ตอนที่ 627 พื้นที่มืดที่ไม่สามารถควบคุมได้
ตอนที่ 627 พื้นที่มืดที่ไม่สามารถควบคุมได้
การปรากฏตัวของโครงกระดูกสีทองได้เปลี่ยนสถานการณ์บนเกาะอสรพิษพิทักษ์ไปอย่างสิ้นเชิง เพราะหลังจากที่โครงกระดูกสีทองปรากฏตัวขึ้นมาได้เพียงแค่ 1 นาที ชายชุดดำซึ่งเป็นลูกทีมของหยูฮัวก็ได้ถูกฉีกกระชากร่างกายไปแล้วถึงสามคน
ปัจจุบันเซี่ยเฟยกำลังวิ่งไปหาหยูฮัวราวกับคนบ้า โดยควบคุมหงส์ครามไว้ที่มือขวาและถือบลัดบิวเทียสที่สวยงามไว้ในมือซ้าย
เซี่ยเฟยเกลียดการถูกหลอกใช้มาโดยตลอด ซึ่งในคราวนี้เขาไม่เพียงแต่จะตกอยู่ภายใต้แผนการของหยูฮัวจนทำให้เกือบตายเท่านั้น แต่เขายังคิดว่าหยูฮัวเป็นอาจารย์และเป็นสหายที่ดีของเขามาโดยตลอดอีกด้วย มันจึงยิ่งทำให้เขารู้สึกคับแค้นใจมากยิ่งขึ้น
แม้ว่าตอนนี้อาการบาดเจ็บภายในของชายหนุ่มยังคงสร้างความเจ็บปวดให้กับเขา แต่การถูกสหายทรยศเป็นเรื่องที่เจ็บปวดมากยิ่งกว่า ซึ่งเหตุการณ์ในวันนี้ก็คงจะฝังลึกอยู่ในหัวใจของเขาไปเป็นเวลานาน และเขาก็อาจจะไม่มีทางลืมเหตุการณ์ในวันนี้ไปตลอดชีวิต
คนที่กล้าหลอกลวงเขาคือศัตรูและศัตรูจะต้องตาย!!
ถุย!
ขนอุยเริ่มฟื้นฟูพลังกลับมาอีกครั้ง มันจึงพ่นตาข่ายพลังงานออกไปในท้องฟ้าเพื่อพยายามพันธนาการร่างของหยูฮัวเอาไว้
ช่องว่างมิติ!
หยูฮัวโบกมือจากบนลงล่างตัดผ่านพื้นที่มิติเผยให้เห็นมิติอันมืดมิดที่หลบซ่อนอยู่ด้านใน
อย่างไรก็ตามมิติที่ถูกเปิดออกมานี้ไม่ใช่รอยแยกมิติธรรมดา แต่มันเป็นช่องว่างมิติที่จะนำพาไปสู่มิติอันมืดมิด
ช่องว่างมิติที่ถูกเปิดออกตัดผ่านตาข่ายพลังงานของขนอุยไปอย่างง่ายดาย และมันก็คล้ายกับช่องว่างมิตินี้จะดูดกลืนทุกสิ่งเข้าไปจนหมด
พลังการทำลายจากการจู่โจมอันแปลกประหลาดทำให้เซี่ยเฟยไม่กล้าที่จะประมาทเลยแม้แต่นิดเดียว เขาจึงพยายามบิดตัวหลบหนีอย่างเต็มที่จนแทบที่จะไม่สามารถรอดพ้นไปจากการโจมตีในครั้งนี้ได้
ในช่วงเวลาวิกฤตที่ใกล้จะสิ้นหวัง จู่ ๆ หยูฮัวก็ตัดสินใจใช้วิชามิติที่อันตรายที่สุดออกมา
การเปิดช่องว่างมิติเป็นวิธีการที่ขาดความเสถียรมาก และถ้าหากว่าผู้ใช้เปิดช่องว่างมิติขึ้นมาอย่างไม่ระมัดระวัง ช่องว่างที่ถูกเปิดออกมาก็จะขยายตัวอย่างไร้ที่สิ้นสุด ซึ่งในเวลานั้นมันก็อย่าว่าแต่เกาะอสรพิษพิทักษ์เลย เพราะแม้แต่พื้นที่ตระกูลหยูทั้งหมดก็อาจจะถูกดูดเข้าไปภายในช่องว่างมิติด้วย
แต่ถึงกระนั้นหยูฮัวก็ยังเลือกที่จะเปิดช่องว่างมิติขึ้นมาอย่างไม่สนใจ คล้ายกับว่าเขาไม่ได้ใช้สมองในการต่อสู้ครั้งนี้อีกแล้ว
“ไปลงนรกซะ!”
แม้ว่าเซี่ยเฟยจะเคลื่อนที่หลบช่องว่างมิติไปได้ แต่เมื่อช่องว่างมิติเริ่มถูกเปิดออกมันก็เริ่มดูดทุกอย่างเข้าไปด้านในอย่างบ้าคลั่ง เซี่ยเฟยจึงใช้หงส์ครามแทงลึกลงไปในดินเพื่อป้องกันไม่ให้ร่างของเขาถูกดูดเข้าไปยังช่องว่างมิติ
ในเวลาเดียวกันใบหญ้าสีฟ้าก็คืบคลานเข้าไปหาหยูฮัวทางพื้นดิน และเมื่อมันได้ปรากฏขึ้นมาอีกครั้งมันก็พยายามเคลื่อนที่เข้าไปพัวพันเท้าของหยูฮัวเอาไว้
ขวับ
ใบหญ้าตวัดอย่างรวดเร็วและถึงแม้ว่าหยูฮัวจะสามารถเคลื่อนที่หลบใบหญ้าใบหนึ่งได้ แต่ท้ายที่สุดเขาก็ถูกใบหญ้าอีกใบคว้าข้อเท้าข้างซ้ายของเขาได้สำเร็จ
“ไม่นะ!” หยูฮัวรู้ดีว่าอาวุธมายาทรงพลังมากแค่ไหน และถ้าหากว่าเขาถูกอาวุธชิ้นนี้พันธนาการร่างกายเอาไว้ได้ มันก็ไม่มีทางปล่อยจนกว่ามันจะถูกทำลายเพราะท้ายที่สุดมันก็คือวัชพืชที่ดื้อรั้นที่สุดในจักรวาล
เจ็ดมังกรแยกฟ้า!
หยูฮัวไม่สนใจว่าสิ่งที่กำลังพยายามพันธนาการร่างของเขาอยู่คืออะไร แต่เขาก็เลือกใช้วิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาจู่โจมออกไปในทันที
วิชามังกรแยกฟ้าเป็นวิชาขั้นสูงสุดของตระกูลหยู และถึงแม้ว่ามันจะยังไม่ทรงพลังเท่ากับวิชาปลอดมังกรสวรรค์ของหยูเจียง แต่มันก็ยังคงเป็นวิชาที่น่ากลัวมากอยู่ดี
สภาพแวดล้อมบริเวณโดยรอบถูกแยกออกเป็นชิ้น ๆ แน่นอนว่าหงส์ครามย่อมไม่สามารถที่จะทนรับการโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้ได้ เพราะมันคือการโจมตีที่ฉีกกระชากมิติให้ขาดออกจากกันโดยตรง
อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ใบหญ้าสีฟ้ากำลังจะแตกสลาย ใบหญ้าใบใหม่ก็งอกขึ้นมาพันธนาการร่างของหยูฮัวเอาไว้อย่างรวดเร็ว
ถ้าหากว่าเซี่ยเฟยมีเวลาเขาก็อยากจะสอนหยูฮัวเหมือนกันว่ารากของหงส์ครามฝังอยู่ในแขนขวาของเขา ดังนั้นตราบใดก็ตามที่เขายังคงมีชีวิตอยู่หงส์ครามก็สามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้เรื่อย ๆ การพยายามหลบหนีจากอาวุธมายาชิ้นนี้จึงไม่ใช่เรื่องที่สามารถทำได้อย่างง่ายดายมากขนาดนั้น
หยูฮัวพยายามทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยพลังของกฏ ขณะที่เซี่ยเฟยก็พุ่งตัวออกไปเพื่อจู่โจมเข้าใส่ศัตรูด้วยเช่นกัน
ฝ่ามือใบไม้ร่วง!
ฝ่ามือของชายหนุ่มเคลื่อนที่ออกไปอย่างเชื่องช้าโดยมีเป้าหมายคือศีรษะของหยูฮัว
ทันใดนั้นเองจู่ ๆ มันก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมาอย่างกะทันหัน เพราะหลังจากที่โครงกระดูกสีทองทั้งเจ็ดบนยอดเขาสังหารคนของหยูฮัวไปจนหมดแล้ว พวกมันก็เริ่มจู่โจมทั้งเซี่ยเฟยและหยูฮัวโดยไม่เลือกหน้า และถ้าหากว่าเซี่ยเฟยยังคงอยู่ตรงนี้เขาก็จะถูกโจมตีไปพร้อม ๆ กับหยูฮัวด้วย
“ให้ตายเถอะ! นี่พวกมันไม่ใช่พวกเรางั้นเหรอ?” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“นายจะไปคาดหวังให้พวกมันแยกมิตรกับศัตรูออกจากกันได้ยังไง พวกมันเป็นเพียงแค่โครงกระดูกนะไม่ใช่มนุษย์ที่ยังมีชีวิต” อันธที่เงียบมานานพยายามกล่าวเตือนสติเซี่ยเฟย
ความจริงในเรื่องนี้ทำให้เซี่ยเฟยตระหนักว่าจำนวนของศัตรูไม่ได้ลดลงเลย แต่มันเพิ่มจำนวนขึ้นมากกว่าเดิมต่างหาก ยิ่งไปกว่านั้นสถานการณ์ในปัจจุบันยังไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างสองฝ่ายอีกต่อไป แต่มันได้กลับกลายเป็นการต่อสู้ 3 ฝ่ายแล้วต่างหาก
ไม่นานการจู่โจมของพวกโครงกระดูกสีทองก็มาถึง แล้วมันก็สมแล้วที่โครงกระดูกเหล่านี้คือบรรพบุรุษของตระกูลหยู เพราะพวกมันต่างก็ล้วนแล้วแต่สามารถใช้วิชามังกรแยกฟ้าได้เหมือนกัน
โครงกระดูกแต่ละร่างต่างก็ล้วนแล้วแต่ใช้วิชามังกรแยกฟ้าได้แตกต่างกันไป ตั้งแต่ 3 มังกรแยกฟ้า, 4 มังกรแยกฟ้าหรือแม้แต่ 5 มังกรฟ้าก็มี
การจู่โจมโดยพวกโครงกระดูกสีทองในครั้งนี้สร้างรอยแยกมิติอันน่าสะพรึงกลัวขึ้นมาเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน เกิดเป็นภาพที่คล้ายกับว่าดาวทั้งดวงกำลังจะแตกสลาย
ภาพเหตุการณ์ในปัจจุบันไม่เพียงแต่จะทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกตกตะลึง เพราะหยูฮัวก็รู้สึกตกตะลึงไม่แพ้กันจนทำให้ใบหน้าของเขาซีดเซียวจนแทบจะกลายเป็นสีขาว
ตูม!
เซี่ยเฟยถูกจู่โจมกระแทกลงไปบนพื้นอีกครั้งก่อนที่เขาจะกระอักเลือดออกมา ซึ่งการจู่โจมเมื่อสักครู่มันเลวร้ายมากยิ่งกว่าในตอนที่เขารับการโจมตีจากหยูฮัวเสียอีก
ชายหนุ่มเริ่มได้ยินเสียงหึ่งดังขึ้นภายในหู โดยมันเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าร่างกายของเขาใกล้ที่จะถึงขีดจำกัดเต็มทีแล้ว ซึ่งถ้าหากว่าเขายังคงฝืนสู้ต่อไปมันก็คงจะเป็นเพียงแค่เรื่องของเวลาก่อนที่เขาจะตายภายใต้น้ำมือของศัตรู
“เซี่ยเฟยดูนั่น!”
อันธชี้นิ้วไปทางด้านหลังด้วยความหวาดกลัว และเมื่อชายหนุ่มได้หันกลับไปดวงตาทั้งสองข้างของเขาก็เบิกกว้างขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“นี่ฉันจะต้องมาตายที่นี่จริง ๆ เหรอ?”
ภาพที่ปรากฏคือช่องว่างมิติของหยูฮัวยังไม่หายไป แต่มันยังคงแผ่ขยายรอยแยกต่อไปจนตอนนี้มันได้มีขนาดรอยแยกกว้างมากกว่า 10 กิโลเมตรแล้ว
“ช่องว่างมิตินั่นหลุดจากการควบคุมไปแล้ว!” โอโร่กล่าวท่ามกลางความวุ่นวาย เพื่อบอกถึงมหันตภัยที่กำลังรอคอยเขาอยู่ตรงหน้า
ช่องว่างมิติที่ใหญ่ขนาดนี้ยอมไม่เพียงแต่จะสามารถดูดกลืนเกาะอสรพิษพิทักษ์เข้าไปได้เท่านั้น แม้แต่จักรวาลที่อยู่บริเวณโดยรอบตระกูลหยูก็อาจจะถูกดูดเข้าไปภายในช่องว่างมิติที่กำลังบ้าคลั่งแห่งนี้ด้วย
แรงดูดดึงอันรุนแรงดูดกลืนทุกอย่างเข้าไปภายในรอยแยกมิติอย่างรวดเร็ว ซึ่งถ้าหากว่ามันไม่มีใครมาหยุดยั้งรอยแยกมิตินี้เอาไว้ได้ มันย่อมแผ่ขยายภัยพิบัติออกไปเป็นวงกว้าง
สถานการณ์ในปัจจุบันทำให้เซี่ยเฟยสิ้นหวังมาก เพราะในครั้งสุดท้ายที่เขาหลุดเข้าไปในช่องว่างมิติพร้อมกับหนอนด้วงมิติ เขาก็เกือบจะต้องติดอยู่ในนั้นไปตลอดชีวิต ซึ่งมันเป็นการใช้ชีวิตที่ทุกข์ทรมานมากกว่าความตาย แล้วมันก็ไม่มีใครรู้ว่ามันจะมีอะไรรอคอยเขาอยู่ด้านในช่องว่างมิตินั้นบ้าง
ขณะเดียวกันใบหน้าของหยูฮัวก็กำลังซีดเซียวราวกับคนตาย เพราะเขาไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะได้สูญเสียการควบคุมช่องว่างมิติไปจริง ๆ
ก่อนหน้านี้เขาเคยมีโอกาสเห็นหยูเจียงใช้ช่องว่างมิติมาก่อนแล้ว ซึ่งชายชราก็สามารถจะใช้ช่องว่างมิติได้โดยไม่มีปัญหาอะไร หยูฮัวจึงพยายามใช้ช่องว่างมิติออกมาบ้าง
แต่ความจริงกลับกลายเป็นว่าเขาไม่สามารถควบคุมช่องว่างมิติเอาไว้ได้ หรือมันอาจจะกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่าทักษะในการควบคุมของเขายังตามหลังหยูเจียงอยู่อีกมาก
หยูฮัวเหลือบตามองไปยังเซี่ยเฟยอย่างดุเดือด และเขาก็คิดว่าหายนะทั้งหมดที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้มันเป็นฝีมือของเซี่ยเฟย
ถ้าเซี่ยเฟยไม่ได้มาที่นี่ในวันนี้เขาก็คงจะไม่ใช้รอยแยกมิติออกไป แล้วมันย่อมไม่ก่อให้เกิดหายนะอย่างปัจจุบัน
โครงกระดูกสีทองไม่ได้มีความคิดที่จะปล่อยเซี่ยเฟยหรือหยูฮัวออกไปแม้แต่คนเดียว สิ่งเดียวที่พวกมันรู้จักคือหัวหน้าตระกูลหยูและอสูรเทวะผู้ปกป้องตระกูลเท่านั้น ส่วนสิ่งมีชีวิตที่เหลือที่ปรากฏตัวต่อหน้ามันต่างก็ล้วนแล้วแต่จะต้องถูกทำลายลงไปทั้งหมด
พริบตาต่อมาโครงกระดูกสีทอง 5 ร่างและโครงกระดูกธรรมดาอีกเป็นจำนวนมากก็เตรียมพร้อมที่จะเริ่มทำการจู่โจมเข้าใส่พวกเขาอีกครั้ง
เซี่ยเฟยรู้ดีว่าร่างกายของเขาใกล้ที่จะถึงขีดจำกัดแล้ว และถ้าหากว่าเขาต้องรับการโจมตีระลอกใหม่ของโครงกระดูกสีทองเข้าไป เขาย่อมไม่สามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้อย่างแน่นอน
ก่อนหน้านี้เขาได้อาศัยพลังของกฎแห่งความโกลาหล, อสูรศักดิ์สิทธิ์, อาวุธมายาและบลัดบิวเทียสในการต่อสู้มาโดยตลอด และถึงแม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะสามารถเพิ่มพลังการต่อสู้ของเขาได้อย่างก้าวกระโดด แต่มันก็สามารถที่จะเพิ่มพลังให้กับเขาได้ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น เขาไม่สามารถที่จะพึ่งพาพลังที่หยิบยืมมาเพื่อเผชิญหน้ากับราชากฎเป็นเวลานานได้
“เอาก็เอาว่ะ!” เซี่ยเฟยส่งเสียงร้องคำรามก่อนที่จะตัดสินใจมุ่งหน้าตรงไปยังช่องว่างมิติ
“อย่างมากที่สุดฉันก็แค่ต้องตายในช่องว่างมิติ แต่ฉันจะไม่ปล่อยให้หยูฮัวได้สิ่งที่เขาต้องการไปอย่างเด็ดขาด!!”
การเคลื่อนไหวของเซี่ยเฟยทำให้หยูฮัวชะงักค้างด้วยความตกใจ ขณะเดียวกันเขาก็ไม่ใช่คนบ้าเหมือนกับเซี่ยเฟย เพราะตำแหน่งของผู้นำตระกูลอยู่ใกล้เขาเพียงแค่เอื้อมแล้ว เขาจึงไม่มีทางเอาชีวิตของตัวเองเข้าไปเสี่ยงในช่องว่างมิติอันมืดมิดแห่งนั้นเป็นอันขาด
แต่ถ้าหากว่าช่องว่างมิติยังคงขยายตัวต่อไปและทำให้ตระกูลหยูหายไป เขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะต่อสู้ไปเพื่ออะไรเหมือนกัน ในชั่วขณะหนึ่งนั้นหยูฮัวจึงรู้สึกลังเลโดยไม่รู้ว่าตัวเองควรจะต้องทำอะไรกันแน่
เซี่ยเฟยรีบมุ่งหน้าตรงไปยังช่องว่างมิติอย่างสิ้นหวัง แต่ในขณะที่เขากำลังจะก้าวเท้าเข้าไปในช่องว่างมิติอยู่นั่นเอง จู่ ๆ เหตุการณ์มันก็ได้พลิกผันขึ้นอีกครั้ง
จู่ ๆ ชายผู้สวมหน้ากากก็ได้ปรากฏตัวและใช้มือทั้งสองข้างของเขาพยายามปิดช่องว่างมิติที่บ้าคลั่งลงอย่างช้า ๆ
เขาคนนี้สามารถหยุดการแผ่ขยายของช่องว่างมิติได้!!
ชายคนนี้คือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดบนเกาะอย่างไม่ต้องสงสัย และเซี่ยเฟยก็รู้ดีว่าชายคนนี้คือศัตรูไม่ใช่คนที่อยู่ฝั่งเดียวกับเขา
“รีบหนีเร็วเข้า! เขาคนนั้นมีพลังอยู่ในระดับจักรพรรดิกฎ!! หลังจากที่เขาจัดการกับช่องว่างมิติแล้วเป้าหมายต่อไปของเขาจะต้องเป็นนาย”
คำพูดของโอโร่ดังกึกก้องอยู่ภายในหูของเซี่ยเฟยซ้ำ ๆ และถึงแม้ว่าเขาจะพอคาดเดาเอาไว้อยู่แล้ว แต่หลังจากที่ได้รับคำยืนยันมันก็ทำให้เขาไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่กำลังได้ยินอยู่จริง ๆ
ศัตรูของเขาคราวนี้คือจักรพรรดิกฎจริง ๆ งั้นเหรอ!?
***************