บทที่ 93: เขาทำให้ข้าเหมือนเป็นตัวโง่เขลา แล้วข้าทำอะไรกับเขาได้กัน?
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 93: เขาทำให้ข้าเหมือนเป็นตัวโง่เขลา แล้วข้าทำอะไรกับเขาได้กัน?
เขารู้จักสตรีคนนี้ เพราะนั่นคือโม่หรูซวง สตรีที่ครอบครองหัวใจของเขา เขาเดินทางมาจนถึงเมืองหลวงเพียงเพื่อตามหานาง เขาไม่เคยคิดเลยว่านางจะปรากฏตัวในรถม้าของหลินเป่ยฟาน
เดี๋ยวก่อน เมื่อครู่เขาเพิ่งเห็นอะไรไป?
เขาเห็นโม่หรูซวงยอดรักของเขากำลังจับมือกับหลินเป่ยฟานขณะที่พวกเขาลงมาจากรถม้า
พวกเขาจับมือกัน!
"อ๊าก!" คุณชายรู้สึกโกรธมากจนไม่อาจทานทนได้อีกแล้ว ดวงตาของเขากลับกลายเป็นสีแดง เขาไม่เคยจับมือกับโม่หรูซวงมาก่อนเลย ทุกครั้งที่เขาพยายามเข้าใกล้นาง โม่หรูซวงจะหลีกเลี่ยงเขาและรักษาระยะห่างของนาง คล้ายเป็นดั่งคนแปลกหน้าต่อกัน การจะเข้าใกล้นางยิ่งยากมากนัก
แต่ยามนี้ มือของโม่หรูซวงกลับถูกหลินเป่ยฟานคว้าเอาไว้และนางก็ไม่ขัดขืนเลย แก้มสีดอกกุหลาบของนางดูขวยเขิน แต่ก็เต็มไปด้วยความสุข
"เจ้าสารเลวบัดซบนี้!" คุณชายขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธเกรี้ยว หัวของเขารู้สึกเหมือนกับจะระเบิดออกมา ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าหลินเป่ยฟานเป็นผู้ที่โม่หรูซวงหลงรักเป็นแน่แท้ มิฉะนั้นนางคงจะปฏิเสธออกไปแล้ว
“ไอ้สารเลวบัดซบผู้นี้มีสิ่งใดที่ข้าไม่มีกัน? ทำไมโม่หรูซวงถึงรักมัน แต่ไม่ใช่ข้า?” คุณชายคำรามออกมาด้วยความหงุดหงิด
ทว่าเขาก็พลันตระหนักได้ว่าหลินเป่ยฟานดีกว่าเขาในทุกด้าน ความสามารถ รูปลักษณ์และความมั่งคั่ง ยกเว้นแต่เพียงฐานะทางสังคมของเขา เขาถูกหลินเป่ยฟานบดขยี้ในทุกวิถีทางที่เป็นไปได้
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ มันก็ยิ่งทำให้เขาโกรธมากขึ้นไปอีก “ไปทุบตีหลินเป่ยฟานซะ!!” คุณชายใหญ่สั่งคนของเขา
“คุณชาย นั่นไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยนะขอรับ!” คนอื่นๆ ตอบกลับไปด้วยความตื่นตระหนก
“ทำไมจะไม่ได้กันเล่า? เขาขโมยผู้หญิงของข้าและทำให้ข้าเป็นตัวโง่เขลา! ข้าไม่มีสิทธิ์ระบายความโกรธหรือ?” คุณชายเอ่ยถาม
“คุณชายได้โปรดเข้าใจด้วยว่ายามนี้หลินเป่ยฟานอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาท่านอ๋อง ท่านอ๋องได้ให้ความสำคัญกับเขามาก ทั้งยังได้ลงทุนอย่างมากในตัวเขาด้วย ถ้าท่านทุบตีเขาเ ราจะต้องตอบท่านอ๋องเช่นไร” ผู้ติดตามของเขากระซิบกล่าวบอก
“แต่เขาขโมยผู้หญิงของข้าไป ข้าจะปล่อยมันไปได้หรือ?” คุณชายเอ่ยถาม
“คุณชาย การควบคุมอารมณ์ของท่านเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในยามนี้ หากท่านสร้างปัญหา มันจะส่งผลกระทบต่อแผนการของท่านอ๋อง และเราทุกคนจะต้องรับโทษ”อีกฝ่ายอธิบาย
เมื่อคุณชายนึกถึงอำนาจของบิดาตนขึ้นมา เขาก็รู้สึกหนาวเหน็บถึงกระดูกสันหลังของเขา เขาจึงได้แต่กล่าวออกมาอย่างใจเย็นว่า “ก็ได้ ในตอนนี้ข้าจะไม่สนเรื่องไอ้สารเลวนั่นแล้ว”
ในขณะเดียวกัน หลินเป่ยฟานก็ต้องขมวดคิ้ว "มีบางอย่างไม่ถูกต้อง"
“มีอะไรหรือท่านหลิน?” โม่หรูซวงถามด้วยความสับสน
“ตั้งแต่เราลงจากรถม้า ข้ารู้สึกเหมือนถูกจับตามอง โดยเฉพาะตอนที่ข้าช่วยเจ้าลงมา ข้ารู้สึกเหมือนมีคนจ้องมองเราด้วยเจตนาฆ่า”หลินเป่ยฟานกล่าวพลางมองไปทางที่เขาสัมผัสได้ถึงสายตา
“ท่านรู้สึกอะไรงั้นหรือ? ข้าเป็ฯผู้ฝึกยุทธ์ระดับเจ็ด แต่ก็ไม่รู้สึกถึงอันตรายใดๆ เลย” โม่หรูซวงกะพริบตาด้วยความสงสัย
“เจ้ารับรู้ไม่ได้ เพราะเจ้ายังไม่มีพลังมากพอ แต่ข้าเป็นยอดฝีมือต้นกำเนิดระดับ ข้าจึงสามารถรับรู้ถึงการมีอยู่ของผู้อื่นได้อย่างง่ายดาย” หลินเป่ยฟานอธิบาย
“บางทีมันอาจเป็นแค่จินตนาการของท่าน” โม่หรูซวงกล่าวพร้อมกับยิ้ม
“อาจจะเป็นเช่นนั้น” หลินเป่ยฟานพูดพลางหัวเราะ “ถ้าอย่างนั้นก็ไปเดินเล่นกันต่อเถอะ เราคงไม่ต้องการทำลายเวลาที่ดีของทุกคนกันหรอก”
จากนั้นหลินเป่ยฟานก็จับมือหลี่ซือซือและเดินกันไปเหมือนคู่รัก โม่หรูซวงที่เดินตามหลังมาด้วยรู้สึกอิจฉาริษยายิ่ง ถ้าเพียงแต่เขาจับมือนางแทน...
ในยามนั้นเอง คุณชายใหญ่ก็ไม่สามารถทนเฉยได้อีกต่อไป "ไม่ ข้าทนไม่ได้แล้ว! ข้าต้องติดตามพวกเขาอย่างใกล้ชิด ต้องดูให้แน่ชัดว่าพวกเขาจะทำอะไรลับหลังข้า!” เมื่อพูดเช่นนี้ออกไป เขาก็ออกจากโรงเตี๊ยมและเดินติดตามไปในระยะไกล
ในเวลาเดียวกัน หลินเป่ยฟานก็รู้สึกถึงความรู้สึกของการถูกจับจ้องอีกครั้ง เขาหันศีรษะและพบเข้ากับคนผู้หนึ่งที่ดูน่าสงสัยทันที อีกฝ่ายแต่งกายด้วยชุดสีขาวเงิน ดูมีความสูงส่งเล็กน้อย เขามาพร้อมกับคนรับใช้ที่มีความสามารถหลายคนและเหมือนจะมาจากตระกูลระดับสูง แม้ว่าอีกฝ่ายจะแสร้งทำตัวเหมือนกำลังซื้อของและไม่ได้มองไปทางเขา แต่หลินเป่ยฟานก็มีความรู้สึกว่าเขากำลังถูกตามอยู่ เขาได้แต่สับสนว่าคนผู้นี้เป็นใคร ทำไมอีกฝ่ายถึงติดตามเขามา อีกทั้งยังทำตัวไม่เป็นมิตรเช่นนี้อีก
ในยามนั้นเอง โม่หรูซวงก็ตะโกนขึ้นมา “ท่านหลิน ระวัง!”
นางรีบขยับไปโอบกอดหลินเป่ยฟาน ก้าวไปทางซ้ายสองก้าวเพื่อหลบเลี่ยงเด็กที่กำลังทำชามน้ำหกมายังทิศทางของพวกเขา
หรูซวงเมื่อได้เห็นเช่นนี้ก็ได้ทำหน้าที่อย่างรวดเร็ว เพื่อปกป้องหลินเป่ยฟานจากการถูกสาดด้วยน้ำสกปรก
“อย่าเอะอะโวยวายกับเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้เลยหรูซวง” หลินเป่ยฟานพูดพยายามหยอกล้อนางถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
“ท่านหลิน นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยสักนิดเดียว” โม่หรูซวงกล่าวตอบอย่างจริงจัง “ในเจียงหู มักจะมีผู้ร้ายที่แสร้งทำตัวไร้เดียงสาเพื่อวางยาพิษผู้อื่น มันเป็นโลกที่อันตราย เช่นนั้นเราต้องระวังตัว”
“ก็ได้ๆ” หลินเป่ยฟานกล่าวออกไปทำเป็นเข้าใจ
ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกว่ามีใครบางคนจ้องมองมาที่เขาด้วยเจตนาร้ายอีกครั้ง สายตานี้คือของพวกคุณชายผู้หนึ่งที่ติดตามเขามา
ด้วยสติปัญญาที่ยอดเยี่ยมของเขา หลินเป่ยฟานจึงสังเกตท่าทีของเขาและโม่หรูซวง จากนั้นคิดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้แล้ว
เขากล่าวถามออกมาพร้อมด้วยรอยยิ้ม “หรูซวง เจ้าเป็นสตรีที่งดงามนัก ข้าแน่ใจว่าคงมีคนมากมายที่ไล่ตามเจ้าใช่ไหม?”
หัวใจของโม่หรูซวงถึงกับเต้นแรง แก้มของนางพลันแดงก่ำ
“ท่านหลินชมเชยรูปลักษณ์ของข้างั้นหรือ?” นางได้แต่คิดและรู้สึกตกตะลึงกับการที่จู่ๆ เขากลับชมนางขึ้นมา
โม่หรูซวงก้มศีรษะลงและกระซิบถาม “ท่านรู้ได้ยังไงกัน? ท่านไม่ใช่นักอ่านใจเสียหน่อย”
“เป็นเช่นนั้นเอง งั้นในบรรดาผู้ที่ชื่นชอบเจ้า มีผู้ใดที่โดดเด่นบ้างหรือ?” หลินเป่ยฟานถามอีกครั้ง พยายามค้นหาตัวตนของบุคคลนั้น
“อืม…” โม่หรูซวงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
“เป็นอะไรไปกัน หรือเจ้าไม่เต็มใจที่จะพูดออกมา?” หลินเป่ยฟานยิ้ม
"ไม่ใช่เช่นนั้น! มันแค่มีผู้คนมากมายเกินไป จนข้าจำไม่ได้ว่าเป็นใครบ้าง…” โม่หรูซวงได้แต่ก้มหน้าลง
หลินเป่ยฟานถึงกับพูดไม่ออก นี่นางจงใจพยายามหยอกล้อเขาเล่นหรือไงกัน?
ก็ได้ นางชนะ!
จากนั้นพวกเขาก็ยังคงเดินต่อไปตามเดิม
ในระหว่างนั้น หลินเป่ยฟานก็รู้สึกถึงความเกลียดชังที่ลอยมาจากด้านหลัง ทันใดนั้น ความคิดซุกซนพลันก่อเกิดขึ้นในใจของเขา
เขาคว้ามือของโม่หรูซวงโดยตั้งใจ
บางครั้งเขาถึงขั้นโอบกอดเอวของโม่หรูซวง
มีบางครั้งที่พวกเขาต้องหลบคนเดินเท้าไปมา จนเขาก็เผลอเข้าไปในอ้อมกอดของโม่หรูซวงเช่นกัน
…
คุณชายใหญ่ที่แอบติดตามพวกเขามาอย่างลับๆ ก็โกรธมากจนคล้ายปรากฏควันออกมาจากศีรษะของเขา เขากัดฟันแน่นและกล่าวว่า “ไอ้สารเลวบัดซบผู้นี้ใช้ประโยชน์จากหรูซวง มันช่างไร้ยางอายยิ่ง! ข้าจะไปคุยกับมันเอง!”
คนอื่นๆ รีบหยุดเขาทันที “คุณชาย ท่านทำอย่างนั้นไม่ได้นะขอรับ!”
คุณชายโต้กลับไป “แล้วทำไมข้าจะทำไม่ได้? ข้าจะไม่ตีมัน ข้าเพียงแค่จะคุยด้วยเท่านั้นเอง!”
“คุณชาย ตัวตนของท่านอ่อนไหวเกินไป เราไม่อาจเปิดเผยตัวเช่นนี้ได้!”
“ถ้าท่านไปที่นั่น ตัวตนของท่านจะถูกเปิดเผย! หลินเป่ยฟานเพิ่งให้คำมั่นว่าจะจงรักภักดีต่อท่านอ๋อง เราต่างยังมีความสงสัยเรื่องความภักดีของเขา มันเสี่ยงเกินไปนะขอรับ!”
“คุณชาย ได้โปรดอย่าหุนหันพลันแล่นเลย!”
คุณชายใหญ่ยิ่งโกรธมากขึ้นกว่าเดิม “เจ้ากำลังจะบอกว่ากระทั่งข้าก็อาจจะถูกเขาหลอกลวงเนี่ยนะ?”
ทุกคนพยักหน้าด้วยรอยยิ้มอย่างขมขื่น
“อึก~” คุณชายใหญ่คร่ำครวญออกมาด้วยความเจ็บปวดและกุมหน้าอกของเขาไว้
เขาได้แต่เฝ้ามองยอดรักและศัตรูหัวใจรักใคร่ซึ่งกันและกัน ไม่อาจทำอะไรได้เลยนอกจากมองดู มันแย่ยิ่งกว่าการฆ่าเขาเสียอีก! เขารู้สึกระทมใจ แทบจะหายใจไม่ออก ศีรษะของเขารู้สึกเหมือนถูกแยกออกจากกัน!
“คุณชาย ดึกมากแล้ว เรากลับไปพักผ่อนกันเถิด!” มีคนผู้หนึ่งกล่าวขึ้น
"ไม่ได้! ข้าอยากรู้ว่าพวกเขาจะทำเช่นนี้ไปต่ออีกนานแค่ไหน!” คุณชายตอบกลับไปด้วยความโกรธ
ด้วยเหตุนี้คุณชายจึงตามไปต่อ ในแต่ละก้าวที่ตามไป เขายิ่งทั้งอิจฉาและริษยา ดวงใจของเขายิ่งรู้สึกปวดร้าวมากกว่าเดิม เขาไม่รู้แล้วว่าจะอดทนได้อีกนานมากแค่ไหน!
ผ่านไปสักพัก พวกเขาก็มาถึงคฤหาสน์ของหลินเป่ยฟาน “คุณชาย ยามนี้ท่านรู้สึกดีขึ้นหรือยัง?” พวกเขาถามออกมาด้วยความเป็นห่วง
คุณชายยังคงกุมหน้าอกของเขา “ข้ารู้สึกไม่ดีขึ้นเลย วันนี้มันมากเกินไปสำหรับข้า ข้าคงต้องไปร่ำสุราหน่อยแล้ว! พวกเจ้าอย่าพยายามหยุดข้า มิฉะนั้นข้าจะตัดหัวพวกเจ้าเสีย!”
หลังมื้อเย็น หลินเป่ยฟานก็กล่าวขอโทษกับโม่หรูซวง “หรูซวง ข้าขอโทษในเรื่องของวันนี้ด้วย ข้าสะดุดและเกือบทำให้เราตกอยู่ในอันตรายตั้งหลายครั้ง ทำให้เจ้าต้องคอยช่วยข้าตลอดเลย!”
“ท่านหลิน ท่านควรระมัดระวังยามที่เดินด้วย!” โม่หรูซวงกล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ
คนปกติคงไม่พานพบกับอันตรายมากมายขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าเขามีเจตนาแอบแฝง!
เหอะ! อย่าคิดว่าข้าจะมองไม่เห็น! ไอ้เจ้าอันธพาลนี้! เช่นเดียวกับที่ที่เจ้าหญิงตัวน้อยกล่าวไว้ไม่มีผิด ตัวของเขาเต็มไปด้วยเจตนาหยาบช้ามากมายนัก!
หลินเป่ยฟานหยิบสร้อยข้อมือที่สวยงามออกมา “หรูซวง วันนี้เจ้าได้ให้ความช่วยเหลือมากมายแก่ข้า! เพื่อเป็นการขอโทษ ข้าอยากให้ของขวัญเล็กน้อยนี้แก่เจ้า ข้าหวังว่าเจ้าจะยอมรับมันไป” โม่หรูซวงมีความสุขยิ่ง แต่ก็แสดงท่าทีไม่เต็มใจออกไป “ก็ได้ ข้าจะขอรับมันไว้อย่างไม่เต็มใจ ขอบคุณท่านมาก!”
แม้ว่านางจะกล่าวบอกว่าไม่เต็มใจ แต่มือของนางก็คว้ามันไปอย่างรวดเร็วและจับมันไว้แน่น “ในเมื่อไม่มีสิ่งใดให้ต้องทำแล้ว เช่นนั้นข้าคงต้องขอตัวไปพักผ่อนที่ห้องเสียที!”
เมื่อตกกลางคืน หลินเป่ยฟานก็เปลี่ยนเสื้อผ้าในยามราตรี เขาใช้วิชาตัวเบาเดินลัดเลาะไปทั่วเมืองหลวง เพียงครู่เดียว เขาก็มาถึงร้านอาหารสุดหรูแห่งหนึ่ง
เมื่อมาถึง ก็พบกับคุณชายใหญ่ที่ติดตามเขามาตลอดทั้งวัน ยามนี้เขาเมาหัวราน้ำและหมดสติไปแล้ว กำลังถูกพยุงตัวกลับไปยังห้องพักของเขา นอกจากนี้ยังมีกลุ่มองครักษ์ที่แข็งแกร่งที่อยู่ข้างนอก กำลังกระซิบบางอย่างกันอยู่ หลินเป่ยฟานอยู่ที่หลังคาของร้านอาหารและลอบฟัง
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็ได้รับข้อมูลที่น่าตกใจจนยิ้มออกมา “เช่นนั้นผู้นี้ก็เป็นบุตรของท่านอ๋องแห่งเหอเป่ยตอนเหนือสินะ? เดินทางมาพันลี้เพื่อฆ่าตัวตายสินะ! คุณชายแห่งเหอเป่ยทางเหนือหรือ? ดูเหมือนว่าข้อตกลงแรกของเราจะกำลังเกิดขึ้นแล้ว!”
เขากระโดดเข้าไปในหน้าต่างด้วยพลังวรยุทธ์ต้นกำเนิด เฉือนผ่านอากาศบางเบา จากนั้นเขาก็ออกจากห้องไปอย่างเงียบงันพร้อมกับคุณชายผู้เมาหัวราน้ำและไร้ซึ่งสติ
คำว่า “เดินทางพันลี้เพื่อฆ่าตัวตาย” 千里送人头 มีความหมายเหมือน Max ใน Rov ที่จะใช้อัลติเมทเพื่อล็อคหัวไปตายกลางวงศัตรู