ตอนที่แล้วตอนที่ 622 การโจมตี 2 ครั้ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 624 ตายในสนามรบ

ตอนที่ 623 นักรบหรือสัตว์ร้าย?


ตอนที่ 623 นักรบหรือสัตว์ร้าย?

“อาวุธมายา!!” ทั้งหยูฮัวและชานหยิงต่างก็อุทานขึ้นมาเกือบจะพร้อม ๆ กัน

ไม่มีใครเคยคาดคิดว่าเซี่ยเฟยจะได้ครอบครองอาวุธมายาที่หาได้ยาก เพราะท้ายที่สุดแม้แต่เก้าตระกูลชั้นยอดก็ยังพยายามตามหาอาวุธมายา จนเป็นที่มาของสงครามบนเกาะอสรพิษพิทักษ์ในคราวนี้ แต่เซี่ยเฟยที่เป็นนักรบตัวน้อย ๆ กลับได้ครอบครองอาวุธมายาอยู่ในมือ ยิ่งไปกว่านั้นอาวุธมายาของเขาคือวัชพืชที่ดื้อรั้นที่สุดในจักรวาลอย่างหงส์ครามอีกด้วย

ในช่วงเวลาที่ความตายกำลังใกล้เข้ามาเซี่ยเฟยก็ไม่สามารถที่จะปิดบังความลับในเรื่องนี้เอาไว้ได้อีกต่อไป ซึ่งในความเป็นจริงหากโอโร่ที่อยู่ภายในแหวนมิติสามารถที่จะช่วยเหลือเขาได้ เขาก็คงจะโยนโลงศพของโอโร่ออกมาด้านนอกด้วยเช่นเดียวกัน

ปัจจุบันดวงตาของเซี่ยเฟยเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างบ้าคลั่ง และเมื่อหยูฮัวกับชานหยิงได้ต้อนให้ชายหนุ่มเข้าจนมุม มันก็ทำให้ความบ้าคลั่งที่ถูกซุกซ่อนเอาไว้เป็นเวลานานถูกระเบิดออกมาในคราวเดียว

ใบหญ้าสีฟ้าที่พันรอบขาของชานหยิงเริ่มเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งในเวลาเพียงแค่ไม่นานร่างของชานหยิงก็ถูกมัดเอาไว้ด้วยใบหญ้าทั้งสองใบจนทำให้เขารู้สึกอึดอัด

“ไปลงนรกซะ!!”

เซี่ยเฟยร้องคำรามพร้อมกับแทงใบดาบสีแดงอันงดงามเข้าใส่ลำคอของชานหยิงอย่างรวดเร็ว

ชัยชนะอันต่อเนื่องทำให้ชานหยิงผ่อนคลายความระมัดระวัง และเขาก็ไม่คิดว่าเซี่ยเฟยที่ถูกพวกเขาต้อนเข้ามุมมาเป็นเวลานานจะได้จู่โจมสวนกลับพวกเขาในลักษณะนี้

ในความเป็นจริงเซี่ยเฟยมองหาโอกาสโต้กลับตั้งแต่เริ่ม และเขาก็ไม่เคยมีความคิดที่จะยอมแพ้ต่อโชคชะตาเลยแม้แต่นิดเดียว

ปฏิกิริยาของหยูฮัวค่อนข้างที่จะเร็วมาก ดังนั้นก่อนที่ใบดาบของบลัดบิวเทียสจะแทงเข้ากับลำคอของชานหยิง พ่อค้าจากตระกูลหยูคนนี้ก็พลิกข้อมือฉีกกระชากพื้นที่มิติบริเวณนั้นออกจากกันเพื่อพยายามตัดใบหญ้าสีฟ้าให้ขาดออกเป็นชิ้น ๆ

ห้ามหลบเด็ดขาด!

เซี่ยเฟยไม่ได้คิดที่จะหลบและยังคงแทงบลัดบิวเทียสภายในมือออกไป

ในที่สุดใบดาบสามคมก็แทงทะลุคอซ้ายทะลุไปจนถึงคอขวา พร้อม ๆ กับที่บลัดบิวเทียสเริ่มกลืนกินเลือดภายในร่างของชานหยิงเข้าไปอย่างรวดเร็ว จนทำให้ผิวอันเต่งตึงของราชากฎคนนี้ค่อย ๆ เหี่ยวเฉาลงอย่างรวดเร็ว แม้แต่แววตาของเขาก็เริ่มขุ่นมัวคล้ายกับสิ่งมีชีวิตที่ใกล้จะสิ้นชีพเต็มที

ชานหยิงพยายามดิ้นรนออกจากพันธนาการของหงส์คราม แต่น่าเสียดายที่อาวุธมายาชิ้นนี้คืออาวุธที่ดื้อรั้นที่สุดในจักรวาล ดังนั้นถึงแม้ว่ามันจะต้องเผชิญหน้ากับพละกำลังของราชากฎ แต่มันก็ยังคงรัดร่างของนักสู้คนนี้เอาไว้อย่างไม่ยอมแพ้

ตูม!

พลังมิติจากหยูฮัวปะทะเข้ากับร่างของเซี่ยเฟยโดยตรง จนทำให้ชุดเกราะโลหะเหลวแตกกระจายเหมือนกับเม็ดฝน แม้แต่การป้องกันของขนอุยก็ถูกฉีกกระชากแยกออกจากกันจนทำให้การจู่โจมนั้นปะทะเข้ากับชุดเกราะชาร์ปเลสอย่างรุนแรง

เซี่ยเฟยใช้มือคว้าร่างชานหยิงด้วยแววตาอันดุร้าย จากนั้นเขาก็ใช้ร่างกายของชายคนนี้เป็นเสมือนกับโล่คอยปะทะกับต้นไม้ก่อนร่างของเขา ซึ่งหลังจากที่ต้นไม้ได้หักไปหลายร้อยต้นในที่สุดร่างของเซี่ยเฟยก็หยุดลงและล้มลงไปบนพื้น

ในระหว่างที่เซี่ยเฟยกระเด็นไปกระแทกกับต้นไม้ ร่างของชานหยิงก็ถูกดูดเลือดจนแห้งเหือดและเมื่อมันได้ปะทะเข้ากับต้นไม้หลาย ๆ ครั้งในที่สุดร่างของเขาก็แตกสลายกลายเป็นผุยผง

ถุย!

เซี่ยเฟยถุยเลือดออกมาจากปาก ซึ่งมันเห็นได้ชัดเลยว่าเขาได้รับบาดเจ็บจากภายในที่เป็นผลมาจากการใช้ร่างกายต้านรับการโจมตีของราชากฎผู้ยิ่งใหญ่ และถ้าหากว่ามันไม่ได้มีการป้องกันหลาย ๆ ชั้น การจู่โจมในครั้งนี้ก็อาจจะทำให้ชายหนุ่มตายได้ในทันที

เหตุการณ์นี้ทำให้หยูฮัวขมวดคิ้วขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะสัตว์ร้ายภายในใจของเซี่ยเฟยได้ถูกปลดปล่อยออกมาแล้ว และถึงแม้ว่าเขาจะมีระดับพลังสูงกว่าชายหนุ่มฝั่งตรงข้ามมาก แต่สำหรับศัตรูที่พร้อมจะสู้เสี่ยงชีวิตแล้วการเผชิญหน้ากับคนแบบนี้ก็ยังคงเป็นเรื่องที่อันตรายอยู่ดี

“มันช่างเป็นอาวุธที่วิเศษจริง ๆ ถึงขนาดดูดซับพลังของราชากฎเข้าไปได้ ทำไมหงส์ครามถึงได้ไปอยู่ในมือของนาย?” หยูฮัวถาม

เซี่ยเฟยใช้มือเช็ดเลือดที่มุมปากพร้อมกับดูดซับพลังงานที่ได้มาจากร่างของชานหยิงอย่างรวดเร็ว มันจึงทำให้ร่างกายของเขาค่อย ๆ ฟื้นฟูกลับมา และเขาก็ขี้เกียจเกินกว่าจะตอบคำถามของศัตรูในระหว่างที่เขากำลังตกอยู่ในอันตราย

ขณะเดียวกันในมือของเขาก็กำลังถืออิฐสีดำเอาไว้ ซึ่งในระหว่างที่เขาตอบโต้กลับไปเขาก็แอบหยิบอาวุธที่ควรจะเป็นของเขาขึ้นมา

“วิญญาณหวนเป็นอาวุธที่ดีมาก นายสนใจอยากจะให้ฉันสอนนายใช้มันไหมล่ะ?” หยูฮัวกล่าวพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ

โลหะสีเข้มภายในมือของชายหนุ่มเริ่มดูดซับแสงสว่างบริเวณโดยรอบเหมือนกับหลุมดำ จากนั้นมันก็เริ่มแตกสลายกลายเป็นโลหะรูปพีระมิดสีดำที่ลอยเด่นอยู่ในอากาศ

เซี่ยเฟยพอจะคาดเดาวิธีการใช้อาวุธชิ้นนี้ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาได้เห็นมันแล้ว เพราะจุดเด่นของแร่ดาร์คเมทัลคือมันสามารถดูดซับพลังกฎเข้าไปเก็บไว้ในอาวุธ และทำให้ผู้ใช้สามารถเรียกใช้พลังเหล่านั้นออกมาได้ตามต้องการ แน่นอนว่าพีระมิดขนาดเล็กที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศนั่นก็คือวิญญาณหวนที่ดูดซับพลังของกฎแห่งความโกลาหลเอาไว้ด้านใน

เหตุการณ์นี้ทำให้หยูฮัวขมวดคิ้วหนักขึ้นกว่าเดิม เพราะการที่เซี่ยเฟยได้ครอบครองอสูรศักดิ์สิทธิ์, ชุดเกราะชาร์ปเลส, ดาบสีแดงอันสวยงามและหงส์คราม มันก็ทำให้เขายากที่จะรับมือแล้ว แต่ในตอนนี้ชายหนุ่มกลับสามารถควบคุมวิญญาณหวนได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งมันก็จะทำให้การจัดการกับเซี่ยเฟยกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมากขึ้นกว่าเดิม

แน่นอนว่าหยูฮัวไม่ได้กลัวว่าเขาจะพ่ายแพ้ให้กับเซี่ยเฟย แต่เขากังวลว่ามันอาจจะต้องใช้เวลานานกว่าเขาจะสามารถจัดการกับชายหนุ่มคนนี้ได้สำเร็จ ยิ่งไปกว่านั้นในตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้ว่าการต่อสู้ระหว่างอสูรเทวะของตระกูลหยูกับนักสู้จากตระกูลไบร์ทซีได้มีความคืบหน้าไปจนถึงขั้นไหนแล้ว

ชิงเหมิงแตกต่างจากขนอุยเพราะมันมีชีวิตมาเนิ่นนานหลายพันปีแล้ว พลังการต่อสู้ของมันจึงอยู่ในระดับสูงสุดของอสูรเทวะแตกต่างจากขนอุยที่สามารถแสดงพลังของอสูรศักดิ์สิทธิ์ออกมาได้เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น

แต่ไม่ว่าจะยังไงเขาก็จะปล่อยให้เซี่ยเฟยรอดชีวิตไปไม่ได้เป็นอันขาด เพราะอีกตัวตนหนึ่งชายหนุ่มคนนี้คือทายาทของตระกูลสกายวิง ซึ่งถ้าหากว่าสมาชิกของตระกูลสกายวิงได้รู้ว่าเซี่ยเฟยถูกเขาปองร้าย ผลที่ตามมามันก็จะเลวร้ายมากกว่าสถานการณ์ปัจจุบันไปหลายสิบเท่า

ตระกูลสกายวิงขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยมมาโดยตลอด และพวกเขายังขึ้นชื่อเรื่องการเคลื่อนไหวอย่างอิสระโดยไม่สนกฎเกณฑ์ด้วย หยูฮัวจึงจำเป็นจะต้องจัดการกับเรื่องนี้อย่างระมัดระวัง ไม่อย่างนั้นการเข้าไปสะกิดตระกูลสกายวิงแม้แต่เพียงนิดเดียว มันก็อาจจะก่อให้เกิดหายนะกับชีวิตของเขาได้เลย

“เลิกพยายามเถอะ ไม่ว่ายังไงวันนี้มันก็เป็นวันตายของนาย” หยูฮัวกล่าวพร้อมกับชี้ดาบวงพระจันทร์ไปที่ชายหนุ่ม

“เก็บคำพูดนั้นเอาไปไว้พูดกับตัวเองเถอะ” เซี่ยเฟยตอบกลับอย่างใจเย็น และทันใดนั้นมันก็มีใบหญ้าสีน้ำเงิน 2 ใบแทงทะลุขึ้นมาจากใต้เท้าของหยูฮัว ซึ่งแน่นอนว่าใบหญ้าเหล่านี้ก็ไม่ใช่ใบหญ้าอื่นใดเลยนอกเสียจากใบหญ้าของหงส์ครามที่มีศักดิ์เป็นอาวุธมายานั่นเอง

ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันเซี่ยเฟยก็ได้แอบปล่อยให้หงส์ครามแทรกซึมเข้าไปภายในดิน เพื่อที่เขาจะได้เริ่มเปิดการจู่โจมโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันได้ตั้งตัว

ฟุบ!

หยูฮัวบินขึ้นไปบนท้องฟ้าในทันที แน่นอนว่ากลอุบายเล็ก ๆ น้อย ๆ เพียงแค่นี้ย่อมไม่สามารถดักจับผู้เชี่ยวชาญกฎมิติระดับสูงแบบเขาได้

อย่างไรก็ตามวิญญาณหวนภายในมือของเซี่ยเฟยก็เริ่มยิงลำแสงเข้าใส่หยูฮัวราวกับปืนกล ขณะที่ชุดต่อสู้ของเซี่ยเฟยก็ได้ปล่อยไอพ่นส่งร่างของชายหนุ่มขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว

แรงขับของเครื่องยนต์ควอนตัมบนชุดชาร์ปเลสทำให้เซี่ยเฟยสามารถเคลื่อนที่ได้ไม่ต่างไปจากความเร็วสูงสุดของเขาเลย ท้ายที่สุดชุดต่อสู้นี้ก็คือชุดต่อสู้ระดับราชากฎ ที่ครั้งหนึ่งมันเคยต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับ 1 ใน 4 ผู้พิทักษ์มังกรฟ้ามานานหลายปี

หยูฮัวเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนเขาจะปลดปล่อยการโจมตีประจำตัวอันโด่งดังอย่างวิชาเจ็ดมังกรแยกฟ้าออกมาอีกครั้ง

รอยแตกมิติอันโหดร้ายทั้งเจ็ดสายเคลื่อนที่เข้าหาเซี่ยเฟยอย่างรวดเร็ว ซึ่งพลังทำลายของพวกมันรุนแรงมากจนทำให้แม้แต่ท้องฟ้าก็ยังถูกแบ่งแยกออกจากกัน

ความจริงการที่เขาต้องใช้วิชาประจำตัวเพื่อจัดการกับอัศวินกฎก็ค่อนข้างที่จะทำให้หยูฮัวรู้สึกเขินอายอยู่เล็กน้อย เขาจึงพยายามทุ่มเทพลังทั้งหมดในการจู่โจมครั้งนี้เพียงครั้งเดียวเพื่อจบการต่อสู้ในครั้งนี้โดยเร็วที่สุด

ทั้งหยูเจียงและนักสู้จากตระกูลไบร์ทซีต่างต้องเงยหน้าขึ้นมองฟ้าด้วยความไม่เข้าใจ ท้ายที่สุดเซี่ยเฟยก็เป็นเพียงแค่อัศวินกฎไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมหยูฮัวถึงกลับจำเป็นจะต้องใช้พลังในระดับนี้ในการจัดการกับชายหนุ่มคนนั้นด้วย

เซี่ยเฟยไม่เคยเผชิญหน้ากับพลังที่ดุร้ายเช่นนี้มาก่อน ซึ่งในเสี้ยววินาทีหนึ่งนั้นเขาก็กำลังสงสัยอยู่ด้วยซ้ำว่าพลังระดับนี้สามารถที่จะทำลายดาวเคราะห์ลงได้หรือเปล่า

แม้ว่าจะต้องเผชิญกับพลังทำลายอันน่ากลัว แต่เซี่ยเฟยก็ยังคงเลือกหยุดนิ่งไม่ไหวติง

รอยแตกมิติทั้งเจ็ดสายต่างก็ล้วนแล้วแต่มีพื้นที่ทอดยาวออกไปหลายสิบกิโลเมตร ดังนั้นถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะใช้พลังความเร็ววิ่งหนีออกไปอย่างสุดกำลัง แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะหลบรอดการโจมตีครั้งนี้พ้น

การเคลื่อนไหวของหยูฮัวไม่ต่างไปจากการพยายามตบยุงโดยการยิงปืนใหญ่ แต่น่าเสียดายที่ยุงตัวนี้กลับเป็นเซี่ยเฟยผู้ซึ่งไม่เคยยอมแพ้ต่ออะไรง่าย ๆ เหมือนกับอาวุธมายาหงส์ครามภายในมือของเขา

เหล่าบรรดาราชากฎที่อยู่บนพื้นต่างก็มองดูท้องฟ้าด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เพื่อเฝ้าดูเซี่ยเฟยที่กำลังเผชิญหน้ากับการโจมตีของหยูฮัวโดยไม่เกรงกลัว

“นี่สินะการโจมตีแบบเต็มกำลังของราชากฎขั้นสูง!”

“นี่มันบ้าไปแล้ว! เขาถึงกับต้องใช้การโจมตีระดับนี้จัดการกับเด็กเลยงั้นเหรอ?”

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามอันรุนแรง ดวงตาของขนอุยก็เปลี่ยนไปกลายเป็นสีแดงก่ำ ซึ่งในปัจจุบันอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่เติบโตมากับเซี่ยเฟยตัวนี้ก็ได้เข้าสู่สถานะบ้าคลั่งเหมือนกับเจ้าของของมันแล้ว

ก่อนหน้านี้เซี่ยเฟยเคยสั่งไม่ให้ขนอุยทำการเคลื่อนไหวใด ๆ เพื่อที่มันจะได้เก็บสะสมพลังงานเอาไว้ใช้ในการวิวัฒนาการ แต่ในวันนี้ขนอุยเลือกที่จะขัดขืนคำสั่งเดิมของเจ้านายของมัน เพราะสถานการณ์ในปัจจุบันกำลังตกอยู่ในอันตรายและคำสั่งของเซี่ยเฟยก็คงจะไม่มีความหมายถ้าหากว่าพวกเขาได้เสียชีวิตลงในวันนี้

ไม่เพียงแต่เซี่ยเฟยเท่านั้นที่จำเป็นจะต้องเสี่ยงชีวิต เพราะขนอุยก็ต้องการที่จะต่อสู้โดยเอาชีวิตเป็นเดิมพันด้วยเช่นกัน

ท้ายที่สุดพันธสัญญาระหว่างพวกเขาคือพันธสัญญาแห่งชีวิตและความตาย ดังนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่เซี่ยเฟยตายขนอุยก็จะตายไปพร้อมกับใช้เจ้านายคนนี้

ถุย ๆ ๆ

ขนอุยเริ่มพ่นลูกบอลพลังงานออกมาอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งลูกบอลพลังงานที่ถูกพ่นออกมานั้นมีขนาดใหญ่กว่าลำตัวปัจจุบันของขนอุยมาก

นี่คือการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่ขนอุยจะสามารถทำได้แล้ว ซึ่งหลังจากที่มันได้พ่นลูกบอลพลังงานออกไป 3 ครั้งขนทั่วทั้งร่างของมันก็สูญเสียความแวววาวไปในทันที

ลูกบอลพลังงานขยายตัวในอากาศอย่างรวดเร็วกลายเป็นตาข่ายพลังงาน 3 ตาข่ายที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 10 เมตร ซึ่งแต่เดิมขนอุยมักจะประยุกต์ใช้ท่านี้สำหรับการป้องกัน แต่ในปัจจุบันมันได้ประยุกต์ท่านี้เอามาใช้ในการโจมตี

ฝ่ามือใบไม้ร่วง!

เซี่ยเฟยเริ่มจู่โจมออกไปด้วยเช่นเดียวกันด้วยพลังวิชาที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เขามี

ตูม!

เจ็ดมังกรแยกฟ้าของหยูฮัวปะทะเข้ากับตาข่ายพลังงานของขนอุยและกฎแห่งความโกลาหลของเซี่ยเฟย

พื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ส่วนท้องฟ้าก็สว่างไสวราวกับมีพระอาทิตย์สองสว่างอยู่นับหมื่นดวง แต่ท่ามกลางแสงสว่างอันเจิดจ้าจุดสีดำเล็ก ๆ 2 จุดก็กำลังเคลื่อนที่เข้าไปใกล้กันมากขึ้นเรื่อย ๆ

ตูม!!!!!

ไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพราะสิ่งที่ผู้ชมบนพื้นดินเห็นคือเงาร่างสีดำกำลังตกลงมาบนพื้นราวกับลูกอุกกาบาต

ตูม!

แรงสั่นสะเทือนอันรุนแรงเกิดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับอุกกาบาตสีดำที่ตกลงมาใจกลางสนามรบ โดยหลุมลึกที่เกิดขึ้นจากแรงปะทะในครั้งนี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 10 กิโลเมตร และคลื่นกระแทกอันรุนแรงที่เกิดจากการปะทะก็ทำให้ต้นไม้ใหญ่ที่มีอายุหลายหมื่นปีถูกถอนรากถอนโคนออกไปอย่างรวดเร็ว

“เซี่ยเฟย!”

หยูเจียงอุทานเพราะสิ่งที่ตกลงมาไม่ใช่อุกกาบาต แต่เป็นร่างของเซี่ยเฟยที่กำลังถูกฝังอยู่ในพื้นดินต่างหาก

ทุกคนต่างก็เห็นเหตุการณ์ในครั้งนี้อย่างชัดเจนว่าร่างของเซี่ยเฟยกำลังนอนนิ่งอยู่ตรงกลางหลุมอุกกาบาต โดยมีควันสีดำเล็ดลอดออกมาจากชุดเกราะชาร์ปเลสแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการปะทะระหว่างเซี่ยเฟยกับหยูฮัวรุนแรงแค่ไหน เพราะมันถึงกับทำให้ชุดเกราะอันเลื่องชื่อแทบจะแตกสลาย มันจึงไม่จำเป็นจะต้องพูดถึงเซี่ยเฟยที่อยู่ภายในชุดเกราะชุดนั้นเลย

หยูเจียงทำได้เพียงแต่ส่ายหัวด้วยความเสียดาย เพราะเขารู้ดีอยู่แล้วว่าเซี่ยเฟยย่อมไม่สามารถต้านทานการโจมตีที่รุนแรงแบบนี้ได้ ไม่ว่ายังไงเซี่ยเฟยกับหยูฮัวก็ยังคงห่างชั้นกันมากเกินไปอยู่ดี

ทันใดนั้นเซี่ยเฟยที่อยู่ก้นหลุมก็ลุกขึ้นมานั่งพร้อมกับถุยเลือดภายในปากออกมา

“เขายังไม่ตาย!!” ทุกคนต่างก็อุทานออกมาพร้อมกันอย่างตกตะลึง แต่เมื่อพวกเขาได้สังเกตเห็นสิ่งที่เซี่ยเฟยถุยออกมาจากปาก มันก็ยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกตกตะลึงมากขึ้นกว่าเดิม

หูของหยูฮัว!

“ถ้าฉันใช้พลังทำอะไรไม่ได้ฉันก็จะกัดแกให้ตายไปพร้อมกับฉัน!!” เซี่ยเฟยส่งเสียงร้องคำรามขึ้นมาอย่างดุร้าย

ใช้ฟันกัดหูของคู่ต่อสู้เนี่ยนะ?

เซี่ยเฟยเป็นนักรบหรือสัตว์ร้ายกันแน่ ซึ่งในบางทีเขาคนนี้ก็อาจจะเป็นปีศาจที่หลุดรอดออกมาจากขุมนรก

ชายหนุ่มไอออกมาอย่างรุนแรงก่อนที่เขาจะกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง จนทำให้ชุดชาร์ปเลสถูกย้อมด้วยเลือดของเจ้าของจนตัวชุดเป็นสีแดงสด

“ให้ตายเถอะ นี่ซี่โครงฉันหักไปแล้วกี่ซี่กันเนี่ย!” เซี่ยเฟยพึมพำพร้อมกับเผยรอยยิ้มเปื้อนเลือดออกมา

***************

พี่เฟยกลายเป็นหมาบ้าไปแล้ว!!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด