องตะโกนออกมาอย่างสุดเสียง
พร้อมกับพยายามบังคับร่างที่สะบักสะบอมของตัวเองลุกขึ้น แต่ไม่ว่าจะพยายามเท่าไหร่ก็ไร้ผล ร่างกายของเธอในตอนนี้มันแทบไม่สามารถขยับเขยื้อนได้อีกต่อไปแล้ว
“หยุดนะไอ้เจ้าหมีบ้า! ฉันอยู่นี่ อยากกินก็มากินฉันสิ! อย่าไปทางนะไอ้เจ้าหมีบ้า! อย่าทำอะไรน้องสาวฉันนะ! ขอร้องล่ะ” แม้ลีลาจะพยายามตะโกนร้องห้ามมันอย่างไรเจ้าหมียักษ์นั่นมันก็ไม่ได้สนใจเสียงร้องห้ามของเธอเลยแม้แต่น้อย มันยังคงเดินตรงเข้าไปหาไลลาเรื่อยๆ ลีลาก็ได้แต่มองการกระทำของมันอย่างสิ้นหวัง
แม้จะอยู่ในสภาพสะบักสะบอมจนไม่สามารถขยับร่างกายได้ แต่ไลลาเธอก็สามารถได้ยินเสียงร้องของพี่สาวตัวเองได้อย่างชัดเจน
“อย่านะ อย่านะ! ห้ามทำอะไรกับน้องสาวของฉันนะ!! อยากกินก็มากินฉันแทนสิ!!” ลีลาพยายามรวบรวมแรงกำลังทั้งหมดที่มี พยุงร่างกายตัวเองที่เปียกชุ่มไปด้วยเลือด ขยับเข้าไปหาน้องสาวของตัวเอง
...
‘หนีก่อนดีไหมนะ? ’ นนท์คิดในใจขณะมองดูเหตุการณ์ตรงหน้า และประเมินสถานการณ์
ถ้าหากว่าเขายอมทิ้งพวกเธอไปตอนนี้ โอกาสที่เขาจะหนีสำเร็จนั้นมีอยู่สูงมาก
แม้เขาจะรู้ว่าความคิดของตัวเองนั้น มันไม่ต่างอะไรกับพวกเห็นแก่ตัว แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับสถานการณ์ในตอนนี้ดี
'เอาไงดีวะ คิดสินนท์ เราต้องคิดให้ออก'
สถานการณ์ในตอนนี้ไร้ซึ่งทางชนะอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าเขาจะใช้กลยุทธ์ยังไง ก็ไม่มีทางชนะได้เลยด้วยเลเวลที่ต่างกันขนาดนั้น
เมื่อรู้ว่าไม่มีทางชนะ ในวินาทีนั้นเขาก็รีบหันหลังเตรียมตัวที่จะวิ่งหนี
‘อยู่ที่นี่ก็มีแต่ความตายเท่านั้น ด้วยความสามารถที่แทบไม่มีของตัวเอง เราไม่มีทางที่จะแก้ไขสถานการณ์ตอนนี้ได้หรอก’ ทั้งๆ ที่เขาก็รู้อย่างนั้นอยู่เต็มอก แต่ไม่รู้ทำไมเขากลับไม่สามารถก้าวขาออกไปได้
"เฮือก อย่าา..อย่าทำอะไรน้องสาวฉันเลยนะ ได้โปรดเถอะ!"
ในระหว่างนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของลีลาอยู่อย่างต่อเนื่อง เสียงกรีดร้องของเธอนั้นมันเต็มไปด้วยความกลัวและความสิ้นหวัง แม้ไม่ต้องหันไปมองเขาก็สามารถจินตนาการได้เลยว่าตอนนี้ใบหน้าของเธอคงเต็มไปด้วยน้ำตา
ที่จริงตั้งแต่เจอกับศัตรูตรงหน้า แค่พวกเธอวิ่งหนีไป แล้วปล่อยให้เขากลายเป็นเหยื่อล่อแทน พวกเธอก็คงรอดไปแล้ว
‘ทั้งๆ ที่ทำแค่นั้นพวกเธอก็คงจะรอดแล้ว แล้วทำไมถึงไม่ทำล่ะ’ เขาคิดอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะหยิบมีดสั้นในมือของตัวเองขึ้นมาดู และนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้
“เอานี่ไปใช้สิ” ลีลาพูดขึ้นพร้อมกับยื่นอะไรบางอย่างให้เขา
"ถึงนายมันจะโคตรอ่อนแอ แต่มีอาวุธติดตัวไว้สักหน่อยก็คงดีกว่าใช่ไหมล่ะ” เสียงของลีลาตอนที่มอบอาวุธชิ้นนี้ให้กับเขายังคงดังก้องอยู่ในหัวของเขา
ทั้งๆ ที่พวกเราเป็นแค่คนแปลกหน้าแท้ๆ แต่ตลอด 4 วันที่ผ่านมา พวกเธอต่างก็ได้ดูแลเขาเป็นอย่างดี ให้ที่พักอาหารน้ำดื่ม แถมยังช่วยรักษาร่างกายของเขาที่ได้รับบาดเจ็บจนเกือบตายให้กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมอีกครั้ง
แถมพวกเธอยังคอยสอนถึงเรื่องเทคนิคต่างๆ ในการเอาตัวรอดในโลกอันแปลกประหลาดแห่งนี้
เพียงคิดถึงเหตุการณ์เหล่านั้น น้ำตาของเขาก็เริ่มไหลออกมา ทั้งสมเพชตัวเองและเจ็บใจที่ไม่สามารถช่วยอะไรผู้มีพระคุณได้เลย คนอย่างเขาก็คงเป็นได้แค่เพียงเศษสวะที่ทำได้แค่เกาะคนอื่นเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตอยู่รอดต่อไปเท่านั้น
“นี่เรากลายเป็นคนชั่วร้าย ที่พอผู้มีพระคุณหมดประโยชน์ เราก็พร้อมจะทิ้งเขาไปอย่างไม่ใยดีแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ..” เขาพูดออกมาเสียงสั่น ขณะที่สองตาเต็มเปี่ยมไปด้วยน้ำตา
ก่อนจะกำมีดที่อยู่ในมือแน่น และทิ้งกระเป๋าที่ตัวเองสะพายอยู่ลง จากนั้นก็หันหลังไปมองศัตรูที่กำลังจะเขมือบเพื่อนสาวของตัวเองด้วยใบหน้าจริงจัง..
***
ลีลากำลังมองดูภาพของน้องสาวที่กำลังจะถูกกิน แม้เธอจะพยายามลากร่างที่ไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ไปทางน้องสาวอย่างเต็มกำลัง แต่เหมือนมันจะไม่ทันซะแล้ว
"ม่ายยยยย" ลีลาได้แต่กรีดร้องออกมาอย่างสิ้นหวัง พร้อมกับใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา และในวินาทีที่เธอรู้สึกว่าทุกอย่างมันจะจบลงแล้ว
ตุ๊บ!!
อยู่ดีๆ ก็มีก้อนหินก้อนหนึ่งได้กระแทกเข้าที่หัวของเจ้าหมียักษ์ตัวนั้นอย่างจัง ทำให้มันต้องหยุดเดินและหันไปมองศัตรูที่ขว้างหินใส่มันด้วยท่าทางหงุดหงิด
แต่มันก็ไม่ได้คิดจะเดินไปหาเขา แถมยังไม่สนใจเขา และหันกลับไปสนใจอาหารตรงหน้าต่อ แม้จะยังถูกขว้างก้อนหินใส่ไม่หยุด
“มาทางนี้สิไอ้หมีเวร กลัวฉันหรือไง!” เสียงของชายหนุ่มตะโกนออกมาท้าทายมัน และเขายังหันหลังให้มัน พร้อมกับใช้มือตบเข้าไปที่ก้นตัวเอง เพื่อท้าทายมันอย่างกวนโอ๊ย
“นาย! ทำไมนายยังไม่หนีไปอีก รีบไปซะ!! นายเอาชนะเจ้านี่ไม่ได้หรอก!”
ลีลาพยายามตะโกนบอกเขาด้วยท่าทีที่เหนื่อยล้า เขามองดูเธอก่อนจะยิ้มออกมา
“พูดอะไรน่ะ ผมจะปล่อยให้เหล่าภรรยาที่น่ารักของตัวเองตายได้ยังไงล่ะ!”
“เอ๊ะ? พ..พวกฉันไปเป็นภรรย- ไม่ใช่สิ ใช่เวลามาล้อเล่นหรือไง รีบหนีไปได้แล้ว!!” ลีลาพยายามเอ่ยบอก
“ไม่ต้องห่วงหรอก ผมหนีแน่ แต่ว่าผมต้องพาไอ้เจ้าหมีบ้านี้ไปด้วยล่ะนะ”
และแล้วเจ้าหมียักษ์นั่นก็ไม่ทำให้เขาผิดหวัง ด้วยความโมโหกับท่าทางทะเล้นของเขา มันจึงได้เปลี่ยนเป้าหมาย และรีบวิ่งเข้าไปหาตัวเขาแทนอย่างไว
ส่วนเขาเองก็ไม่รอให้มันมาฆ่า เขารีบก้าวเท้าวิ่งหนีอย่างไว เขาพยายามวิ่งหนีมันอย่างสุดชีวิต แต่ด้วยพละกำลังและความเร็วที่ต่างกัน เพียงไม่นานเจ้าหมียักษ์นั่น ก็สามารถเข้ามาใกล้ตัวเขาได้อย่างไว
‘ตายแน่ ตายแน่ ตายแน่!’ เขาอดคิดอย่างวิตกกังวลไม่ได้ พร้อมกับพยายามหาทางหลบการโจมตีของมันที่กำลังพุ่งเข้ามา
ในระหว่างที่เจ้าหมียักษ์มันวิ่งไล่ตามเขา มันก็ได้ส่งเสียงคำรามออกมาด้วยเสียงอันน่ากลัว และเสียงนั้นมันยิ่งทำให้เขาตื่นตระหนกและหวาดกลัวมากขึ้นไปอีก
โชคดีที่ในป่านั้นเต็มไปด้วยต้นไม้เล็กใหญ่มากมาย ทำให้เขาสามารถวิ่งซิกแซกไปมาเพื่อยื้อเวลาตายของตัวเองไปได้
ในตอนนี้เขารู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังโดนช้างป่าตกมันวิ่งไล่ตามฆ่า และด้วยพละกำลังที่มหาศาลของมัน ต้นไม้แทบทุกต้นที่เขาเคยวิ่งผ่าน ต่างพากันหักโค่นและล้มระเนระนาดเพราะฝีมือของมัน
แต่ก็อย่างที่ว่า เขานั้นเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาที่แทบจะไม่เคยได้ออกกำลังกาย เขาออกวิ่งไปได้เพียงไม่นาน ร่างกายก็เริ่มเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
แม้ในใจเขาจะรู้สึกสิ้นหวัง หรือหวาดกลัวเพียงใด แต่เขาก็พยายามวิ่งไปให้ถึงจุดหมายที่ตัวเองคิดเองไว้
ในทุกๆ วินาทีที่ผ่านไป เขารู้สึกว่ามันนานแสนนาน ความเครียด ความกดดัน ความรู้สึกเหนื่อยล้า และความหวาดกลัวได้ถาโถมเข้ามาไม่หยุด
ระยะห่างของเขากับมันได้สั้นลงเรื่อยๆ และเพียงไม่กี่วินาทีก่อนที่เขาจะหมดแรงและวิ่งต่อไม่ไหวนั้น เขาก็ได้มาถึงจุดหมายที่ตั้งใจเอาไว้ในตอนแรกจนได้
ในตอนนี้ สถานที่ด้านหน้าของเขานั้นเป็นเหวลึก ลักษณะเหมือนแผ่นเปลือกโลกแยกออกจากกัน มองไม่เห็นก้นหลุม
จังหวะนั้นเขาก็ได้ไถลตัวลงนอน แต่ด้วยความเร็วที่เขาวิ่งมาทำให้ร่างกายของเขาเกือบกลิ้งตกลงไปในเหว แต่เขาก็ยังโชคดีที่สามารถใช้มือจับขอบเหวเอาไว้ได้ทัน ดังแผนที่ตัวเองได้คิดเอาไว้
ส่วนเจ้าหมียักษ์ที่กำลังวิ่งตามเขามานั้น มันไม่ได้โชคดีแบบเขา
แม้จะมองเห็นเหวอยู่ตรงหน้า แต่ด้วยน้ำหนักและความเร็วที่มันกำลังพุ่งเข้ามา ทำให้มันไม่สามารถหยุดตัวของตัวเองได้ทัน และนั่นก็ทำให้ร่างของมันร่วงลงตกไปสู่ก้นเหวด้านล่างในที่สุด..
เมื่อเห็นว่าแผนของตัวเองสำเร็จแล้ว เขาก็รีบปีนขึ้นมาจากขอบเหว และทิ้งตัวลงนั่งพักอยู่ตรงนั้นอย่างเหน็ดเหนื่อย
“แฮ่กๆ อา เราทำสำเร็จแล้วสินะ”
แม้ตอนแรก เขาคิดว่าคงไม่มีทางที่จะเอาชนะเจ้าหมียักษ์ตัวนี้ได้ แต่เมื่อเขาเริ่มตั้งสติทำให้ใจเย็นลง เขาก็คิดแผนนี้ขึ้นมาได้ แม้ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสทำสำเร็จแค่ไหน แต่เขาก็จะลองดู
“ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหน สติ ก็สำคัญที่สุดสินะ ฮ่าๆ เฮ้อ.. เกือบจะตายแล้วไหมล่ะ”
โชคดีที่ระหว่างเดินทาง พวกเขาทั้งสามได้เดินมาเจอกับเหวนี้พอดี ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าจะหาวิธีไหน มาเอาชนะเจ้าหมีตกมันตัวนี้ซะแล้ว
แม้ว่าเขาจะทำได้สำเร็จ แต่ก็เป็นแผนที่เสียงเอาเรื่อง พลาดนิดเดียวมีสิทธิ์ตายแน่นอน
“เอาเถอะ ถึงร่างกายเราจะอ่อนแอ แต่ก็สามารถใช้สติปัญญาทดแทนได้สินะ” เขาพูดพร้อมกับยิ้มให้กับตัวเองอย่างภาคภูมิใจ
"เหนื่อยจัง ขอพักแป๊บนะ" เขาบอกกับตัวเองก่อนจะล้มตัวลงนอน และในระหว่างที่เขากำลังนอนเอาแรงอยู่นั้น อยู่ๆ ตรงหน้ามันก็ได้แสดงหน้าต่างอะไรบางอย่างขึ้นมา
เลเวล: อัพ 1-2
เลเวล: อัพ 2-3
“เป็นหน้าต่างที่เรียบง่ายดีนะ ว่าแต่สังหารด้วยวิธีนี้ก็นับด้วยสินะ” เขาคิดอย่างใจเย็นก่อนจะเรียกหน้าสเตตัสของตัวเองออกมา..
つづく