บทที่ 165 ดาวเคราะห์ของท่านจ้าวพิภพสูงสุด
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 165
บทที่ 165 ดาวเคราะห์ของท่านจ้าวพิภพสูงสุด
วันที่สอง ทรังคซ์และคนอื่นๆ ได้มายังวังพระเจ้าด้วยความช่วยเหลือของหลินเฉิน
เมื่อหลินเฉินพูดถึงแผนการของเขาที่จะค้นหาชาวดาวนาเม็กและชุบชีวิตเดนเด้ ทำให้เทพเจ้ามังกรของโลกฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง มิสเตอร์โปโป้ก็ตื่นเต้นมากจนน้ำตาไหลออกมา
"จริงเหรอ? พระเจ้าสามารถฟื้นคืนชีพได้งั้นหรือ? นั่นมันเยี่ยมมาก! โปโป้เหงามากตั้งแต่พระเจ้าตายไป!”
จากนั้นมิสเตอร์โปโป้ก็ขอให้หลินเฉินรอสักครู่
ครู่ต่อมา มิสเตอร์โปโป้ก็ออกมาจากวังพระเจ้าพร้อมกับหินเจ็ดก้อน
“นี่คือลูกแก้วมังกร พวกมันกลายเป็นหินหลังจากที่พระเจ้าตายไป หากพระเจ้าฟื้นคืนชีพได้ เราก็สามารถใช้เทพเจ้ามังกรเพื่อชุบชีวิตผู้อื่นได้ทันที!”
"ดี! ถ้าอย่างนั้นทุกคนรอที่นี่เถอะ ข้าจะไปตามหาไคโอเหนือเพื่อยืนยันตำแหน่งของชาวดาวนาเม็ก ” หลินเฉินกล่าว
ดาวเคราะห์นาเม็กในโลกนี้ถูกทำลายไปแล้วในยุคของฟรีเซอร์ ต่อมาชาวนาเม็กจึงได้ย้ายไปยังดาวเคราะห์ดวงอื่น
เนื่องจากสิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในโลกของหลินเฉิน อีกทั้งยังไม่มีแผนที่จักรวาล ทำให้เขาไม่รู้เลยว่ายามนี้ชาวดาวนาเม็กไปอยู่ที่ใดแล้ว
แต่ท่านไคโอเหนือน่าจะรู้เรื่องนี้
“คุณหลินเฉิน เราขอฝากเรื่องนี้ไว้กับท่านด้วย!” ทุกคนโค้งให้กับหลินเฉินด้วยความเคารพ
แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานกว่าทศวรรษ แต่ทุกคนก็ยังคิดถึงอดีตสหายร่วมทางของพวกเขา
เมื่อคิดภาพที่คนเหล่านั้นจะได้หวนคืนกลับมา พวกเขาก็รู้สึกตื่นเต้นจนแทบจะหลั่งน้ำตาออกมา
“เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน” หลินเฉินกล่าวอย่างใจเย็น จากนั้นจึงหายตัวไปทันทีด้วยการเคลื่อนย้ายพริบตา
เมื่อเขาเคลื่อนย้ายมาอีกครั้ง เขาก็ได้มาถึงยมโลกแล้ว
ทว่าเมื่อเขาเห็นว่าไม่มีอะไรอยู่ใต้เท้าของเขา หลินเฉินก็ชะงักไปทันที
"โอ้ เวรแล้วไง! ข้าลืมไปว่าดาวเคราะห์ของไคโอหายไปแล้ว!”
หลินเฉินทุบหัวของตนเอง เขาเพิ่งนึกได้ว่าในระหว่างเซลล์เกม ดาวเคราะห์ของไคโอเหนือได้ถูกทำลายเพราะการทำลายตัวเองของเซลล์
“ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าข้าจะลืมเรื่องนี้ไปได้!”
หลินเฉินจำได้ว่าในงานเขียนต้นฉบับ หลังจากที่ดาวเคราะห์ไคโอได้ถูกทำลาย ไคโอเหนือก็ลงนรกไปพร้อมกับโกคู เขาไม่แน่ใจว่าเรื่องแบบเดียวกันนี้ได้เกิดขึ้นหรือไม่
เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลินเฉินก็มองลงไปทางอสรพิษ เขาจึงใช้เคลื่อนย้ายพริบตาอีกครั้งจนมาถึงพระราชวังของท่านเจ้านรก
“ท่านเจ้านรก!”
ท่านเจ้านรกแห่งจักรวาลนี้ได้พบกับหลินเฉินเป็นครั้งแรก แต่ก็เช่นเดียวกับในจักรวาลของหลินเฉิน เมื่ออีกฝ่ายได้พบกับเขา ใบหน้าของท่านเจ้านรกพลันกลับกลายเป็นเคร่งเครียดทันที
ทว่าท่านเจ้านรกยิ่งรู้สึกประหลาดใจมากเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังมิติที่สูงมากจากตัวของหลินเฉิน
ทันใดนั้น ท่านเจ้านรกที่สับสนก็ปฏิบัติต่อหลินเฉินคล้ายกับอีกฝ่ายเป็นเทพระดับสูง
“ส….สวัสดี ท่านมีอะไรที่ต้องการงั้นหรือ?”
"หือ?" หลินเฉินรู้สึกสับสนกับท่าทีของท่านเจ้านรก แต่เขาก็ละทิ้งความสงสัยทันทีและถามออกไปว่า “ท่านเจ้านรก ข้าอยากรู้ว่ายามนี้ท่านไคโอเหนืออยู่ที่ไหน?”
“ท่านไคเหนือยามนี้คงจะอยู่บนดาวเคราะห์ของท่านจ้าวพิภพสูงสุดแล้ว”
“ข้าจะไปที่นั่นโดยตรงจากยมโลกได้ลยหรือไม่?”
“อืม ท่านสามารถไปที่นั่นจากยมโลกได้ด้วยการใช้เครื่องบินไปยังดาวเคราะห์ของท่านจ้าวพิภพสูงสุด”
“ช้าเกินไป แค่บอกทิศทางมาเถอะ”
“ข-เข้าใจแล้ว!” ท่านเจ้านรกชี้ไปทางหนึ่งและกล่าวว่า “บินไปทางนั้นเป็นระยะทางประมาณ 150,000 กิโลเมตร จากนั้นท่านก็จะไปถึงแล้ว”
“ขอบคุณ” หลินเฉินกล่าวและจากนั้นเขาก็ใช้เคลื่อนย้ายพริบตาทันที
หลังจากที่หลินเฉินจากไป ยักษ์ตัวน้อยที่อยู่ด้านข้างจึงถามว่า “ท่านเจ้านรก คนเมื่อครู่เป็นผู้ใดกันหรือ?”
ท่านเจ้านรกจึงกล่าวตอบไปว่า “เจ้าโง่! พวกเจ้าไม่รู้สึกถึงพลังศักดิ์สิทธิ์อันแผ่วเบาของคนผู้นั้นหรือ? นั่นต้องเป็นเทพจากมิติที่สูงกว่าเป็นแน่!”
ในมิติที่สูงกว่ายมโลก พื้นที่สีแดง ดาวเคราะห์สีน้ำเงินที่เล็กกว่าโลกเล็กน้อยกำลังล่องลอยอยู่
ในชั่วพริบตา หลินเฉินก็ปรากฏตัวขึ้นใกล้ดาวเคราะห์ดวงนี้
“ที่นี่คือดาวเคราะห์ของท่านจ้าวพิภพสูงสุดสินะ?”
หลินเฉินกระจายสัมผัสของเขาออกไป จนพบกับออร่าของไคโอเหนือที่เขาคุ้นเคยบนดาวดวงนี้
แม้ว่าไคโอเหนือจะตายไปแล้ว แต่ด้วยความที่เป็นเทพ เขาจึงยังคงรักษาร่างกายและพลังของเขาไว้ได้ถึงจะตายไปก็ตาม
หลินเฉินเคลื่อนย้ายและเมื่อเขาปรากฏตัวอีกครั้ง เขาก็มาอยู่บนดาวเคราะห์ของท่านจ้าวพิภพสูงสุด ใกล้กับออร่าของไคโอเหนือ
สายลมแผ่วเบาได้พัดผ่านทุ่งหญ้าสีเขียวบนดาวเคราะห์ดวงนี้ นักรบจำนวนมากที่มีวงแหวอยู่เหนือศีรษะกำลังฝึกฝนกันอยู่
คนเหล่านี้เป็นนักรบจากยมโลก เนื่องด้วยความสำเร็จที่พวกเขาทำมาในชีวิตก่อน พวกเขาจึงได้รับอนุญาตให้เก็บร่างกายของพวกเขาและมาที่ดาวเคราะห์ของท่านจ้าวพิภพสูงสุดเพื่อฝึกฝนได้
เมื่อหลินเฉินปรากฏตัวขึ้นมา นักรบเหล่านี้ก็เพียงเหลือบมองเขาและฝึกฝนต่อไป
มักมีหน้าใหม่มาที่นี่เสมออยู่แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่แปลกใจกับการปรากฏตัวของหลินเฉินเลย
ทว่าไม่มีใครสังเกตเห็นเลยว่าหลินเฉินแตกต่างจากพวกเขา เพราะเขาไม่มีวงแหวนเหนือศีรษะ
หลังจากเดินไปสักพักหนึ่ง ก็มีกอริลลาประหลาดกำลังจ้องมองมาทางหลินเฉินด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง จากนั้นมันก็เอียงศีรษะและตะโกนว่า “อู๋-โอ้-โอ้”
“ว่าไง บับเบิ้ล” หลินเฉินทักทายตอบกลับไป “ไคเหนืออยู่ที่ไหนเหรอ? ข้าต้องการพบเขา”
บับเบิ้ลดูเหมือนจะเข้าใจคำพูดของหลินเฉิน มันจึงชี้ไปในทิศทางหนึ่ง
จากนั้นหลินเฉินก็เห็นร่างเตี้ยอวบอิ่ม กำลังนอนสบายอยู่บนเก้าอี้พร้อมกับนอนกรนเสียงดัง
ก่อนที่หลินเฉินจะปลุกเขาขึ้นมา บับเบิ้ลก็กระโดดไปและตบหน้าของไคโอเหนือ
"โอ๊ย!"
ไคโอเหนือร้องออกมาและลุกขึ้น “บับเบิ้ล!”
ทันใดนั้น ไคโอเหนือก็สังเกตเห็นหลินเฉินที่อยู่ตรงหน้าเขาทันที "หืม? เจ้าเป็นใครกัน?”
“ท่านไคโอเหนือ ข้าคือหลินเฉินจากโลก”
“โลกหรือ?” ไคโอเหนือลุกขึ้นยืนอย่างกะทันหัน “โลกยังไม่ถูกทำลายหรือ? ข้าคิดว่ามนุษย์ที่นั่นถูกโบแจ็คฆ่าตายไปแล้วเสียอีก!”
“ถูกต้องแล้ว ไม่ใช่แค่มนุษย์ยังไม่ตาย แต่พวกโบแจ็คได้ถูกพวกเราสังหารไปหมดแล้ว”
"อะไรนะ?"
ไคโอตกใจมาก เขาตรวจสอบโลกอย่างรวดเร็วโดยใช้หนวดแมลงของเขา
ครู่ต่อมา เขาก็พบว่าโบแจ็คและแก๊งของเขาได้ตายไปแล้วจริงๆ!
"เป็นเช่นนี้ได้ยังไงกัน? โบแจ็คตายแล้ว? ตอนนั้นเราเราเหล่าไคโอทั้งสี่ต่างพยายามสุดความสามารถ แต่ก็ได้เพียงผนึกเขาเอาไว้ เป็นฝีมือผู้ใด? หรือว่าจะเป็นโกคู? ไม่สิ โกคูไม่อาจกลับไปยังโลกคนเป็นได้อีกแล้ว..."
“เป็นลูกชายของเบจิต้า ทรังคซ์” หลินเฉินอธิบาย
"ทรังคซ์?"
ไคโอเหนือไม่ได้หันกลับมา เขายังคงสืบหาเรื่องราวต่างๆ และจากนั้นเขาก็ได้หันมามองหลินเฉินด้วยความประลหาดใจ “ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้าหรือ? เจ้าเป็นชาวไซย่าจากอีกจักรวาลหนึ่งจริงๆ หรือ?”
หลินเฉินเลิกคิ้วขึ้น เขาไม่คิดเลยว่าไคโอเหนือจะรู้ทึกอย่างได้รวดเร็วเพียงนี้ คงจะเป็นพลังของไคโอเหนือสินะ?
ก็ดี เขาจะได้ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก