ตอนที่แล้วบทที่ 26: [สำรวจอิสระ] มุ่งสู่ดันเจี้ยน!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 28 : [สำรวจอิสระ] ท่อระบายน้ำอันแห้งเหือด (1)

บทที่ 27: [สำรวจอิสระ] ไร้นาม


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 27: [สำรวจอิสระ] ไร้นาม

ฟึบ!

แสงสว่างได้ผุดขึ้นมา เมื่อข้าเดินผ่านประตูไปก็พบว่าตัวข้ากำลังยืนอยู่บนท่าเรือที่อยู่ใกล้กับริมทะเลสาบ เบื้องหน้าข้า พื้นที่สีฟ้าเข้มของทะเลสาบกำลังกระพริบแสงออกมา

นี่คือบ้านเกิดของพวกสัตว์ประหลาด นรกที่พวยพ่นพวกปีศาจออกมา

ทะเลสาบสีดำซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของโลก

ฟึบ! ฟึบ!

สมาชิกทีมเริ่มโผล่ออกมาจากประตู ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้างขณะที่พวกเขากำลังสำรวจทิวทัศน์โดยรอบที่น่าอัศจรรย์

“สถานที่แห่งนี้ … มันคือ ‘ทะเลสาบ’ นั้นจริงๆ ด้วย”

จูปิเตอร์พึมพำ เสียงของนางสั่นสะท้านขณะที่นางกำลังสำรวจพื้นผิวอันกว้างใหญ่ของทะเลสาบ ข้าเหลือบมองไปทางนาง

“เจ้าเคยเห็นที่นี่มาก่อนใช่ไหมจูปิเตอร์?”

"เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ยามที่กองกำลังจักรวรรดิยังประจำการในครอสโรด พวกเขาพยายามที่จะเติมดินในทะเลสาบแห่งนี้”

เติมดินในทะเลสาบขนาดมหึมานี้งั้นหรือ? ดูเหมือนเมื่อยี่สิบปีก่อน ผู้บัญชาการจะปัญญาอ่อนก็เป็นเรื่องปกติสินะ

“พวกเขาสั่งให้กองนักเวททั้งหมดใช้เวทย์มนตร์เพื่อถมดินเข้าไปในทะเลสาบ แต่...”

“เกิดอะไรขึ้นกัน?”

“มันไม่เคยเต็มเลย ไม่ว่าเราจะทิ้งดินและหินไปมากแค่ไหน ทะเลสาบก็กลืนมันลงไปอย่างไร้ที่สิ้นสุด”

ความกลัวได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของจูปิเตอร์ขณะที่นางหวนนึกถึงอดีต

“มีข่าวลือไปทั่วในหมู่กองทหารของจักรพรรดิยามนั้น กล่าวว่ามันเหมือนจะเป็นเส้นทางลงไปสู่ห้วงอเวจี”

“…”

“หนึ่งสัปดาห์หลังปฏิบัติการ พวกสัตว์ประหลาดเริ่มพุ่งออกมาเป็นฝูง ในที่สุดทั้งกองทัพทั้งหมดก็ต้องล่าถอยไป การดำเนินการนี้ถือว่าล้มเหลว”

จูปิเตอร์ดับซิการ์ลงและจ้องมองไปที่ทะเลสาบ

“นี่คือจุดที่ใกล้ที่สุดที่ข้าเคยเห็นแล้ว”

“ก็คงเป็นเช่นนั้น”

ข้าหันกลับไปมองสมาชิกทีมทุกคน

“แต่เรากำลังจะลงลึกไปอีก”

แม้จะมีบรรยากาศอันแปลกประหลาดตลบอบอวลทั่วทะเลสาบ แต่ภูมิทัศน์โดยรอบก็ค่อนข้างน่าทึ่งพอสมควร

ทว่าเราไม่ได้มาที่นี่เพื่อชมวิวทิวทัศน์ ดังนั้นเลิกประหลาดใจกับสภาพแวดล้อมได้แล้ว

“ไปกันเถอะ”

ข้ากล่าวพร้อมกับเดินนำทั้งทีมไป

ตรงประตูถัดจากทะเลสาบมีท่าเรือตั้งอยู่ แต่ที่นี่ไม่มีเรือ ขณะที่ข้าเดินไปที่ขอบท่าเรือนั้นเอง

[ท่านต้องการเข้าสู่ ’อาณาจักรทะเลสาบ’ หรือไม่?]

>ใช่

>ไม่

ข้อความระบบปรากฏขึ้นจากที่ไหนก็ไม่รู้

แน่นอนว่าต้องใช่อยู่แล้ว

[※ คำเตือน – ท่านจะกลับมาไม่ได้จนกว่าจะปลดล็อก ’จุดปลอดภัย’ ถัดไป ท่านยังต้องการดำเนินการต่อหรือไม่?]

>ใช่

>ไม่

มันยังโยนคำเตือนเพื่อตรวจสอบอีกครั้ง

ข้าไม่สนใจและกด 'ใช่' อีกครั้ง พวกเขาคิดว่าข้าเป็นมือใหม่ในเกมนี้หรือไงกัน?

ฟูมม…!

น้ำในทะเลสาบแยกออกเป็นวงกลม เผยให้เห็นช่องว่างอยู่ตรงกลาง

หากประตูที่เราเดินผ่านไปก่อนหน้านี้นำเราไปยังทะเลสาบ นี่ต่างหากคือประตูจริงไปยังดันเจี้ยน

“เอาล่ะ ดำดิ่งลงไปกันเถอะ!”

ข้าไม่คิดอธิบายและเป็นคนแรกที่กระโดดลงไปในทะเลสาบ

สมาชิกทีมเดินตามหลังมาทีละคนด้วยความประหลาดใจ

ฟู้มม!

เมื่อลงไปในทะเลสาบสีดำสนิทที่ไม่มีเศษเสี้ยวของแสงทะลุผ่าน ข้าก็ถูกดึงเข้าไป

***

[กำลังโหลด…]

[เคล็ดลับ – สาเหตุหลักที่เกมจบส่วนใหญ่เกิดจาก ’ความประมาท’ จงอย่ามั่นใจเกินเหตุ เตรียมพร้อมรับทุกสถานกาณณ์!

***

ความมืด

นั่นคือสิ่งแรกที่รับรู้ ความมืออันไร้อนันต์

มากมายจนมองไม่เห็นมือที่กุมอยู่ตรงหน้า ความมืดที่จับต้องได้ ราวกับว่าใครจะจับมันก็ได้ถ้าพวกเขายื่นมือออกมา มันกำลังกลืนกินสิ่งรอบข้างของเรา

กึก กึก

เสียงดังก้องอยู่ในความมืด

เหล่าแมลงกำลังกัดแทะบางอย่าง

ครืด ครืด...

เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกที่ความมืดกำลังคืบคลานเข้ามายิ่งรู้สึกมากขึ้น

บางทีมันอาจเป็นเพียงจิตใจของข้าคิดไปเอง แต่ข้าสาบานได้ว่าข้ารู้สึกถึงลมหายใจที่กระซิบกระซาบกับต้นคอของข้า

ความหนาวสั่นได้แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายข้า

“องค์ชาย?!”

จากนั้นเสียงอันตื่นตระหนกของลูคัสก็ดังขึ้น

ไม่สิ มันมาจากข้างหลังงั้นเหรอ? หรือด้านข้างกัน? ทิศทางไม่ชัดเจน ประสาทสัมผัสของข้าเหมือนจะผิดแปลกไปชั่วขณะ

“องค์ชาย? ท่านอยู่ที่ไหนองค์ชาย!”

"ตรงนี้ อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไป"

ข้ากล่าวกับลูคัสที่กำลังกังวลด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“ทุกคนอยู่ในความสงบ จงทำให้พื้นที่สว่างขึ้นเสีย”

ช่วงเวลาต่อมา แสงก็เริ่มปรากฏขึ้น

ฟูมม ฟูมม

สมาชิกแต่ละคนของทีมจุดแสงและถือคบเพลิงที่พวกเขาพกติดตัวไว้

ลิลลี่เรียกคาถาเปลวไฟออกมาเพื่อปัดเป่าความมืดที่ห่อหุ้มอยู่ด้วยความเร่งรีบของนาง เนางคงต้องกลัวมากแน่ๆ

ครืดด ครืดด...

เมื่อแสงไล่ความมืดกลับไป เสียงกัดแทะของแมลงก็ได้เงียบหายลง

ข้าเองก็ดึงแหล่งกำเนิดแสงจากกระเป๋าของข้าออกมาเช่นกัน

โคมไฟที่ข้านำมามีโครงที่แข็งแรงมาก ดูเหมือนว่าไอเดอร์จะเลือกเจ้าสิ่งนี้ด้วยความระมัดระวังพอสมควร

วู้บบ-

เมื่อจุดตะเกียงและยกขึ้นสูง พื้นที่โดยรอบก็กลายเป็นจุดสนใจ

“นี่มันอะไรกัน...?!”

“โอ้ พระเจ้า นี่มันอะไรเนี่ย?”

เสียงที่ตกตะลึงของสมาชิกในทีมของข้าดังก้องอยู่ในพื้นที่กว้างใหญ่ของถ้ำ ข้ากลืนก้อนน้ำลายแห่งความหวาดกลัวขณะที่สายตาของข้ามองไปโดยรอบ

เมืองศิลาที่กว้างใหญ่และเต็มไปด้วยบรรยากาศคล้ายกับมันเพิ่งจะผ่านหายนะมา

เมืองที่ยิ่งใหญ่นี้จมอยู่ใต้ก้นทะเลสาบที่มืดมิดและเรากำลังยืนอยู่ที่ประตูทางเหนือ

ประตูเหล็กเคลือบสนิมได้ถูกปิดผนึกอย่างแน่นหนา

ครืด ครืดด...

บรรยากาศเป็นลางไม่ดีได้ล่องลอยมาจากในเมือง ลูคัสกลืนน้ำลายอย่างแรงมองมาที่ข้า สีหน้าของเขาตึงเครียดและรู้สึกไม่สบายใจยิ่ง

“องค์ชาย ที่ไหนในโลกมันจะ…”

“นี่คืออาณาจักรทะเลสาบที่จมอยู่ใต้น้ำ มันคือดันเจี้ยนใต้เกลียวคลื่น”

เมื่อมองไปยังประตูเมืองที่ปิดสนิท ข้าก็หัวเราะออกมาอย่างประหลาด

“มันเป็นรังของพวกสัตว์ประหลาดที่เราจะต้องกวาดล้างมัน”

เสียงหัวเราะของข้าเต็มไปด้วยความกังวล เหงื่อเย็นเหยียบได้เกิดขึ้นที่หลังคอของข้า

มันดูน่าขนลุกเล็กน้อยเมื่อมองจากในเกม แต่พอมายืนอยู่ที่นี่ในโลกความเป็นจริงแล้ว มันช่างน่าสะพรึงโดยแท้

รู้สึกราวกับว่าพลังงานที่ชั่วร้ายกำลังไหลออกมาจากในเมือง

เวทมนตร์โบราณห่อหุ้มเมืองไว้ในโดม สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมือนกันกับโลกพื้นผิวเอาไว้ เราหายใจได้และไม่มีอุปสรรคต่อการเคลื่อนไหวของเรา

ทว่าจงอย่าลืมว่าเรากำลังอยู่ในน้ำกัน พื้นผิวที่เป็นลูกคลื่นของน้ำสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

มีเพียงแสงบางเบาเท่านั้นที่ส่องลงมาจากด้าน

ลิลลี่ตะลึงงันจนถึงกับพูดติดอ่าง

“เมืองอันยิ่งใหญ่เช่นนี้จะมาซ่อนอยู่ใต้ทะเลสาบได้ยังไงกัน? แล้วทำไมเราถึงเคลื่อนไหวแบบนี้ได้…”

"เงียบ!"

ทันใดนั้น ลูคัสก็รีบหยุดลิลลี่อย่างเร่งรีบ

“มีคนกำลังเข้ามาใกล้”

สายตาของทุกคนหันไปในทิศทางที่เขาบอก

ตุ้บ ตุ้บ

ที่ไหนสักแห่งในความมืดที่ห่างไกล เสียงแผ่วเบาของเท้าได้ดังก้อง

ลูคัสปลดดาบของเขาออกมา เดเมี่ยนเตรียมหน้าไม้และจูปิเตอร์ก็รวมพลังสายฟ้าไว้ที่ถุงมือ

“กึก!”

มีเพียงลิลลี่ที่สั่นกลัว นางพยายามถอยกลับด้วยรถเข็นของนาง

เดี๋ยวก่อน นี่เจ้ากำลังคิดจะหนีไหนกัน? ข้าคว้าที่จับรถเข็นของลิลลี่เพื่อหยุดนางเอาไว้

“ทุกคนใจเย็นก่อน คนผู้นี้ไม่น่าใช่ศัตรู”

ตุ้บ ตุ้บ

ตามที่คาดไว้ ร่างที่ใกล้เข้ามาไม่ใช่สัตว์ประหลาดแต่เป็นมนุษย์

ผู้หญิงคนหนึ่งได้ดึงผ้าคลุมศีรษะที่เก่าไปตามอายุของมันขึ้นไป นางเดินเข้ามาหาเรา สายตาของนางประเมินกลุ่มของเราโดยไม่กังวลอะไร

“เจ้าเป็นผู้แสวงหาสมบัติภายในอาณาจักรทะเลสาบอย่างกล้าหาญงั้นหรือ?”

น้ำเสียงของนางชัดเจนและมีชีวิตชีวา น้ำเสียงนั้นดูอ่อนเยาว์อย่างไม่น่าเชื่อ

“ที่นี่ไม่มีอะไรให้พวกเจ้า จงถอยกลับไปสู่ผิวน้ำในขณะที่เจ้ายังหายใจอยู่”

ในห้วงอเวจีนี้ มันช่างน่าแปลกที่เราได้พบกับผู้ที่ยังมีชีวิต

ทั้งทีมชะงักไปแล้ว แต่ข้าก็ยังตั้งสติได้

นี่เป็นกิจกรรมการสอนทั่วไปที่ออกแบบมาเพื่อแนะนำผู้เล่นที่เพิ่งก้าวเข้าสู่ดันเจี้ยน

’ในดันเจี้ยนแรกจะมี NPC คอยนำทางอยู่’

NPC

ในดันเจี้ยนใต้ทะเลสาบแห่งนี้ ยังมีผู้ที่ไม่ยอมจำนนและยืนหยัดอยู่

บางครั้งก็ช่วยในการสำรวจดันเจี้ยน บางครั้งก็ขัดขวาง

พวกเขาอาจเป็นพันธมิตรกับผู้เล่นชั่วขณะ อาจกลายเป็นตัวละครฮีโร่ให้ได้ หรือบางทีอาจกลายเป็นปฏิปักษ์ก็ได้เช่นกัน

NPC เช่นนี้กว่าร้อยคนกำลังอาศัยอยู่ในดันเจี้ยนนี้ มีโอกาสแบบสุ่มด้วยที่จะพาทีมผู้เล่นไปยังฐานแรกของพวกเขา

’แต่หน้าตาของนางดูไม่คุ้นเคยเลย’

แม้ว่าจะเล่นเกมมาแล้ว 742 ครั้ง แต่ข้าก็ไม่เคยเจอนางมาก่อนเลย

’เกมนี้มี NPC แบบนี้ด้วยเหรอ?'

ข้ามองร่างตรงหน้าด้วยความสนใจ

นางเป็นผู้หญิงที่น่าสนใจมาก

ให้เรียกสภาพนางว่าผ้าขี้ริ้วคงจะดีเกินไปด้วยซ้ำ ตัวนางถูกห่อหุ้มด้วยเสื้อคลุมที่ฉีกขาดคล้ายกับกระสอบ

ใบหน้าของนางถูกปกปิดภายใต้ผ้าคลุมหน้าที่ติดอยู่กับเสื้อคลุมของนาง เรือนผมสีขาวของนางถูกผูกปมและลากไปทั่วพื้น

เท้าของนางเปลือยเปล่า เต็มไปด้วยสิ่งสกปรกและคราบสกปรก ห่างไกลจากรูปลักษณ์ที่สะอาดของนางเป็นอย่างมาก

และบนหลังของนางมีดาบยาวเล่มหนึ่ง

อาวุธของนางน่าสงสัยยิ่ง เพราะมันอยู่ในสภาพที่น่าสังเวชมาก

ใน ’ปกป้องอาณาจักร’ รอบที่ 742 ข้าคิดว่าข้าได้พบกับ NPC แทบทุกคนที่อาจพบในดันเจี้ยนได้แล้ว

แต่ผู้หญิงคนนี้เป็นคนแรกที่ข้าเพิ่งเคยพบมา

ด้วยความไม่สบายใจ ข้าก้าวไปข้างหน้าและพูดกับผู้หญิงคนนั้น

“เรามาจากผิวน้ำ ภารกิจของเราคือการกำจัดแหล่งที่มาของสัตว์ประหลาดที่โผล่ออกมาที่นี่”

“…”

ผู้หญิงคนนั้นจ้องมาที่ข้า แม้ว่าจะถูกคลุมด้วยผ้าคลุมหน้าและผมอันยุ่งเหยิง แต่ข้าก็รู้สึกถึงความรุนแรงของสายตาที่จ้องมองมา

“โลกพื้นผิวต้องทนทุกข์ทรมานภายใต้การโจมตีของสัตว์ประหลาดที่ถือกำเนิดขึ้นที่นี่ เรามาที่นี่เพื่อทำให้เรื่องนี้จบลง”

“…ฝันร้ายของอาณาจักรทะเลสาบยังคงนิทรา ไม่มีผู้ใดสามารถปลุกมันให้ตื่นขึ้นได้ ไม่เคยมี”

หญิงสาวค่อยๆ ส่ายศีรษะไปมา

“นักรบผู้ยิ่งใหญ่จำนวนมากและวีรบุรุษจำนวนนับไม่ถ้วนได้พยายามที่จะทำลายคำสาปของสถานที่แห่งนี้ แต่ทุกคนล้วนร่วงโรยไป เจ้าก็คงจะไม่แตกต่างกัน”

“…”

“จงอย่าเหยียบเข้าไปในความมืดของที่แห่งนี้ ถอยกลับไปบนพื้นผิวในขณะที่เจ้ายังสามารถทำได้ ก่อนที่ขุมนรกจะกลืนกินเจ้า ก่อนที่ความเสียใจจะทำให้เจ้ากลายเป็นบ้า…”

หากเราคล้อยตามคำเตือนเช่นนี้ เราคงกลับไปแล้ว

แต่แทนที่จะถอยกลับไป ข้าก้าวเข้าไปใกล้นาง

“ข้าคือเจ้าเมืองครอสโรด เมืองป้อมปราการที่ต่อต้านสัตว์ประหลาด มันเป็นหน้าที่ของข้าที่จะปกป้องเมืองของข้า ไม่สิ เหล่ามนุษยชาติจากสัตว์ประหลาดพวกนี้”

“…”

“ข้าไม่กลัวความมืด เราต้องเข้าไปในเมืองนี้และกำจัดแหล่งที่มาของพวกสัตว์ประหลาด”

ข้าชี้ไปยังทางประตูที่ถูกปิดผนึกไว้แน่น

“นั่นคือเหตุผลที่เรามาที่นี่ แต่ประตูที่ถูกล็อคอยู่ปิดกั้นทางเข้าของเราเอาไว้”

“…”

“ถ้ามีเส้นทางอื่น เจ้าช่วยชี้ทางให้เราหน่อยได้ไหม?”

หญิงสาวลอบมองข้าอย่างเงียบๆ ในที่สุดก็พยักหน้าตอบกลับมา

“น่าสนใจ ไม่อาจแยกแยะได้เลยว่าคำพูดของเจ้าเกิดจากความกล้าหาญอย่างแท้จริงหรือความประมาทอันบริสุทธิ์กันแน่”

ทันใดนั้นหญิงสาวจึงหันไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว

"ตามข้ามา ทางเข้าเมืองอยู่ทางนี้”

เมื่อนางเดินหายตัวไปในเงามืดอย่างมั่นใจ ข้าก็เรียกเธอ

“ข้าควรเรียกเจ้าว่าเช่นไร? เจ้าชื่ออะไรหรือ?”

ข้าหวังว่าจะรวบรวมเบาะแสเกี่ยวกับตัวตนของนางหากข้ารู้ชื่อของนาง

ทว่าคำตอบของนางทำให้ข้าไม่ทันตั้งตัวสักนิดเดียว

“ข้าลืมนามของข้าไปแล้ว”

นางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศก

“ถ้าเจ้าต้องการ...ก็จงเรียกข้าว่าไร้นาม”

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด