ตอนที่ 1 อา! ซวยแล้วไง!
ตอนที่ 1 อา! ซวยแล้วไง!
ชื่อของเขาก็คือ [นนท์] เป็นเด็กหนุ่มธรรมดาๆ ทั่วไป อายุ 20 ปี ออกจากโรงเรียนแล้วมาทำงานเป็นนักเขียนอิสระ
เขาใช้ชีวิตอยู่คนเดียวในห้องเช่า ค่าเช่าบวกค่าน้ำ ค่าไฟ ก็ราวๆ เดือนละ 2,500 บาท ตื่นเช้าขึ้นมาก็อาบน้ำ กินข้าวแล้วก็แต่งนิยาย
ทุกๆ วัน เขาได้อยู่แต่หมกตัวอยู่ในห้อง แทบไม่เคยได้ออกไปไหน เรื่องอาหารการกินต่างๆ หรือสิ่งจำเป็นอื่นๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เขาก็มักจะสั่งออนไลน์เอา
เรื่องค่าเช่าห้องเมื่อครบกำหนดจ่าย เขาก็โอนเงินไปให้กับเจ้าของห้องโดยตรง และนั่นก็ทำให้ตั้งแต่ที่เขาออกจากโรงเรียนมาทำงานส่วนตัวอยู่ที่นี่ เขาก็แทบจะไม่ได้เจอหน้าใครเลยทีเดียว
ที่เขาใช้ชีวิตอย่างนี้ ไม่ใช่ว่าเขาเป็นเด็กเก็บกด หรือเคยถูกเพื่อนๆ รังแกที่โรงเรียน หรือเป็นพวกที่มีปัญหาครอบครัวหรอกนะ
มันก็แค่.. เขาอยากใช้ชีวิตแบบนี้ เพราะสำหรับเขาแล้ว การเข้าสังคมมันก็ไม่ต่างอะไรกับการเดินผ่านสิ่งปฏิกูล มันทั้งเน่าเหม็นและน่าขยะแขยง
หากจะต้องไปเผชิญกับสิ่งเหล่านั้น เขาขอใช้ชีวิตอยู่ในห้องคนเดียวแบบนี้ ไม่ออกไปไหนมันคงดีกว่า
แม้ผู้คนภายนอก และครอบครัวของเขา อาจจะว่า ที่เขาไม่ยอมออกไปไหนและขังตัวเองเอาไว้ในห้องแบบนี้ นั่นเป็นเพราะเขามีปัญหาและจมปลักอยู่กับความทุกข์
พวกเขาจึงได้พยายามยื่นมือเข้ามาช่วยอยู่หลายครั้ง แต่เขาก็ปฏิเสธไปทุกครั้ง
ในความรู้สึกของเขา การกระทำของคนเหล่านั้น นอกจากมันจะไม่ช่วยอะไรแล้ว มันก็ยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดเข้าไปทุกที
คนเหล่านั้นชอบเอาบรรทัดฐานของตัวเองเป็นที่ตั้ง และพยายามยัดเยียดความชอบของตัวเองให้กับคนอื่น โดยที่ไม่พยายามเข้าใจในตัวตนและความชอบของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย
แม้คนนอกที่มองเข้ามา จะคิดว่าเขาอยู่อย่างไม่มีความสุข แต่มันกลับตรงกันข้ามต่างหากล่ะ
ภายในห้องเช่าแห่งนี้ ทุกๆ วันมันเต็มไปด้วยความสุข ทั้งนิยายมังงะ อนิเมะ และสิ่งบันเทิงต่างๆ
แม้จะต้องอยู่แต่ในห้อง แต่ขอแค่มีพวกมัน เขาก็สามารถอยู่ได้อย่างมีความสุข ไม่ทุกข์ร้อนอะไร
ความทุกข์ร้อนเพียงอย่างเดียวก็คงจะเป็นการที่พวกโลกสวยภายนอกนั้น พยายามเข้ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตของเขามากกว่า
“อื้มม เสร็จซักที งั้นวันนี้พอแค่นั้นแล้วกัน” เขาพูดพร้อมบิดตัวอย่างขี้เกียจ ขณะจ้องหน้าจอคอมด้วยความยินดี
ทุกวันเขาจะใช้เวลา5-6 ชั่วโมง ในการทำงาน แม้คนส่วนใหญ่จะไม่ชอบทำงาน เพราะการทำงานมันอาจจะต้องใช้แรงกายแรงใจเยอะ และเต็มไปด้วยความเครียด หลังจากได้เงินแล้วก็เอาเงินที่หาได้ไปหาความสุขให้ชีวิตต่ออีกที
ซึ่งมนุษย์ส่วนใหญ่ในโลกก็เป็นแบบนั้น ทำงานเพื่อแลกกับเงิน เพื่อไปซื้อความสุข
แต่มันก็มีอยู่ส่วนน้อยเหมือนกันที่ได้ทำงานที่ตัวเองรัก ซึ่งเขาเองก็เป็นผู้โชคดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในส่วนน้อยนั้น
เมื่อเห็นว่าจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว เขาก็ได้เดินไปที่เตียงนอนและล้มตัวนอนลง
“ราตรีสวัสดิ์นะนนท์” เขาพูดกับตัวเองก่อนจะหลับตาลง และจมสู่ห้วงนิทรา..
Z Z Z z z..
รู้สึกตัวขึ้นมาอีกที เขาก็รู้สึกว่าทุกสิ่งรอบตัวนั้นมันแปลกไป ความรู้สึกนุ่มนิ่มของเตียงนอนได้หายไปและถูกแทนที่ด้วยพื้นแข็งๆ พร้อมกับบรรยากาศรอบข้างในตอนนี้ที่หนาวเย็นอย่างผิดปกติ
เมื่อเขาได้ลืมตาตื่นขึ้นมา เขาก็พบว่า ทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันดูมืดมิดไปหมด มืดเสียจนมองอะไรแทบไม่เห็น เขาพยายามขับไล่ความรู้สึกง่วงนอนออกไป พร้อมพยายามสังเกตบริเวณรอบข้างด้วยความรู้สึกสับสน
'ที่นี่ที่ไหน เกิดอะไรขึ้นเนี่ย หรือว่าเรากำลังฝันอยู่อย่างนั้นเหรอ'
เขาหลับตาลงอีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาใหม่อย่างช้า ๆ และนั่นก็ทำให้สายตาของเขาเริ่มปรับตัวเข้ากับความมืดได้ และมันก็ทำให้เขารู้ว่า ในตอนนี้นั้นเขาได้มาอยู่ในกลางป่าแห่งหนึ่ง
“ป..ป่า!! นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเราเนี่ย?”
แม้มันน่าสับสนว่าทำไมเขาถึงได้มาอยู่ที่นี่ แต่สิ่งที่น่าสับสนมากไปกว่านั้นก็คือพระจันทร์สีเลือดดวงใหญ่ ที่กำลังสาดแสงสีแดงอยู่บนท้องฟ้า
พระจันทร์ที่เขากำลังมองเห็นอยู่นี้ มันดูใหญ่กว่าปกติที่เขาเคยเห็นประมาณ 5 เท่า และเขายังมองเห็นแท่งอะไรบางอย่าง ที่ดูคล้ายกับหอคอยขนาดใหญ่ ที่สูงทะลุก้อนเมฆแบบมองไม่เห็นยอด และดูเหมือนว่าหอคอยนั่น จะอยู่ค่อนข้างไกลจากเขามาก แถมตอนนี้เขายังได้ยินเสียงหวีดร้องของสัตว์ต่างๆ ที่อยู่เต็มทั่วผืนป่าอึกด้วย
"อะไรกันเนี่ย...?!?"
สายตาของเขาเต็มไปด้วยความสับสน ในขณะที่พูดกับตัวเองอย่างไม่เข้าใจ แม้เขาจะคิดว่านี่อาจเป็นรายการแกล้งคน แต่มันคงไม่มีรายการบ้าที่ไหน จะลงทุนเยอะขนาดนี้ แถมเขาเองก็ไม่ได้เป็นคนดังซะด้วยสิ
“อย่าบอกว่านะที่นี่คือ ตะ..ต่างโลกอย่างงั้นเหรอ?”
เพราะวันๆ เขาได้แต่ขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง ใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งบันเทิง และเรื่องราวต่างๆ ในจอคอมพิวเตอร์ เขาจึงสรุปเหตุการณ์แปลกประหลาดตรงหน้านี้ได้อย่างรวดเร็ว
ถึงมันจะเป็นข้อสันนิษฐานที่บ้าบอ และดูไร้สาระ แต่เขาก็ไม่สามารถหาเหตุผลที่ดีกว่านี้ได้แล้ว
และสิ่งที่ตอกย้ำข้อสันนิษฐานของเขาคงเป็นความจริงนั่นก็คือ อยู่ๆ หน้าต่างประหลาดที่เหมือนในเกมแนวแฟนตาซีก็โผล่ขึ้นมาตรงหน้าของเขา
ชื่อ: นนท์
เผ่าพันธุ์: มนุษย์
เพศ: ชาย
อายุ: 20 ปี
ฉายา: —
เลเวล: 1
พลังชีวิต: 100/100
มานา: 10/10
ร่างกาย: 75
สกิล: ระบบเกมจีบสาว (เลเวล: 1)
แต้ม: 1
ข้อความ: ข้อความนี้จะโผล่ขึ้นมาแค่ในครั้งนี้เท่านั้น ท่านสามารถเปิดปิดหน้าต่างสถานะได้ตลอดเวลาเพียงแค่คิดขึ้นในใจ
เขามองดูหน้าต่างตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะลองคิดให้หน้าต่างตรงหน้าหายไปดู
ซึ่งมันก็ได้ผล หน้าต่างตรงหน้าได้หายไปจริงๆ และเมื่อเขาคิดให้มันโผล่ขึ้นมาอีกครั้ง มันก็โผล่ขึ้นมาตามความต้องการของเขาได้อย่างง่ายดาย
“หน้าต่างสถานะค่อนข้างเรียบง่ายดีแฮะ เอาล่ะนนท์ นายต้องรีบตั้งสติก่อน ตอนนี้เรื่องที่ควรสนใจก็คือการเอาชีวิตรอดจากที่นี่สินะ”
เขาพยายามตั้งสติให้ได้อย่างรวดเร็ว จากประสบการณ์ดูอนิเมะเอาตัวรอด และต่างโลกมามากมาย และประเมินจากสถานที่ที่เขาอยู่ตอนนี้ มันคงไม่ปลอดภัยสักเท่าไหร่
คิดได้อย่างนั้น เขาจึงรีบตรวจสอบหน้าต่างสถานะตรงหน้าตัวเองในทันที เมื่อเปิดหน้าต่างที่เหมือนกับเกมที่เขาเคยเล่นในโลกมาก่อน มองแค่แว๊บแรกเขาก็สามารถเข้าใจมันได้ในทันที
“ค่าพลังชีวิตเมื่อหมดก็คือตายสินะ มานาก็คงเอาไว้ใช้กับสกิลโอเคปกติไม่มีอะไร ส่วนตรงค่าร่างกายนี่มัน? หน้าต่างสถานะที่เห็นปกติในเกมหรืออนิเมะ ปกติมันจะแยกเป็น ค่าความเร็ว ค่าความอึด พลังโจมตี และความฉลาดอะไรประมาณนั้น แต่ในนี้ไม่มีเลยแฮะ? หรือในส่วนที่แสดงถึงสถานะร่างกาย มันจะรวมทุกอย่างไว้หมดแล้ว?”
“อื้ม เป็นไปได้สูง เอาล่ะส่วนสุดท้ายที่ต้องให้ความสำคัญก็คงจะเป็น สกิล ส่วนสกิลของเราก็.. ระบบเกมจีบสาว? เอ่อ.. หรือที่นี่มันจะเป็นโลกแนวโรแมนติกฮาเร็มรึเปล่านะ” เขาพูดพร้อมเอียงคอใช้ความคิดอย่างสงสัย
และไม่ทันที่เขาจะได้คิดอะไรมากไปกว่านั้นแล้ว ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงของกิ่งไม้หัก และต้นเสียงนั่นก็อยู่ไม่ไกลจากเขานัก
เมื่อเขาหันไปมองก็พบกับ สิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายมนุษย์ ส่วนสูงประมาณเด็กประถม กำลังย่องเข้ามาข้างหลังของเขา ในมือของพวกมันต่างถือท่อนไม้ไว้และเดินตรงมาหาเขา
และในจังหวะนั้นเอง ก้อนเมฆที่บดบังแสงของดวงจันทร์ตรงนั้นได้เปิดออก เมื่อแสงจันทร์ได้กระทบกับร่างกายของมัน รูปลักษณ์ที่ในชีวิตนี้เขาไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้เห็นมันอยู่นอกจอก็ได้ปรากฎขึ้น
"อย่าบอกนะว่า ก็อบลิน!!" เขาอุทานออกมาอย่างตกใจ
ผิวสีเขียว หูแหลม ใบหน้าน่าเกลียด ผิวพรรณใบหน้าของมันขรุขระราวกับถนน
ในนาทีที่เขาเห็นมันอย่างชัดเจน นอกจากรูปร่างอันน่าเกลียดของมันแล้ว ยังปรากฏหน้าต่างสถานะ อยู่เหนือหัวของมันด้วย
มันแสดงถึงเลเวลและสัญลักษณ์สี่เหลี่ยมสีแดง
เลเวล: 1 ?
เลเวล: 1 ?
เลเวล: 2 ?
“อา! ..ซวยแล้วไง!!”
つづく