บทที่ 27: ค่ำคืนของแต่ละคน
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 27: ค่ำคืนของแต่ละคน
“ใช่ แบบนั้น... ยกแขนขึ้นเล็กน้อยแล้วจับให้หลวมลงอีกหน่อย”
หลังจากการซ้อม ไอรีนค่อนข้างใช้เวลาไปกับการแก้ไขท่าทางและเทคนิคโดยรวมของฉัน
อันที่จริงแล้วการได้สัมผัสประสบการณ์การต่อสู้ของจริงนั้นจะช่วยให้เห็นถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่เคยมีใครสังเกตเห็นมาก่อน
ในนิยายเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ ตัวเอกมักจะได้ตื่นรู้ในพลังของตนเองหลังจากต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง—มันจะเหมือนกับที่ฉันเคยเจอหรือเปล่านะ?
“ทำอย่างนี้ใช่ไหม?”
“ใช่ ถูกต้อง เมื่อเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่มีรูปร่างใหญ่กว่า ให้นายกางขาให้กว้างขึ้นเล็กน้อย”
ไอรีนไม่เพียงแต่มีทักษะที่ดีเท่านั้น แต่ยังมีความสามารถพิเศษในการสอนอีกด้วย
เธออธิบายสิ่งต่าง ๆ ให้ฉันเข้าใจได้ โดยไม่ต้องใช้คำศัพท์ที่ยากเกินไปโดยไม่จำเป็น
ด้วยการปรับปรุงจากเธอ ฉันสามารถนำไปใช้ได้ในการต่อสู้จริง
เยี่ยมไปเลย พรุ่งนี้ฉันมีการฝึกซ้อมแบบตัวต่อตัว ฉันจะได้นำความรู้ใหม่นี้ไปใช้สักที
"ขอบคุณนะไอรีน เธอเป็นครูที่น่าทึ่งจริงๆ"
ฉันแสดงความขอบคุณอย่างสุดหัวใจ ใบหน้าของไอรีนเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อยขณะที่เธอพูด
“ไม่เป็นไรหรอก ธีโอ นายเป็นคนที่มีความสามารถ อย่างครั้งนี้นายก็เรียนรู้มันเร็วมากเหมือนกัน เกิดอะไรขึ้นกับนาย? จู่ๆ นายก็ปลุกพลังบางอย่างขึ้นมาได้งั้นหรอ?”
“ไม่ใช่หรอก แต่ฉันได้พัฒนาลักษณะใหม่มาต่างหาก”
“ว้าว ลักษณะอะไรล่ะ?”
“มันเป็นลักษณะที่พัฒนาทักษะการสังเกตของฉัน นับตั้งแต่ฉันได้รับมัน มันง่ายมากที่จะอ่านการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้”
ฉันไม่ได้พูดถึงอย่างชัดเจนว่าคุณสมบัติที่ฉันได้รับคือดวงตาของผู้สังเกตการณ์
และฉันก็คงจะได้รับคุณสมบัติใหม่มาอีกในอนาคต ดังนั้นฉันจึงไม่สามารถเปิดเผยสิ่งนี้ออกไป
คุณสมบัติเพิ่มเติมที่ฉันได้รับคือ ลบล้างเวทย์มนตร์ และ ดวงตาผู้สังเกตการณ์
ในตอนนี้ผู้คนก็ไม่ได้สนใจอะไรกับมันมากนัก แต่เมื่อมีสามทักษะขึ้นไป ใครๆ ก็คงสงสัยในตัวฉันแน่
พวกเขาอาจจะกล่าวหาว่าฉันทำข้อตกลงกับปีศาจด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ ก่อนที่จะได้รับการประเมินทักษะ แม้แต่ตัวเจ้าของทักษะเองก็ไม่รู้แน่ชัดว่ามันคืออะไร
การประเมินทักษะและลักษณะเฉพาะก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพมากนัก มีหลายครั้งที่ให้ผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม การประเมินทักษะของโรงเรียนเอลิเนียค่อนข้างนั้นแม่นยำที่สุดแล้วในทวีป
เกือบจะเทียบเท่ากับหน้าจอสถานะในเกมก็ว่าได้ แน่นอนว่าตรวจสอบได้เพียงครั้งเดียวต่อภาคการศึกษาเท่านั้น
แต่ฉันสามารถตรวจสอบหน้าจอสถานะของฉันได้ตลอดเวลา
ขณะที่คิดอยู่ ไอรีนก็พยักหน้าแล้วพูดว่า
“ดูเหมือนว่าจะเป็นลักษณะที่มีประโยชน์มากเลยนะ หากทักษะการสังเกตของนายดีขึ้น ก็สามารถคิดหาวิธีมากมายที่จะนำไปใช้ ไม่ใช่แค่ในด้านการใช้ดาบอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม เรามาสรุปสิ่งที่ได้ในวันนี้ดีกว่า เพื่อที่จะได้เชี่ยวชาญในสิ่งที่ฉันสอนนายในวันนี้มากขึ้น และก้าวไปสู่บทเรียนต่อไป”
“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว”
“แล้วก็ มันคงจะไม่ดีเท่าไหรถ้าจะซ้อมกับคู่ต่อสู้คนเดิมซ้ำๆในตอนนี้ นายจะต้องปรับตัวให้เข้ากับดาบของนายก่อน สำหรับช่วงนี้ นายลองซ้อมกับคนอื่นๆ ดูนะ”
"ฉันจะทำตามที่เธอแนะนำนะ ขอบคุณ"
ตอนนี้ควรข้ามการฝึกความแข็งแกร่งไว้ก่อนดีกว่า อย่างที่ไอรีนบอก ฉันควรพักตรงนี้ไว้
ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป จะมีการประเมินทักษะภาคปฏิบัติ ดังนั้นการจัดการสภาพร่างกายของฉันในตอนนี้จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
ตอนนี้ 20.00 น. แล้ว ฉันมาถึงสนามซ้อมประมาณ 4 โมงเย็น อยู่ที่นี่มาประมาณสี่ชั่วโมงได้
ถ้ากินข้าว อาบน้ำ และทำอย่างอื่นก็จะ 22.00 น.
ก่อนอื่นฉันต้องกินข้าวเย็น ฉันมองไปทางไอรีน
"...ไอรีน"
เมื่อสบตากัน ใบหน้าของเธอก็แดงขึ้นเล็กน้อย และเธอก็ยิ้มอย่างเขินๆ เป็นรอยยิ้มที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน
"มีอะไร?"
ไอรีนยิ้มแล้วดูแตกต่างออกไป บางทีใบหน้าที่ยิ้มแย้มอาจเป็นการแต่งแต้มบนใบหน้าที่ดีที่สุดสำหรับเหล่าหญิงสาวจริงๆ
ฉันพูดต่อ
“ไปกินข้าวเย็นด้วยกันไหม?”
“เอ่อ...ไม่รู้ว่าตอนนี้จะมีที่ไหนเปิดบ้างมั้ยนะ?”
“บางทีร้านอาหารใกล้ๆสนามฝึกซ้อมอาจจะยังเปิดอยู่ก็ได้นะ”
“เอ่อ... งั้นเป็นคราวหน้าโอเคไหม ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากไปกินข้าวกับนายนะ...! อย่าเข้าใจผิด แต่ถ้าเป็นมื้อแรกที่กินด้วยกันหลังจากเข้าโรงเรียนมา ฉันอยากได้ที่ที่ดีกว่านี้มากกว่า…”
"เอาล่ะ ฉันเข้าใจแล้ว"
หลังจากแยกทางกับไอรีน ฉันก็ไปกินข้าวเย็นคนเดียวที่ร้านอาหารแถวๆ นี้
เมนูประกอบด้วยซุปที่มีเนื้อสัตว์และผัก และแซนด์วิชที่เต็มไปด้วยผักและไส้กรอก
ฉันหยิบซุปหนึ่งช้อนแล้วกลืนลงไป แล้วก็ตามด้วยแซนด์วิช
อย่างที่คาดไว้ ไม่สามารถเทียบกับรสชาติการทำอาหารของเอมี่ได้เลย
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นนักปรุงอาหารเหมือนกัน แต่ก็มีรสชาติที่แตกต่างกันอย่างมีชัดเจน
หลังจากทานอาหารเสร็จฉันก็นั่งรถม้ากลับหอพัก
บางทีการอ้อนวอนซ้ำแล้วซ้ำเล่าของฉันที่ว่าให้เธอไม่ต้องรอฉันกลับมาก็ได้ผลแล้ว เพราะตอนนี้เอมี่ไม่อยู่ที่นี่
'เธออาจจะรออยู่ในห้องของเธอหรือเปล่านะ?'
ฉันรีบอาบน้ำแล้วนอนบนเตียงทันที
ตอนเช้าฉันต้องไปแวะห้องทำงานของศาสตราจารย์มารีสักหน่อย ฉันอาจจะต้องตื่นเร็วกว่าปกติหนึ่งชั่วโมง
"ใกล้จะหมดแล้วสินะ"
ฉันผสมยาดั้งเดิมของออร์คที่เหลือลงในน้ำ ดื่มให้หมด แล้วก็หลับไป
***
'ฉันสงสัยว่าธีโอจะกลับมาอย่างปลอดภัยไหม'
หลังจากอาบน้ำเสร็จ ไอรีนก็นอนบนเตียงและกำผ้าห่มไว้แน่น
'แน่นอน ฉันควรจะดีใจที่เขาเรียนรู้ได้เร็ว...'
กระนั้นก็มีความรู้สึกเสียใจที่ยังคงอยู่
ด้วยความสามารถในการเรียนรู้ของธีโอ เขาจึงสามารถเชี่ยวชาญเทคนิคทั้งหมดของเธอได้ภายในภาคเรียนนี้
หากเป็นเช่นนั้น การติดต่อพูดคุยระหว่างเธอกับเขาก็อาจจะจบลง
[กิจกรรมชมรมมีไว้เพื่อการจัดการชื่อเสียง]
ทันใดนั้น คำพูดของธีโอก็เข้ามาในความคิด แน่นอนว่าเขาคงไม่โกหก
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะไม่ต้องการมัน แต่ผู้หญิงก็จะแห่กันมาเข้าหาเขาโดยธรรมชาติ
ขุนนางที่มีหน้าตาหล่อเหลาและมีเชื้อสายที่โดดเด่น
ยิ่งไปกว่านั้น ทักษะของเขาก็พัฒนาขึ้นทุกวัน และบุคลิกของเขาก็ใจดีมากขึ้น
โดยธรรมชาติแล้วผู้หญิงที่อยู่รอบตัวเขาคงจะส่งความรักให้เขาอย่างล้นหลามเป็นแน่
แน่นอนว่าเขาเป็นคู่หมั้นของเธอ แต่สาวๆ ในห้องฮีโร่ก็ไว้ใจไม่ได้ขนาดนั้น
ถึงจะมีคู่หมั้นแล้วก็ยังเข้ามาหาเขา ไอรีนได้รับรู้ถึงเรื่องนี้หลายครั้งด้วยตัวเธอเอง
เธอเชื่อว่าเขาจะไม่ยอมแพ้ แต่ความกังวลของเธอยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทันใดนั้น คำพูดที่ว่า “ต้นไม้ที่ฟาดสิบครั้งก็จะล้มลงในที่สุด” ผุดขึ้นมาในความคิดของเธอ
'ฉันไม่ควรคิดอย่างนั้น...'
หลังจากจัดการความคิดแย่ๆของเธอได้ในที่สุด ไอรีนก็รู้สึกเสียใจกับสถานการณ์ก่อนหน้านี้
'ฉันควรจะไปกินข้าวเย็นกับเขาไหมนะ'
อ่า แต่นั่นก็...
เธอกลัวว่าเขาจะมองว่ามันเป็นสัญญาณของการถูกปฏิเสธ แต่เธอไม่ต้องการให้มื้อแรกของพวกเขาจบลงที่ร้านอาหารเก่าๆ ธรรมดา ๆ
ไม่ใช่เพราะไอรีนมีรสนิยมสูง เธอมักจะทานอาหารง่ายๆ ที่โรงอาหารของนักเรียน
อย่างไรก็ตาม เธอต้องการทานอาหารมื้อแรกด้วยกันในร้านอาหารที่มีบรรยากาศที่ดี
ในทางใดทางหนึ่งก็ถือได้ว่าเป็นเดทแรกของพวกเขา
'แน่นอนว่าอะไรๆ ก็คงจะดีไม่น้อยหากอยู่กับเขา...'
อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่าเขาจะไปแวะห้องอัศวินในสัปดาห์หน้า,
ไอรีนปลอบใจตัวเองว่าแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว จึงผล็อยหลับไป
***
หอพักของห้องฮีโร่ที่ 1 ซึ่งอนุญาตให้นักเรียนที่มีคะแนนสูงสุด 10 อันดับแรกในระดับชั้นเท่านั้นเข้าพัก
ภายในห้องของปิเอลซึ่งได้อันดับสองในชั้นปี
เวลาผ่านไปและตอนนี้ก็เลย 5 ทุ่มไปแล้ว
โดยปกติแล้ว ปิเอลคงจะหลับไปแล้ว แต่เธอก็นอนไม่หลับ เป็นเพราะการดวลตัวต่อตัวที่กำหนดไว้ในวันถัดไป
ปิเอลวางแผนที่จะท้าดวลกับธีโอ
ในช่วงเวลาดวลตัวต่อตัว นักเรียนจะจับคู่และดวลกันอย่างอิสระ
ความทรงจำของภาคการศึกษาแรกก็เข้ามาในใจ หลังจากสัปดาห์ที่หกของภาคเรียนแรก ปิเอลก็ไม่ได้ดวลกับคนอื่นๆเลย นอกจากนีกี้
นั่นเป็นเพราะว่าหลังจากดวลกับเธอเพียงหนึ่งครั้ง คู่ต่อสู้ทุกคนก็จะหมดกำลังใจและสูญเสียจิตวิญญาณการต่อสู้ของพวกเขาไป
ในการดวลตัวต่อตัวครั้งแรกของภาคการศึกษา ปิเอลเอาชนะเพื่อนร่วมชั้นมากกว่าสิบคน
แน่นอนว่ามีเพื่อนร่วมชั้นบางคนท้าทายเธอด้วยจิตวิญญาณแห่งการแข่งขัน แต่หลังจากสัปดาห์ที่หกก็ไม่มีนักเรียนเหล่านั้นอีกต่อไป
พวกเขารู้สึกทึ่งและจับคู่กับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นที่มีทักษะคล้ายกัน
ดังนั้นปิเอลจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องดวลกับนีกี้เท่านั้น
ตั้งแต่ตอนนั้น ปิเอลไม่ได้ตำหนิคนที่ถอยเลย แต่กลับรู้ถึงขีดจำกัดของเขา และวิธีปกป้องสภาพจิตใจของพวกเขา
เธอได้แต่หวังดังที่ธีโอพูด พวกเขาจะยอมรับความพ่ายแพ้ของพวกเขา
ปิเอลพึมพำกับตัวเอง
“เขาจะยอมรับมันได้ไหม?”
เธอรู้สึกว่าคงจะเศร้าถ้าเขายอมรับมันไม่ได้
ปิเอลต้องการรู้ถึงความรู้สึกของเธอให้แน่ชัด
นับตั้งแต่เธอถูกตำหนิเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เธอก็ถูกรบกวนจิใจอยู่ตลอดเวลา
ในตอนแรกเธอตั้งใจจะถามเขาที่สนามฝึกซ้อมตามปกติ แต่เขาไม่เคยปรากฏตัวเลย
ดูเหมือนเขาจะไม่เจ็บปวดเลย
เธอจึงพยายามเริ่มบทสนทนาถามว่าทำไมเขาไม่มาซ้อมแล้วไปทำกิจกรรมชมรมแทน
น่าประหลาดใจที่เขาเข้าร่วมชมรมนักสำรวจอาหารรสเริศแทนที่จะเป็นชมรมที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้
“ฉันอยากแข่งกับคนงี่เง่านั่น ไม่สิ กับธีโอ”
เธอคิดว่าถ้าพวกเขาดวลกันอย่างเหมาะสม เธอจะรู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่พิเศษที่ทำให้เขามั่นใจได้ขนาดนั้น
ความคิดนั้นเปลี่ยนจากการคาดเดาไปสู่ความแน่นอน
เธอไม่เคยรู้สึกพิเศษอะไรจากคนที่เธอพ่ายแพ้มาจนถึงตอนนี้
เธอสัมผัสได้เพียงความรู้สึก "ฉันไม่สามารถเอาชนะเขาได้" จากนีกี้ ซึ่งเธอไม่สามารถเอาชนะเขาได้เลย
“น่ารำคาญยังไงล่ะ”
มันหายใจไม่ออกที่ต้องคิดถึงเขากลางดึกจนไม่ได้นอน
แน่นอนว่าเธอจะไม่โกรธถ้าธีโอปฏิเสธการดวล ท้ายที่สุดแล้ว นี่คือจิตวิญญาณแห่งการแข่งขันที่ดี
ต่างจากธีโอถึงแม้จะมีเชื้อสายที่สูงส่งเหมือนกัน แต่ปิเอลไม่มีคุณลักษณะศักดิ์ศรีของขุนนางบิดเบี้ยว
“ไปนอนกันเถอะ ไม่ว่าเขาจะยอมรับหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเขา”
***
ปิเอลนับแกะของเธอได้ห้าร้อยเจ็ดตัวก่อนที่จะหลับไปในที่สุด
***