บทที่ 26: [สำรวจอิสระ] มุ่งสู่ดันเจี้ยน!
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 26: [สำรวจอิสระ] มุ่งสู่ดันเจี้ยน!
[ด่านที่ 2]
– เวลาจนกว่าจะเริ่มต้น: 9 วัน 20 ชั่วโมง
ด่านต่อไปมีเวลาเตรียมพร้อมเพียงไม่ถึงสิบวัน แต่การซ่อมแซมกำแพงต้องใช้เวลาสองสัปดาห์ ไม่มากหรือน้อยไปกว่านี้
หากเป็นเช่นนั้น คงไม่มีกำแพงรับศัตรูในด่านถัดไปแน่
“ทหารที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยให้ไปเริ่มซ่อมแซมกำแพงในวันพรุ่งนี้ด้วย”
ข้าสั่งลูคัส
“ต้องเร่งมันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
“รับบัญชาขอรับองค์ชาย”
ลูคัสก้มศีรษะลงด้วยความเคารพ
ข้าต้องการให้ทหารพักผ่อนกันอย่างเต็มที่ แต่สถานการณ์มันกลับกลายเป็นเช่นนี้ เพราะการซ่อมกำแพงคืองานที่เร่งด่วนที่สุด
“จะว่าไป อาการบาดเจ็บของทหารในยามนี้เป็นยังไงบ้าง? ข้ายังไม่ได้รับรายงานโดยละเอียดเลย”
“ประมาณ 50 นายได้รับบาดเจ็บสาหัส มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยประมาณ 200 นาย พวกเขาทั้งหมดกำลังรักษาตัวที่อารามขอรับ”
แทบจะไม่มีความสูญเสียเลย อาจเพราะการต่อสู้ส่วนใหญ่เราสู้ด้วยช่วงระยะของปืนใหญ่ที่แสนไกล
ทว่าข้าก็สูญเสียตัวละครวีรบุรุษไปสี่ตัว….
ซึ่งมันก็ถือว่าข้าพลาดอยู่ดี นั่นหมายความว่าเรากำลังจะไปยังด่านถัดไปด้วยกองทัพที่ไม่เพียงพอ
“ไอเดอร์ การคัดคนเข้ามาร่วมกองทัพของเราเป็นยังไงบ้าง?”
“เรากำลังจัดการส่งทหารไปยังเมืองใกล้เคียงขอรับ หน่วยสอดแนมที่ส่งไปยังสำนักงานใหญ่ควรจะกลับมาภายในวันพรุ่งนี้”
“งั้นข่าวทุกอย่างคงจะมาในวันพรุ่งนี้สินะ”
แม้ว่าข้าจะสามารถจัดการบริหารเมืองได้แทบทุกอย่าง แต่เรื่องของการรับคนเข้ากองทัพเป็นสิ่งที่ข้าไม่อาจควบคุมได้
นี่คือสิ่งสำคัญที่สุดยามนี้ที่ข้าต้องการ มันคงจะเป็นประโยชน์มากหากเราสามารถรับทหารรับจ้างมือใหม่จำนวนมากในอีกเก้าวันที่เหลือมาได้
“อืม ไอเดอร์ หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น จงรายงานข้าทันที แล้วก็ลูคัส เรามาทำในสิ่งที่เราทำได้ยามนี้กันเถอะ”
"สิ่งที่เราทำได้งั้นเหรอขอรับ?"
ข้ายิ้มอย่างมีเลศนัยและขยิบตาให้ลูคัส
“เราจะลงดันเจี้ยนกัน”
“…!”
“เราต้องขจัดแหล่งที่มาของสัตว์ประหลาดพวกนั้น”
ลูคัสตัวสั่นเล็กน้อย ก่อนจะถามข้าออกมาด้วยความสงสัย
“เหมือนกับคราวก่อนที่ผ่านประตูเคลื่อนย้ายไปยังทะเลสาบทมิฬงั้นหรือขอรับ?”
“ถูกต้องแล้วลูคัส แต่คราวนี้เราจะมุ่งตรงไปใต้ทะเลสาบกับทีมของเรากัน”
ใต้ทะเลสาบ
ศูนย์กลางของพวกสัตว์ประหลาด
มันคือการเปลี่ยนแนวเกมจากการป้องกันเมืองไปเป็นการลงดันเจี้ยน
"ลูคัส! เรียกทีมหลักออกมา”
ข้าปรบมือพร้อมกับยิ้มออกมา
“ในที่สุดก็ได้เวลาผจญภัยกันแล้ว”
พูดอีกอย่างก็คือ...
ถึงเวลาสำหรับการเพิ่มระดับและการฟาร์มไอเท็ม!
***
ข้าจะยกระดับสมาชิกในทีมทั้งหมด
วันนี้เราจะพักผ่อนกันก่อน และเราจะเริ่มลงดันเจี้ยนเมื่อเช้าวันรุ่งขึ้นมาถึง ได้เวลาเสริมอุปกรณ์กันเสียที
สักพักหนึ่ง ทุกคนก็มาตามเรียกของข้าและมารวมตัวกันที่คฤหาสน์ของเจ้าเมืองที่ข้าอาศัยอยู่
“ข้ายินดีที่พวกเจ้ามากัน พวกเจ้าพักผ่อนกันมาพอหรือยัง?”
ข้ามองสมาชิกรอบตัว แม้สภาพแต่ละคนจะดูอดหลับอดนอนกันมา แต่ก็ถือว่ายังพอไปได้
สมาชิกที่ถูกเรียกตัวได้แก่ ข้า ลูคัส เดเมี่ยน จูปิเตอร์และ...
“ทำไมข้าถึงถูกเรียกตัวมาที่นี่กันเล่า…?”
… ลิลลี่
ลิลลี่สัมผัสได้ตามสัญชาตญาณว่ากำลังจะต้องพานพบกับเรื่องอันตราย ไหล่ของนางสั่นเทาขณะสำรวจมองรอบห้องด้วยความไม่สบายใจ
“ก่อนหน้านี้ท่านรับรองข้าว่าข้าจะไม่อยู่ในแนวหน้าอีกต่อไปแล้วไม่ใช่หรือ?”
"หืม?"
แทนที่จะตอบกลับไป ข้ายิ้มออกมาแทน
จะให้ข้าทำเช่นไรกันเล่าลิลลี่? ตอนนี้ข้าสามารถรวมวีรบุรุษได้เพียงห้าคนในทีมเท่านั้น ซึ่งเจ้าก็เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ขาดหายไปไม่ได้เลย
เมื่อเห็นรอยยิ้มของข้า ลิลลี่ก็หน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ
“องค์ชาย! ข้าเดินไม่ได้นะเห็นไหม?! ข้ายังบาดเจ็บอยู่ เห็นหรือเปล่า?! ข้าบอกไปแล้วไงว่าข้าจะเกษียณแล้ว จำได้หรือเปล่า?!”
ลิลลี่กล่าวออกมาด้วยความโกรธขณะที่อยู่บนรถเข็น นางเอาแต่เน้นย้ำถึงอาการบาดเจ็บของนาง
“ในเมื่อข้าไร้ความสามารถขนาดนี้แล้ว ท่านยังจะพาข้าไปอีกเหรอ! ให้ฉันจะอยู่ที่นี่อย่างสงบและซ่อมแซมสิ่งประดิษฐ์เถิดนะ! ข้าสนุกกับงานนั้นมากกว่าเสียอีก!”
“ข้าดีใจจริงๆ ที่เจ้าคิดว่างานสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์มันสนุก ดูเหมือนเจ้าจะสนุกมากจนทนรอไม่ไหวจะรีบไปทำงานต่อเลยสินะ”
“ไม่นะ นั่นไม่ใช่สิ่งที่ข้าพูดไปสักหน่อย!”
ข้าเริ่มครุ่นคิดว่าจะคว้าโอกาสนี้เพื่อทำสัญญาตลอดชีวิตกับนางดีหรือไม่
ที่จริงข้าอยากจะหยอกล้อลิลลี่ต่อ แต่ข้าก็เลือกที่จะปลอบนางแทน
“ครั้งนี้ข้าต้องขอยืมมือของเจ้าอีกครั้งหน่อยนะลิลลี่ หลังจากนี้ข้าจะไม่ให้เจ้าต้องมีส่วนร่วมในการรบภาคสนามอีกแล้วจริงๆ”
“ครั้งที่แล้วท่านก็ให้คำมั่นสัญญาเช่นนี้ไม่ใช่หรือไง?!”
“เพื่อปกป้องเมืองนี้ ไม่สิ เพื่อปกป้องมนุษยชาติทั้งหมดในแนวหน้า ความแข็งแกร่งของเจ้าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้”
ข้าเน้นย้ำวัตถุประสงค์ที่ใหญ่กว่า ลิลลี่จึงไม่มีเหตุผลที่จะโต้เถียงอีกต่อไปและก็ได้แต่เงียบลง
ถึงจะเป็นทหารรับจ้างที่ไม่สนใจเรื่องอะไร แต่หากยกเรื่องนี้ขึ้นมาก็ต้องยอมกันทุกราย
“เอ่อ ก็ได้ค่ะ…แต่แค่ครั้งนี้เท่านั้นนะ…”
“ขอบคุณนะลิลลี่”
ข้าหันไปทางลิลลี่และขอบคุณนาง
“จูปิเตอร์กับเดเมี่ยน อาการพวกเจ้าดีขึ้นแล้วใช่ไหม?”
จูปิเตอร์ได้รับบาดเจ็บในการต่อสู้เมื่อสองสามวันก่อน ซึ่งบาดแผลมันเล็กน้อยมาก แต่ด้วยอายุของนาง มันก็ค่อนข้างน่ากังวลอยู่พอสมควร
“ข้าสบายดี องค์ชาย”
จูปิเตอร์แตะหน้าผากของนางเบาๆ และปลดผ้าพันแผลออกไป การฟื้นตัวของนางรวดเร็วมาก อืม ก็สมกับที่นางมีระดับที่สูงขนาดนี้
“งั้นเดเมี่ยนก็ …”
ข้าเหลือบมองไปยังทางเดเมี่ยน
ก่อนหน้านี้ข้าไม่ได้สังเกตเลย แต่ใบหน้าของเขายามนี้ดูน่ากลัวมาก ดวงตาของเขากลวงโบ๋ คล้ายกับเป็นวิญญาณ
“เฮ้ เดเมี่ยน เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า? เจ้ารู้สึกไม่ดีเพราะพักผ่อนไม่พอเหรอ?”
หรือว่ามันจะเป็นผลเสียเพราะเขาใช้ทักษะดวงตาพันลี้มากเกินไป?
“ข-ข้าไม่เป็นไรขอรับองค์ชาย”
เดเมี่ยนโบกมือไปมา จากนั้นก็ปิดปากทันที
“ข้าแค่เมาค้าง…เอิ้ก”
“…”
“นี่ไม่ใช่ประสบการณ์ครั้งแรกของข้ากับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าดื่มจนไม่ได้สติ...เอิ๊ก”
ข้ามองค้อนไปทางจูปิเตอร์ ผู้ที่ทำให้เดเมี่ยนต้องดื่มเหล้าจนมีสภาพเป็นเช่นนี้
จูปิเตอร์หันไปทางอื่นและผิวปากออกมา แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไอ้เจ้าคนไร้ความรับผิดชอบ...
“ข้าเชื่อว่าพรุ่งนี้เจ้าก็จะไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องกังวลหรอก”
"อืม เช่นนั้นก็นอนหลับกันให้เพียงพอ”
ดูเหมือนสมาชิกทีมทั้งห้าคนของเขาจะไม่มีปัญหาอะไรนัก
ข้าจึงเริ่มสรุปเรื่องทั้งหมดให้ทีมของข้าฟัง
“พรุ่งนี้ทีมของเราจะเริ่มการเดินทางไกลกัน”
“เดินทางงั้นเหรอ?”
"ใช่แล้ว ข้าจะลงลึกในรายละเอียดระหว่างการเดินทางของเราในวันพรุ่งนี้”
บางครั้งการให้ไปดูด้วยตาตัวเองก็ย่อมง่ายกว่าการเล่าให้ฟังอยู่แล้ว ทั้งเรื่องแนวคิดของดันเจี้ยน เรื่องสัตว์ประหลาดใต้ทะเลสาบ ดังนั้นข้าจึงเลือกที่จะอธิบายออกไปคร่าวๆ เพียงเท่านี้
“ความตั้งใจของข้าคือออกเดินทางช่วงเช้าและกลับช่วงค่ำ แต่แผนอาจเปลี่ยนไปได้ เราอาจต้องตั้งค่ายกันที่นั่น”
"ตั้งค่าย...? ดูเหมือนว่าเราจะเดินทางไกลเลยนะคะ”
ลิลลี่กล่าวออกมาด้วยความรู้สึกกังวล ใช่ มันเป็นการเดินทางที่ไกลมากจริงๆ หรือมันอาจจะใกล้มาก ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับว่าจะมองมุมไหน
“ข้าจะจัดการอุปกรณ์และหาอุปกรณ์ที่จำเป็นทั้งหมดเอง สิ่งที่พวกเจ้าต้องทำคือรวมตัวกันที่นี่พรุ่งนี้เช้า พร้อมอาวุธและสวมชุดเกราะกันมา”
ข้าไม่พูดเรื่องจุดหมายปลายทางที่แน่นอน แรงจูงใจที่อยู่เบื้องหลังการสำรวจหรือเส้นทางที่เราจะใช้ แต่ก็ไม่มีผู้ใดตั้งคำถาม
ค่อยยังชั่วหน่อย อย่างที่บอกไป การทำให้ประจักษ์เห็นย่อมง่ายกว่าการอธิบายอย่างละเอียด
"ดี! งั้นวันนี้ก็พอแค่นี้ก่อน พักผ่อนให้เพียงพอแล้วมาพบกันวันพรุ่งนี้เช้า"
"เข้าใจแล้ว องค์ชาย! ไว้พบกันอีกทีช่วงรุ่งสาง”
จูปิเตอร์แสดงความเคารพออกมาและจากไปเป็นคนแรก นางนำรถเข็นของลิลลี่ผู้ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความโศกเศร้าออกไป
ขณะที่เดเมี่ยนกำลังจะตามพวกนางไป ข้าก็หยุดเขาไว้ก่อน
“เดเมี่ยน รอเดี๋ยว”
“ขอรับ?”
สีหน้าของเขาขาวซีด คงเป็นอาการที่มาจากการเมาค้างกระมัง
“มีอะไรงั้นเหรอขอรับองค์ชาย?”
“ม… ไม่มีอะไรหรอก”
ในระหว่างการต่อสู้ครั้งก่อน เดเมี่ยนได้ก้าวไปสู่ระดับ 20 และตอนนี้สามารถเลื่อนระดับอาชีพได้เลย ข้าจึงอยากจะลองยืนยันอะไรบางอย่าง
ข้าได้ตรวจสอบอาชีพของเดเมี่ยนผ่านทางหน้าต่างของระบบแล้ว
[เดเมียน (N)]
-ระดับ: 20
-สมญานาม: ไม่มี
-อาชีพ: ผู้รักษาระดับกลาง
– ความแข็งแกร่ง 5 ความคล่องแคล่ว 17 ค่าสติปัญญา 14 แรงกาย 8 พลังเวท 12
บางทีอาจเป็นเพราะเขาใช้อาวุธระยะไกลอย่างปืนใหญ่และธนูอย่างต่อเนื่อง ค่าสถานะของเขาจึงเน้นไปที่ความคล่องแคล่วเป็นหลัก ค่าสถานะของเขาก็ดูธรรมดา ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของตัวละครระดับ N
ส่วนทักษะของเขา…
[ทักษะที่มีอยู่]
> ทักษะติดตัว: แสงแห่งการรักษา
> ทักษะที่ 1: แสงแห่งการชะล้างพิษ
> ทักษะที่ 2: ??? (ปลดล็อคหลังจากเปลี่ยนอาชีพครั้งที่สอง)
> ท่าไม้ตาย: ??? (ปลดล็อคหลังจากเปลี่ยนอาชีพครั้งที่สาม)
ทักษะติดตัวแสงแห่งการรักษาเป็นทักษะหลักสำหรับผู้รักษา มันช่วยให้สามารถรักษาพันธมิตรโดยใช้พลังเวทของผู้ใช้
ส่วนทักษะที่เพิ่งได้รับมาคือแสงแห่งการชะล้างพิษ สามารถบรรเทาอาการเจ็บป่วยจากพิษต่างๆ ได้
ทักษะพวกนี้ค่อนข้างเป็นทักษะทั่วไปสำหรับผู้รักษาระดับ N
ทว่าบทบาทของเดเมี่ยนยามนี้คือพลซุ่มยิง
ซึ่งตัวเขาแทบไม่มีทักษะใดเลยที่ช่วยในการซุ่มยิง แต่การมีมันประดับไว้ ย่อมดีกว่าไม่มีอะไรเลย
“ตั้งแต่การต่อสู้ครั้งก่อนของเรา เจ้าสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างหรือเปล่า? บางทีทักษะของเจ้า…”
ข้าถามเพื่อยืนยันว่าเขาได้ทักษะมาหรือไม่
ในเกม เราจะได้รับทักษะถัดไปทันทีเมื่อระดับเพิ่มขึ้น แต่ข้าไม่แน่ใจว่ามันจะปรากฏในโลกความเป็นจริงได้เช่นไร
"ขอรับ ข้าเองก็อยากจะพูดถึงเรื่องนี้ …ในขณะที่เราต่อสู้กัน ข้าเองก็...”
เดเมี่ยนเลียนครุ่นคิด เขาถูนิ้วของเขาเข้าหากันขณะที่คิดคำตอบขึ้นมาได้
“ได้รับความสามารถในการรักษาใหม่มา ดูเหมือนว่าข้าจะสามารถเรียนรู้มันได้โดยสัญชาตญาณ แต่ข้ายังไม่เคยนำมาใช้จริงเลย”
ดูเหมือนว่าประสบการณ์การต่อสู้จะทำให้ได้รับทักษะใหม่มาด้วยสินะ น่าสนใจ
ข้าตบไหล่เดเมี่ยนอย่างแผ่วเบา
“ความสามารถนั้นอาจช่วยเหลือสมาชิกในทีมได้ในยามคับขัน บทบาทหลักของเจ้าตอนนี้คือพลซุ่มยิง แต่เจ้าสามารถเสริมมันได้ด้วยทักษะที่มีอยู่ของเจ้า”
“ขอรับฝ่าบาท!”
จากนั้นข้าก็ไล่เดเมี่ยนออกเพื่อพักผ่อน
แล้วข้าจึงส่งสัญญาณไปยังลูคัสที่เฝ้ามองจากด้านหลังเงียบๆ
“ลูคัส เจ้าก็ควรหยุดเช่นกัน ไม่ต้องมาคอยคุ้มกันข้าอีกแล้ว”
"เอ่อ? แต่ว่า..."
“พรุ่งนี้เราจะบุกเข้าไปในถ้ำของพวกสัตว์ประหลาด เจ้าเองก็ต้องพักผ่อนเพื่อที่จะได้ปกป้องข้าอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นใช่ไหม? อย่าฝืนตนเองและพักผ่อนให้เพียงพอเถอะ”
ลูคัสได้แต่ทำตามอย่างไม่เต็มใจนัก
“…รับบัญชาขอรับองค์ชาย”
ลูคัสกลับไปยังที่พักของเขา เหลือเพียงไอเดอร์และข้า ข้าส่งสัญญาณไปทางไอเดอร์
"ไอเดอร์ เตรียมเสบียงสำหรับการเดินทางของเรา”
“ให้ข้าเตรียมของประมาณไหนดีขอรับองค์ชายย~”
“อาหารที่เก็บรักษาได้ง่าย อุปกรณ์ตั้งแคมป์ น้ำยาต่างๆ และ...”
ข้าระบุสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการลงดันเจี้ยน
“อุปกรณ์ส่องแสงสว่าง โคมไฟ คบเพลิง”
รอยยิ้มที่ร่าเริงพลันหายไปจากใบหน้าของไอเดอร์ ข้าถอนหายใจเบาๆ และย้ำอีกครั้ง
“อะไรก็ตามที่สามารถส่องสว่างได้”
***
เช้าวันรุ่งขึ้น
ณ สวนหลังบ้านของคฤหาสน์เจ้าเมืองแห่งครอสโรด
สมาชิกปาร์ตี้ของเราทั้งห้าคนมารวมตัวกัน และข้าก็แจกจ่ายอุปกรณ์ให้พวกเขาแต่ละคน มันเป็นกระเป๋าที่เต็มไปด้วยอาหาร สิ่งจำเป็นที่ใช้สำหรับการรักษา
จูปิเตอร์สะพายกระเป๋าด้วยไหล่ของนางและก็ได้เลิกคิ้วขึ้นกับสิ่งที่อยู่ภายในนี้
“ดูจริงจังมาก เราจะไปที่ไหนกันแน่เนี่ย?”
“เดี๋ยวในไม่ช้าเจ้าก็จะรู้แล้ว”
ข้านำทางพวกเขาไปที่ประตูเคลื่อนย้าย
ครืนนน-
ขณะที่ข้าวางมือบนกองหินที่จัดเรียงอยู่ในสวนหลังคฤหาสน์ ประตูเคลื่อนย้ายก็ผุดขึ้นมา
เสียงแปลกประหลาดได้ดังขึ้น หินลอยและหมุนไปมาจนก่อให้เกิดประตูเคลื่อนย้ายเวทมนตร์
จูปิเตอร์ตกตะลึงอย่างมากกับประตูเคลื่อนย้ายที่ปรากฏขึ้น
“นี่คือ…เวทมนตร์เคลื่อนย้ายใช่ไหม? แต่เวทมนตร์เคลื่อนย้ายได้สูญหายไปเมื่อหลายศตวรรษก่อน ทำไมถึงได้…”
"แค่ก!"
ข้าแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ ปัดข้อสงสัยของนางออกไป เดี๋ยวเมื่อเดินทางไป ทุกข้อสงสัยก็จะค่อยๆ คลายออกเอง
จากนั้นข้าจึงได้ตะโกนออกมา
“นับแต่นี้ไป เราจะใช้ประตูเคลื่อนย้ายนี้เพื่อไปยังรังของพวกสัตว์ประหลาด จุดหมายปลายทางของเราอยู่ใต้ทะเลสาบทมิฬ”
ทุกคนต่างยืนนิ่งกันอย่างสงบ มีแต่ลิลลี่ผู้เดียวที่อ้าปากค้างไปแล้ว ดูเหมือนว่าพวกเขาจะคาดการณ์กันไว้แล้วว่าเรากำลังเดินทางไปยังสถานที่อันตราย
“อาณาจักรของสัตว์ประหลาดพวกนี้ซ่อนตัวอยู่ใต้ทะเลสาบ ภารกิจของเราคือการตรวจสอบและค้นหาว่าทำไมสัตว์ประหลาดพวกนี้ถึงโผล่ออกมาจากที่นั่น”
นี่คือเป้าหมายสูงสุดของเกมนี้
“นี่เป็นแผนเดียวที่จะยุติการรุกรานของพวกสัตว์ประหลาดอย่างถาวร”
การกำจัดจุดกำเนิดของสัตว์ประหลาด
ในที่สุดก็ถึงเวลาที่จะเริ่มต้นช่วงที่สองของเกมนี้อย่างแท้จริง การลงดันเจี้ยน
ทุกคนดูสนใจสิ่งที่พวกเขาจะต้องพานพบกันมาก เมื่อเห็นเช่นนี้ข้าก็ก้าวเข้าไปในประตูเคลื่อนย้ายเป็นคนแรก
[ประตูเคลื่อนย้าย]
– โปรดเลือกจุดหมายปลายทางของท่าน
> ท่าเรือข้างทะเลสาบ
> (พื้นที่ยังไม่ได้ปลดล็อก)
> (พื้นที่ยังไม่ได้ปลดล็อก)
> …
ตามธรรมเนียม เราต้องมุ่งหน้าไปยัง ’ท่าเรือข้างทะเลสาบ’ เสียก่อน
ประตูเคลื่อนย้ายหมุนวนไปมาจนคล้ายกับมันมีชีวิต ข้าหันหน้ากลับไป
“ประตูนี้จะนำไปสู่ ’ทะเลสาบ’ เราทุกคนจะไปถึงพร้อมกัน เพียงแค่ตามข้ามาพอ”
“องค์ชาย ให้ข้าไปก่อนเถิด…”
“อืม เอาตามที่เจ้าต้องการเถอะ!”
ข้ากล่าวตอบไปส่งๆ ไม่สนใจคำพูดของลูคัสและเดินตรงเข้าประตูเคลื่อนย้ายไปก่อนแล้ว เพราะว่ามันปลอดภัยอยู่แล้ว!
***
[กำลังโหลด…]
[เคล็ดลับ – ตัวละครวีรบุรุษสามารถพัฒนาผ่านการเพิ่มระดับได้ ท่านสามารถเลื่อนระดับโดยการสะสมคะแนนประสบการณ์และสามารถสะสมคะแนนประสบการณ์จากการต่อสู้]
ช่วยระบุเคล็ดลับอะไรที่มันมีค่ากว่านี้ได้ไหม? เฮ้อ
ข้าพึมพำกับตัวเอง แต่จะว่าไป ไอ้เกมบ้านี้มันมีคำแนะนำไหนบ้างกันที่มันมีประโยชน์?