บทที่ 97 ใช้ผู้คนในใต้หล้าเป็นเครื่องมือในการสังหารบุตรชายของท่านอ๋องเหอเป่ยทางเหนือ!
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 97 ใช้ผู้คนในใต้หล้าเป็นเครื่องมือในการสังหารบุตรชายของท่านอ๋องเหอเป่ยทางเหนือ!
ปากของจักรพรรดินีถึงกับกระตุก เขากระตือรือร้นเช่นนี้เพราะเงินที่อีกฝ่ายจ่ายมางั้นหรือ?
“ท่านหลิน ไหนพูดเหตุผลของท่านสิ!” นางออกคำสั่งทันที
“ขอรับฝ่าบาท!” หลินเป่ยฟานยืดตัวขึ้นและตะโกนเสียงดัง “การเก็บคุณชายใหญ่ไว้ในการเป็นเชลยมีข้อเสียมากกว่าผลประโยชน์!”
“ประการแรก การจับกุมคุณชายใหญ่ต่อไปจะทำให้ท่านอ๋องแห่งเหอเป่ยทางเหนือโกรธและทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นไปอีก!”
“มกุฎราชกุมารผู้เป็นบุตรชายคนโตและทายาทของท่านอ๋องเหอเป่ยทางเหนือได้ถูกเลี้ยงดูอย่างระมัดระวัง มีความคาดหวังในตัวเขาสูง ทว่ายามนี้เขาอยู่ในเงื้อมมือของเราแล้ว อีกฝ่ายย่อมต้องกังวลอย่างไม่ต้องสงสัย!”
“จากความพยายามลอบสังหารครั้งก่อน เห็นได้ว่าคนเหล่านั้นไม่ได้ถูกส่งมาเพื่อฆ่าคุณชายใหญ่ แต่เป็นยอดฝีมือที่ท่านอ๋องทางเหนือส่งมาเพื่อช่วยเหลือเขา! จากการกระทำเหล่านี้ เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายกำลังเริ่มใจร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ!”
“หากท่านอ๋องเหอเป่ยทางเหนือเห็นว่าไม่มีความหวังที่จะช่วยลูกชายของเขา คงตัดสินใจที่จะทำรัฐประหารและสิ่งต่างๆ คงจะเลวร้ายลงมากแน่!”
“นี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่เป็นไปไม่ได้ ฝ่าบาท โปรดทรงพิจารณาอย่างรอบคอบด้วยเถิด!”
สีหน้าของจักรพรรดินีเปลี่ยนไปเล็กน้อยขณะที่นางพยักหน้าและกล่าวว่า “เจ้าพูดถูก พูดต่อเถิด!”
“ขอรับฝ่าบาท!” หลินเป่ยฟานยังคงพูดเสียงดังต่อไป “ประการที่สอง การเก็บคุณชายใหญ่ให้เป็นเชลยต่อไปจะดึงดูดปัญหานับไม่ถ้วน!”
“ยามนี้เราไม่เพียงแต่ต้องจัดการกับท่านอ๋องเหอเป่ยทางเหนือเท่านั้น แต่ยังต้องจัดการกับศัตรูที่รายล้อมอีกด้วย! เช่นท่านอ๋องคนอื่น ผู้ที่ทะเยอทะยานในโลกวรยุทธ์และผู้ที่ครอบครองอาณาจักรอื่นภายนอกของอาณาจักรอู๋อันแสนยิ่งใหญ่ มีศัตรูมากเกินคณานับ! พวกเขาทุกคนต่างกำลังรอโอกาสที่จะปลุกปั่นปัญหาและใช้ประโยชน์จากมัน!”
“และคุณชายใหญ่คือโอกาสที่สมบูรณ์แบบที่พวกเขากำลังรอคอย!”
“ถ้าพวกเขาส่งคนไปฆ่าคุณชายใหญ่ มันจะทำให้ความขัดแย้งระหว่างราชสำนักกับท่านอ๋องเหอเป่ยแย่ลงไปอีก! เมื่อทั้งสองฝ่ายเริ่มต่อสู้กัน พวกเขาเพียงแค่นั่งลงและรอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์! นี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่เป็นไปไม่ได้ แต่เป็นสถานการณ์ที่เป็นไปได้มาก!”
“ซึ่งหากข้าเป็นพวกเขา ข้าจะไม่พลาดโอกาสที่ดีเช่นนี้อย่างแน่นอน!”
ใบหน้าของทุกคนในที่นี้พลันเปลี่ยนไปในพริบตา
หลินเป่ยฟานจึงกล่าวต่อไป “สำหรับคุณชายใหญ่ เราไม่สามารถทำร้าย ดูหมิ่นหรือสังหารเขาได้ เราต้องปกป้องเขาอยู่เสมอ! ยามนี้เรายังสามารถจัดการกับคนของท่านอ๋องเหอเป่ยทางเหนือได้ แต่แล้วในภายหลังล่ะ?”
“เมื่อคนที่ทะเยอทะยานอีกมากมายเริ่มตอบโต้และส่งยอดฝีมือไปลอบสังหารคุณชายใหญ่ เราจะยังสามารถจัดการเขาได้หรือไม่?”
“แม้ว่าเราจะทำได้ แต่เราก็คงต้องใช้กำลังคนและทรัพยากรจำนวนมากมหาศาลอยู่ดี! ในขณะเดียวกัน เรายังต้องแบกรับความเสี่ยงจากความไม่สงบในเมืองหลวง ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะประเมินได้!”
“เมืองหลวงเป็นหัวใจของอาณาจักรอู๋อันแสนยิ่งใหญ่ หากมีปัญหาในหัวใจ มันย่อมจะส่งผลกระทบต่อทุกจุดในอาณาจักรอู๋อันแสนยิ่งใหญ่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้! ยามนี้เมื่อมีหมาป่าและเสือล้อมรอบเรา ปัญหาใดๆ ในเมืองหลวงคงกลับกลายเป็นปัญหาใหญ่! ดังนั้นฝ่าบาท โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบด้วย!”
ใบหน้าของทุกคนล้วนหนักอึ้ง
จักรพรรดินีเครียดเป็นอย่างมาก “เหตุผลของเจ้าไม่มีสิ่งใดผิดเลย กล่าว่ตอเถิด!”
“ประการที่สาม ไม่มีประโยชน์ที่จะเก็บตัวคุณชายใหญ่เอาไว้!”
“จากพฤติกรรมของเขา อาจกล่าวได้ว่าเขาค่อนข้างไร้เดียงสา ขาดความระมัดระวังเกินความจำเป็น ไม่อย่างนั้นเราคงไม่อาจจับเขาได้ง่ายๆ เช่นนี้แน่! นี่แสดงให้เห็นว่าเขาขาดประสบการณ์และไม่ได้มีส่วนร่วมในเรื่องสำคัญ ดังนั้นเราจึงไม่สามารถหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากเขาได้! การเก็บเขาไว้มีเพียงแต่เป็นการหาเรื่องท่านอ๋องเหอเป่ยทางเหนือเท่านั้น!”
“ทว่าท่านอ๋องเหอเป่ยทางเหนือมีบุตรชายหลายคน แต่ละคนล้วนเป็นผู้มีพรสวรรค์ที่หาได้ยาก! ท่านอ๋องเหอเป่ยทางเหนือนั้นมีความทะเยอทะยานและต้องการครอบครองที่ราบภาคกลางมาโดยตลอด การตายของบุตรชายคนเดียย่อมวไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเขา! แม้ว่าคุณชายใหญ่จะตายไป แต่มันก็จะทำให้เขามีเหตุผลในการก่อกบฏ สิ่งนี้เราไม่อาจปล่อยให้เกิดได้เด็ดขาด!”
“ดังนั้นข้าจึงเชื่อว่าการกักขังตัวคุณชายใหญ่นั้นเป็นอันตรายมากกว่าผลประโยชน์ เป็นการดีกว่าที่จะปล่อยเขาโดยเร็วที่สุด!”
หลังจากฟังคำพูดของหลินเป่ยฟาน ความคิดของจักรพรรดินีพลันเอนไปทางเขาแล้ว ทว่านางยังคงต้องการรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติมและรวบรวมมุมมองที่หลากหลายจากทุกคน “ทุกท่าน มีพวกเจ้าคนใดต้องการออกความคิดเห็นอีกไหม?”
“ฝ่าบาท!” เกาเทียนเย่า เสนาบดีเจ้ากรมครัวเรือนลุกขึ้นยืนและกล่าวกับหลินเป่ยฟาน
“ต้องยอมรับว่าท่านหลินพูดอย่างสมเหตุสมผลมาก แต่ถ้าเราปล่อยคุณชายใหญ่อย่างง่ายดายเช่นนี้ ทุกคนจะไม่เยาะเย้ยเราว่ากลัวท่านอ๋องเหอเป่ยทางเหนือหรอกหรือ? ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าเราจะปล่อยคุณชายใหญ่ไป แต่บุคคลที่ทะเยอทะยานเช่นนั้นก็คงจะไม่พลาดโอกาสนี้ที่จะลอบสังหารเขา ตำหนิกล่าวโทษเรา ก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างเรากับท่านอ๋องเหอเป่ยทางเหนือรุนแรงขึ้น! นอกจากนี้แล้ว หากเราปล่อยตัวเขาไป สถานการณ์ก็จะยิ่งอันตรายขึ้น เพราะหากไม่มีการปกป้องของเรา ก็ไม่อาจรับรู้ได้เลยว่าผู้ใดจะกระทำการเช่นไร! เมื่อไร้ซึ่งการปกป้องรอบตัวคุณชายใหญ่ เขาอาจจะตายได้ทุกเมื่อ สถานการณ์ย่อมไม่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ดี! นอกจากนี้เรายังไม่รู้ว่าคุณชายใหญ่เป็นคนแบบไหน เราแทบไม่มีข้อมูลเรื่องคุณชายใหญ่ผู้นี้เลย บางทีเขาอาจจงใจที่จะหลอกลวงเราหรือไม่? ท่านอ๋องเหอเป่ยทางเหนือมีบุตรชายหลายคนก็จริง การสูญเสียหนึ่งไปย่อมไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่บุตรชายที่เขาแต่งตั้งให้เป็นมกุฎราชกุมารนั้นสำคัญที่สุดสำหรับเขาอย่างไม่ต้องสงสัย! หากคุณชายใหญ่ถูกคุมขังไว้ อ๋องเหอเป่ยทางเหนือย่อมระวังไม่กระทำการใดที่มันสิ้นคิด!”
“ดังนั้นข้าจึงเชื่อเสมอว่าการกุมขังคุณชายใหญ่นั้นดีกว่าการปล่อยเขา!”
จักรพรรดินีพยักหน้า “ท่านเกาพูดได้ถูก! มีผู้ใดต้องการออกความคิดเห็นที่แตกต่างหรือไม่? จงรีบพูดออกมาโดยเร็ว!”
“ข้าคิดว่าคำพูดของท่านหลินนั้นถูกต้อง ปล่อยคุณชายใหญ่ดีกว่า!”
“ข้าเชื่อว่าการเก็บเขาไว้ย่อมมีประโยชน์มากกว่า!”
…
เหล่าขุนนางเริ่มโต้เถียงกัน
ในยามนั้นเอง หลินเป่ยฟานก็ยืนขึ้น ขัดจังหวะการโต้เถียงของพวกเขาพร้อมกับยิ้มออกมา “ฝ่าบาท ข้ายังเชื่อมั่นว่าเราควรปล่อยตัวคุณชายใหญ่ ทว่าวิธีที่เราปล่อยเขาคือสิ่งสำคัญที่สุด”
“ตราบใดที่เราจัดการอย่างถูกต้อง ราชสำนักของเราไม่เพียงแต่สามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและความสูญเสียทั้งหมดได้ แต่ยังใช้โอกาสนี้โจมตีท่านอ๋องเหอเป่ยทำให้เขาต้องสูญเสียครั้งใหญ่ได้เช่นกัน! นี่เป็นโอกาสอันหายาก ข้าหวังว่าฝ่าบาทจะไม่พลาด!”
“ประการแรก เพียงแจ้งให้ท่านอ๋องเหอเป่ยทางเหนือทราบถึงความตั้งใจของเราที่จะปกป้องความปลอดภัยของคุณชายใหญ่และส่งเขาไปยัง เหอเป่ยทางเหนือ หากมีอุบัติเหตุใดๆ เกิดขึ้นกับคุณชายใหญ่ระหว่างทาง มันจะเป็นความประมาทของท่านอ๋องแห่งเหอเป่ยเหนือเอง เราสามารถหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบได้!”
“ประการที่สอง เราจะส่งคุณชายใหญ่ออกไปอย่างยิ่งใหญ่ สิ่งนี้ไม่เพียงแต่จะแสดงให้เห็นถึงความสง่างามของจักรพรรดิเท่านั้น แต่ยังทำให้โลกรู้ว่าคุณชายใหญ่อยู่ในเมืองหลวงและกำลังจะกลับไปที่เหอเป่ยทางเหนือ!”
"แล้วจะทำเช่นนั้นไปทำไมกันเล่า?" จักรพรรดินีเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“เพราะมีคนจำนวนมากเกินไปที่ต้องการสังหารคุณชายใหญ่ นี่คือเวลาที่ดีที่สุดแล้ว! ยกตัวอย่างเช่นพี่น้องของคุณชายใหญ่ ซึ่งแต่ละคนล้วนมีความทะเยอทะยาน พวกเขาคงจะมีความสุขมากถ้าสามารถสังหารเขาลงไปได้ เพียงแค่ยามนี้พวกเขาไม่มีโอกาสเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีขุนนางยศใหญ่ ผู้ฝึกวรยุทธ์ที่ทะเยอทะยานและกลุ่มคนที่ต้องการเห็นคุณชายตายไป พวกเขาทุกคนล้วนต้องการประโยชน์นี้จากความโกลาหล!”
ดวงตาของจักรพรรดินีพลันเบิกกว้างขึ้น “ข้าเข้าใจแล้ว เจ้ากำลังต้องการใช้คนอื่นเพื่อสังหารคุณชายใหญ่สินะ!”
“ฝ่าบาท ท่านทรงปราดเปรื่องยิ่งนัก!” หลินเป่ยฟานโค้งคำนับและยิ้มตอบไป “ด้วยวิธีนี้ เมื่อทั้งโลกรับรู้ว่าคุณชายใหญ่ได้ออกจากเมืองหลวง กองกำลังต่างๆ คงจะส่งยอดฝีมือของพวกเขาไปลอบสังหารเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่! ท่านอ๋องเหอเป่ยทางเหนือก็จะต้องส่งทหารและยอดฝีมือเพื่อปกป้องบุตรชายของเขา!”
“ท่านอ๋องเหอเป่ยทางเหนือจะต้องเผชิญกับการไล่ล่าของกองกำลังต่างๆ เพียงลำพัง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความสูญเสียที่สำคัญอย่างไม่ต้องสงสัย! ในท้ายที่สุด ไม่ว่าผู้ใดจะชนะหรือแพ้ มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับราชสำนักของเรา! เราสามารถหลีกเลี่ยงการสูญเสีย ไม่ต้องกังวลอะไรและเพียงแค่นั่งรับชมการแสดงเท่านั้น!”
จักรพรรดินีพยักหน้า “ยอดเยี่ยมมาก เช่นนั้นเราจะทำตามที่เจ้ากล่าวมา!”