ตอนที่แล้วบทที่ 29: ทุกสายตาจับจ้องมาที่ฉัน (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 31: ทุกสายตาจับจ้องมาที่ฉัน (4)

บทที่ 30: ทุกสายตาจับจ้องมาที่ฉัน (3)


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 30: ทุกสายตาจับจ้องมาที่ฉัน (3)

ในที่สุดการเรียนช่วงบ่ายของวันจันทร์ก็สิ้นสุดลง

'อึก'

ฉันบีบต้นขาของตัวเองเอาไว้แน่น

การใช้ ทะลุขีดจำกัด เพียงแค่ 10 วินาที กลับส่งผลเสียต่อร่างกายของฉันมากเลยทีเดียว

ฉันพยายามทำให้ร่างกายที่สั่นเทาสงบลง ตอนนี้ฉันแทบจะไม่สามารถลืมตาได้เลย

โชคดีที่การประเมินทักษะภาคปฏิบัติหลังการดวล มีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการจัดการเหตุฉุกเฉิน นั้นจึงเป็นผลให้ร่างกายของฉันไม่พังทลายลง ฉันจึงสามารถอดทนได้มาถึงตอนนี้

'นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ฉันเลือกใช้ ทะลุขีดจำกัด'

อย่างไรก็ตาม การประเมินทักษะภาคปฏิบัติยังค่อนข้างยาก

ถ้าเป็นชั้นเรียนทฤษฎี ฉันสามารถนั่งพักผ่อน และปล่อยให้จิตใจล่องลอยไป

“เฮ้อ ฉันเหนื่อยแล้วล่ะ ไปกันเถอะ”

“โอเค ได้สิ มีร้านช็อคโกแลตเชคอร่อยๆใกล้หอพักด้วยนะ เราไปแวะกันไหม?”

"ฟังดูเข้าท่านะ."

ฉันได้ยินนักเรียนคนอื่นๆคุยกัน

...การได้เข้ามาเรียนอย่างปลอดภัยทุกครั้งคงรู้สึกโล่งใจบ้างไม่มากก็น้อย? เมื่อฉันผ่อนคลายความตึงเครียดที่มีอยู่ลง ความง่วงก็เข้ามาครอบงำฉันอย่างรวดเร็ว

แต่ฉันยังนอนหลับไม่ได้ วันนี้เป็นวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันประชุมปกติของชมรมยุทธวิธีและกลยุทธ์

[ภารกิจย่อย: เข้าร่วมและมีส่วนร่วมในกิจกรรมอย่างน้อย 2 ชมรม]

รางวัล: 2 เหรียญทอง

'ฉันน่าจะเข้าร่วมแค่สองชมรม ทำไมฉันถึงเข้าร่วมถึงสามกันนะ? '

ถึงกระนั้นรางวัลก็น่าดึงดูดเกินไป โอเค ฉันจะทำมัน

ขณะที่ฉันคิดจะตามไอช่าไปยังชมรม ก็มีคนเรียกชื่อฉันขึ้น

“นี่ธีโอ”

น็อคตาร์เข้ามาหาฉันพร้อมยื่นถุงสีดำให้

ดูจากเนื้อสัมผัสแล้ว มันคือยาฟื้นฟูของเผ่าน็อคตาร์

ราวกับว่าเขาล่วงรู้อนาคตได้

มันบังเอิญว่าฉันพึ่งใช้อันสุดท้ายไปเมื่อวานนี้เอง

"...นายรู้ได้ยังไงว่ายาที่นายให้มามันหมดแล้ว?"

“ฉันคิดว่านายคงใช้มันหมดไปแล้วล่ะ ถ้านายกินมันเป็นประจำ ฉันก็เลยเอามาเพิ่มให้”

“ขอบคุณนะ งั้นฉันไปร่วมกิจกรรมชมรมก่อนนะ แล้วเจอกัน”

ฉันไล่ตามไอช่าอย่างรวดเร็ว

ไม่นานนักฉันก็เห็นเธอนั่งอยู่บนม้านั่งใต้ต้นไม้ใหญ่

ฉันหายใจเข้าแล้วเดินเข้าไปหาเธอ

“ฉันมาแล้ว ไอช่า ขอโทษที่มาสาย”

“ให้ตายเถอะธีโอ! ทำไมนายมาช้าจัง? ฉันมารอนานแล้วนะ รถม้าเพิ่งออกไปเมื่อกี้นี้ งั้นวันนี้เราก็ค่อยๆเดินไปละกัน”

“โอเค เข้าใจแล้ว เอางั้นก็ได้”

"···พูดเหมือนครั้งที่แล้วเลยนะ เฮ้อ ในตายสิ······"

ฉันกับไอชารักษาระยะห่างประมาณสามก้าว ขณะที่รอรถม้าหน้าทางเข้าหลักของห้องฮีโร่

'ฮึ.'

แต่ละก้าวของฉันรู้สึกราวกับว่าร่างกายกำลังจะล้มลง

ฉันก้าวขึ้นรถม้าอย่างหมดแรง

เนื่องจากนักเรียนส่วนใหญ่ขึ้นรถม้าก่อนหน้านี้กันไปหมดแล้ว ภายในรถม้าคันนี้จึงค่อนข้างเงียบ

"······"

ความง่วงครอบงำฉันอย่างรวดเร็ว

ฉันพยายามพูดคุยกับไอช่าซึ่งนั่งอยู่มุมตรงข้ามกับฉันเท่าที่จะทำได้

“ไอช่า ฉันมีเรื่องอยากจะขอร้องหน่อย”

"...อะไรหรอ?"

“ถ้าถึงแล้วช่วยปลุกฉันหน่อยนะ”

ไอช่าองมาที่ฉันด้วยสีหน้างุนงง

เธอคงจะช่วยฉันใช่ไหม?

"······ฉันไว้ใจเธอนะ."

จากนั้นฉันก็หลับไปทันที

ไอช่ามองดูธีโอที่นั่งอยู่ห่างๆด้วยสีหน้าเศร้าหมอง

แม้ว่าพวกเขาจะดูคล้ายกัน แต่รูปร่างหน้าตาของพวกเขาก็แตกต่างกัน เมื่อตรวจสอบอย่างใกล้ชิด

ลักษณะของไอช่า [สายตาอันเฉียบคม] เปิดใช้งานแล้ว

เธอมองเห็นผมสีเงินแวววาว แก้มสีขาวไร้ที่ติ และขนตายาวอันละเอียดอ่อน

สันจมูกตรงและแนวกรามที่คมชัด

สายตาของเธอจับจ้องไปที่เขา

เขาดูคล้ายกับประติมากรรมที่สวยงามซึ่งสร้างขึ้นโดยช่างฝีมือคนแคระ

ไอช่าพบว่าเป็นเรื่องยากที่จะละสายตาจากธีโอ ซึ่งกำลังเอนตัวหลับตาอยู่มุมรถม้า

คร่อก, คร่อก

เธอหวนนึกถึงลมหายใจของเขา เมื่อตอนที่เธอเคยได้ยินครั้งที่เข้าไปในป่าฝั่งตะวันออก

'เขาดูน่ารักขึ้นมากเมื่อเขาหลับ'

เขาคงจะหมดแรงสินะ

หลังดวลกับปิเอลคงเหนื่อยและเจ็บใจมากแน่ๆ

เธอเข้าใจเขาดี

แม้ว่าเธอจะอยู่ในอันดับที่ 6 แต่เธอก็รู้สึกถึงช่องว่างที่ก้าวผ่านไม่ได้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับปิเอลซึ่งอยู่ในอันดับที่ 2

เธอไม่เคยท้าดวลปิเอลอีกเลย เพราะความพยายามครั้งต่อไปมีแต่จะทำให้เธอต้องอับอายเท่านั้น

'ถึงกระนั้น ในฐานะผู้สืบเชื้อสายของตระกูลวัลเดิร์ก เขาควรมีจิตวิญญาณเช่นนั้น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมแพ้ในการเป็นผู้นำตระกูลคนต่อไป'

เวลาผ่านสักพัก

เสียงเคลื่อนรถม้าก็หยุดลง และนักเรียนก็หลั่งไหลกันขึ้นไปบนรถม้า

"!"

ไอช่าตกใจหันหน้าออกไปนอกหน้าต่างทันที ราวกับว่าเธอกับธีโอเป็นคนแปลกหน้า

อย่างไรก็ตาม เมื่อนักเรียนทุกคนนั่งประจำที่บนรถม้าเรียบร้อยแล้ว ไอช่าก็เหลือบมองไปที่ธีโออีกครั้ง

***

คอของฉันรู้สึกแห้งผากอย่างไม่น่าเชื่อ

“…อืม”

เมื่อตระหนักได้ถึงความรู้สึกที่มีผู้คนในตอนนี้ ฉันจึงลืมตาขึ้น

เมื่อมองไปรอบๆ ก็รู้ได้ทันทีว่าฉันยังอยู่ในรถม้า

ซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยนักเรียนคนอื่นๆ ต่างจากตอนก่อนหน้าที่ฉันจะเผลอหลับไป

ฉันเห็นไอชาจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างช้าๆ

"…"

เมื่อมองออกไปข้างนอก ฉันคาดว่าคงใช้เวลาประมาณสิบนาทีกว่าจะถึง

'มันไม่ใช่เวลาที่จะหลับต่อ'

ฉันเพียงแค่จ้องมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสายตาพร่ามัว

***

ในที่สุด ธีโอและไอช่ามาถึงสถานที่นัดพบของชมรมยุทธวิธีและกลยุทธ์

โชคดีที่พวกเขาทันเวลา

สมาชิกชมรมต่างสังเกตเห็นว่าธีโอดูเซื่องซึมมากกว่าปกติ

ออร่าอัน่นาเกรงขามตามปกติของเขาดูอ่อนลง

"ฉันดีใจที่เราไม่สายนะ"

ขณะที่ธีโอนั่งลง สมาชิกคนอื่นๆ ในกลุ่มก็สบตากันอย่างรู้กัน

'เขาต้องอารมณ์ไม่ดีมากแน่ๆ'

“มันแทบจะเป็นการประจานเขาในที่สาธารณะจริงๆ ปิเอลทำเกินไปนะ ไม่ว่าเธอจะรังเกียจธีโอหรือไม่ ยังไงก็ตาม”

“แต่การที่เขาลุกขึ้นมาได้เรื่อยๆ...มันก็น่าประทับใจมากไม่ใช่น้อยเลย”

ดูเหมือนพวกเขาจะเข้าใจและไม่อยากที่จะรบกวนธีโอ

แม้แต่แอนดรูว์ก็ยังจ้องมองอย่างเห็นอกเห็นใจ

***

ฉันตรงกลับหอพักหลังจากทำกิจกรรมชมรมเสร็จ

แม้แต่อาหารเย็นฉันก็เมินมันไป

ฉันไม่มีพลังแม้แต่จะเคี้ยวและกลืนอาหารลงไปด้วยซ้ำ

'อ่า นี่มันบ้าจริงๆเลย'

ฉันใช้ทักษะเพียง 10 วินาทีเท่านั้น แต่ร่างกายของฉันกลับต้องมาอยู่ในสภาพนี้งั้นเหรอ?

พรุ่งนี้ฉันจะลุกไหวไหมนะ?

“วันนี้กลับมาเร็วนะคะ นายน้อย”

เอมี่ก้มศีรษะด้วยท่าทางที่ดูมีความสุข

ฉันพยักหน้าเบาๆเป็นการรับทราบ

"ฉันจะขึ้นไปพักผ่อนนะ"

“…แต่นายน้อย ตอนนี้ยังไม่ถึง 2 ทุ่มเลยด้วยซ้ำนะ…”

"ฉันจะไปนอนก่อน"

ฉันไม่มีแรงแม้แต่จะพูด

ทิ้งเอมี่ซึ่งดูเหมือนจะมีอะไรจะพูดไว้ข้างหลัง ฉันโบกมือแล้วเดินเข้าไปในห้อง

ฉันอยากจะนอนเดี๋ยวนี้ แต่ฉันก็ไม่สามารถเข้านอนได้โดยไม่ล้างร่างกายที่สกปรกก่อน

ศักดิ์ศรีของขุนขางผู้บิดเบี้ยวของฉันคงจะไม่ปล่อยให้ฉันไปถึงจุดนั้นแน่

ฉันต้องรีบอาบน้ำ

ฉันรวบรวมพลังแล้วมุ่งหน้าไปห้องน้ำ

หลังจากชำระล้างร่างกายอย่างรวดเร็วแล้ว ฉันก็ล้มตัวลงนอนบนเตียง

"อ่า"

พอถึงเตียงนอนแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะหลับได้ง่ายๆสินะ

ภาพการดวลของฉันกับปิเอลผุดขึ้นมาในหัว

'ความแตกต่างของเรานั้นมากเกินไป'

แม้ฉันจะอยู่ในสภาวะทะลุขีดจำกัด แต่ฉันก็ยังไม่สามารถแม้แต่จะโจมตีให้เฉียวเสื้อผ้าของเธอได้เลย

ฉันไม่ได้โกรธหรือรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม

ช่องว่างระหว่างความสามารถเรานั้นมากเลยเกิน

'ค่าสถานะของเราในตอนนั้นน่าจะใกล้เคียงกันแท้ๆ'

ความแตกต่างคงอยู่ที่ลักษณะ ทักษะ และความเร็วของเรา

ในเกมต้นฉบับมีความสมจริงอย่างแปลกประหลาดในบางแง่

ตัวอย่างเช่น มีฉากที่ไม่สมจริง เช่น คุณลักษณะและการตื่นตัว แต่ในขณะเดียวกัน มีฉากที่สมจริงมากซึ่งความเร็วและเทคนิคมีความสำคัญมากกว่าความแข็งแกร่งในการต่อสู้ด้วยดาบ

ต้องขอบคุณ [ดวงตาผู้สังเกตการณ์] จริงๆที่ทำให้ฉันไม่ตกหลุมพลางเทคนิคเดิมซ้ำสองครั้ง แต่ปิเอลเองก็มีทักษะถึงขั้นเป็น [เจ้าศาสตรา] และ [ปรมาจารย์ดาบ]

ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ เธออยู่ระดับที่เธอสามารถสร้างทักษะดาบของเธอเองได้

หากทักษะดาบของปิเอลเปรียบเสมือนยักษ์ ฉันก็คงเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดจิ๋วที่เกาะอยู่บนไหล่ของยักษ์สินะ

แต่ฉันจะมายอมแพ้เพราะแค่นี้ไม่ได้

สิ่งที่ฉันทำได้คือพยายาม

ฉันจะพยายามเลียนแบบเธอให้ได้

อย่างน้อยในภาคเรียนนี้ ฉันต้องโจมตีเธอให้ได้หนึ่งครั้งฉันถึงจะพอใจ

'เนื่องจากฉันไม่สามารถทำอะไรเกี่ยวกับคุณสมบัติที่ฉันมีได้ในตอนนี้... ฉันควรมุ่งเน้นไปที่การฝึกฝนทักษะและความเร็วของฉัน'

ขณะที่ฉันไตร่ตรองเรื่องนั้นอยู่ ฉันก็นึกถึงคำพูดของไอรีนเกี่ยวกับการไปเจอหน้าอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง

ที่เธอพูดตอนนั้นดูจริงจังมาก ไม่ได้ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องตลกเลย

"ฟู่"

...พรุ่งนี้ฉันควรจะไปห้องอัศวิน

ไอรีนน่าจะสามารถหาวิธีแก้ปัญหานี้ได้

***

วันรุ่งขึ้น วันอังคาร

การบรรยายในห้องเรียนของห้องอัศวินกำลังดำเนินไปด้วยดี

"...ด้วยเหตุนี้ เมื่อเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่สวมชุดเกราะเต็มตัว พวกเธอควรเล็งไปที่ข้อต่อที่เกราะไม่ได้ปกคลุมอยู่ นั่นคือเหตุผลที่พวกเธอควรจะพกกริชติดตัวไว้เสมอ"

แม้ว่าจะเป็นนักเรียนดีเดน แต่มีนาก็พบว่ามันยากเหมือนกันที่จะมีสมาธิกับชั้นเรียนได้ตลอดเวลา

นี่ก็เป็นเพราะไอรีนที่แต่งหน้ามาเรียนถึงสองวันติดต่อกันนับตั้งแต่เปิดเรียนมา ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยทำมาก่อน

"..."

มีนายังคงเหลือบมองไอรีนซึ่งแต่งหน้าไม่เหมาะกับเธอเลย

ไอรีนมีผิวที่ขาวกระจ่างใส เนียนนุ่ม และมีสีผิวสม่ำเสมอ

การแต่งหน้าแบบบางเบาน่าจะเหมาะกับเธอมากกว่า

• ····แต่ดูเหมือนว่าเธอทาแป้งมากเกินไปจนใบหน้าและลำคอของเธอสีไม่เหมือนกัน นอกจากนี้ริมฝีปากของเธอก็มีสีแดงเข้มราวกับถูกหนูกัดมาอย่างไรอย่างนั้น

'รูปร่างหน้าตาปกติของเธอดูสวยกว่านี้มาก'

มีนาไม่ใช่คนเดียวที่คิดเช่นนั้น เพื่อนของเธอก็แอบมองไอรีนด้วยเช่นกัน สีหน้าของพวกเขาแลดูเต็มไปด้วยความสับสน

แม้แต่เจค็อบที่สารภาพความรู้สึกกับไอรีนไประหว่างภาคการศึกษาแรกและถูกปฏิเสธก็ยังดูตกตะลึง

• ····มีนาจึงตัดสินใจบอกไอรีนในวันรุ่งขึ้น:

อย่าแต่งหน้าแบบนั้นอีกเลยนะ

***

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด