ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 293 - สังหาร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 295 - สู้ด้วยความแข็งแกร่งทางกายภาพ

นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 294 - แก่นพันธุกรรมของพยัคฆ์ปีกดำ


ด้วยสภาพคฤหาสน์ที่พังทลายลงมาเกือบทั้งหมด ภารกิจตามล่าหาสมบัติของเดวิดกลายเป็นเรื่องที่ยากและท้าทายขึ้นมาแล้ว เขาต้องใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงในการค้นหาอย่างถ้วนถี่ ค่อย ๆ รื้อซากเศษอิฐและปูนอย่างอดทน แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นคุ้มค่า รอยยิ้มกว้างสดใสปรากฏหราอยู่บนใบหน้าของเดวิด บนหลังสะพายกระเป๋าเป้ใบโตที่อัดแน่นจนแทบปริ มือทั้ง 2 ข้างถืออาวุธขนาดใหญ่เดินออกมาจากซากปรักหักพังอย่างชื่นบาน

หลังจากใช้เวลาไปพอสมควร ในที่สุดเดวิดก็หาห้องคลังสมบัติของแกงค์ปีกโลหิตจนพบ และเมื่อได้รู้ว่าแกงค์อาชญากรเล็ก ๆ แกงค์นี้ร่ำรวยขนาดไหน เขาก็ได้แต่เบิกตากว้างด้วยความยินดี เหรียญดาวที่เก็บอยู่ในห้องนั้นมีมูลค่าหลายล้านเหรียญ อาวุธนาโนอีก 10 ชิ้น และชุดรบอีก 1 ชุด ไม่สิ! ชุดรบนั้นมี 2 ชุด เดวิดถอดชุดที่หัวหน้าแกงค์ปีกโลหิตสวมใส่อยู่ออกมาเก็บไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว อย่างไรเสีย เธอคงจะไม่ต้องต่อสู้กับใครอีก!

หลังจากที่เดวิดจับทุกอย่างยัดใส่กระเป๋าเป้ใบใหญ่ที่ตัวเองเจออยู่ในคฤหาสน์ เขาก็เริ่มคำนวณมูลค่าของ ‘สมบัติ’ ที่เก็บได้ในคราวนี้ออกมา และผลลัพธ์อย่างคร่าว ๆ ก็คือ มันไม่น่าจะต่ำกว่า 5,000,000 ล้านเหรียญดาว ซึ่งทำให้แก้มของเดวิดนั้นแทบจะปริไปด้วยรอยยิ้มกว้าง 5,000,000 เหรียญดาว มันหมายถึง 2,500,000 คะแนนจีโน สำหรับนักเรียนคนหนึ่งแล้ว นี่เป็นความร่ำรวยที่ไม่มีใครกล้าคาดฝันถึงอย่างแน่นอน

เมื่อรวมทรัพย์สินที่เพิ่งได้มาเข้ากับคะแนนจีโนที่เขามีอยู่แล้ว เดวิดมั่นใจว่าตัวเองสามารถจัดหาทรัพยากรสำหรับฝึกฝนทักษะต่าง ๆ ได้อย่างพอเพียงแน่ เขาจะไร้ข้อจำกัดทางด้านเงินทุนอีกต่อไป และตอนที่กลับมาคิดถึงความยากลำบากของการทำภารกิจที่ได้ผลตอบแทนอย่างน้อยนิดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เดวิดก็ได้แต่ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น การทำลายแกงค์ในเมืองเล็ก ๆ นี่ครั้งเดียว ได้ผลตอบแทนมากกว่าภารกิจที่เคยทำผ่านมาทั้งหมดเสียอีก

ถึงแม้ว่าเขาจะตั้งใจเลือกภารกิจที่ได้ผลตอบแทนสูง รับทำเฉพาะภารกิจที่เกี่ยวกับแกงค์อาชญากรแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเดวิดจะไม่มีโชคมากนัก เกือบทุกแกงค์ที่เขากำจัดไป ล้วนเป็นแกงค์ที่ยากจนข้นแค้น ต่อให้เป็นแกงค์ที่ร่ำรวยที่สุดก็มีทรัพยสมบัติอยู่แค่หลักแสนเท่านั้น ไม่เคยมีงานไหนให้ผลตอบแทนสูงขนาดนี้เลย

หลังที่จัดการห่อเก็บอาวุธนาโนด้วยผ้าที่หาเจอเสร็จ เดวิดก็หันซ้ายหันขวาสำรวจไปรอบ ๆ อีกครั้ง ก่อนที่จะหมุนตัวเพื่อจากไป ภารกิจล่าสมบัติเสร็จสิ้นแล้ว! ไม่สิ! เขาลืมอะไรไปบางอย่าง เดวิดชะงักเท้าลงอย่างครุ่นคิด

“แก่นพันธุกรรม! ให้ตายสิ! ฉันลืมของสำคัญไปได้ยังไงนะ?” เขาพึมพำออกมาในที่สุด มือถูกยกขึ้นมาเขกหัวตัวเองอย่างแรงเป็นการลงโทษ การลืมสมบัติที่มีค่ามากขนาดนี้ เป็นความผิดที่ให้อภัยไม่ได้เลยจริง ๆ

เดวิดเลือกที่จะวางซ่อนกระเป๋าเป้และห่ออาวุธเอาไว้ในที่ลับตา ก่อนที่จะหันจ้องไปที่ตัวคฤหาสน์ซึ่งกลายเป็นซากปรักหักพังอยู่ในตอนนี้ เขาระบุได้อย่างรวดเร็วว่าตำแหน่งที่เคยเป็นประตูใหญ่นั้นตั้งอยู่ตรงไหน หัวขโมยหนุ่มคนนั้นฉลาดหรือโง่ เดวิดก็ไม่แน่ใจมากนัก การซ่อนของที่ขโมยออกมาไว้ในบริเวณคฤหาสน์แบบนี้ มันหมายถึงว่าจะต้องลอบแทรกซึมผ่านการป้องกันที่แน่นหนาเข้ามาอีกครั้ง หรือว่าเจ้านั่นจะมีช่องทางลับ? เดวิดคิดคาดเดาไปต่าง ๆ นานา แต่ในที่สุดก็ส่ายหัวสลัดความคิดที่ไร้ประโยชน์พวกนั้นทิ้งไป

เขาเอื้อมมือลงไปหยิบดาบหัก ๆ เล่มหนึ่งบนพื้นขึ้นมาถือไว้ ก่อนที่จะก้าวเดินไปทางด้านซ้ายมือของส่วนที่เคยเป็นประตูคฤหาสน์ และเริ่มลงมือขุดลงไปที่พื้นอย่างรวดเร็ว ตำแหน่งที่ขุดนั้นอยู่ห่างจากประตูไปเพียง 5 เมตรเท่านั้น เดวิดใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะหัวหน้าแกงค์คนนี้น่าจะเป็นโรคจิตหวาดระแวงอย่างหนัก แม้แต่หน้าประตูคฤหาสน์ที่อยู่ในกำแพง เธอก็วางกับระเบิดเอาไว้ด้วย และจุดที่เขากำลังขุดลงไปนั้น อยู่ไม่ได้ห่างจากกับระเบิดเลย

เดวิดใช้เวลาอยู่นานพอสมควร สีหน้าของเขานั้นมืดดำลงเรื่อย ๆ ตามความลึกของหลุมที่ขุดลงไป จนในที่สุด เดวิดก็ลุกขึ้นยืนด้วยดวงตาที่โกรธเกรี้ยวเย็นชา หมุนตัวกลับเพื่อจะไปจัดการกับหยางซู่ที่เขาจับมัดเอาไว้ โทษฐานที่หลอกลวงเรื่องที่ซ่อนแก่นพันธุกรรม เขาขุดลึกลงไปเกือบเมตรแล้ว แต่ตรงจุดนั้นไม่มีอะไรถูกฝังเอาไว้เลย

เขาเพิ่งก้าวออกมาได้ก้าวเดียว เสียงเยาะเย้ยของเฮเซลก็ดังขึ้นมาในหัว

“นายขุดผิดที่! ทางด้านซ้ายของประตูที่เขาบอกหมายถึงตอนที่ออกมาจากด้านใน แต่นายกำลังยืนมองจากข้างนอกเข้าไป มันต้องอยู่อีกด้านหนึ่งต่างหาก!”

เดวิดชะงักเท้าพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้าง ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างหัวเสีย “แล้วทำไมเพิ่งบอก?”

“ก็ไม่ได้ถามนี่! แล้วถ้าโง่นัก ก็ควรจะปล่อยให้เหนื่อยเสียบ้างจะได้จำ” เฮเซลกล่าวดูถูกออกมา

มันทำให้เขาได้แต่กรอกตาไปมาอย่างหงุดหงิด แต่ก็เลือกที่จะไม่ตอบโต้อะไรกลับไป  รีบมุ่งหน้าไปลงมือขุดยังจุดที่น่าจะถูกต้องกว่าแทน

เฮเซลเข้าใจได้ถูกต้องแล้ว หลังจากปักดาบลงไปเพียงแค่ 2-3 ครั้ง มันก็กระทบเข้ากับของแข็งบางอย่างที่ถูกฝังอยู่ใต้ดิน เดวิดรีบขยายปากหลุมให้กว้างขึ้น เขากระทั่งใช้มือเปล่ากวาดเศษดินเศษทรายอย่างระมัดระวังเสียด้วยซ้ำ และในที่สุด กล่องโลหะสีน้ำตาลก็เผยโฉมออกมาให้เห็น

ด้วยดวงตาที่เป็นประกาย เดวิดหันไปคว้าดาบขึ้นมาไว้ในมืออีกครั้ง แต่ก่อนที่เขาจะได้ปักมันลงไปในดิน ดวงตาก็ต้องหรี่ลงอย่างกะทันหัน กล้ามเนื้อทั่วทั้งตัวสั่นไหว และร่างของเดวิดก็หายไปในพริบตา

ตูม!

เสียงระเบิดดังสนั่นขึ้น จุดที่เขาเคยยืนอยู่กลายเป็นหลุมลึกเกือบ 1 เมตร เดวิดที่ปรากฏตัวห่างออกจากจุดเดิมออกไป 5 เมตรหันกลับมาจ้องมองที่ตัวต้นเหตุด้วยความโกรธเกรี้ยว

แต่ดูเหมือนว่าชายคนนั้นจะไม่ได้สนใจเขามานักเลย นอกจากสายตาที่แสดงถึงความประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นเดวิดสามารถหลบการโจมตีออกไปได้  ความสนใจของชายแปลกหน้านั้นอยู่ที่กล่องโลหะสีน้ำตาลอย่างชัดเจน

“ในที่สุด! แก่นพันธุกรรมของพยัคฆ์ปีกดำก็อยู่ในมือฉันได้เสียที เฮ้อ แม้ว่าจะยุ่งยากไปบ้าง แต่ในที่สุดก็สำเร็จล่ะนะ” เสียงที่พึมพำออกมานั้นดูตื่นเต้นเป็นอย่างมาก มือที่เอื้อมลงไปหยิบกล่องถึงกลับมีอาการสั่นน้อย ๆ เลยด้วยซ้ำ

‘พยัคฆ์ปีกดำ’ เป็นสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ที่น่าจะสูญพันธุ์ไปแล้ว มันถูกเหล่ายอดฝีมือตามล่าสังหารอย่างหนักเมื่อหลายร้อยปีก่อน เหตุผล? เพราะว่ามันมีปีกที่แข็งแกร่งเหนือธรรมดา คุณสมบัติอันยอดเยี่ยมของปีกคู่นั้น มันสามารถใช้บิน โจมตี และแม้กระทั่งป้องกันได้อย่างยอดเยี่ยม มันเป็นปีกที่มีความสมดุลครบทุกด้าน เป็นปีกที่สไปรเยอร์และเฟสเซอร์ทุกคนยอมทุ่มทุกอย่างเพื่อให้ได้มันมาครอบครอง

ปีกของสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ชนิดอื่น? พวกมันเป็นตัวเลือกที่อยู่ลำดับรองลงไป มีสิ่งมีชีวิตน้อยนักที่จะมีคุณสมบัติรอบด้านแบบนี้ และโอกาสในการได้รับปีกที่แข็งแกร่งจากสิ่งมีชีวิตอื่นจะน้อยเป็นอย่างยิ่ง ยังไม่นับถึงว่า ความแข็งแกร่งของสิ่งมีชีวิตพวกนั้นจะสูงกว่าพยัคฆ์ปีกดำมากอย่างเทียบไม่ติด มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะล่าเพื่อนำแก่นพันธุกรรมมา

ที่สำคัญที่สุด เซรั่มพันธุกรรมสำหรับการปลูกถ่ายปีกของพยัคฆ์ปีกดำถูกคิดค้นได้สำเร็จ และมีประสิทธิภาพสูงมาก ถ้ามีแก่นพันธุกรรมเป็นส่วนผสม โอกาสที่จะปลูกถ่ายได้สำเร็จแทบจะ 100 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

‘จาเร็ด’ เป็นผู้ที่ชื่นชมในความงดงามของหัวหน้าแกงค์ปีกโลหิต ‘ลาเวีย’ เขายอมทุ่มเททรัพยากรสนับสนุนเธอให้เข้ามามีอำนาจอยู่ในเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ ทั้งเพื่อให้ทำงานสกปรกบางอย่างให้ตัวเอง และแน่นอน! เพื่อให้ได้สาวงามมาเชยชม แม้จะมันก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เขาได้ครอบครองเธออย่างสมใจ

ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดีไม่มีเรื่องตื่นเต้นอะไร จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ จาเร็ดได้ข้อมูลมาว่าแก่นพันธุกรรมของพยัคฆ์ปีกดำปรากฏขึ้นในบริเวณใกล้เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ เขาเป็นคนสั่งการให้หัวหน้าแกงค์ปีกโลหิตตามหาและแย่งชิงมันมาครอบครอง และมันก็เกิดเรื่องที่ทำให้หัวเสียขึ้น แก่นพันธุกรรมหายไป!

อันที่จริง จาเร็ดมาถึงที่นี่ตั้งแต่ลาเวียยังไม่ตาย แต่เขารอจังหวะนี้อยู่ รอให้มีคนเปิดเผยตำแหน่งที่ซ่อนของแก่นพันธุกรรมที่ถูกขโมยไป ความตายของลาเวีย? การล่มสลายของแกงค์ปีกโลหิต? ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะสนใจเลยแม้แต่นิดเดียว...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด