ตอนที่ 41+42
ตอนที่ 41 ฝ่าบาท คลังเราหมดเงินแล้ว
“น้อมพบฝ่าบาท ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ พันปีหมื่น หมื่นปี”
“ไม่ต้องมากพิธี”หลินเป่ยฟานยิ้ม“อ้ายชิง เกิดอะไรขึ้น ทำไมเจ้าถึงดูกังวลนักเล่า?”
“เรียนฝ่าบาท”เหอเซินประสานมือและยิ้ม“คลังของเรากำลังจะหมดเงิน ถ้าเราไม่เพิ่มผลผลิต เราคงไม่สามารถจ่ายเงินเดือนหน้าได้!ข้ามาเพื่อแจ้งท่านเรื่องนี้!”
หลินเป่ยฟานผงะ“เร็วขนาดนี้เชียว?”
“ก็ต้องเร็วสิขอรับ!”เหอเซินยิ้มขมขื่น“ฝ่าบาท ท่านไม่รู้ ตั้งแต่ท่านประกาศรับสมัคร ท่านก็รับสมัครคนงานไปกว่าล้าน แและเงินเดือนที่จ่ายทุกเดือนก็เกินสามแสนตำลึง!”
“นอกจากนี้ ยังมีค่าบำรุงกองทัพและราชสำนักอีกสามแสนต่อเดือน!รวมกันแล้วก็เกือบเจ็ดแสน!’
“มันเพิ่งสองเดือน และตอนนี้เราก็จ่ายไปแล้ว1.4ล้านตำลึง เหลือติดคลังไม่ถึงสามแสนเท่านั้น!ถ้าไม่มีรายรับ เราจะจ่ายเงินเดือนหน้าไม่ไหว โปรดตรวจสอบด้วย ฝ่าบาท!”
หลินเป่ยฟานถาม“แล้วเรื่องอาหารเล่า?”
“เรื่องอาหาร ไม่มีปัญหาขอรับ!”เหอเซินพูดกับเหยาเหยา”แม่นางเหยาเหยาได้ส่งอาหารมาตลอด เราเลยมีอาหารพอ แต่เราไม่มีเงิน!’
หลินเป่ยฟานถาม“แล้วเรื่องภาษีละ?”
เหอเซินรีบรายงาน“ฝ่าบาท เรื่องภาษี รายรับประจำเดือนอยู่ที่ประมาณสองแสนขอรับ!”
หลินเป่ยฟานขมวดคิ้ว“ทำไมถึงไม่มีการเปลี่ยนแปลง?ข้าทุ่มเงินไปมากขนาดนั้น ธุรกิจยังไม่เริ่มอีกเหรอ?”
เหอเซินพูด“ฝ่าบาท ท่านส่งเงิน แต่พวกเขาไม่ยอมใช้และเก็บออม!ถ้าเงินไม่ใช้ ธุรกิจจะมาจากไหนเล่า?ถ้าไม่มีการค้า แล้วภาษีจะมาจากไหน?”
หลินเป่ยฟานตบหัวตัวเอง“จริง!พวกเขาคือคนงาน พวกเขาใช้ชีวิตมาอย่างยากลำบาก สิ่งแรกที่พวกเขาจะทำตอนได้เงินคือเก็บไว้แทนที่จะใช้จ่าย!”
“จักรพรรดิน้อย วิธีของเจ้าไม่ได้ผลแล้ว เจ้าตายแน่!”เหยาเหยาหัวเราะลั่น
“ฝ่าบาท คลังหลวงขาดเงินแล้วจริงๆ วิธีดีสุดตอนนี้คือส่งผู้ลี้ภัยทั้งหมดไป และจากนั้นก็บุกเบิกที่ดินต่อ สร้างแม่น้ำตอนมีเงิน!ไม่เป็นไรถ้าท่านไม่ส่งพวกเขาไป แต่พวกเขาจะไม่ได้เงินเดือน ได้แต่อาหาร!ข้าเชื่อว่าจะยังมีคนทำงาน”เหอเซินเสนอ
หลินเป่ยฟานส่ายหัว”ไล่คนไม่ได้ เงินเดือนก็ต้องจ่ายห้ามขาด ไม่งั้น มันจะส่งผลต่อความคืบหน้าของงาน!เวลาคือเงิน ข้าจะล่าช้าไม่ได้!’
“แต่ฝ่าบาท เราไม่มีเงินแล้วจริงๆ!”เหอเซินพูดอย่างวิตก
ครั้งนี้ เหยาเหยาโบกมือให้หลินเป่ยฟาน“จักรพรรดิน้อย ถ้าเจ้าขาดเงิน เจ้าสามารถยืมเงินจากข้าได้!ข้าไม่อยากได้มาก ดอก30%ก็พอ!”
หลินเป่ยฟานพูดไม่ออก ไหนบอกไม่มาก?
30%นี่มันขูดเลือดขูดเนื้อกันชัดๆ
หลินเป่ยฟานส่ายหัว“ไม่ต้องยืมเงิน เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เอง”
เหยาเหยาตกตะลึง“เจ้าจะแก้ไขเรื่องนี้ยังไง?เจ้าไม่มีเงินในคลังเลยนะ มันยากมากที่หญิงฉลาดจะทำอาหารได้โดยไม่มีข้าว เจ้าจะทำยังไง?”
“ข้าไม่มีเงินก็จริง แต่ไม่ใช่ว่าประชาชนมีเงินเหรอ?”หลินเป่ยฟานหัวเรา”ข้าให้เงินพวกเขาไป1.4ล้านตำลึง และพวกเขาก็มีเงินติดมือกัน!’
เหยาเหยาหันมา“อย่าบอกข้านะว่า เจ้าจะชิงมา?”
หลินเป่ยฟานส่ายหัว“ข้าจะไปทำเรื่องบ้าแบบนั้นได้ไง?ข้ามีวิธีทำให้พวกเขาส่งเงินมาให้อย่างเต็มใจ!”
ทั้งเหยาเหยาและเหอเซินต่างตกตะลึง
มีวิธีด้วยเหรอ?
หลินเป่ยฟานถาม“เหออ้ายชิง ข้าขอถามเจ้า เจ้าได้เก็บกากแร่เหล็กจากการหลอมไว้ไหม?”
เหอเซินก้มหัว“ข้าเชื่อฟังคำสั่งของฝ่าบาท กากแร่เหล็กที่เหลือจากการหลอมถูกเก็บไว้ ตอนนี้มันกองกันเป็นภูเขาแล้วขอรับ”!”
“ดี!”หลินเป่ยฟานพยักหน้าพอใจ“แล้วหินปูนเล่า?”
“ฝ่าาท หินปูนขุดได้ตลอด ตอนนี้ก็กองเป็นภูเขาแล้วเช่นกัน!”
“ไม่เลว!”หลินเป่ยฟานพยักหน้าพอใจอีกครั้ง”ด้วยดินเหนียวกับตะกอน ทุกอย่างจะได้ผล!’
หลินเป่ยฟานยืนขึ้นและแหกปาก“พู่กัน หมึก กระดาษ หินหมึก!”
หลังจากนั้นไม่นาน เหล่าขันทีก็รีบวิ่งนำของเข้ามา
หลินเป่ยฟานหยิบพู่กันและเริ่มขีดเขียน
เหยาเหยากับเหอเซินยืนมอง
หลังจากนั้นไม่นาน เหอเซินก็ถาม“ฝ่าบาท ท่านทำอะไร?”
หลินเป่ยฟานวางพู่กันลงและยิ้ม“ข้ากำลลังจะทำปูนและสร้างบ้าน!”
“ปูน?สร้างบ้าน?”ทั้งคู่ตกตะลึง
ตอนที่ 42 สร้างบ้านในสามวัน?
พวกเขาเข้าใจการสร้างบ้าน แต่ปูนซีเมนต์คืออะไร?
สิ่งนี้ใช้สร้างบ้านเหรอ?
ทำไมไม่เคยได้ยิน?
พอเห็นสีหน้าพวกเขา หลินเป่ยฟานก็รู้ว่าพวกเขาสับสนและยิ้ม“ปูนคือสิ่งที่ใช้สร้างบ้าน!มันผลิตจากการผสมกากแร่เหล็ก หินปูนและดินเหนียวเข้าด้วยกัน!”
“การใช้ปูนซีเมนต์เพื่อสร้างบ้าน ถ้าทำให้เร็ว เจ้าจะสร้างบ้านเสร็จในสามหรือสี่วัน และความแข็งแกร่งจะไม่ด้อยกว่าวังหลวงเราเลย เข้าใจไหม?”
ทั้งสองอ้าปากค้าง
“บ้านที่สร้างได้ในสามหรือสี่วัน และยังแข็งแกร่งไม่ด้อยกว่าวัง?”
“เป็นไปได้ไง?”
“ข้ารู้ว่าพวกเจ้าไม่เชื่อ แต่ในไม่ช้าจะเข้าใจกัน!”
หลินเป่ยฟานส่งกระดาษให้เหอเซิน“เจ้าทำตามวิธีการนี้และสั่งคนให้ผลิตมันเดี๋ยวนี้ ยิ่งเยอะยิ่งดี หลังทำเสร็จ ข้าจะสอนเจ้าถึงวิธีสร้างบ้าน!”
“ขอรับ ฝ่าบาท!”เหอเซินรับไปด้วยความเคารพ
แม้จะยังมีข้อสงสัยในใจ แต่พอเห็นว่าจักรพรรดิของเขาไม่อยากพูดอีก เขาก็ไม่ถามเพิ่ม
เรื่องที่จักรพรรดิสั่ง ไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหน ก็ถือเป็นเรื่องใหญ่
หลังกลับ เหอเซินก็สั่งคนให้ทำปูนตามวิธีผลิตบนกระดาษ
นอกจากนี้ ตามคำขอของหลินเป่ยฟาน แบบอิฐมากมายถูกสร้าง
สามวันต่อมา เหอเซินเข้าวังอีกครั้ง“ฝ่าบาท ปูนซีเมนต์กับแม่แบบพร้อมแล้วขอรับ!”
หลินเป่ยฟานวางผลไม้ในมือ”ดี งั้นก็เริ่มสร้างบ้านเลย!เรียกช่างฝีมือมา ข้าจะสอนพวกเขา!’
ครึ่งชั่วโมงต่อมา หลินเป่ยฟานกับคนอื่นไปพื้นที่เปิดโล่งด้านนอกเมือง
“ดูให้ดี ข้าจะสอนเจ้าครั้งเดียว!”
“ขอรับ ฝ่าบาท!”
ทุกคนขานรับ
“ก่อนอื่น นำทรายกับปูนมาผสมเข้าด้วยกัน!”
“พอทรายกับปูนผสมเข้าด้วยกันแล้ว ให้ใสน้ำและกวนมัน!อัตราส่วนของทราย ปูนกับน้ำคือ..”
“พอมันเริ่มเหนียวก็ให้เทใส่แม่แบบเพื่อทำอิฐ!”
“หลังมันแห้ง พวกมันจะแข็งเหมือนอิฐแดงกับอิฐฟ้าทั่วไป พวกมันจะใช้สร้างบ้านได้!”
…
แน่นอน ระหว่างนี้ หลินเป่ยฟานพูดไปหลายสิ่ง
หนึ่งวันผ่านไป และวันนี้ก็คือวันทำอิฐกัน
“หลังพวกมันแห้ง พวกมันจะใช้สร้างบ้านได้!สองวันนี้แดดจัด พวกเจ้าควรใช้งานได้ในอีกสองวัน!”
“ในวันที่สาม หลินเป่ยฟานมาอีก
“อิฐปูนแห้งแล้วและสามารถใช้สร้างบ้านได้แล้ว!พวกเจ้าคือช่างฝีมือ พวกเจ้าควรรู้วิธีสร้างใช่ไหม?”
“สิ่งเดียวที่จะบอกคือปูนซีเมนต์นี้ยังใช้เป็นกาวเชื่อมระหว่างอิฐปูนที่แข็งตัวแล้วได้ด้วย มันแข็งมาก…”
ภายใต้คำสั่งของหลินเป่ยฟาน ช่างฝีมือสร้างบ้านด้วยอิฐปูน
ประมาณวัน พวกเขาก็สร้างกำแพงรอบด้านเสร็จ
“รอให้แห้งอีกวัน และหลังปูนแห้งสนิท ก็สร้างหลังคา!”
สองวันต่อมา หลินเป่ยฟานมาอีกครั้ง และพบว่าปูนบนกำแพงแห้งสนิทแล้วและแข็งมาก
“ตอนนี้สร้างหลังคาได้แล้ว!วางคาน และวางกระดานปูนบนคาน..”
คนงานยกแท่งเหล็กยาวและหนาหลายเส้นไปวางบนกำแพงเพื่อทำเป็นคาน
จากนั้นก็วางกระดานปูนที่แห้งแล้ว
“ดูสิ มันเป็นบ้านแล้วเห็นไหม?”หลินเป่ยฟานหัวเราะ
ทุกคนตกใจมาก
“มัน..เสร็จแล้วจริงๆ!”
“ยิ่งไปกว่านั้น มันใช้เวลาแค่ห้าวัน!เร็วมาก!”
“ใช่ ปกติต้องใช้เวลาครึ่งเดือนเพื่อสร้างบ้าน แต่นี่แค่ห้าวัน!”
“ปาฏิหาริย์ชัดๆ!’
..
หลินเป่ยฟานหน้าบาน“จริงๆแล้ว มันเร็วกว่านี้ได้ เพราะเราใช้เวลาสองวันเพื่อทำอิฐ!ถ้าเราข้ามขั้นตอนนี้ มีอิฐเตรียมไว้และสร้างบ้านโดยตรง กำแพงจะสร้างเสร็จในวันแรก แห้งในวันสองและหลังคาจะสร้างในวันสาม มันจะเสร็จในสามวัน!”
ทุกคนพยักหน้า
ครั้งนี้ เหอเซินเดินไปบ้านปูน ชักดาบและฟัน
แต่บ้านก็ยังปลอดภัยดี
จากนั้นเขาก็ออกแรงเพิ่มเป็นสองส่วน แต่ก็ยังแทงมันไม่เข้า
จากนั้นก็ออกแรงเพิ่มเป็นสามส่วน สี่ส่วน ห้าส่วน..
จนกระทั่งหกส่วนมันถึงมีรอยตัด
แต่ดาบบิ่นแล้ว
เหอเซินแปลกใจ”แข็งมาก!ข้าใช้แรงถึงหกส่วนเพื่อทิ้งรอย!ความแข็งของผนังนี้ไม่ด้อยกว่าวังเลย!’
“มันแข็งขนาดนั้นจริงเหรอ?”
“ข้าขอลองด้วย!’
ทุกคนลองมันทีละคน และพบว่าบ้านแข็งมากตามที่เหอเซินพูด