ตอนที่แล้วบทที่ 24: [เนื้อเรื่องเสริม] งานเลี้ยงฉลองหลังชัยชนะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 26: [สำรวจอิสระ] มุ่งสู่ดันเจี้ยน!

บทที่ 25: [เนื้อเรื่องเสริม] เปิดกล่อง


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 25: [เนื้อเรื่องเสริม] เปิดกล่อง

กล่องรางวัลบนด่านถูกจัดเรียงไว้ต่อหน้าข้า

กล่องระดับ R สองกล่องและกล่องระดับ N สามกล่อง

’ครั้งก่อนข้าได้รับคือสร้อยคอแปลกๆ จากกล่องระดับ EX’

ข้าแตะคอตัวเอง สร้อยคอที่ข้าได้มาก็ห้อยอยู่ตรงนั้น

ว่าแต่ความสามารถของมันคืออะไรนะ? เหมือนจำได้ว่ามันจะใช้ได้หลังจากเรื่องราวดำเนินไปเรื่อยๆ

’ข้าสงสัยเหลือเกินว่ามันมีความสามารถอะไรซ่อนอยู่...’

แต่สำหรับตอนนี้ สิ่งที่ข้าอยากได้คือสิ่งที่สามารถช่วยข้าได้ในทันที คงจะดีมากถ้าเกิดมันสามารถใช้ได้กับด่านต่อไปที่กำลังจะมาถึง

อันดับแรก ข้าวางกล่องระดับ N สามกล่องไว้บนเตียง

โดยปกติแล้ว กล่องรางวัลจากด่านจะให้สิ่งของสิ้นเปลืองและวัตถุดิบไว้ใช้สร้าง หรืออาจะมีอุปกรณ์เลยก็ได้

ทว่าถึงจะมีโอกาสได้อุปกรณ์ ก็ใช่ว่าจะได้ระดับที่สูง ในกรณีของกล่องระดับ N โอกาส 99 เปอร์เซ็นต์ของอุปกรณ์ที่จะได้คืออุปกรณ์ระดับ N

’แต่โอกาสก็ยังไม่เป็นศูนย์อยู่ดีใช่ไหมล่ะ?’

มันอาจจะให้อุปกรณ์ระดับ SSR ก็ได้ใครจะไปรู้?

ข้ารีบเปิดกล่องระดับ N ทั้งสามกล่องทันที

“จะมีอุปกรณ์บ้างไหมนะ?!”

แสงพลันปรากฏอยู่เหนือกล่อง จากรัศมีที่เปล่งออกมา สามารถบอกได้เลยว่ามันต้องเป็นไอเท็มแน่ มันจะมีสีไหนกัน!

สีเท่า!

สีเทา

และสีเทา...

ทั้งสามกล่องเป็นสีเทา ทั้งสามคืออุปกรณ์ระดับ N

"เหอะ...!”

แล้วข้าจะไปคาดหวังอะไรจากกล่องระดับ N กัน?

ข้าบ่นขณะตรวจสอบของที่ได้รับมา ไหนขอดูหน่อยซิ

[ได้รับ]

– ยาเพิ่มพลังกายระดับสูง

– ยาเพิ่มพลังกายระดับสูง

– คัมภีร์มนตร์น้ำแข็ง

ทั้งสามเป็นวัสดุสิ้นเปลือง คงจะดีถ้าถ้ามันมีพวกวัตถุดิบ เพราะอย่างน้อยมันก็มีประโยชน์เอาไปสร้างของได้

’แต่ไอเท็มพวกนี้ก็ยังมีประโยชน์อยู่’

ยาระดับสูงมีผลความสามารถที่สูงกว่ายาทั่วไป การเก็บมันไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินย่อมค่อนข้างเป็นประโยชน์

ส่วนม้วนคัมภีร์อาคมก็เป็นไอเท็มที่สามารถใช้งานได้จริงเช่นกัน เมื่อเปิดใช้งานแล้ว พวกมันจะมอบคุณสมบัติให้กับอาวุธที่ใช้ในด่าน

ถ้าข้าใช้มันกับบางหน้าไม้ของเดเมี่ยน…ความสามารถของมันคงจะน่าอัศจรรย์มากเป็นแน่

’ของพวกนี้ข้าจะเก็บไว้ก่อนแล้วกัน’

ต่อมา ข้าก็หันไปสนใจกล่องระดับ R ข้าตัดสินใจเปิดทีละอัน

จากนั้นข้าก็เปิดมันทันที

“จะมีอุปกรณ์บ้างไหมนะ?!”

ฟึบ!

แสงสีน้ำเงินไหลออกมาจากกล่องที่เปิดอยู่

อา มันเป็นของระดับ R!

[แกนเวทมาตรฐานขั้นสูง (R)]

“มันเป็นของที่ใช้สำหรับการประดิษฐ์ …”

แม้ว่าความตื่นเต้นในใจข้าจะหายไป แต่แกนเวทย์มนตร์พวกนี้ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในไอเท็มที่หายากที่สุดในบรรดาวัตถุดิบ

แกนเวทเป็นส่วนประกอบสำคัญในอุปกรณ์ระดับสูง โดยปกติจะใช้ในการสร้างอาวุธคุณภาพสูงหรือหลอมวัตถุเข้าได้ด้วย

’ข้ารวบรวมแกนเวทได้สามแกนแล้ว’

ข้าตรวจสอบกระเป๋าเก็บของของข้า

หนึ่งคือ ’แกนเวทย์มนตร์ราชินีแมงมุทมิฬ (SSR )' ที่ได้มาด่านฝึกสอน

สองคือ ’แกนเวทย์มนตร์อัศวินเงา (SR )' ที่ได้รับจากด่านที่ 1 ของวันนี้

และนี่คือ ’แกนเวทย์มนตร์มาตรฐานขั้นสูง (R )'

’ของพวกนี้คงจะมีประโยชน์มากเมื่อข้าเริ่มประดิษฐ์พวกอุปกรณ์อย่างจริงจังแล้ว...’

ข้าหยิบมันขึ้นมา จากนั้นก็หยิบกล่องระดับ R กล่องสุดท้ายออกมา ข้าเปิดกล่องไปโดยไม่ได้คาดหวังอะไร

ตุ๊บ!

หลังจากนั้นแสงสีทองพร่างพราวก็ปะทุออกมาจากกล่องที่เปิดอยู่

"หือ?"

ดวงตาของข้าเบิกกว้างด้วยความตกใจ

สีทองเหรอ? อุปกรณ์ระดับ SSR?! นี่ข้าตาฝาดไปหรือเปล่า?!

ปัง ปัง ปัง!

เสียงแห่งความยินดีดังขึ้นมา และถุงมืออันหนึ่งก็โผล่ออกมาจากกล่องพร้อมกับแสงสีทองระยิบระยับ มันเป็นถุงมือหนังสีดำ ประดับด้วยตราสัญลักษณ์โลหะ

"โอ้ แม่เจ้าโว้ย!"

ข้าตกตะลึงจนกระโจนลงจากเตียง

อุปกรณ์ระดับ SSR เนี่ยนะ?!

ด้วยความตกใจ ข้ารีบช้อนถุงมือขึ้นมาด้วยมือทั้งสองข้างและตรวจสอบรายละเอียดกับคุณสมบัติของมันทันที อะไรเนี่ย?!

[โชคกระแทก (SSR) ระดับ 7]

- ประเภท: ถุงมือต่อสู้

– พลังโจมตี: 0~777777

- ความทนทาน : 7/7

– โอกาสความน่าจะเป็นที่จะได้รับค่าสถานะ 1%

《“วันนี้แหละคือวันโชคดีของข้า” – นักพนันได้กล่าวเอาไว้》

“ล้อข้าเล่นหรือไงกัน!”

ข้ากระแทกถุงมือลงกับพื้น

จากทั้งหมดที่มีอยู่! จากอาวุธระดับ SSR ทั้งหมดในเกม!

“ไหงข้าถึงได้ถุงมือโชคกระแทกเฮงซวยนี้กัน!”

ถุงมือที่ดูฉูดฉาดนี้มีผลตามค่าสถานะของมัน

ถูกต้องแล้ว หากเจ้าโชคดี เจ้าก็มีโอกาสได้รับแจ็คพอต สร้างความเสียหายและสามารถล้มบอสได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว แต่ถ้าเจ้าโชคร้าย เจ้าก็จะได้เลขศูนย์ตัวโตๆ

อาชีพสายต่อสู้ของเกมนี้ก็เหมือนกับการเดิมพันกับชีวิตอยู่แล้ว พอรวมเข้ากับอาวุธชิ้นนี้ มันแทบไม่ต่างวงล้อนำโชคเดินได้ชัดๆ

ตอนถ่ายทอดสดเกมมันก็สนุกอยู่หรอก แต่ตัวละครที่สวมเจ้านี้ไปแทบไม่มีใครรอดสักหลาย

เพราะไอ้โอกาสความน่าจะเป็นที่จะได้รับค่าสถานะ 1% ตามจำนวนความเสียหายที่สร้างไป หากเกิดได้ค่าน้อยมาก นอกจากจะสร้างความเสียหายใส่ศัตรูได้น้อยแล้ว ยังมีโอกาสเดี้ยงเองอีกด้วย

“แล้วจะให้ข้าเอาเศษขยะนี้ไปใช้ทำอะไรกัน?!”

ข้าปวดใจเป็ฯอย่างยิ่ง

อาวุธนี้เป็นแค่ของใช้เล่นเท่านั้น มันไร้ค่ามากในการต่อสู้จริง!

แต่ข้าก็ทิ้งมันไปไม่ได้เช่นกัน แล้วจะให้ใครล่ะ...

หลังจากไตร่ตรองแล้ว ข้าก็สวมถุงมือ

ยังไงมันก็ยังดีกว่าถุงมือสีดำอันก่อนของข้าอยู่ดี ข้าคิดเช่นนั้น

ฟึบ!

ข้ากำมือที่สวมถุงมือแน่น มันรู้สึกสบายยิ่ง อุปกรณ์ระดับ SSR บ้านี้ก็มีข้อดีเหมือนกันสินะ

“อา เอาล่ะ…ไม่ว่ายังไง มันก็…”

ไม่มีโอกาสเลยที่ข้าจะไปต่อสู้ในแนวหน้า ข้าอยากพยายามเลี่ยงให้ได้มากที่สุด

แต่หากมีอะไรเกิดขึ้น ข้าก็หวังว่าเวลาต่อสู้ ข้าจะได้แจ็คพอตนะ มามองโลกในแง่ดีกันเถอะ

"...ก็บ้าแล้ว"

จะให้ข้าคิดบวกได้ยังไงกัน! อ๊ากกก! ข้ากระชากผมตัวเองด้วยความโกรธ

มีอุปกรณ์ SSR ที่เหนือกว่าเจ้านี้อยู่มากมาย อย่างพวก ’หยาดน้ำตาของเซราฟ' ’กลืนกินชีวา' ’สัญลักษณ์สวรรค์’

ถ้าเพียงมีพวกมันอยู่ เกมก็คงจะง่ายดายเหมือนปลอกกล้วยเข้าปาก

แต่ทำไมกัน! จากทั้งหมดที่มี! ทำไมถึงต้องเป็นโชคกระแทก!

ข้ารู้สึกท้อแท้ บ่นกับตนเองจนถึงรุ่งสาง ก่อนที่จะผล็อบหลับไป

***

วันต่อมา

"โอ้ หัวข้า..."

ข้าตื่นขึ้นมาด้วยอาการเมาค้างและมันก็เป็นยามเที่ยงแล้ว

เมื่อข้าโผล่ออกมาจากห้องอย่างเฉื่อยชา เหล่าคนรับใช้ทุกคนที่อยู่ในคฤหาสน์ก็มีสภาพแทบไม่ต่างจากเขา พวกเขาทั้งหมดดูเหมือนจะเมาค้างเช่นกัน

“องค์ชาย ท่านตื่นแล้วงั้นหรือขอรับ?”

ลูคัสที่อยู่หน้าประตูห้องได้ต้อนรับข้าด้วสีหน้าอันเหน็ดเหนื่อย

เขาเองก็คงเมาค้างเหมือนกัน ผมสีทองอันไร้ที่ติของเขาดูไม่เป็นระเบียบเลย

“เจ้าไหวไหมเนี่ย? เจ้าควรไปพักผ่อนเถอะ มันเพิ่งจะกลางวันแสกๆ เอง”

“ในฐานะอัศวินของท่านที่มีหน้าที่คอยปกป้องท่าน ข้าจะทำเช่นนั้นได้ยังไงกัน?”

หลังจากนั้น ลูคัสก็ปิดปากของเขาและหยุดพูดไป

“แต่…ดูเหมือนข้า…จะค่อนข้างใช้เวลาไปกับ…”

“ถ้าเจ้ากล้ายอมรับเช่นนั้น ก็ดูจะท้าทายกับจ้าดีนะ…”

ขณะที่ข้ากล่าวออกไป ข้าก็คิดหาวิธีที่จะบรรเทาอาการเมาค้างได้

“อรุณสวัสดิ์ท่านทั้งสอง!”

ไอเดอร์โผล่ออกมาจากทางเดินด้วยพลังอย่างกระฉับกระเฉงเช่นเคย ได้ไงกัน?

บนถาดที่ไอเดอร์ถือมาด้วย มีถ้วยอยู่สองใบที่ปรากฏควันไอน้ำลอยขึ้นมาข้างบน

“เจ้าสิ่งนี้คือชาน้ำผึ้งอุ่น พวกท่านจิบมันสักหน่อยเถิด!”

ไอเดอร์ส่งถ้วยให้เราคนละใบ เหมาะเจาะอะไรเช่นนี้

เมื่อดื่มน้ำน้ำผึ้งอุ่นๆ ข้าก็รู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก อา ข้ารอดแล้ว

ลูคัสกับข้าดูดน้ำออกจากถ้วยและส่งคืนให้กับไอเดอร์ที่ยิ้มอย่างอ่อนโยน

“พวกท่านคงจะเหนื่อยล้าจากการต่อสู้และทนทุกข์ทรมานจากอาการเมาค้างสินะ อาจเป็นการดีที่จะพักผ่อนในวันนี้ พวกท่านเห็นด้วยหรือไม่?”

"จะทำแบบนั้นได้ยังไงกัน? เราต้องเตรียมพร้อมสำหรับด่านถัดไป ”

ข้าตบใบหน้าของข้า เพื่อพยายามเรียกสติตัวเอง

“ไอเดอร์ หินเวทมนตร์ที่เราเก็บมาเมื่อวันก่อนเป็นยังไงบ้าง? เราสามารถแปลงเป็นเงินได้ไหม?”

“พวกมันพร้อมสำหรับการเอาไปขายแล้วขอรับ ทว่ามันอาจไม่ได้มากเท่ากับหินเวทมนตร์ที่ท่านได้มาจากพวกกองทัพแมงมุมทมิฬ”

อีกทั้งด้วยเรื่องคุณภาพที่แตกต่างกันไปของหินเวทมนตร์ จำนวนพ่อค้าที่ซื้ออาจลดลงไปอีก แต่มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้

“ขายให้หมด เลือกรับข้อเสนอที่ดีที่สดเท่านั้น”

“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเองขอรับ

"อืม ถ้าอย่างนั้นหินเวทมนตร์ก็จัดการตามนี้…ลูคัส ไอเดอร์ มากับข้า เรามีงานต้องทำอีก”

ข้าพาลูคัสและไอเดอร์ออกจากคฤหาสน์ จุดหมายแรกของเราคือร้านช่างตีเหล็กของเมือง

เมื่อเราเข้าใกล้ร้านช่างตีเหล็ก เราก็สามารถสังเกตเห็นพวกเขากำลังทุบเหล็กและใบมีดกันอยู่

หน้าต่างระบบพลันปรากฏขึ้นเบื้องหน้าข้า

[สิ่งอำนวยความสะดวก – ช่างตีเหล็กระดับ 3]

ระดับสิ่งอำนวยความสะดวกของเมืองมีระดับตั้งแต่ 1 ถึง 10 ในแต่ละระดับที่เพิ่มขึ้นจะมีสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่สามารถเข้าถึงได้

ตัวระดับของช่างตีเหล็กจะเป็นการสร้างอาคมของอุปกรณ์ ยิ่งมีระดับที่สูงยิ่งโอกาสในการสร้างอุปกรณ์คุณภาพสูงเพิ่มขึ้นด้วย

ที่ระดับ 3 ความสามารถพื้นฐานทั้งหมดจะถูกปลดล็อก

’ข้าคงต้องลงทุนที่นี่ด้วย...’

แม้ว่าข้าจะใช้จ่ายเงินไปมากมายหลังจากได้รับรายได้จากด่านฝึกสอน แต่มันก็มีอีกหลายจุดที่ข้าต้องลงทุน ด้วยเหตุนี้ข้าจึงจำเป็นต้องวางกลยุทธ์ทางการเงินอย่างเป็นระบบ

“ยินดีต้อนรับองค์ชาย!”

หัวหน้าช่างตีเหล็กพุ่งออกมา ข้ากล่าวออกไปทันทีโดยไม่อ้อมค้อม

“ข้าต้องการประดิษฐ์อุปกรณ์”

มีไอเท็มมากมายที่ต้องสร้าง แต่ข้าเลือกที่จะสั่งไอเท็มที่จำเป็นอันเร่งด่วนที่สุดก่อน

“เรานึกว่าท่านจะลืมไปแล้วเสียอีกว่าเราเป็นช่างตีเหล็ก ก่อนหน้านี้ก็เอาแต่ให้เราซ่อมกำแพงและซ่อมแซมอาวุธเท่านั้นเอง”

ขณะที่ข้าพูดถึงการสร้างอุปกรณ์ ดวงตาของหัวหน้าสมาคมผู้นี้ก็เป็นประกายด้วยความคาดหวัง

“ข้าพร้อมมุ่งมั่นถวายฝีมือให้ ท่านต้องการอุปกรณ์ประเภทใดหรือ?”

"ชุดเกราะ"

จากนั้นข้าก็หยิบ ’แกนเวทย์มนตร์ของอัศวินเงา’ ที่ได้มาจากช่วงท้ายของด่านขึ้นมา

“จงใช้สิ่งนี้เป็นหลักในการอุปกรณ์และใช้วัสดุที่ดีที่สุดที่มี”

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าชุดเกราะนี้ถูกลิขิตมาให้เป็นของลูคัส

ลูคัสคืออัศวินระดับ SSR ที่อยู่แนวหน้า

ข้าจำเป็นให้เขาสวมชุดเกราะที่แข็งแกร่งที่สุดที่เป็นไปได้ เพื่อจะได้ไม่ต้องกังวลอะไรอีก

อัศวินเงาเป็นบอสของพวกชุดเกราะมีชีวิต อุปกรณ์ที่สร้างขึ้นจากแกนเวทย์มนตร์ของมันจะมาพร้อมกับความทนทานและค่าสถานะแรงกาย ถือได้ว่าเป็นของที่เหมาะมาก

“นี่มัน… วัตถุล้ำค่า”

ช่างตีเหล็กถือแกนเวทย์มนตร์ เขากลืนน้ำลายลงไปจนเกิดเสียงดังขึ้น

“นี่เป็นอุปกรณ์ชิ้นแรกที่ข้ามอบหมายให้เจ้าทำ ข้าคาดหวังไว้สูงเลยนะ”

“เราจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่ขอรับ”

“เยี่ยมมาก ลูคัส? ไปวัดขนาดตัวของเจ้าซะ”

ในเกม เมื่อสร้างอุปกรณ์แล้ว ผู้ใดก็สามารถสวมใส่ได้ แต่ที่นี่คือโลกแห่งความเป็นจริง

ชุดเกราะจำเป็นต้องปรับให้เหมาะกับร่างกายของลูคัส

ลูคัสที่ก้าวเข้าไปในโรงตีเหล็กจึงได้เข้าไปวัดตัว จากนั้นก็ออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่เปล่งประกาย

“ยิ้มอะไรของเจ้ากัน?”

“ก็ข้าตื่นเต้นมากนี้ขอรับ ท่านกำลังมอบชุดเกราะให้ข้าใช่ไหมล่ะ?”

“ข้าแค่เอามันให้เจ้าเพราะข้าจะต้องส่งเจ้าไปยังที่อันตรายต่างหาก?”

“เช่นนั้นก็แสดงว่าท่านเชื่อใจข้ามากจนคิดว่าในอนาคตจะมอบหมายภารกิจต่างๆ ให้ข้าสินะขอรับ?”

ไหงเจ้านี้ชอบยกยอปอปั้นข้าตลอดเลยแฮะ?

ข้าส่ายศีรษธและออกจากโรงตีเหล็กไป

“ต่อไปเราก็มาตรวจสอบกำแพงกันก่อน”

เราพากันมุ่งหน้าไปยังกำแพงทางใต้

“โห้!”

ข้าเปล่งเสียงออกมาทันทีที่เราไปถึงกำแพง

ดาบสีดำขนาดมหึมาของอัศวินเงายังคงอยู่ในกำแพง

กำแพงพังทลายลงไปในรอบจุดที่ดาบฝังอยู่ แผ่นโลหะแตกหักไปหมด อิฐก็กลับกลายเป็นฝุ่น

“หากเป็นเช่นนี้ เราคงไม่แม้แต่จะกันสัตว์ป่าได้ด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับพวกสัตว์ประหลาด…เจ้าประมาณการแล้วว่าการซ่อมแซมจะใช้เวลานานแค่ไหนกัน?”

ข้าถามสมาคมช่างก่ออิฐ ซึ่งกำลังประเมินค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมจากด้านบนของกำแพงอยู่ หัวหน้าสมาคมผู้นี้ได้แต่ส่ายศีรษะไปมา

“ความเสียหายนั้นมีมากเกินไป ในการซ่อมแซมอย่างเต็มที่ก็คงจะต้องใช้เวลากว่าสองสัปดาห์”

“มากกว่าสองสัปดาห์เหรอ?”

“นั่นเป็นเพียงการซ่อมแซมเท่านั้น การจะเอาดาบออกยิ่งเป็นงานหนักเข้าไปใหญ่…”

เสียงของหัวหน้าสมาคมค่อยๆ เบาลง

"เวร"

ข้าเดาะลิ้นอย่างไม่สบอารมณ์นัก

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือพวกเขาไม่แน่ใจว่าต้องใช้เวลากี่วันในการเอาดาบยักษ์ออก ซึ่งพอเอาออกก็ต้องใช้เวลาซ่อมแซมสองสัปดาห์

ข้าถอนหายใจและเปิดหน้าต่างข้อมูลด่านขึ้น เวลาเริ่มต้นของด่านถัดไปได้มีการระบุไว้แล้ว

[ด่านที่ 2]

– เวลาจนกว่าจะเริ่มต้น: 9 วัน 20 ชั่วโมง

ไม่ทันแน่

เรามีเวลาไม่มากพอ

ข้ารู้สึกปวดหัวยิ่งนักจนได้แต่ก่ายหน้าผาก

ข้าควรแก้ไขปัญหายามนี้ยังไงกัน?

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด