บทที่ 59 นี่คือสัตว์ประหลาดแห่งนิวเวิลด์?
บทที่ 59 นี่คือสัตว์ประหลาดแห่งนิวเวิลด์?
ประตูได้พังลง และลมหนาวก็พัดเข้ามาในห้อง
นี่คือเกาะฤดูหนาว แต่เกาะฤดูหนาวก็มีสี่ฤดูกาล เพียงแต่ฤดูร้อนของเกาะฤดูหนาวจะเย็นกว่าฤดูหนาวของเกาะฤดูร้อน ลมหนาวที่พัดเข้ามาในห้อง ทำให้พวกเขาตัวสั่นโดยไม่สมัครใจ
พูดให้ถูกก็คือ ความหนาวเย็นไม่ได้เกิดจากสภาพอากาศเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวข้องกับไคโดอีกด้วย
โดยไม่ได้แปลงร่างเป็นร่างมนุษย์มังกรหรือร่างมังกรขนาดมหึมา ไคโดใช้เพียงร่างมนุษย์ของเขาเท่านั้น เพื่อต่อสู้ที่นี่เพียงลำพัง
การที่มนุษย์จะเริ่มกระทำสิ่งใดได้ พวกเขาต้องการแรงจูงใจ และไคโดก็เป็นคนประเภทนี้ เขาเกือบจะประสบกับอาการลงแดง และเนื่องจากอุบัติเหตุครั้งก่อนของเขาในการดื่มที่ฐานทัพเรือ อาร์เซอุสจึงตั้งเป้าหมายเล็กๆไว้ให้เขา
จะไม่มีการดื่มอีกต่อไปก่อนการพิชิตเกาะหลัก
ในเวลานั้นเขายังคงเมามายและกำลังคุยกันว่าลูกในอนาคตของเขาควรมีความสามารถแบบไหน ดังนั้นเขาจึงตอบตกลงไปอย่างไม่ใส่ใจ ซึ่งส่งผลให้เขาเกือบจะลงแดงแอลกอฮอล์ทั้งหลายในช่วงเวลานี้
เขาอาจไม่รักษาคำพูดกับคนนอก แต่เขายังคงรักษาคำพูดของเขาอย่างจริงจังเมื่อเป็นเรื่องคนของเขาเอง แม้ว่าเขาและอาร์เซอุสจะไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบผู้ใต้บังคับบัญชาของกันและกัน แต่พวกเขาก็มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด
จัดการกับคนพวกนี้ จากนั้นไปปาร์ตี้และดื่มให้จุใจ นั่นคือสิ่งที่ไคโดกำลังคิดอยู่ตอนนี้
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมก่อนที่เรือจะเทียบท่า เขาจึงรีบมาที่นี่เพียงลำพัง
แม้ว่า คนเหล่านี้จะต่อสู้กันที่นี้อย่างดุเดือด ซึ่งก็เป็นเพราะโจรสลัดชื่อดังแห่งนิวเวิลด์คนอื่นๆไม่ได้ให้ความสนใจกับสถานที่แห่งนี้
ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นคนหนุ่มสาวที่เพิ่งมาถึงนิวเวิลด์และพวกที่ไม่รู้ที่ต่ำที่สูง หรือผู้แพ้ที่ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดในความโหดร้ายของนิวเวิลด์ พวกเขาก็เป็นคนประเภทเดียวกันกับไคโด – พวกอ่อนแอ
“เฮ้ย เกาะนี้กลายเป็นอาณาเขตของฉันแล้ว มีใครมีปัญหากับเรื่องนี้ไหม?”
ที่นี่คือจุดนัดพบของสองกลุ่มโจรสลัด แน่นอนว่ามีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากมาย
“เรามาถึงแล้ว ถือว่าสำเร็จแล้วใช่ไหม?” ข้อตกลงของเขากับอาร์เซอุสคือการยึดครองเกาะแห่งนี้ และตอนนี้พวกเขาอยู่ที่นี่แล้ว เขาถือว่าเขาได้ยึดครองเกาะนี้แล้ว ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรในการจิบเครื่องดื่มสักหน่อย
นอกจากนี้ ไคโดไม่รู้สึกถึงภัยคุกคามจากบุคคลที่อยู่ตรงหน้า ดังนั้นเขาจึงคว้าเหยือกไวน์ที่วางอยู่ใกล้ๆโจรสลัดเหล่านี้ เขาไม่ได้ตาบอด แต่มันมีอักษรตัวใหญ่กำกับไว้ว่า “ไวน์” เขายกเหยือกไวน์ขึ้นสูง และเริ่มดื่มอย่างไม่ใส่ใจ
ฉากนี้ค่อนข้างแปลก และพวกโจรสลัดก็ตกตะลึงกันหมด แต่ความสงบก็ถูกทำลายด้วยเสียงปืน
เมื่อเห็นลูกแอปเปิ้ลของอดัมเคลื่อนไหวในขณะที่เขาดื่มไวน์ ก็มีคนยกปืนในมือขึ้นมา มันไม่ชัดเจนว่าการยิงนั้นเกิดจากการเล็งที่ไม่ดีหรืออาการประหม่า แต่กระสุนปืนพลาดจากเป้าหมาย และไคโดเหลือเพียงเหยือกที่แตกและไวน์ส่วนใหญ่ก็หกลงพื้น
เสียงปืนดังได้กลายเป็นสัญญาณ และครู่ต่อมาก็มีเสียงปืนดังขึ้นในห้อง และมีคนถึงกับถือปืนใหญ่ติดไหล่มาด้วย ตำแหน่งของไคโดถูกปกคลุมไปด้วยควันที่เกิดจากการระเบิดของดินปืน และเมื่อยิงกันจนกระสุนหมด คนเหล่านี้ก็หยุดลง
“เขาตายแล้วเหรอ?”
“เขาน่าจะตายแล้ว ใครก็ตามที่สามารถทนต่อกระสุนจำนวนมากได้จะไม่บุกเขามาอย่างกับคนบ้าเช่นเขา”
“แต่ทำไมเราถึงยิงเขา? เขามาแค่ตนเดียวเองนะ”
"ฉันก็ไม่รู้เว้ย เห็นพวกแกยิงแล้วฉันก็เลยยิงตาม”
เริ่มได้ยินบนสนทนาที่กระจัดกระจายออกมา หลายๆคนไม่เข้าใจพฤติกรรมที่ดูแปลกๆของไคโด
แต่เมื่อควันจางลง สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าต่อตาพวกเขาก็คือไคโดที่ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆเลย
“ดูเหมือนว่าพวกแกจะไม่เห็นด้วยกับการที่ฉันจะเป็นเจ้าของเกาะนี้นะ และแกยังทำเครื่องดื่มของฉันหกด้วย รู้ไหมว่าฉันไม่ได้ดื่มมันมากี่วันแล้ว?”
กระบองหนามเหวี่ยงออกไปและพลังงานไร้รูปร่างจากกระบองกระทบกับชายคนแรกที่เปิดฉากยิง ร่างที่แตกสลายปลิวไปเหมือนกระสอบฉีกขาดกลางอากาศ และในที่สุดก็ตกลงไปในกองไฟภายในห้องอันอบอุ่น
เปลวไฟเผาไหม้เสื้อผ้าและเนื้อของเขาถูกทำให้เป็นเถ้าถ่านภายใต้อุณหภูมิสูง ซึ่งส่งกลิ่นของเนื้อที่ไหม้เกรียมออกมา แต่มันก็สลายไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางลมหนาวที่พัดมา
พวกโจรสลัดไม่มีเวลาสนใจคนตาย เพราะพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับไคโดที่โกรธแค้นอยู่
ไม่ว่าจะเป็นกัปตันและลูกเรือที่แข็งแกร่งหรือขี้ข้าที่ยืนเฝ้าประตู ในขณะนี้พวกเขาทั้งหมดเหมือนกัน ไม่มีใครต้านทานการโจมตีของไคโดได้
นี่คือช่องว่างแห่งความไม่เท่าเทียมกันทางพลัง โดยที่ไคโดได้สร้าง 'ความเท่าเทียมกัน' ในรูปแบบที่แปลกประหลาดในหมู่บุคคลเหล่านี้ผ่านความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขา
“เป็นไปไม่ได้…มีสัตว์ประหลาดเช่นนี้อยู่ได้ยังไง!”
คำถามนี้มาจากกลุ่มโจรสลัดที่เพิ่งมาถึงนิวเวิลด์ สำหรับพวกเขา ผู้ซึ่งไม่มีความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับนิวเวิลด์ ศัตรูที่พวกเขาพบในตอนแรกยังอยู่ในขอบเขตความเข้าใจของพวกเขา
แม้ว่าพวกมันจะค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่ก็ยังสามารถถูกฆ่าได้
แต่สำหรับไคโด สัตว์ประหลาดตัวนี้ แม้แต่ดาบที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังหัก และแม้แต่กระสุนที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังเหลือเพียงเถ้าถ่านสีดำไว้เบื้องหลัง แม้แต่ผู้ใช้ความสามารถที่เคยแสดงท่าทีเย่อหยิ่งบนเรือมาก่อนก็ไม่คู่ควรกับการต่อสู้กับไคโด
ความหวาดกลัวแพร่สะพัดไปทั่วฝูงชน ผู้คนพยายามวิ่งและหลบหนีความตายที่ใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว
ไคโดไม่ได้พยายามที่จะหยุดพวกเขา คราวนี้เขาไม่ขาดการสนับสนุนอีกต่อไป
ข้างนอกยังมีกลุ่มโจรสลัดนอนอยู่บนพื้นด้วย ซึ่งเป็นผลมาจากการอาละวาดของไคโดขณะที่เขาบุกทะลวงผ่านมา
พวกเขาวิ่งสลับไปมาระหว่างพื้นที่ลึกและตื้นท่ามกลางหิมะที่ตกลงมา โดยมองย้อนกลับไปเป็นครั้งคราว พวกเขาต้องการไปถึงเรือที่จอดอยู่ที่ท่าเรือแล้วออกจากที่นี่ ออกจากนิวเวิลด์อันน่าสะพรึงกลัวนี้
ความแข็งแกร่งทางกายภาพของไคโดได้ทำลายความเชื่อของเขา
ด้านหน้าของเขามีมุมอยู่ และเมื่อเขาเลี้ยวหัวมุม เขาก็จะมองเห็นท่าเรือริมฝั่งทะเล
แต่เขาวิ่งชนเสา และเมื่อเงยหน้าขึ้นมอง เขาก็พบว่ามันไม่ใช่เสาเลย แต่เป็นแบรคิโอซอรัสที่แปลกประหลาดยืนอยู่ตรงนั้น
สถานที่ที่เรือเคยเทียบท่าอยู่ตอนนี้กลายเป็นสถานที่ที่วุ่นวายมาก
ความเร็วของไคโดเร็วเกินไป ทิ้งสมาชิกคนอื่นๆของกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรไว้ข้างหลัง และสมาชิกที่เหลือก็เริ่มจัดการกับโจรสลัดคนอื่นที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังเช่นกัน
โจรสลัดเหล่านี้อ่อนแอกว่าโจรสลัดที่จุดนัดพบ แต่แค่มีจำนวนมากกว่าเท่านั้น
บทบาทที่สำคัญที่สุดของไอ้พวกอาหารปืนใหญ่ลูกเรือของไคโดคือการสนับสนุนสนามรบหรือควบคุมปืนใหญ่บนเรือ เนื่องจากพวกมันไม่ได้แข็งแกร่งกว่าโจรสลัดเหล่านี้มากนักในแง่ของพลังการต่อสู้ขั้นพื้นฐาน
อย่างไรก็ตาม ในระดับการต่อสู้ระดับสูงของระดับผู้นำ โจรสลัดที่นี่ถูกบดขยี้อย่างสมบูรณ์
ไม่จำเป็นต้องให้อาร์เซอุสเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วยซ้ำ ไฟ ก้อนหิน และคมมีดใบไม้ของความสามารถ "โซออนสัตว์มายาในตำนาน" ทำให้เกิดการโจมตีที่รุนแรง ในขณะที่ปืนใหญ่ของศัตรูส่วนใหญ่เงียบไปเนื่องจากการซุ่มยิงที่แม่นยำของเอลิซาเบธ เหล่าทหารปืนใหญ่เหล่านั้นจึงไม่มีโอกาสยิง
แม้ว่าพวกเขาจะซ่อนตัวอยู่ในห้องโดยสารของเรือ แต่กระสุนน้ำ "สไนเปอร์" ของเอลิซาเบธก็มีพลังเพียงพอที่จะทะลุแผ่นไม้ของเรือได้
แม้ว่าสำหรับอาร์เซอุส แล้ว การพิพากษาเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอที่จะทำลายเรือโจรสลัดทั้งหมดได้ แต่ก็ไม่ได้มีความจำเป็นต้องทำเช่นนั้น คนเหล่านี้เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ใช่เจ้านายของเขา ถ้าพวกเขาทำอะไรไม่ได้เลย แล้วจะมีพวกเขาไปทำไม?
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาไม่ได้คัดค้านสิ่งเหล่านี้ สำหรับโจรสลัดเหล่านี้ การต่อสู้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ
ถ้าถามว่าใครมีความรู้สึกภายในที่ซับซ้อนที่สุดบนเรือ ก็คงจะเป็นเอเซียร์