ตอนที่ 626 โครงกระดูกทองคำ
ตอนที่ 626 โครงกระดูกทองคำ
“หยูกู่ติง!” เซี่ยเฟยตะโกนร้องคำรามออกมา แต่น่าเสียดายที่อีกฝ่ายไม่สามารถที่จะตอบรับคำร้องของเขาได้อีกต่อไปแล้ว เพราะร่างกายของเขากำลังถูกฉีกกระชากแยกออกจากกันทำให้ชายคนนี้เสียชีวิตลงในทันที
ชายชุดดำ 2 คนรีบค้นแหวนมิติของหยูกู่ติงในทันที ขณะที่หยูฮัวกับชายชุดดำอีกสามคนยังคงไล่ตามเซี่ยเฟยต่อไป
คลื่น!
จู่ ๆ พื้นดินด้านหน้าเซี่ยเฟยก็เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว กลายเป็นภูเขาที่ล้อมรอบร่างของชายหนุ่มเอาไว้ ตามมาด้วยรอยแยกมิติหลายสิบสายที่จู่โจมเข้ามาด้วยความรวดเร็ว
เซี่ยเฟยพยายามกัดฟันบิดร่างกายไถลไปกับพื้นเพื่อหลบเลี่ยงการโจมตี จากนั้นไอพ่นของชุดเกราะชาร์ปเลสก็พ่นไฟสีน้ำเงินออกมา โดยเขาวางแผนที่จะใช้เครื่องยนต์ควอนตัมหลบหนีออกไปจากภูเขาที่กำลังขวางกั้นเส้นทางของเขาอยู่
อย่างไรก็ตามทางด้านบนก็ได้มีชายชุดดำบางส่วนจู่โจมลงมาจากบนยอดเขา ทำให้เซี่ยเฟยต้องบิดตัวหนีอย่างแรงเพื่อหลบเลี่ยงการโจมตีและล้มลงไปบนพื้นอีกครั้ง
หยูเจียงอุตส่าห์เสียสละชีวิตดึงดูดความสนใจของนักสู้ที่เก่งกาจที่สุดในกลุ่มนี้ไป แต่ท้ายที่สุดการหลบหนีของเซี่ยเฟยก็ยังคงจบลงด้วยความล้มเหลวอยู่ดี
เมื่อพิจารณาจากการเคลื่อนไหวมันก็เห็นได้ชัดเลยว่าราชากฎเหล่านี้ยังไม่ต้องการที่จะสังหารเซี่ยเฟย แต่บังคับให้เขาถูกขังอยู่ในปล่องภูเขาไฟโดยมีร่างของหยูฮัวกำลังยืนรอเขาอยู่แล้ว
ชายหนุ่มคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมกับหอบหายใจออกมาอย่างหนัก น่าเสียดายที่ถึงแม้เขาจะพยายามอย่างเต็มที่แต่เขาก็ยังไม่สามารถหลบหนีทีมของราชากฎผู้ทรงพลังเหล่านี้ได้
“ฉันเป็นคนพานายมาจากพันธมิตรด้วยตัวเอง และวันนี้ฉันก็จะเป็นคนจบชีวิตของนายด้วยเหมือนกัน” หยูฮัวกล่าวอย่างเคร่งขรึม
ประโยคนี้หยูฮัวไม่เพียงแต่จะพูดกับเซี่ยเฟยเท่านั้น แต่มันยังรวมถึงการส่งข้อความไปยังเหล่าบรรดาลูกทีมของเขาด้วย
การต่อสู้ที่ผ่านมาเซี่ยเฟยทั้งกัดหูเขาขาดไปครึ่งหนึ่งและยังขโมยอาวุธของเขาไป มันจึงทำให้เขารู้สึกอัปยศจนอยากจะเอาหน้ามุดแผ่นดินหนี และถ้าหากว่าเขาไม่ได้สังหารเซี่ยเฟยด้วยมือของตัวเอง มันก็ยากที่เขาจะลบความอัปยศที่เกิดขึ้นในวันนี้ได้ และนี่ก็คือเหตุผลที่เขาได้สั่งการให้ลูกทีมทุกคนพยายามจับเป็นเซี่ยเฟยเอาไว้ก่อน
“อะไรกันนี่แกไม่อยากจะเหลือหูอีกครึ่งหนึ่งเอาไว้งั้นเหรอ?” เซี่ยเฟยค่อย ๆ ลุกยืนขึ้นพร้อมกับกล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยการยั่วยุ
หลังจากพูดจบชายหนุ่มก็จงใจเลียริมฝีปากราวกับว่าเขากำลังนึกถึงอาหารมื้ออร่อย ซึ่งทันใดนั้นทุกคนก็สัมผัสได้ราวกับว่าเซี่ยเฟยมีกลิ่นอายของสัตว์ร้ายอยู่รอบตัว และมันก็ทำให้ชายหนุ่มคนนี้ดูคล้ายกับพวกสัตว์ร้ายที่กินคนเป็นอาหารจริง ๆ
หยูฮัวหน้าซีดลงมากกว่าเดิมและมือของเขาก็ยกขึ้นไปสัมผัสหูที่เหลืออยู่เพียงแค่ครึ่งหนึ่งโดยไม่รู้ตัว
เซี่ยเฟยพยายามจู่โจมเข้าใส่จิตใจของศัตรู โดยในตอนนี้โอกาสที่เขาจะหลบหนีออกไปได้เหลืออยู่น้อยมาก และถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะกินยาประสานกระดูกแล้ว แต่หลังจากเขาถูกบังคับให้เคลื่อนไหวอย่างหนักซ้ำ ๆ หลาย ๆ ครั้ง กระดูกซี่โครงของเขาที่หักก็เริ่มสร้างความเจ็บปวดขึ้นมาอีกครั้ง
วิธีการเดียวที่จะทำให้เขาจัดการกับศัตรูได้มีเพียงแค่การทำให้หยูฮัวคลั่ง ซึ่งการทำแบบนั้นมันก็อาจจะทำให้พ่อค้าคนนี้เปิดเผยจุดอ่อนของตัวเองออกมา และเซี่ยเฟยก็สามารถที่จะคว้าจุดอ่อนนั้นและลงมือสังหารหยูฮัวได้
สำหรับการเอาชีวิตรอดไปจากที่แห่งนี้ก็ไม่อยู่ในความคิดของเซี่ยเฟยอีกต่อไปแล้ว เพราะโอกาสหลบหนีทั้ง ๆ ที่ร่างกายได้รับบาดเจ็บท่ามกลางราชากฎเป็นจำนวนมากมันมีโอกาสน้อยมากเกินไป เขาจึงตั้งใจที่จะต่อสู้แลกตายเพื่อสังหารหยูฮัว
“ฉันจะต้องมาจบลงตรงนี้จริง ๆ เหรอ?” เซี่ยเฟยตั้งคำถามกับตัวเอง
แน่นอนว่าคำตอบภายในใจของเขาคือคำว่าไม่ และเมื่อเขาได้รับคำตอบจากคำถามของตัวเองแววตาของเขาก็เริ่มมีความเฉียบขาดมากยิ่งขึ้น
“การพานายมาที่ดินแดนกฎเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดที่ฉันเคยทำมาในชีวิต และวันนี้ฉันก็จะชดใช้ความผิดในอดีตด้วยมือของฉันเอง” หยูฮัวส่งเสียงร้องคำรามขึ้นมาด้วยความโกรธ
ทันทีที่พูดจบหยูฮัวก็เหยียดแขนขวาของเขาออกไปก่อให้เกิดเป็นพลังงานรูปแขนขนาดใหญ่ขึ้นมาครอบแขนของเขาเอาไว้อีกที ซึ่งถ้าหากว่าเซี่ยเฟยถูกจับด้วยแขนพลังงานนี้ เขาก็จะถูกพลังของกฎแห่งมิติพุ่งเข้าทำลายจนแหลกสลายอย่างรวดเร็ว
ทางด้านของเซี่ยเฟยก็กำลังจ้องมองไปยังศัตรูด้วยแววตาอันบ้าคลั่งเช่นเดียวกัน และเขาก็พยายามรวบรวมพลังของกฎแห่งความโกลาหลไปไว้ที่มือของเขา
พายุมิติปิดล้อม!
พายุมิติที่เต็มไปด้วยพลังของกฎแห่งความโกลาหลถูกซัดออกไปอย่างรุนแรง ซึ่งแรงอาฆาตที่ต้องการจะสังหารศัตรูของเซี่ยเฟยก็ไม่ได้ด้อยกว่าแรงอาฆาตของหยูฮัวเลย
“คิดจะใช้วิชาของตระกูลหยูมาจัดการกับฉันเนี่ยนะ! ไอ้เด็กปัญญาอ่อน!!” หยูฮัวกล่าวพร้อมกับหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ
เทพพันกร!
แขนพลังงานของหยูฮัวถูกแยกออกกลายเป็นแขนเป็นจำนวนนับไม่ถ้วนในทันที จากนั้นแขนเหล่านี้ก็เริ่มชกต่อยออกไปยังด้านหน้าอย่างดุเดือด ก่อนที่มันจะทำลายพลังของวิชาคลื่นมิติปิดล้อมลงได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตามแม้ว่าภาพภายนอกหยูฮัวจะสามารถทำลายคลื่นมิติปิดล้อมของเซี่ยเฟยลงได้อย่างง่ายดาย แต่ในความเป็นจริงเขาไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายเลยแม้แต่นิดเดียว ท้ายที่สุดพลังของกฎแห่งความโกลาหลก็ให้ความรู้สึกที่แปลกประหลาดมาก จนทำให้หยูฮัวจำเป็นจะต้องใช้พลังงานมากขึ้นเพราะเขารู้สึกเหมือนกับพลังงานของเขากำลังจะถูกแยกสลายออกไปตลอดเวลา
โชคดีว่าระดับพลังของหยูฮัวสูงกว่าเซี่ยเฟยมาก เพราะถ้าหากระดับพลังของพวกเขาเท่ากันแล้ว การโจมตีของหยูฮัวย่อมพ่ายแพ้ให้กับการโจมตีของเซี่ยเฟยอย่างแน่นอน
ฝ่ามือใบไม้ร่วง!
เซี่ยเฟยยังคงไม่ยอมแพ้เขาจึงผลักฝ่ามือของเขาออกไปอย่างช้า ๆ เพื่อปลดปล่อยพลังของกฎแห่งความโกลาหลออกมาอย่างเต็มที่
ทันใดนั้นเองฝ่ามือของชายหนุ่มก็แทงทะลุผ่านแขนพลังงานของหยูฮัว จนทำให้พลังงานภายในแขนเริ่มที่จะควบคุมไม่อยู่ก่อนที่มันจะสลายหายไปอย่างรวดเร็ว
เซี่ยเฟยรีบกระโดดเข้าไปประชิดร่างของหยูฮัวในระหว่างที่อีกฝ่ายกำลังตกใจ แต่เขาก็ยังไม่ได้ใช้โอกาสนี้ในการโจมตี
การเคลื่อนไหวนี้ถือว่าผิดปกติมาก เพราะถ้าหากว่าเขาใช้หงส์ครามในระยะเพียงแค่นี้เขาย่อมสามารถพันธนาการร่างของหยูฮัวเอาไว้ได้อย่างแน่นอน และถ้าหากว่าเขาได้จู่โจมด้วยบลัดบิวเทียสควบคู่ไปกับพลังของกฎแห่งความโกลาหล การสังหารหยูฮัวภายใต้การจู่โจมในครั้งนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ทั้ง ๆ ที่มีโอกาสแล้วทำไมเซี่ยเฟยถึงยังคงเลือกที่จะหยุด?
“ทำไมจู่ ๆ เขาถึงหยุดแบบนั้น?!” ลูกน้องของหยูฮัวคนหนึ่งบนยอดเขาอุทานขึ้นมาด้วยความสับสน แต่จู่ ๆ เขาก็สัมผัสได้ถึงน้ำหนักที่กดทับลงมาบนไหล่ และเมื่อเขาได้หันศีรษะไปเขาก็ได้เห็นแขนที่กำลังวางอยู่บนไหล่ของเขา
ยิ่งไปกว่านั้นแขนที่จับไหล่ของเขาอยู่ยังเป็นแขนที่ไม่มีเลือดเนื้อ เพราะมันคือแขนของโครงกระดูก
ที่สำคัญคือมันไม่ใช่โครงกระดูกธรรมดาแต่มันกลับเป็นโครงกระดูกสีทอง
ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมจู่ ๆ เซี่ยเฟยถึงหยุดการเคลื่อนไหวอย่างฉับพลันแบบนี้ เพราะแท้ที่จริงแล้วมันมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นอย่างฉับพลันต่างหาก
ปัจจุบันโครงกระดูกสีทอง 12 ร่างได้ปรากฏตัวขึ้นในสนามรบที่หยูเจียงกับเซี่ยเฟยกำลังพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอดอย่างสิ้นหวัง
ตูม
ร่างที่ถูกหักครึ่งร่วงหล่นลงมาราวกับกระสุนปืนใหญ่ ก่อนที่ร่างของชายในชุดคลุมจะตกกระทบลงแทบเท้าของหยูฮัว
เหตุการณ์นี้ทำให้หยูฮัวรู้สึกตกตะลึงมากและเมื่อเขาได้มองย้อนขึ้นไปบนยอดเขา เขาก็ได้พบว่าเหล่าบรรดาลูกทีมของเขากำลังพบเจอกับคู่ต่อสู้ที่ยากลำบาก
โครงกระดูกสีทอง 7 ร่างกำลังล้อมราชากฎทั้งสามบนยอดเขา และหนึ่งในราชากฎทั้งสามนั้นก็ถูกตัดแขนออกจนขาดเรียบร้อยแล้ว
โครงกระดูกพวกนี้ไม่เพียงแต่จะสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่พวกมันยังสามารถใช้พลังกฎออกมาได้อีกด้วย
เมื่อพิจารณาจากวิชาการต่อสู้ที่พวกมันได้ใช้ออกมา มันก็สามารถอนุมานได้เลยว่าโครงกระดูกเหล่านี้ย่อมเป็นโครงกระดูกของบรรพบุรุษตระกูลหยูอย่างแน่นอน
เมื่อโครงกระดูกสีทองเริ่มใช้วิชามิติออกมาพร้อมกัน มันก็ทำให้ทั่วทั้วท้องฟ้าเต็มไปด้วยรอยแยกมิติที่มีสีสันแตกต่างกันไป
ตูม!
ร่างของชายชุดดำคนหนึ่งบินขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรุนแรง และเมื่อร่าง ๆ นั้นตกลงมาลงบนพื้นร่างของเขาก็กลายเป็นร่างที่ไร้วิญญาณเรียบร้อยแล้ว
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
“มันเกิดอะไรขึ้นฉันไม่รู้ แต่วันนี้มันคือวันตายของแก”
การปรากฏตัวอย่างฉับพลันของโครงกระดูกสีทองทำให้การจู่โจมของเซี่ยเฟยชะงักค้างไป เพราะเขาต้องการที่จะรอดูสถานการณ์ก่อนว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้นกันแน่
แต่เมื่อเขาได้พบว่าโครงกระดูกเหล่านี้ลงมือโจมตีเพียงแต่คนของหยูฮัว มันก็ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกมีกำลังใจมากยิ่งขึ้น
ทั้งเซี่ยเฟยและหยูฮัวต่างก็ไม่รู้ว่าโครงกระดูกสีทองเหล่านี้ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นอดีตนักรบของตระกูลหยูทั้งหมด ที่สำคัญคือพวกเขาทุกคนต่างก็ล้วนแล้วแต่เคยเป็นราชากฎขั้นสูงสุดมาก่อน
เมื่อรู้ว่าชีวิตของพวกเขากำลังจะดับลงไปพวกเขาก็ใช้พลังเฮือกสุดท้ายผนึกตัวเองแล้วฝังร่างของตัวเองเอาไว้ใต้พื้นดิน เผื่อว่าวันหนึ่งหากมันมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับตระกูลหยู ผนึกบนร่างของพวกเขาก็จะถูกปลดปล่อยและในวันนั้นพวกเขาก็จะออกมาช่วยเหลือตระกูลหยูอีกครั้ง
นี่คือความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของตระกูลหยู!!
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้การคำนวนของชิงเหมิงหมดแล้ว ซึ่งในระหว่างที่มันเลือกระเบิดร่างตัวเองนั้นมันก็พยายามส่งพวกหยูเจียงให้ออกไปไกลที่สุด และถึงแม้ว่าการระเบิดครั้งนั้นจะไม่สามารถสังหารศัตรูของตระกูลได้ แต่มันก็มากพอที่จะทำลายส่วนที่ลึกที่สุดของโถงบรรพบุรุษได้อย่างแน่นอน เมื่อนั้นโครงกระดูกสีทองเหล่านี้ก็จะถูกปลดปล่อยออกมา
นี่คือหุ่นกลที่ดีที่สุดของตระกูล และชิงเหมิงผู้ซึ่งเป็นอสูรผู้พิทักษ์ก็ย่อมต้องรู้เรื่องนี้ดีกว่าสมาชิกรุ่นปัจจุบันของตระกูลหยูอยู่แล้ว
ชิงเหมิงได้ใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลมานานหลายพันปี มันจึงมีความคิดอย่างละเอียดรอบคอบมากกว่าคนโดยทั่วไป ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องนี้มันก็อย่าว่าแต่หยูฮัวเลย เพราะแม้แต่ผู้นำตระกูลคนปัจจุบันอย่างหยูเจียงก็ยังไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน
หากหยูเจียงรู้แผนการของชิงเหมิงเขาก็คงจะไม่เสี่ยงชีวิตใช้วิชาปลดผนึกมังกรฟ้ากับตัวเอง แล้วมันก็ไม่จำเป็นจะต้องพูดถึงการตัดสินใจมอบต้นพลัมเก้าราตรีให้กับเซี่ยเฟยด้วยซ้ำ
ด้วยเหตุนี้เองแม้ว่าชิงเหมิงจะพยายามช่วยเหลือตระกูลอย่างสุดกำลัง แต่ในความเป็นจริงมันกลับกลายเป็นว่าการตัดสินใจของอสูรตัวนี้ให้การช่วยเหลือเซี่ยเฟยโดยไม่ได้ตั้งใจ
เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหัน หยูฮัวก็พยายามถอยเพื่อกลับไปตั้งหลักอีกครั้ง แต่เซี่ยเฟยก็รีบวิ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่งโดยไม่คิดที่จะปล่อยพ่อค้าคนนี้ไป
ใบหญ้าขนาดใหญ่ทั้งสองใบเคลื่อนไหวราวกับหนวดของปลาหมึก ขณะที่ภายในมือของชายหนุ่มกำลังถือดาบสั้นสีแดงที่ส่องแสงแวววาวขึ้นมาอย่างกระหาย
***************
ยกต่อไป เริ่มได้!!