ตอนที่ 45+46
ตอนที่ 45 ฝ่าบาท ท่านเป็นคนมุ่งมั่นมาก
วันต่อมา เหล่าขุนนางได้แปะราคาใหม่
ไม่ช้าก็โดนสามัญชนที่ตาแหลมพบเข้า และตะโกน“ใต้เท้า เมื่อวานราคาบ้านปูนยังเป็น20ตำลึงเงินอยู่เลย ทำไมวันนี้ถึงเป็น21เล่า?”
ขุนนางพูด“เพราะฝ่าบาทรู้ว่าบ้านที่เตรียมไว้ขายไม่ได้ เขาเลยไม่พอใจและเพิ่มราคาขึ้นหนึ่งตำลึงเงิน!”
ชาวบ้าน“บ้าจริง!”
ทุกคนตกใจ!
พวกเขารอดูแค่สองวันเอง เหนือสิ่งอื่นใด ไม่ว่าบ้านจะถูกแค่ไหน มันก็มีค่าถึง20ตำลึงเงิน ซึ่งเป็นรายได้ของพวกเขาหลายปี!
มันต้องคิดให้รอบคอบก่อนจะใช้เงินก้อนโตแบบนี้!
เป็นผลให้ ถ้าไม่พอใจ ราคาก็จะเพิ่มและทุกครั้งที่เพิ่มจะเพิ่มหนึ่งตำลึงเงิน!
ฝ่าบาท ท่านเกินไปแล้ว!
ราชาโง่!
ตอนนี้มีน้อยคนที่ซื้อบ้าน หลายคนรอดู
ดังนั้นอีกวันจึงผ่านไป
ขุนนางฉีกราคาบ้านเก่าออกและแปะอันใหม่
ชาวบ้านพบอย่างรวดเร็วและอุทาน“ใต้เท้า ทำไมท่านถึงเพิ่มราคาอีกแล้ว?ท่านเพิ่มเป็น22ตำลึงเงินแล้วนะ ซึ่งแพงกว่าปกติถึง2ตำลึงเงิน!”
ขุนนางพูด“เพราะฝ่าบาทรู้ว่าบ้านยังขายไม่ได้ เขาเลยไม่พอใจ ไม่พอใจเอามากๆและเพิ่มราคาขึ้นอีก โปรดเข้าใจด้วย!”
ชาวบ้าน“บัดซบ!”
ราชาโง่นั่นเพิ่มราคาเพราะขายไม่ได้?
ถ้าไม่พอใจก็อย่าลงกับบ้านสิ!
หลังหนึ่งวันผ่านไปแบบนี้ ขุนนางก็มาพร้อมป้ายใหม่
ทุกคนสังเกตเห็นด้วยสายตาเฉียบแหลมและตะโกน“ใต้เท้า อย่าบอกข้านะว่าราคาบ้านเพิ่มอีกแล้ว?”
ขุนนางพยักหน้า”เจ้าเดาถูก อีกหนึ่งตำลึงเงิน!’
ชาวบ้านตะโกน“ทำไมมันถึงเพิ่มอีกแล้ว?ฝ่าบาททรงไม่พอใจอีกแล้วรึ?”
ขุนนางส่ายหัว“ไม่ วันนี้ฝ่าบาททรงมีความสุขมาก!”
ชาวบ้านตะโกน“มีความสุข แล้วทำไมจึงเพิ่มราคา?”
“เพราะฝ่าบาทบอกว่าอยากเล่นสนุกกับผู้คน และถ้าไม่ซื้อบ้านที่ราคาถูก ก็แสดงว่าพวกเจ้าไม่ชอบ!เช่นนั้นฝ่าบาทเลยเพิ่มราคา พวกเจ้าควรจะชอบมันกันแล้วใช่ไหม?”
ชาวบ้าน“บัดซบ!”
นี่มันตรรกะอะไร?
เจ้าไม่พอใจและเอยากเพิ่มราคา เจ้าพอใจและก็อยากเพิ่มราคาเช่นกัน!
ฝ่าบาท ช่วยหยุดเล่นได้ไหม?
ในวันที่สี่ หลินเป่ยฟานเพิ่มราคาอีกตำลึงเงิน เหตุผลเพราะปลาที่เขากินวันนี้ไม่สดพอและเขาก็หดหู่มาก และเพิ่มราคาอีก
ชาวบ้าน“ไอ…”
วันที่ห้า ราคาเพิ่มอีกตำลึงเงิน
เหตุผลเพราะ ข้าแค่อยากเล่น ถ้าเจ้าแน่ ก็มาหาเรื่องข้าสิ
ชาวบ้าน“ค….”
เรื่องนี้กระจายไปถึงหูคนนอกอย่างรวดเร็วและทุกคนก็หัวเราะลั่น
“หนึ่งตำลึงเงินทุกวัน จักรพรรดิโง่นั่นขายบ้านไม่ได้ หม้อมันแตกแล้ว!”
“ฮ่าๆ จริง!”
“ไม่ช้าก็เร็ว บ้านเมืองก็ต้องล่มจมในมือคนแบบนี้!”
“ฮ่าๆ!”
…
วันที่หก ขุนนางนำป้ายราคาออกมาอีกและเตรียมแปะ
แต่ตอนนั้นเอง เขาก็โดนกลุ่มชาวบ้านล้อม
“ใต้เท้า อย่าเพิ่งแปะ รอข้าซื้อบ้านก่อน!”
“ใช่ ถ้ามันขึ้นราคาอีก ข้าคงซื้อบ้านไม่ไหว!”
“วันนี้จะเพิ่มอีกหนึ่งตำลึงเงิน ใครจะทนได้!”
“ใต้เท้า!”
..
ขุนนางลำบากใจ“แต่ข้าจะไม่แปะก็ไม่ได้ ถ้าไม่แปะ มันจะถือเป็นการละเมิดคำสั่งของฝ่าบาท ข้าจะโดนลงโทษ!ใครใช้ให้พวกเจ้ารอกันนานขนาดนี้ เริ่มรู้สึกเสียใจกันแล้วหรือไง?”
ชาวบ้านเหล่านี้ใจสลาย
“เราเสียใจจริงๆ หลังลังเลอยู่หลายวัน ราคาก็เพิ่มขึ้นเยอะเกินไป!”
“ข้าโกรธจนนอนไม่หลับทั้งคืน!”
“เรามาที่นี่ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ไม่งั้นเราคงซื้อบ้านไม่ไหว!”
“ใต้เท้า โปรดให้โอกาสเราด้วย การซื้อบ้านไม่ใช่เรื่องง่ายๆนะขอรับ”
..
ภายใต้การอ้อนวอนของทุกคน ขุนนางไม่มีทางเลือกนอกจากถอนหายใจ“อืม พวกเจ้าน่าสงสารมาก มันลำบากใจจริงๆ ข้าจะช่วยพวกเจ้าละกัน วันนี้ข้าจะยังไม่แปะป้ายราคาใหม่!”
ชาวบ้านดีใจกันมาก
“ขอบคุณ ใต้เท้า!”
“ท่านคือพระโพธิสัตว์ของข้า!”
…
ดังนั้น ขุนนางจึงส่งเอกสารซื้อบ้านให้ทุกคน
เมื่อคนอื่นรู้เข้า พวกเขาก็รีบกรูกันมาซื้อบ้าน
“ข้าขอเข้าไปก่อน ข้ามีตำลึงเงินพอ!’
“ข้าแก่แล้ว ความอาวุโสต้องมาก่อน ข้าขอซื้อบ้านก่อน!”
“ข้าเป็นผู้หญิง ถ้าเจ้าแตะตัวข้าอีกครั้ง ข้าจะตัดมือเจ้า!’
..
ทุกคนกรีดร้องจะเป็นคนแรก กลัวว่าถ้าช้าไป ราคาจะเพิ่ม
ฉากนี้วุ่นวายมากและเหอเซินก็ส่งขุนนางชั้นผู้น้อยนับร้อยมารักษาระเบียบ
ตอนที่ 46 ชาวบ้านเข้าแถวกันเพื่อมอบเงินให้ราชาโง่!
แม้จะเป็นระเบียบแล้ว ก็มีคนมาซื้อบ้านกันเพิ่ม และแถวก็ยาวเหยียด ขุนนางที่รับผิดชอบการขายบ้านมีจำกัด พวกเขายุ่งจนถึงมืด
เหอเซินส่งคนบางคนไปช่วยขั้นตอนการลงทะเบียน
แต่สุดท้าย มันก็ยุ่งจนถึงมืด และยังมีหลายคนที่กำลังซื้อบ้าน แต่ขุนนางก็เหนื่อยจนตาเห็นดาว
“วันนี้ปิดแล้ว ไว้กลับมาพรุ่งนี้!’
คนที่เข้าแถวไม่ยอมแพ้และล้อมเหล่าขุนนางไว้เป็นชั้นๆ ป้องกันพวกเขาจากการกลับ
“พรุ่งนี้อะไร?ถ้าพรุ่งนี้ราคาขึ้นอีกละ?’
“ใช่ ฝ่าบาทเอาแน่เอานอนไม่ได้ ถ้าพรุ่งนี้ราคาขึ้นละ?”
“เราจ่ายไม่ไหวหรอก!”
“ต้องทำให้ข้าวันนี้ ไม่งั้นข้าจะไม่กลับ!”
..
“แต่เรายุ่งทั้งวันแล้ว พวกเจ้าต้องปล่อยเรากลับไปพัก!”ขุนนางหน่ายใจ หลังรับราชการมานานหลายปี นี่คือวันที่พวกเขาเหนื่อยที่สุด
“อย่าไป!’
“ใต้เท้า นี่..”
เหอเซินมองชาวบ้านที่ยั่งต่อแถว ครุ่นคิด“อืม มันไม่ง่ายที่ชาวบ้านจะซื้อบ้านกัน มาทำงานกันให้หนักขึ้น!ยุงต่อไป ข้าจะเรียกคนมาช่วย!สลับกันพักซะ!”
“ขอบคุณ ใต้เท้า!’
ดังนั้น ทุกคนจึงทำงานกันข้ามวัน
คนขายได้มีความสุข พวกที่ซื้อก็มีความสุข
ในเวลาแค่วันเดียว พวกเขาก็ขายบ้านได้สองหมื่นหลัง และได้เงินกลับมาสองแสนตำลึงเงิน
หลังเหตุการณ์นี้ ทุกคนก็มาซื้อบ้านกันเป็นฝูง
คนนับไม่ถ้วนกรูกันมาซื้อบ้านทุกวี่วันและมีแถวยาวเหยียด กลัวว่าถ้าช้าไปสักนาที ฝ่าบาทจะทรงเพิ่มราคาอีก
ราคาเพิ่มขึ้นทีละหนึ่งตำลึงเงิน ซึ่งเท่ากับเงินเดือนพวกเขาหลายเดือน
ดังนั้น พวกเขาจึงยอมเหนื่อยเพิ่มเพื่อซื้อบ้านให้ได้ก่อน
แบบนี้ ในเวลาไม่ถึงห้าวัน บ้านทั้งหมดแสนหลังก็ขายหมด
“ทุกคน บ้านขายหมดแล้ว ไว้ค่อยกลับมากันตอนบ้านชุดสองเปิดขาย!”
ชาวบ้านที่ยังอยู่ในแถวตกใจ
“บ้านขายหมดแล้ว เร็วมาก?”
“ใต้เท้า ข้ากำลังพัฒนาที่ดินและก็เดินทางกลับมาแค่เพื่อซื้อบ้าน!”
“ข้าขุดแม่น้ำ และก็รีบกลับมาซื้อบ้าน!”
“เราเองก็มีส่วนช่วยบ้านเมือง โปรดมอบโอกาสให้เราด้วย!”
“ยังมีบ้านชุดสองอีกไม่ใช่หรือไง?เราจะซื้อตอนนี้ไม่ได้เหรอ?”
…
เหอเซินอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก“ข้าไม่อาจตัดสินใจได้ ข้าต้องไปถามฝ่าบาทก่อน!ถ้าฝ่าบาทตกลง งั้นก็ได้!”
“ต้องรบกวนใต้เท้าเข้าวังไปทูลฝ่าบาทแล้ว!ข้าหวังว่าฝ่าบาทจะเมตตาเรา!’ทุกคนอ้อวนอ
ดังนั้น เหอเซินจึงเข้าวังไป
หลังคุยกับหลินเป่ยฟาน เขาก็ออกมาด้วยใบหน้าเบิกบาน”ฝ่าบาททรงเห็นด้วยแล้ว พวกเจ้าได้มีส่วนร่วมต่อบ้านเมืองและสร้างความสำเร็จ ดังนั้น บ้านชุดสองจะเปิดขายล่วงหน้า ราคาจะไม่เปลี่ยน 25 ตำลึงเงิน มาก่อนได้ก่อน!’
ชาวบ้านดีใจ“ขอบคุณ ใต้เท้าเหอ!ขอบพระทัยฝ่าบาท!”
ดังนั้น พวกเขาจึงเข้าแถวกันส่งเงินให้หลินเป่ยฟานต่อด้วยใบหน้าเบิกบาน
ส่วนพวกที่รอเยาะเย้ยหลินเป่ยฟานก็ตกตะลึง
“บัดซบ!ยิ่งบ้านราคาแพง มันยิ่งขายเร็ว!’
“บ้านชุดแรกขายหมด บ้านชุดสองก็กำลังขาย พวกเขากำลังส่งเงินให้ราชาโง่นั่น!’
“เหตุผลคืออะไร ข้าไม่เข้าใจเลย!’
“มันบ้ามาก!ราชาโง่นั่นรอดหายนะอีกแล้ว!”
“ราชาโง่นั่นทำเงินได้ง่ายๆเลย!”
“พระเจ้าไม่ยอมเปิดตา!”
..
ครั้งนี้ ในวัง เหอเซินรายงานต่อหลินเป่ยฟาน
“เรียนฝ่าบาท บ้านชุดแรกขายหมดแล้วและชุดสองก็ขายไปแล้วกว่าครึ่ง ทั้งหมด2.12ล้านตำลึงเงิน!ไม่เพียงเงินเดือนทั้งหมดจะจ่าย แต่ยังมีเหลือบ้านให้ขายอีก!’
“และในอนาคต เราจะได้150000ตำลึงเงินทุกเดือน บวกกับภาษี200000ตำลึงเงิน คลังเราจะมีเงินจ่ายไปอีกครึ่งปี!”
“นอกจากนี้ พอบ้านชุดสองขายได้เพิ่ม รวมถึงขายแร่และอื่นๆ เงินทุนจะได้คืนและข้าน้อยก็มั่นใจว่ามันจะปรับสมดุลของรายรับและรายจ่ายในครึ่งปี!”
“ดี ดีมาก!”หลินเป่ยฟานพยักหน้าพอใจ
เหยาเหยาตกใจ“จักรพรรดิน้อย เจ้าทำได้จริงๆ และยังทำให้ชาวบ้านส่งมอบเงินอย่างเต็มใจ!แต่เหยาเหยาขอถามว่าทำไมยิ่งบ้านแพง มันถึงยิ่งขายได้เร็ว นี่ไม่สมเหตุสมผลเลย!”
หลินเป่ยฟานถอนหายใจ“นี่คือธรรมชาติของมนุษย์!ธรรมชาติมนุษย์จะโลภ กลัวว่าจะขาดทุน เชื่อมั่นอย่างหลับหูหลับตา ควบคู่กับพฤติกรรม ปรากฏการณ์นี้จึงเกิด!”
เหยาเหยาถูหัว“ข้าไม่เข้าใจ..”
“มันเป็นปกติ มันยากจะเข้าใจด้วยสมองของเจ้า!’
เหยาเหยาโกรธ“เจ้าหาว่าข้าโง่เหรอ?”
หลินเป่ยฟานพูด”ไม่ ข้ากำลังชมเจ้าที่ไร้เดียงสาและน่ารัก!’
“ฮึ่ม!ถือว่าเจ้ามีตา!”เหยาเหยายิ้มเชิด