1146 - เจ้าต้องแสดงให้เราเห็นว่าเจ้าคู่ควร
1146 - เจ้าต้องแสดงให้เราเห็นว่าเจ้าคู่ควร
ในที่สุดเมื่อได้เห็นราชาสวรรค์เจียงไท่ซูปรากฏตัวในโลกอีกครั้ง เย่ฟ่านก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก เพราะราชาสวรรค์คือบุคคลที่เขาเคารพมากที่สุด
ราชาสวรรค์มีเส้นผมสีขาวงดงามดุจไหมหิมะ ร่างกายของเขาสูงสง่าอย่างที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้ รูปลักษณ์ภายนอกของเขาทำให้ผู้คนเกิดความรู้สึกเหมือนเผชิญหน้ากับภูเขาอันยิ่งใหญ่
ผู้บ่มเพาะเผ่าพันธุ์มนุษย์ปาดน้ำตาเงียบๆ ดวงตาของพวกเขาแดงก่ำ พวกเขาถูกกดดันมาอย่างยาวนานในที่สุดเซียนของเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างแท้จริง
ราชาบรรพชนทั้งเจ็ดหันกลับมามองเช่นกัน ดวงตาของพวกเขาทอประกายลึกล้ำเมื่อเห็นการปรากฏตัวของราชาสวรรค์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์
“ราชาสวรรค์…”
เย่ฟ่านรีบเดินเข้าไปแสดงความเคารพอย่างนอบน้อม
“ลุกขึ้น!”
ราชาสวรรค์เจียงไท่ซู่ดึงเย่ฟ่านขึ้นด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ เสื้อผ้าสีขาวของเขาดูงดงาม พลังศักดิ์สิทธิ์ที่แผ่ออกมาจากร่างของเขาทรงพลังและเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
พระอาทิตย์อัสดงย้อมท้องฟ้าให้กลายเป็นสีแดงฉาน ราชาสวรรค์ยืนอยู่ด้านหน้าผู้บ่มเพาะเผ่าพันธุ์มนุษย์ เมื่อเห็นเขาปรากฏตัวขึ้นผู้คนมากมายก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ราชาสวรรค์!”
“ราชาสวรรค์ผู้ไม่มีใครเทียบ!”
ในขณะนี้ไม่รู้ว่าใครเป็นคนแรกที่ตะโกนขึ้น อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาผู้บ่มเพาะเผ่าพันธุ์มนุษย์ทุกคนต่างตะโกนขึ้นพร้อมกัน
ในช่วงเวลาที่สิ้นหวังนี้ การมาถึงของเซียนเผ่าพันธุ์มนุษย์ทำให้จิตใจของผู้คนผ่อนคลายขึ้นอย่างมาก ในขณะเดียวกันมันก็กระตุ้นความกระตือรือร้นของทุกคนให้ตื่นขึ้นอีกครั้ง
ราชาโบราณทั้งเจ็ดก็มีสีหน้าแปลกๆ ดวงตาของพวกเขาสั่นไหว และพวกเขาก็มองดูเซียนเผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างเงียบๆ
ราชาสวรรค์เป็นชายที่โชคร้ายมาก เขามีชื่อเสียงตั้งแต่อายุยังน้อยและสามารถทะลวงเข้าสู่ระดับเซียนเทียมขั้นสามตั้งแต่อายุไม่ถึงร้อยปี
ในยุคที่กฎแห่งสวรรค์พิภพของโลกขาดความสมบูรณ์แบบ การที่เขากลายเป็นเซียนเทียมขั้นสามได้สำเร็จย่อมเพียงพอที่จะได้รับการสถาปนาเป็นราชาสวรรค์ผู้แข็งแกร่งที่สุดในโลกอำพรางสวรรค์นี้
อย่างไรก็ตามเขากลับหายสาบสูญไปหลายพันปีโดยไม่ทราบสาเหตุ สิ่งนี้ทำให้ผู้คนเกิดความเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก และเมื่อเขาปรากฏตัวอีกครั้งแม้แต่คนรักคนเดียวก็ยังกลายเป็นหญิงชราไปแล้ว
สิ่งที่น่าเศร้ายิ่งกว่านั้นคือหญิงผู้เป็นที่รักของเขากลับต้องเสียสละชีวิตของตัวเองเพื่อช่วยให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไป เขาเฝ้าดูความตายของนางโดยไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้
สุดท้ายเมื่อการต่อสู้จบลงเขาก็อุ้มร่างที่ไร้วิญญาณของเทพธิดาเมฆชมพูเดินทางออกจากตงหวงและหายสาบสูญไปเกือบยี่สิบปีแล้ว
ใครก็ตามที่มีโอกาสได้รับรู้เรื่องราวชีวิตของราชาสวรรค์จะรู้สึกว่าสวรรค์ไม่ยุติธรรมต่อเขาอย่างยิ่ง นับตั้งแต่มีชีวิตขึ้นมาเขาแทบจะพบกับชะตากรรมอันหน้าเศร้ามาโดยตลอด
เมื่อเขายังเด็กเขาได้สังหารราชาจุน หนึ่งในราชาแฝดผู้ยิ่งใหญ่แห่งจงโจว หากว่าเขาไม่หายสาบสูญไปเป็นเวลากว่าสี่พันปีบางทีเขาอาจจะกลายเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ไปแล้วก็ได้
เมื่อตระหนักถึงสิ่งนี้ผู้บ่มเพาะเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก!
“ในที่สุดเซียนเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็ปรากฏตัวขึ้นแล้วสินะ”
ราชาโบราณกล่าวอย่างไม่แยแส แน่นอนว่าพวกเขาสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของเซียนชุดขาวอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามฝ่ายตรงข้ามมาปรากฏตัวเพียงลำพังเท่านั้น มันไม่มีทางที่คนคนเดียวจะเอาชนะพวกเขา 7 คนได้
“เขาเป็นเซียนที่แตกต่างจากสิ่งมีชีวิตอมตะทั่วไป” ราชาบรรพชนคนเดิมกล่าวด้วยความสงสัย “จะให้ข้าเรียกเจ้าว่าอย่างไร?”
“เจียงไท่ซู่” ราชาสวรรค์กล่าวอย่างสงบ
เขาไม่มีกลิ่นอายของเซียน ไม่ต้องกล่าวถึงพลังที่น่าเกรงขาม แต่การยืนอยู่ของเขาสามารถทัดเทียมกับการดำรงอยู่ของราชาบรรพชนทั้ง 7 โดยไม่เป็นรองแม้แต่น้อย
“ทำไม...ข้ารู้สึกว่าเจ้าแตกต่างจากเซียนคนอื่นๆ?” ราชาโบราณคนเดิมสอบถามอย่างตรงไปตรงมา
“เพราะเจ้าและข้าเป็นเผ่าพันธุ์ที่แตกต่างกัน อีกทั้งวิธีพิสูจน์เต๋าของเรายังแตกต่างกันด้วย” ราชาสวรรค์กล่าว
“วิธีพิสูจน์เต๋าของเจ้าทำให้เจ้าแข็งแกร่งกว่าเซียนทั่วไปอย่างแน่นอน” ราชาโบราณกล่าวอย่างเคร่งขรึม
ทุกคนเกิดความประหลาดใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเผ่าพันธุ์โบราณ พวกเขาหวาดกลัวด้วยซ้ำ การที่ราชาโบราณกล่าวถ้อยคำเช่นนี้เพียงพอที่จะพิสูจน์แล้วว่าเซียนชุดขาวนั้นแข็งแกร่งมากเพียงใด
“เวลามีการเปลี่ยนแปลง เซียนมนุษย์ทุกคนไม่ได้เกิดในยุคโบราณอันยิ่งใหญ่ แน่นอนว่าการพิสูจน์เต๋าของเราย่อมมีความยากลำบากมากกว่าพวกเจ้า” ราชาสวรรค์กล่าวอย่างสงบ
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ใบหน้าของราชาโบราณทุกคนก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงอย่างถึงที่สุด ผู้ที่เข้าใจคำพูดนี้ต่างก็เกิดความหวาดกลัวทั้งสิ้น
ในยุคปัจจุบันนี้ยุคโบราณอันยิ่งใหญ่ได้สิ้นสุดลงแล้ว สวรรค์พิภพไม่อนุญาตให้สิ่งมีชีวิตอมตะปรากฏตัวอีกต่อไป
ดังนั้นการที่จะมีเซียนสักคนพิสูจน์เต๋าได้สำเร็จนั่นแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีความแข็งแกร่งมากกว่าสิ่งมีชีวิตอมตะทั่วไปหลายสิบเท่า!
ในตอนที่ยุคโบราณล่มสลายสิ่งมีชีวิตโบราณทั้งหมดต่างก็ฝังทายาทอัจฉริยะของตัวเองไว้ในต้นกำเนิดสวรรค์ สาเหตุก็เพราะในช่วงหลายพันปีนั้นไม่มีสิ่งมีชีวิตโบราณสักคนสามารถพิสูจน์เต๋าได้
สิ่งนี้เป็นเรื่องผิดปกติอย่างมาก นั่นก็เพราะในโลกมีเผ่าพันธุ์มากมายนับล้าน แต่กลับไม่มีใครพิสูจน์เต๋าได้สำเร็จ นั่นเพียงพอที่จะอธิบายแล้วว่าโลกไม่อนุญาตให้มีสิ่งมีชีวิตอมตะปรากฏขึ้นอีกแล้ว
อย่างไรก็ตามเซียนชุดขาวเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่อยู่ตรงหน้านั้นพิสูจน์เต๋าได้สำเร็จจริงๆ สิ่งนี้สามารถพิสูจน์ได้ว่าเจตจำนงค์แห่งเต๋าของเขาทรงพลังมากเพียงใด และเขาจะต้องเป็นเซียนที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าราชาบรรพชนทุกคนอย่างไม่ต้องสงสัย
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้ที่จะบรรลุเต๋าอมตะได้ล้วนจำเป็นต้องใช้เส้นทางที่แตกต่างกันทั้งสิ้น
แม้ว่าเขาพระสุเมรุจะเผยแพร่เส้นทางแห่งการบรรลุความเป็นอมตะของนิกายพุทธออกมา แต่ยังคงไม่มีผู้ใดสามารถใช้เส้นทางนี้บรรลุความเป็นอมตะได้ อย่างมากสุดผู้คนก็ทำได้เพียงใช้มันทะลวงผ่านระดับเซียนเทียมขั้นสามเท่านั้น
นั่นก็เพราะเซียนทุกคนมีเต๋าที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง และมันจะนำมาซึ่งโอกาสอันยิ่งใหญ่มากมาย และเต๋าก็คือเจตจำนงของผู้คนมันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถลอกเลียนได้
และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเซียนเผ่าพันธุ์มนุษย์จึงแข็งแกร่งมากกว่าราชาโบราณทุกคนที่ใช้เส้นทางเดียวกันบรรลุความเป็นอมตะ
แม้ว่าราชาสวรรค์จะเพิ่งก้าวสู่ระดับเซียนเท่านั้น แต่คลื่นพลังที่แผ่ออกมาจากร่างของเขายังน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าราชาโบราณที่บรรลุความเป็นอมตะมาหลายพันปี
และราชาโบราณทั้ง 7 ต่างก็ตระหนักได้ทันทีว่านี่จะต้องเป็นราชาแห่งเซียนอย่างแน่นอน!
เซียนชุดขาวคนนี้คือใคร? สมญานาม “ไร้ผู้เทียบเคียง” ไม่ใช่จะเรียกกันเล่นๆ เขาคือยอดฝีมือที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดของโลกอำพรางสวรรค์คนที่คู่ควรกับการเป็นราชาอย่างแท้จริง!
“เวลาเปลี่ยนไปแล้ว…”
ราชาโบราณคนนั้นกล่าวกับตัวเอง จากนั้นเขาก็สูดลมหายใจอย่างหนาวเหน็บ ความหวาดกลัวที่ไม่สามารถควบคุมได้แทรกซึมเข้าสู่จิตใจของเขาอย่างรวดเร็ว
เซียนเผ่าพันธุ์มนุษย์มีน้อยมาก นั่นก็เพราะพวกเขาไม่ได้ปิดผนึกตัวเองในต้นกำเนิดสวรรค์เหมือนที่เผ่าพันธุ์โบราณทำ อย่างไรก็ตามหากมีเซียนปรากฏขึ้นในยุคใหม่นี้ ความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่มีทางที่ราชาบรรพชนโบราณจะเทียบเคียงได้
“งานชุมนุมของทุกเผ่าพันธุ์กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว เหตุใดสหายเต๋าทั้ง 7 ไม่เข้ามาสนทนากันก่อน?” ราชาสวรรค์กล่าวด้วยท่าทางสง่างาม
“แม้ว่ามันจะเป็นงานใหญ่แต่หากผู้ที่นั่งสนทนากับเราไม่มีสถานะเท่าเทียม เราจะลดฐานะของตัวเองลงเพื่ออะไร?”
ราชาโบราณคนนั้นกล่าวอย่างไร้ความปรานี เขารู้ดีว่าราชาสวรรค์ที่ยืนอยู่ตรงหน้าแข็งแกร่งมากเพียงใด ถึงอย่างนั้นด้วยจำนวนที่มากกว่าเขาก็ไม่ได้หวั่นเกรงต่อฝ่ายตรงข้ามแม้แต่น้อย
“แล้วข้าคู่ควรนั่งสนทนากับเจ้าหรือไม่?” ราชาสวรรค์ในชุดขาวกล่าว
“แน่นอนว่าเจ้ามีความพิเศษอย่างยิ่ง แต่เจ้าต้องแสดงให้เราเห็นว่าเจ้าคู่ควรก่อน!” ราชาโบราณก้าวไปข้างหน้าและลงมือโจมตีทันที
มีปีกศักดิ์สิทธิ์สามสิบหกคู่อยู่ข้างหลังเขากำลังโบกสะบัดอย่างบ้าคลั่ง ทันใดนั้นปราณกระบี่ที่แข็งแกร่งได้ฟาดฟันลงมาจากท้องฟ้าโดยมีเป้าหมายอยู่ที่ราชาสวรรค์เจียงไท่ซู
นี่คือการประสานการโจมตีของปีกทั้งสามสิบหกคู่ มันเป็นทักษะที่ทรงพลังที่สุดของราชาโบราณคนนี้ และในบางครั้งการโจมตีเพียงครั้งเดียวของเขาก็สามารถตัดสินผลแพ้ชนะได้เลย
ท่ามกลางแสงสีแดงของอาทิตย์อัสดง เจียงไท่ซูถูกล้อมรอบด้วยแสงสีทอง เขาเพียงยื่นมือออกไปเบาๆ และใช้นิ้วทั้งสองคีบจับปราณกระบี่ที่น่าสะพรึงกลัวนั้นโดยไม่มีท่าทีหวั่นเกรงแม้แต่น้อย
“เฉียง”
ปราณกระบี่ถูกทำลายด้วยสองนิ้วของราชาสวรรค์ พลังโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดถูกกวาดล้างออกไปราวกับไม่เคยปรากฏขึ้น
…