ตอนที่ 178 เผ่าไม้ดำ(อ่านฟรี)
ตอนที่ 178 เผ่าไม้ดำ
ทุกคนค่อนข้างจะอดอยากปากแห้งมานาน พอเจอเข้ากับสิ่งที่กินได้ก็ล่ากันอย่างบ้าคลั่ง ลุคเองก็มุดเข้าไปจับมาได้ตัวหนึ่งอย่างง่ายดาย
เขาลงมือเชือดพวกมันในทัน ก่อนจะต้องเอะใจอยู่ไม่น้อยที่พบว่าแย้เหล่านี้ก็เป็นมอนสเตอร์ด้วย
พวกมันน่าจะอยู่ในโลกมาอย่างยาวนานจนกระทั่งดูดซับเอาพลังงานต่างมิติเข้าไปพัฒนาสายเลือดตัวเองจนกลายเป็นมอนสเตอร์
แย้ในมือของลุคชวนให้นึกถึงสัตว์เลี้ยงของเขาที่ทิ้งไว้ที่กิลด์เทพศาสตราวุธ บางทีสักวันหนึ่งพวกมันอาจจะพัฒนาจนกลายเป็นมอนสเตอร์ก็ได้ ลุคค่อนข้างมั่นใจว่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะช่วงที่ประตูมิติเปิดออกมาสัตว์จำนวนมากก็แข็งแกร่งขึ้นกันอย่างชัดเจน
ส่วนเจ้าแย้เหล่านี้ต่อให้พัฒนาเป็นมอนสเตอร์ก็ยังไม่แข็งแกร่งมาก เพราะมันเป็นแค่ระดับ F เท่านั้นคิดว่าคงเป็นเพราะสภาพแวดล้อมที่แม้จะมีพลังงานต่างมิติพอให้เปลี่ยนเป็นมอนสเตอร์ แต่ด้วยความที่ห่วงโซ่อาหารโดนทำลายเพราะเผ่าพันธุ์ซอมบี้พวกมันจึงไม่อาจจะล่ามอนสเตอร์กินได้มากมาย เลยทำให้ไม่สามารถพัฒนาพลังให้แข็งแกร่งกว่าที่เป็นอยู่ได้
แล้วเจ้าพวกนี้กินอะไรกัน
ลุคได้คาดเดาและมองไปยังที่ซึ่งเคยจากมา
เขาลองเปลี่ยนมันเป็นไอเทมดูก็ได้รองเท้าวิ่งเร็วที่เสริมการวิ่งมาคู่หนึ่ง
“อืมมันวิ่งเร็วก็ไม่แปลกที่จะได้ไอเทมที่เกี่ยวกับการวิ่ง”
เนื่องจากเป็นไอเทมที่ไม่มีประโยชน์ในสถานการณ์นี้ลุคเลยไม่คิดจะเปลี่ยนตัวอื่น ๆ เป็นไอเทมอีก และเก็บพวกมันไว้กินเนื้อ
หลังจากล่าไปได้สักพัก ตอนนั้นเองก็มีเสียงผิวปากดังขึ้นมาจากรอบ ๆ ป่า ก่อนจะปรากฏเผ่ามนุษย์วานรขนสีดำเดินเข้ามาทางพวกเขา พวกนี้กันอยู่หลายร้อยแต่ละคนแต่งกายด้วยชุดหนังที่คล้ายจะทำมาจากสิ่งที่อยู่ในมือลุค
พวกเขายังมีหอกไม้ที่ทำจากกระดูกอยู่ด้วย
“เผ่ามนุษย์วานร” ลุคพูดอย่างประหลาดใจที่พบเจอพวกนี้ที่นี่
พวกตรงข้ามเองก็ต้องตกใจที่เจอมนุษย์วานรที่นี่เช่นกัน แถมยังเต็มไปด้วยพวกเส้นขนสีขาว
“พวกแกแย่งเหยื่อของพวกเรา” หนึ่งในหัวหน้ามนุษย์วานรยกหอกชี้มาทางพวกเขา
ถึงภาษาจะผิดไปเล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่ก็ฟังเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร
เดนรีบออกไปพูดคุยกับพวกนั้นทันที เพราะถ้าให้ลุคไปจัดการก็ดูจะไม่เหมาะเท่าไหร่ ตอนนี้ในใจของทุกคนลุคคือเทพแล้วจะให้ทวยเทพไปพูดคุยกับพวกอ่อนแอเหล่านี้ทำไม
ลุคพยักหน้าเบา ๆ ที่เดนก็เริ่มเป็นงานมากขึ้นแล้ว อย่างน้อยพวกเขาก็เรียนรู้ได้ แต่ว่าคำพูดต่อมาของเดนทำเอาลุคทำสีหน้าราวกับกำลังกลืนแมลงวันเข้าไป
“ไสหัวถ้าไม่อยากตาย”
“บัดซบ กล้าเข้ามาในอาณาเขตของพวกเราแล้วยังกล้าที่จะแย่งชิงอาหารของพวกเรา ตายซะเถอะ!”
หัวหน้าเผ่ามนุษย์วานรอีกฝ่ายโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก สั่งให้นักรบของตัวเองโจมตีในทันที
สุดท้ายทั้งสองฝ่ายก็เปิดศึกกันแบบงง ๆ ด้วยคำพูดเพียงประโยคเดียวของเดน
“เฮ้อ...” ลุคถอนลมหายใจด้วยความเหนื่อยหน่ายใจ ก่อนจะหยิบเอารูปสลักไททันออกมาตัวหนึ่งและขว้างออกไป
รูปสลักไททันกลายเป็นไททันมนุษย์ขนาดมหึมา เท้าทั้งสองลงเหยียบกระแทกพื้นขวางกั้นทั้งสองฝ่ายไว้จนหมดสิ้น
มนุษย์วานรทุกคนตื่นตกใจจนถอยหลังง่ายล้มลงด้วยความหวาดกลัว เพราะคิดว่าไททันมนุษย์เป็นซอมบี้ไททัน ฝ่ายมนุษย์วานรของลุคก็ไม่ต่างกันมาก เพราะไม่เคยเห็นลุคใช้ไททันมนุษย์มาก่อน
ทุกคนกำลังจะวิ่งหนี แต่แล้วเสี่ยงของลุคก็ดังขึ้นมา
“หยุดซะ ฉันคือเทพซันเดอร์ ใครกล้าลงมือสู้กันอีกฆ่าไม่ละเว้น”
เสียงของลุคดังกังวานไปทั้งบริเวณ พาให้มนุษย์วานรฝ่ายลุคตั้งสติได้
“นั้น ๆ ท่านเทพซันเดอร์จริง ๆ ด้วยเขายืนอยู่บนไหล่ของผู้ตายไม่ยอมตายยักษ์ตัวนั้น”
“ไม่! มันไม่ใช่ผู้ตายไม่ยอมตาย แต่เป็นทหารของท่านเทพซันเดอร์” ไอรินกล่าวโต้แย้งและหาเหตุผลมาอธิบายถึงที่มาของไททันมนุษย์ตามความเข้าใจของตัวเองทันที
“โอ้...ทหารเทพ”
“ทหารเทพแหละ ท่านเทพ....”
เสียงฮือฮาดังขึ้นไม่ขาดสายพวกไอรินและเดนนำมนุษย์วานรหมอบกราบไททันมนุษย์ ส่วนฝ่ายมนุษย์วานรปริศนาที่มีสีหน้าหวาดกลัวพอได้ยินว่าเป็นเทพก็พากันสั่นสะท้านไปทั้งร่าง
พวกเขาพบเจอเทพ ได้ยังไง!
แม้จะไม่รู้ แต่จากที่เห็นและท่าทางของพวกนั้นก็ไม่ผิดแน่นอน ตัวตนของสิ่งที่อยู่ด้านหน้าคือเทพ ในเผ่าก็มีการสืบทอดความเชื่อเกี่ยวกับเทพมาโดยตลอด
ถึงจะต้องต่อสู้แย่งชิงอาหารกับเผ่าอื่น ๆ จนไม่มีเวลามาบูชาเทพแล้ว แต่ในใจยังคงมีคำว่าทวยเทพดังก้องอยู่ ว่ากันว่าบรรพบุรุษพวกเขาก็ถูกส่งมาที่นี่เพื่อติดต่อกับเทพ แต่ไม่เจอเทพสักตนมีแต่ความตายที่ต้องดิ้นรนอยู่ตลอดเวลา
จนบางครั้งมนุษย์วานรในเผ่าทุกคนก็คิดว่านี่อาจจะเป็นการลงโทษจากเทพต่อพวกเขาก็ได้
“ท่านเทพได้โปรดละเว้นพวกเราด้วย”
“พวกเราผิดไปแล้ว”
เผ่ามนุษย์วานรรีบทำตามก้มหมอบกราบทันที
“ดีมาก หลังจากนี้พวกเจ้าห้ามฆ่ากันเองเด็ดขาด” ลุคสั่งห้ามในทันที เขากำลังจะไปที่ฐานทัพที่คาดว่าจะมีซอมบี้อยู่จำนวนมาก เลยต้องการทหารเพื่อใช้ต่อสู้ เผ่ามนุษย์วานรที่ปรากฏตัวใหม่นี้ก็มาได้จังหวะพอดี ลุคเลยคิดจะยึดครองพวกเขาด้วย
“แต่ก่อนอื่น ทุกคนถอยออกไปจากตรงนี้ให้หมด”
ตอนแรกพวกเขาคิดว่าลุคจะสั่งให้บูชายัญอะไรทำนองนั้น เพราะพวกเขาจำฟังหัวว่าเทพชอบการบูชายัญ แต่ใครจะคิดว่าคำสั่งแรกคือให้ถอยออกไป
ทุกคนเริ่มทำตามถึงจะไม่เข้าใจก็ตาม
“เอาละขุดได้”
ลุคไม่สนใจพวกเขาสั่งให้ไททันมนุษย์ใช้มือใหญ่ ๆ ของมันขุดแย้ในดินขึ้นมา ในเมื่อเสียหินพลังงานเพื่อเรียกมันออกมาแล้วก็ถือโอกาสใช้งานมันให้คุ้มค่าซะเลย
เผ่ามนุษย์วานรต่างก็มองไปที่ไททันมนุษย์ที่กำลังใช้มือใหญ่ ๆ ขุดแย้ขึ้นมาจากดินด้วยสายตาแปลก ๆ
“หรือว่าเทพตนนี้จะชอบให้เอาแย้มาบูชากัน”
“เราควรไปหาแย้มาบูชายัญให้เขา”
ทุกคนพยักหน้าพร้อม ๆ กันเห็นว่าต่อไปต้องไปขุดแย้มาบูชายัญซะแล้ว ลุคไม่รู้เลยว่าในอนาคตจะมีคำพูดแบบนี้ส่งต่อ ๆ กันไปว่า จะบูชาเทพซันเดอร์ต้องใช้แย้ย่างเป็นส่วนหลัก
...
หลังจากหมดเวลาไททันมนุษย์ก็กลับไปเป็นรูปสลักไททันตามเดิม ส่วนแย้ทั้งบริเวณนี้โดนขุดขึ้นมาทุกตัว ถ้าเป็นในโลกก่อนเขาไม่สามารถทำแบบนี้ได้ เพราะเริ่มมีการอนุรักษ์แย้กัน ถ้าจะจับก็ต้องปล่อยให้รอดด้วย
แต่ที่ดินแดนนี้ก็ช่างมันแล้วกัน
“พวกนายเป็นใครอยู่เผ่าไหน แล้วมาล่าแย้ที่นี่เหรอ”
ลุคกองเนื้อแย้ไว้ด้านหนึ่ง ก่อนจะเข้ามาสอบถามที่มาที่ไปของมนุษย์วานรพวกนี้
“ท่านเทพ...เออ...”
“ซันเดอร์”
“ท่านเทพซันเดอร์พวกเรามาจากเผ่าไม้ดำที่อาศัยอยู่ใกล้ ๆ นี้ พวกเรามาล่าแย้ที่นี่เพื่อเป็นอาหาร ถ้าท่านอยากได้พวกมันอีกยังมีอีกหลายแห่งที่เป็นรังของแย้เหล่านี้” หัวหน้าเผ่าคนนั้นพูดด้วยความเคารพยำเกรง ส่วนนักรบในเผ่าก็ก้มหน้าคุกเข่ากลับพื้นด้วยความกลัว
“โอ้มีพวกมันอีกอย่างนั้นเหรอ นายรู้ไหมว่าพวกมันกินอะไรเป็นอาหาร”
“อาหาร พวกมันกินพวกศพซอมบี้เป็นอาหาร”
ลุคพยักหน้าเงียบ ๆ เป็นอันรับรู้ มันไม่ต่างจากที่เขาคิดสักเท่าไหร่ โลกนี้ไม่มีอาหารอื่น แต่กลับมีซอมบี้อยู่จำนวนมาก พวกมันเลยปรับตัวให้เขากับการกินซากซอมบี้เป็นอาหาร
ส่วนที่ว่าสัตว์พวกนี้ไปดื่มน้ำจากไหน ลุคคิดว่ามันอาศัยอยู่ที่ป่าแห่งนี้ที่ติดกับหน้าผ่าที่เกิดจากรอยเลื่อนก็คงไปดื่มน้ำจากที่หน้าผานั้นแน่นอน เพราะมันไม่ต้องกลัวเรื่องเชื้อซอมบี้น้ำเหล่านั้นจึงกินได้อย่างสบาย
“...!”
ลุคเหมือนจะฉุกคิดขึ้นมาได้เรื่องหนึ่ง แต่เขาค่อยไปคุยกับฟาเดย์ทีหลัง ตอนนี้ต้องจัดการแย้พวกนี้และไปที่เผ่าของมนุษย์วานรพวกนี้ซะก่อน
“ในเมื่อพวกนายต้องการล่าเพื่อเป็นอาหารงั้นก็มาช่วยกันแบกกลับไปที่เผ่าของนาย ฉันต้องการไปพักที่นั่นสักหน่อย”
พอได้ยินคำกล่าวของลุคพวกเขาก็เผยสีหน้ายินดี เพราะถ้าไม่ได้เนื้อพวกนี้ก็คงต้องกลับไปที่เผ่าก่อน เนื่องจากอีกไม่นานก็จะมืดแล้ว
ทุกคนช่วยกันขนเนื้อแย้กลับไปอย่างระมัดระวัง แม้แต่เลือดพวกเขาก็ยังไม่ยอมให้หยดทิ้งไปแม้แต่หยดเดียว เนื่องจากเลือดก็มีส่วนประกอบของน้ำอยู่จำนวนมากสามารถดื่มดับกระหายได้
เผ่าที่พวกนั้นอยู่กันนั้นสร้างความประหลาดให้ลุคไม่น้อย เพราะพวกเขาขุดเนินดินให้กลายเป็นด้าน มันสามารถช่วยอำพรางตัวได้เป็นอย่างดี นับว่าพวกเขาฉลาดมาก
ส่วนประตูก็ทำจากไม้ที่หาได้ที่นี่
บ้านโพรงดินเหล่านี้มีขนาดและกว้างขวางไม่ต่างจากบ้านหลังหนึ่งเลย ที่นี่มีบ้านแบบนี้จำนวนมากล้อมรอบลานกว้างไว้ตรงกลาง
พวกเขาทุกคนมารวมกันที่นี่
หัวหน้าเผ่าก็เรียกรวมทุกคนในเผ่าออกมาต้อนรับ
ลุคเห็นว่าที่นี่ไม่ได้มีแค่พวกนักรบแต่ก็มีเด็ก ผู้หญิงของเผ่ามนุษย์วานรอยู่ด้วย แต่กลับไม่มีพวกคนแก่ ๆ เลยสักคนเดียว ขนาดชุมชนที่เขาพามาด้วยยังมีพวกมนุษย์วานรที่แก่ชราอยู่เลย ด้วยความสงสัยเขาจึงอดถามไม่ได้
“พวกมนุษย์วานรแก่ไปไหนกันหมด”
“พวกเขาสละตัวเอง”
“สละตัวเอง”
“คนแก่พอถึงช่วงเวลาหนึ่งจะต้องเดินเข้าไปในป่าด้วยตัวคนเดียว แล้วไม่กลับมาอีก เพื่อเป็นการเสียสละไม่ให้อาหารและเลือดที่ใช้ดื่มต้องสิ้นเปลืองไป” หัวหน้าเผ่ากล่าวออกมา
นี่คือชะตากรรมของทุกคนที่นี่...ลุคมองด้วยความเศร้าเล็กน้อยต่อความเสียสละของมนุษย์วานรชราทั้งหลาย เผ่านี้ไม่มีเครื่องผลิตน้ำเหมือนที่ชุมชน สุดท้ายพวกเขาจึงต้องพึ่งพาการดื่มเลือดสัตว์ที่ได้เพื่อประทังชีวิต
เมื่อทรัพยากรมีจำกัด คนที่อยู่มานานและอ่อนแอจึงต้องเสียสละตัวเองเพื่อให้คนอื่น ๆ อยู่รอดกันไปได้