1138 - เทพธิดาจากต้นกำเนิดสวรรค์
1138 - เทพธิดาจากต้นกำเนิดสวรรค์
ราชาโบราณสองคนก้าวออกมาข้างหน้า พวกเขาสืบเชื้อสายมาจากจักรพรรดิอมตะ และตอนนี้พวกเขากำลังคุกคามเข้าหาเย่ฟ่านกับวานรศักดิ์สิทธิ์
“ผู้อาวุโสมีกฎสำหรับการชุมนุมครั้งนี้ ท่านไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้กำลังในทะเลสาบหยก”
สตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกกล่าว เสียงของนางเบามากแต่ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนี้ต่างได้ยินอย่างชัดเจน
บนท้องฟ้า เจดีย์น้ำตาเซียนกำลังปลดปล่อยแสงสีเขียวให้สาดส่องออกไปทุกทิศทาง คลื่นพลังของอาวุธเต๋าสุดขั้วแผ่ออกมาปกคลุมทั่วทั้งทะเลสาบยกและเตรียมจะสังหารผู้ที่กล้าท้าทายอำนาจของจักรพรรดินีตะวันตก
ในเวลานี้ผู้คนจากสันเขาเสิ่นคานก้าวออกมาข้างหน้าและกล่าวว่า
“ผู้อาวุโสโปรดสงบสติอารมณ์ด้วย เขาเป็นบุตรชายของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าเขาจะทำผิดท่านก็ควรเห็นแก่ใบหน้าบิดาของเขาบ้าง”
ราชาบรรพชนแห่งสันเขาเสิ่นคานกล่าวอย่างจริงจัง แม้ว่าเขาจะเข้าข้างวานรศักดิ์สิทธิ์อย่างชัดเจน แต่เขาก็ไม่กล้าเป็นศัตรูกับสิ่งมีชีวิตอมตะถึงสามคน
“ข้าบอกให้เขาคุกเข่าขอโทษหวงเทียนจื่อต่อหน้าทุกคน หากเขาไม่ทำข้าคงต้องฆ่าเขาเพื่อเป็นการลงโทษ”
ราชาบรรพชนสตรียกมือที่บอบบางของนางและชี้ไปที่วานรศักดิ์สิทธิ์
“ก่อนการชุมนุมครั้งยิ่งใหญ่ของทุกเผ่าพันธุ์ เราได้ตกลงเป็นเอกฉันท์แล้วว่าห้ามทำสงครามที่นี่ เจ้าคิดว่าพวกเจ้า 3 คนสามารถเป็นศัตรูกับทั้งโลกได้จริงๆ” เย่ฟ่านกล่าว
“แน่นอนว่าเราย่อมทำตามกฎของการชุมนุมอยู่แล้ว แต่หากข้าจับพวกเจ้าออกไปฆ่าข้างนอกนี่ย่อมไม่ผิดกฎใช่ไหม?”
ราชาบรรพชนสตรีเอื้อมมือออกไปคว้าร่างของวานรศักดิ์สิทธิ์และเย่ฟ่านพร้อมกัน
“บังอาจ!”
เย่ฟ่านก้าวไปข้างหน้าและกระแทกหมัดหกสังสารวัฏออกไปอีกครั้ง
วานรศักดิ์สิทธิ์คำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว กระบองสีดำในมือของเขาฟาดหวดเข้าหาศีรษะราชาบรรพชนสตรีอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า
“เผ่าพันธุ์มนุษย์แทบไม่มีสิ่งมีชีวิตอมตะเหลืออยู่เลย เฟิงเสินปั่งก่อนหน้านี้ก็เป็นของปลอมเช่นกัน มาดูกันว่าพวกเจ้าจะมีอุบายอะไรอีก”
ราชาโบราณทั้งสองซึ่งสวมชุดเกราะสีเงินก้าวไปข้างหน้าและลงมือต่อเย่ฟ่านพร้อมกัน
เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีมุมมองเดียวกันกับเทียนหวงจื่อ โดยเชื่อว่าจักรพรรดิอู่ซือดับสูญไปตั้งแต่เมื่อแปดหมื่นปีก่อนแล้ว
เย่ฟ่านขมวดคิ้ว นี่คือราชาบรรพชนทั้งสามในขณะที่เขาเป็นเพียงเซียนปลอม หากเขาต้องการเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้จริงๆ ต่อให้เขามีอาวุธเต๋าสุดขั้วอยู่ในมือก็ยากที่จะเอาตัวรอดได้
“วานรน้อยบิดาของเจ้าชั่วร้ายอย่างถึงที่สุด เขากล้าทำลายวิหารเทพซึ่งทุกข์เผ่าพันธุ์สักการะ อย่างไรก็ตามพวกเราไม่อาจทำอะไรเขาได้เพราะความแข็งแกร่งของเขาไม่มีผู้ใดปฏิเสธได้
แต่ตัวเจ้ากลับแตกต่างออกไป วันนี้ข้าจะฆ่าเจ้าเพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าทายาทของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นเพียงเศษสวะเท่านั้น” ราชาบรรพชนสตรีมีความพยาบาทอย่างถึงที่สุด
ในอดีตจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์คือผู้ปกครองโลกใบนี้อย่างแท้จริง เขาทำลายเชื้อสายของจักรพรรดิอมตะแทบหมดสิ้น เรื่องนี้ทำให้สิ่งมีชีวิตโบราณจากเขาจักรพรรดิเกลียดชังเผ่าพันธุ์วานรเสมอมา
ในเวลานี้จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ตายไปแล้ว ดังนั้นพวกนางจึงฉวยโอกาสลงมือต่อองค์ชายศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นการแก้แค้นไปในตัว
“ปัง”
เย่ฟ่านเผชิญหน้ากับหนึ่งในราชาบรรพชน ร่างกายของเขามีความแข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อ แม้ว่าเขาจะต้านทานการโจมตีของคู่ต่อสู้ได้ แต่พลังการโจมตีของเขายังคงไม่เพียงพอจะสะกิดร่างกายของฝ่ายตรงข้ามด้วยซ้ำ
“วานรศักดิ์สิทธิ์น้อย มาดูกันว่าในวันนี้ใครจะมาช่วยเจ้า!”
ราชาบรรพชนสตรีคว้าจับกระบองสีดำของวานรและสะบัดร่างของเขาปลิวกระเด็นออกไปไกล นางถือกระบองสีดำไว้ในมือและออกแรงเพื่อหักมันอย่างหักโหม
แต่สุดท้ายกระบองนี้ไม่เพียงไม่หักเท่านั้น แม้แต่ร่องรอยของการโค้งงอยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้สีหน้าของราชาบรรพชนสตรีเกิดความงุนงงเป็นอย่างมาก
“ที่แท้มันก็เป็นอาวุธเต๋าสุดขั้วที่ถูกปิดผนึก?” ความโลภปรากฏขึ้นในน้ำเสียงของนางอย่างชัดเจน
วานรศักดิ์สิทธิ์คำรามด้วยความโกรธ แต่เขาไม่มีทางต้านทานการโจมตีของราชาบรรพชนสตรีได้ และตอนนี้เขาถูกหญิงสาวผู้ชั่วร้ายเหยียบย่ำศีรษะให้แนบกับพื้นโดยไม่มีความสามารถแม้แต่จะขยับตัว
“วานรน้อยมาดูกันว่าบิดาของเจ้าจะฟื้นคืนชีพมาช่วยเจ้าหรือไม่ เจ้ากล้าดูหมิ่นจักรพรรดิอมตะวันนี้ข้าจะค่อยๆเลาะกระดูกของเจ้าออกมา”
ราชาบรรพชนสตรีเย้ยหยันก่อนจะลากร่างกายของวานรศักดิ์สิทธิ์ออกจากทะเลสาบยก
“ตอนนี้แม้ว่าเจ้าจะคุกเข่าข้าก็จะฆ่าเจ้าอยู่ดี!”
ราชาบรรพชนสตรีมีความงดงามอย่างน่าเหลือเชื่อ อย่างไรก็ตามจิตใจของนางกลับเต็มไปด้วยความชั่วร้าย และเห็นได้ชัดว่านางตั้งใจมาที่นี่เพื่อฆ่าวานรศักดิ์สิทธิ์โดยตรง
แน่นอนว่าวานรศักดิ์สิทธิ์ยอมตายดีกว่ายอมจำนน ไม่มีทางที่มันจะยอมแพ้ เพราะนั่นไม่เพียงแต่เสื่อมเสียเพียงแค่ตัวมันเท่านั้น แต่ยังจะเสื่อมเสียถึงบรรพชนวานรศักดิ์สิทธิ์ทุกคนอีกด้วย
เย่ฟ่านรู้ว่าเขาไม่สามารถล่าช้าได้อีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงเปิดใช้งานหม้ออสูรกลืนสวรรค์อย่างลับๆ ตัวหม้อถูกซุกซ่อนไว้ในความว่างเปล่า แต่พลังของมันได้โอบล้อมร่างกายของเขาอย่างแน่นหนา
“คุกเข่าลง ถ้าเจ้าไม่ทำข้าจะตัดขาของเจ้าออก” ราชาบรรพชนสตรีกล่าวอย่างโหดร้าย
ด้านหลังของราชาบรรพชนทั้งสามเทียนหวงจื่อ หยวนกู่ และคนอื่นๆ กำลังหัวเราะอย่างสนุกสนาน พวกเขาไม่เคยมีความสุขแบบนี้มาก่อน
“ปัง!”
แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวเกิดขึ้นที่ด้านหน้าทะเลสาบหยก ร่างกายของราชาบรรพชนสตรีปลิวไปกับการโจมตีครั้งนี้และกระแทกเข้ากับหน้าผาที่อยู่ห่างไกลออกไปอย่างรุนแรง
ในขณะนี้หญิงสาวที่มีความงดงามคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น ผิวพรรณของนางอ่อนโยนราวกับสลักเสลาขึ้นจากหยกเนื้อดี ใบหน้าของนางเปล่งปลั่งเต็มไปด้วยความอ่อนเยาว์ ความงามของนางแม้แต่บรรพชนสตรีเมื่อคู่ก็ยังไม่สามารถเปรียบเทียบได้
แต่ที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือความแข็งแกร่งของนาง สตรีคนนี้ตบราชาบรรพชนสตรีปลิวกระเด็นออกไปไกล จากนั้นนางก็ดึงวานรศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาจากพื้นและเช็ดเลือดที่มุมปากของเขาอย่างอ่อนโยน
ทุกคนตกตะลึง นี่มันอะไรกัน? ในบริเวณนี้มีสิ่งมีชีวิตอมตะหลายสิบคน แต่พวกเขากลับมองไม่เห็นความเคลื่อนไหวของหญิงสาวคนนี้
ด้านนอกของทะเลสาบหยกมีน้ำพุศักดิ์สิทธิ์และหญ้าสีเขียว นี่คือดินแดนที่บริสุทธิ์ที่เงียบสงบอย่างยิ่ง และตอนนี้ยิ่งไม่มีเสียงพูดคุยดังขึ้นแม้แต่น้อย
ผู้คนทั้งหมดเกิดความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด เพียงตัวตนของราชาบรรพชนสตรีก็ไม่มีใครกล้าสร้างความขุ่นเคืองให้นางแล้ว แต่ตอนนี้กลับมีใครบางคนแข็งแกร่งกว่าราชาบรรพชชมสตรีปรากฏตัวขึ้น เรื่องนี้จะไม่ทำให้พวกเขาตกตะลึงได้อย่างไร
ราชาบรรพชนสตรีเองก็ตกตะลึงเช่นกัน เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ไม่มีใครกล้าทำให้นางหายหน้าแบบนี้ แต่เมื่อนางเห็นใบหน้าที่งดงามนั้น นางก็อดไม่ได้ที่จะกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว
“เจ้ายังไม่ตาย!”
อย่างไรก็ตามนางไม่มีโอกาสส่งเสียงดังมากกว่านั้น เพราะในขณะนี้เย่ฟ่านได้พุ่งเข้าหาราชาบรรพชนสตรีอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าสีทอง
หมัดของเขาเต็มไปด้วยความดุร้ายและครอบงำ พลังศักดิ์สิทธิ์ที่พลุ่งพล่านบดขยี้ภูเขาที่ราชาบรรพชนสตรีฝังร่างกายอยู่ การโจมตีครั้งนี้ทำให้แขนซ้ายที่ราชาบรรพชนสตรียกขึ้นมาต้านทานแหลกละเอียดเป็นผุยผงอย่างง่ายดาย
เย่ฟ่านไม่หยุดความเคลื่อนไหว เขาควบคุมหม้ออสูรกลืนสวรรค์ให้ไล่ล่าราชาบรรพชนสตรีไปด้วยความเร็ว เมื่อการต่อสู้ดำเนินมาถึงตรงนี้เขาไม่มีทางปล่อยให้อีกฝ่ายรอดชีวิตไปได้
อย่างไรก็ตามเมื่อเย่ฟ่านหันไปมองหญิงสาวคนเมื่อครู่ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความตกตะลึง และทำให้ความเคลื่อนไหวของเขาหยุดชะงักลงทันที
“เจ้า...ยังมีชีวิตอยู่!”
“อา..”
ราชาบรรพชนสตรีคำรามอย่างไม่มีที่สิ้นสุด กฎศักดิ์สิทธิ์ของนางพุ่งเข้าหาเย่ฟ่านราวกับคลื่นทะเลและต้องการบดขยี้ร่างของเขาให้แหลกละเอียดในการโจมตีเพียงครั้งเดียว
แต่แล้วหญิงสาวคนนั้นได้สะบัดแขนเสื้อสีขาวอย่างแผ่วเบาและลบล้างกฎศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดของราชาบรรพชนสตรีออกไปอย่างง่ายดาย
ในเวลาต่อมานางก็ยกมือขึ้นเพื่อไม่ให้เย่ฟ่านเคลื่อนไหว ก่อนจะก้าวเข้าหาราชาบรรพชนสตรีด้วยสีหน้าเย็นชา
“เจ้ายังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร!”
เมื่อหลายปีก่อนมีเทพธิดาคนหนึ่งถูกปิดผนึกอยู่ในต้นกำเนิดสวรรค์ที่มีชื่อเรียกว่า “แท่นบูชาโลหิต” เมื่อนางถูกปลดผนึกออกมาทุกคนก็เห็นว่าหน้าอกของนางถูกตรอกตรึงไปด้วยทวนสีดำอันน่าสะพรึงกลัวเล่มหนึ่ง
สุดท้ายเมื่อวานรศักดิ์สิทธิ์ตื่นขึ้นมันก็พาหญิงสาวคนนั้นจากไป!
และเทพธิดาในต้นกำเนิดสวรรค์ก้อนนั้นคือหญิงสาวคนนี้นี่เอง
………….