บทที่ 60 การยอมจำนนและการต่อต้าน
บทที่ 60 การยอมจำนนและการต่อต้าน
โอลกะมีส่วนร่วมในการต่อสู้ด้วย เธอไม่ได้ต่อสู้กับเรือทั้งลำเพียงลำพังอย่างเชย์น่า ซึ่งมันยังเร็วเกินไปสำหรับเธอ เธอร่วมฝึกกับโจรสลัดระดับรากหญ้าแห่งกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูร โดยเธอได้เป็นคู่มือให้กับพวกเขา
แม้ว่าเธอจะอายุเกินร้อยปีแล้ว แต่สำหรับเอเซียร์เวลาที่อยู่ในท้องของเจ้าทะเลนั้นค่อนข้างนิ่ง และสำหรับเขาโอลกะ ยังคงเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆที่ยังไม่ได้ฉลองวันเกิดครบรอบ 10 ปีของเธอเลยด้วยซ้ำ
นี่ไม่ควรเป็นชีวิตของเธอ แต่เธอต้องยอมรับการมีชีวิตแบบนี้อย่างเลือกไม่ได้ ตั้งแต่เหตุการณ์ลักพาตัว ดูเหมือนว่าโอลกะจะเติบโตขึ้นมาก เธอตระหนักถึงความสำคัญของความแข็งแกร่งและเริ่มกระหายในอำนาจ
อย่างไรก็ตาม การได้มาซึ่งพลังต้องจ่ายอะไรบ้างอย่าง และประสบการณ์ปัจจุบันของเธอก็เป็นส่วนหนึ่งของราคานั้น
เอเซียร์รู้สึกผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาคิดว่านี่เป็นความผิดทั้งหมดของทองคำอันบริสุทธิ์ แต่ถ้าไม่มีทองคำบริสุทธิ์ โอลกะซึ่งมีอายุมากกว่าร้อยปีก็ไม่สามารถรอดจากโรคไข้จักรพรรดิ์เซาท์บลูได้
ท้ายที่สุดแล้ว ทั้งหมดเป็นเพราะบุคคลที่ทำข้อมูลของทองคำอันบริสุทธิ์รั่วไหล ในช่วงเวลานี้ เขาไม่ได้เกียจคร้านเช่นกัน โดยถือกล่องกระสุนปืนใหญ่ไว้ข้างๆมือปืน
ชีวิตกลายเป็นเช่นนี้ และเขาไม่มีความสามารถในการต่อสู้โดยตรง ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่คิดหาทางอื่นที่จะช่วยได้เท่านั้น
“ใช้สิ่งนี้สิ”
อย่างน้อย เอเซียร์ก็ถือเป็นเจ้าหน้าที่ในกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูร และเนื่องจากเขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์ด้านการวิจัย ไคโดจึงไม่ยอมให้โจรสลัดใต้บังคับบัญชาคุกคามความปลอดภัยของเขา
เดิมทีเขาเป็นนักเคมีและนักวิทยาศาสตร์ด้านวัสดุชั้นหนึ่ง และหลังจากที่เขาออกมา เขาก็รื้อฟืนความรู้ของเขาได้ในช่วงเวลานี้ และยอมรับการเปลี่ยนแปลงของโลกในช่วงร้อยปีที่ผ่านมา ด้วยความช่วยเหลือของควีน เขาได้ดัดแปลงดินปืนตามสูตรที่มีอยู่ และทำให้พลังของกระสุนปืนใหญ่แข็งแกร่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพวกมันยังอยู่ในขั้นตอนการทดสอบ จึงมีจำนวนกระสุนระเบิดเหล่านี้ไม่มากนัก
“ว้าว พี่ใหญ่เอเซียร์ กระสุนปืนใหญ่ของพี่ทรงพลังมาก” เมื่อมองดูระยะการระเบิดของกระสุนปืนใหญ่ มือปืนก็อุทานด้วยความชื่นชมอย่างจริงใจ
“ยิงอีกสองสามนัดในทิศทางนั้น” เอเซียร์ชี้ไปทางที่โอลกะให้คำแนะนำเล็กน้อยก่อนจะกลับไปที่ห้องพักบนเรือ มันจะสร้างปัญหาให้คนอื่นถ้าเขาอยู่ข้างนอก
แม้ว่าพวกเขาจะเสียเปรียบในแง่ของจำนวน แต่พวกเขาก็มีความได้เปรียบในด้านอำนาจการยิงและพลังการรบระดับสูง และมีความได้เปรียบบนอากาศ ในไม่ช้าโจรสลัดที่ต่อต้านก็ถูกสังหารและพวกที่เหลือส่วนใหญ่เลือกที่จะยอมจำนน
และผู้ใต้บัญชาของกลุ่มร้อยอสูรก็ได้มีบทบาทสำคัญในการดูแลเชลยศึกเหล่านี้
นอกจากนี้ยังมีโจรสลัดบางคนที่ต้องการหลบหนีไปยังจุดนัดพบเพื่อตามหากัปตันของพวกเขา ควีนกำลังไล่ตามคนพวกนั้น และโจรสลัดคนหนึ่งที่กำลังหลบหนีจากไคโดก็บังเอิญปะทะกับควีน
พันธมิตรโจรสลัดที่ก่อตั้งขึ้นใหม่ ซึ่งก่อตั้งขึ้นได้ไม่ถึงสองสามนาที ใกล้จะสลายตัวเนื่องจากถูกโจมตีจากทุกทิศทุกทาง อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ สามารถได้ยินเสียงกระสุนปืนใหญ่ดังมาจากท้องฟ้าอันห่างไกล
กระสุนปืนใหญ่ที่ใหญ่กว่ากระสุนธรรมดาบินไปในทิศทางนี้
สำหรับผู้มีพลังในโลกโจรสลัด การจัดการกับกระสุนปืนใหญ่ไม่ใช่เรื่องยากอะไร คิงในร่างมนุษย์สัตว์ บินออกไปและปีกโลหะอันแวววาวของเขาก็ส่องแสงเจิดจ้าก่อนที่จะแยกกระสุนปืนใหญ่ขนาดใหญ่ออกเป็นสองซีก คิงจับกระสุนปืนใหญ่ทั้งสองซีกด้วยมือทั้งสอง โยนมันออกไปและทำลายกระสุนปืนใหญ่ที่เข้ามาจากด้านหลัง
รูปแบบมนุษย์สัตว์ที่ได้รับการดัดแปลงด้วยมือทั้งสองข้างนั้นสะดวกกว่าผู้ใช้ผลปีศาจประเภทนกแบบดั้งเดิมมาก ในท้ายที่สุด มือของพวกเขาสามารถกลายเป็นปีกได้ทันทีเมื่อเข้าสู่ร่างมนุษย์สัตว์
“ฐานที่มั่นของพวกโจรสลัดอยู่ทางนั้นรึ?”
“ใช่แล้ว ท่านสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ นั่นคือสิ่งที่พลเรือนของเกาะอาศัยอยู่”
“เชย์น่า เจ้าและคิงไปที่นั่นและทำให้พวกเขาหยุดต่อต้านซะ จงอ่อนโยนกับพวกพลเรือน เพราะที่นี่จะเป็นอาณาเขตของเราในอนาคต”
พลเรือนแตกต่างจากโจรสลัด พวกเขาเป็นผู้อยู่อาศัยดั้งเดิมของเกาะ ดังนั้นกลุ่มร้อยอสูรจึงไม่สามารถกำจัดผู้คนทั้งหมดบนเกาะได้
นอกจากนี้ ประชากรยังเป็นรากฐานของเศรษฐกิจและจำเป็นสำหรับการพัฒนาในอนาคต ดังนั้นจึงไม่สามารถปฏิบัติต่อพวกเขาเหมือนโจรสลัดคนอื่นๆได้
“เข้าใจแล้วค่ะ พวกหนูจะจัดการมันเอง คิง! ไปกันเถอะ!”
ร่างสองร่าง ร่างหนึ่งสีแดงและสีเทาอีกหนึ่งร่าง บินไปในทิศทางของกระสุนปืนใหญ่ที่บินมาและหายไปในท้องฟ้าโดยใช้เวลาไม่นานนัก
“เอาล่ะ มาดูกันว่าไคโดจะเป็นยังไงบ้าง” คนที่เหลือติดตามอาร์เซอุสไปยังที่ที่ไคโดอยู่ ยกเว้นผู้คุมที่กำลังคุมเหล่าเชลยถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง
“จาบูล! ใครอนุญาตให้นายยิง!”
ความขัดแย้งปะทุขึ้นในพื้นที่ที่ชาวเกาะอาศัยอยู่ เกิดจากหัวหน้าทีมป้องกันที่ยิงปืนใหญ่ป้องกันชายฝั่งไปในทิศทางของฐานโจรสลัดโดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้าหมู่บ้าน
“นายรู้ไหมว่าฉันทุ่มเทความพยายามมากแค่ไหนในการทำให้โจรสลัดเหล่านั้นละทิ้งแผนการที่จะโจมตีเรา? แม้ว่นายจะไม่สนใจเรื่องเหล่านี้ แต่นายก็ไม่ใส่ใจเรื่องความปลอดภัยของจาบูลตัวน้อยและแม่ของเขาบ้างเหรอ?”
ชายผู้มีหนวดเครายาวถูกผลักออกไป และหัวหน้าหมู่บ้านก็ใช้ร่างกายของเขาปิดกระบอกปืนใหญ่ เสียงของเขาเต็มไปด้วยความโกรธและความสิ้นหวัง
“นี่เป็นโอกาส ดูเหมือนว่าความขัดแย้งครั้งใหญ่จะปะทุขึ้นในหมู่โจรสลัดเหล่านั้น ตราบใดที่เราสามารถคว้าโอกาสในการกำจัดพวกมันได้ เราก็จะเป็นอิสระ! อาหารของเราสามารถอยู่ได้อีกเพียงแค่วันเดียวและไม่มีทางที่เราจะประหยัดมันได้อีกต่อไป ดูสิว่าที่ผ่านมาเรากินอะไรมาบ้าง!”
จาบูลชี้ไปที่อาหารในหม้อข้างๆ ซึ่งดูเหมือนมันฝรั่งต้ม หรืออะไรทำนองนี้ และมีสัดส่วนน้ำมากกว่ามันฝรั่งมาก นั่นคือวิธีที่พวกเขาเอาชีวิตรอดในช่วงที่ผ่านมาด้วยซุปที่มีส่วนประกอบของน้ำเพียงอย่างเดียว
“จาบูล พวกนั่นมันเป็นโจรสลัดเลยนะ!!”
“ผมรู้ แต่เราก็ก็มีอาวุธเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? ทำไมเราจะไม่ยืนหยัดและต่อต้านพวกมัน?! พวกมันไม่ได้แข็งแกร่งเท่าจอห์น พวกมันจะกลัวปืนใหญ่อย่างแน่นอน เรามีความสามารถที่จะโต้กลับนะ!!”
เป้าหมายของพลเรือนคือการเอาชีวิตรอดเท่านั้น แม้ว่าจะมีทางออก แต่คนส่วนใหญ่กลับเลือกที่จะยอมจำนน ด้วยเหตุนี้เกาะแห่งนี้จึงเคยเป็นของจอห์น
แต่ตอนนี้การต่อสู้ระหว่างโจรสลัดแทบจะทำให้พวกเขาต้องตาย
จากนั้นจาบูลก็ชี้นิ้วไปทางคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าชายคนนั้นด้วยกับความคิดของเขาและจะเข้าร่วมการโจมตีด้วย
“พวกมันยังต่อสู้กันเองอยู่ และตอนนี้เรายังมีพละกำลังที่จะต่อต้านได้ หากพวกมันไม่ยุติเรื่องนี้ภายในไม่กี่วัน เรือการค้าต่างประเทศก็จะไม่เข้ามาใกล้ที่นี่ แล้วเราจะอดตายกันที่นี่เหรอ?”
"ในขณะที่พวกมันกำลังต่อสู้กัน เราควรฉวยโอกาสโจมตีพวกมันทีเผลอ เมื่อเราจัดการกับพวกมันแล้ว การต่อสู้ก็จะจบลง”
“จาบูล นายยังเด็กเกินไป พวกมันคือโจรสลัด พวกมันแค่ไม่อยากถูกซุ่มโจมตี นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกมันถึงประนีประนอมกับเรา หากนายทำเช่นนี้ นายจะผลักพวกมันจนมุม เมื่อพวกเขาเลิกตีกันเองแล้ว พวกเขาจะจัดการกับเราก่อน แล้วนายจะทำอย่างไร?”
“ในกรณีนั้น ส่งผมไปเพื่อสงบความโกรธของพวกเขา แต่ตอนนี้เป็นโอกาสที่เราจะต่อต้าน เราไม่สามารถฝากความหวังไว้กับโจรสลัดได้ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ อย่าลืมช่วยฉันดูแลจาบูลตัวน้อยและแม่ของเขา ชาวบ้านที่พร้อมจะต่อต้าน หยิบปืนแล้วมากับฉัน!!”
แต่ไม่นานหลังจากนั้น จาบูลสังเกตเห็นว่าการจ้องมองของผู้คนดูแปลกไปเล็กน้อยราวกับว่าพวกเขากำลังมองไปที่ท้องฟ้า เมื่อเขาหันกลับไปมอง เขาเห็นเชย์น่าและคิงบินอยู่บนท้องฟ้า
“เป็นพวกเจ้าเองที่ยิงปืนใหญ่ ใช่ไหม? ต่อจากนี้ไปเกาะนี้เป็นอาณาเขตของกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูร พวกข้าสามารถลืมเรื่องยิงปืนใหญ่ที่เพิ่งยิงมาเมื่อกี้ได้ แต่ก่อนอื่น วางอาวุธของเจ้าและหยุดต่อต้าน”