บทที่ 90 หนึ่งต่อห้า ตระกูลหลินตกตะลึง
บทที่ 90 หนึ่งต่อห้า ตระกูลหลินตกตะลึง
“เจ้ากล้าดียังไง!”
เมื่อได้ยินคำพูดของเจียงเฉิงซวน ผู้อาวุโสตระกูลหลินทุกคน รวมถึงหลินเหวินหยวนก็โกรธอย่างมาก
พวกเขาไม่ได้คาดหวังทัศนคติเช่นนี้จากผู้อาวุโสของตระกูลเฉินที่ปรากฏตัวมาจากไหนก็ไม่รู้
พวกเขาคิดจริงๆหรือว่าตระกูลหลินจะไม่กล้าโจมตีตระกูลเฉิน?
จู่ๆ เจตนาฆ่าก็ฉายแววไปที่ดวงตาของหลินเหวินหยวน
เมื่อทั้งสองฝ่ายมาถึงจุดนี้แล้ว ก็ไม่มีที่ว่างสำหรับการเจรจาอีกต่อไป
ตระกูลหลินจะไม่มีวันยอมแพ้ในสถานที่ที่พวกเขาเลือกมาอย่างดีเช่นนี้
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขามีเหตุผลที่จะสงสัยว่าตระกูลเฉินให้ความสำคัญกับสถานที่แห่งนี้มากเกินไป เพราะมีความลับบางอย่างอยู่ข้างในเป็นแน่
เหตุผลที่พวกเขาไม่ทำการโจมตีตระกูลเฉินก่อนหน้านี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพวกเขากลัวเฉินหยวนหลง และส่วนหนึ่งเป็นเพราะพวกเขาไม่พบเหตุผลที่เหมาะสมในการโจมตี
ตอนนี้ผู้อาวุโสของตระกูลเฉินท้าทายพวกเขาอย่างโจ่งแจ้ง ทำให้ตระกูลหลินมีเหตุผลอันสมควรที่จะเริ่มทำการโจมตีได้แล้ว
เมื่อตระกูลหลินจัดการกับเจียงเฉิงซวนและคนอื่นๆ และยึดครองสถานที่นี้ได้แล้ว จากนั้นพวกเขาจะจัดตั้งค่ายกลพร้อมกับกองกำลังขนาดใหญ่ ในเวลานั้นแม้ว่าเฉินหยวนหลงจะรีบเร่งมาจริงๆ แต่มันก็สายเกินไป
บางทีบรรพบุรุษของพวกเขาอาจใช้พลังของค่ายกลเพื่อกำจัดชายแก่ใกล้ตายนั้นได้อย่างสมบูรณ์
เมื่อถึงเวลานั้นก็จะไม่มีใครในตระกูลเฉินที่สามารถคุกคามพวกเขาได้
บางทีตระกูลหลินอาจจะได้รับรางวัลอย่างงามจากตระกูลหงสำหรับเรื่องนี้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่หลินเหวินหยวนและผู้อาวุโสของตระกูลหลินไม่เข้าใจว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับคนสองคนที่แข็งแกร่งขนาดไหน
ทันทีที่พวกเขาเลือกที่จะโจมตี พวกเขาก็รู้สึกได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ
จู่ๆ สายลมเย็นก็ปรากฏขึ้นและหมุนวนไปรอบๆ หลินเหวินหยวนและผู้อาวุโสตระกูลหลินคนอื่นๆ
ทันใดนั้นชายร่างสูงและผอมบางที่กำลังหยิบวัตถุทรงกลมบางอย่างออกมา จู่ๆเขาก็รู้สึกหนาวที่คอทันที
เมื่อมองลงไป เขาก็ต้องตกใจเมื่อพบว่ามีศพที่ไม่มีหัวกำลังล้มลงไปที่พื้นอย่างรวดเร็ว
รอบตัวเขา หลินเหวินหยวนและผู้อาวุโสตระกูลหลินคนอื่นๆ อุทานออกมา
“ผู้อาวุโสเหวินไห่!”
เสียงนี้ดังเข้ามาในหูของหลินเหวินไห่
จากนั้นเขาก็ตายไป
“เจ้า…”
ในขณะนี้เองที่หลินเหวินหยวน และผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ของตระกูลหลินตระหนักด้วยความตกใจว่าเจียงเฉิงซวนซึ่งแต่เดิมยืนอยู่ตรงข้ามพวกเขา ได้มาถึงด้านหลังหลินเหวินไห่และลงมือสังหารเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“เจ้าบังอาจฆ่าผู้อาวุโสเหวินไห่จริงๆ!”
ผู้อาวุโสของตระกูลหลินผมหงอกโกรธอย่างมาก
ต้องรู้ว่าหลินเหวินไห่เป็นผู้ฝึกตนระดับการก่อตั้งรากฐานที่อายุน้อยที่สุดในตระกูลหลิน ระดับการฝึกฝนของเขาได้ไปถึงขั้นที่สี่ของระดับการก่อตั้งรากฐานแล้ว และเขามีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นผู้ฝึกตนระดับการก่อตั้งรากฐานระยะปลายในอนาคต
แต่ตอนนี้…
ด้วยสิ่งนี้มันทำให้ชายชรารู้สึกโกรธแค้นอย่างมาก
เจตนาฆ่าที่เย็นชาอย่างผิดปกติปรากฏขึ้นในดวงตาของเขาขณะที่เขาตะโกนว่า
“เจ้าหนูสกปรก อย่าคิดที่จะกลับไปอย่างมีชีวิตได้ในวันนี้!”
ทันทีที่เขาพูดจบ ลูกปัดน้ำแข็งที่มีรัศมีเย็นยะเยือกก็พุ่งเข้าใส่เจียงเฉิงซวนทันที
แกร๊ง ร้าว!
บริเวณที่ลูกปัดน้ำแข็งผ่านไป อากาศโดยรอบก็ส่งเสียงราวกับน้ำแข็งถูกทุบแตกออกมา
จากนี้จะเห็นได้ว่าอากาศเย็นที่ปล่อยออกมาจากสิ่งประดิษฐ์ลูกปัดน้ำแข็งนี้น่ากลัวเพียงใด
ในเวลาเดียวกันนั้น
หลินเหวินหยวน และผู้อาวุโสตระกูลหลินที่เหลืออีกสองคนก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ เช่นกัน
หลินเหวินหยวนหยิบผนึกขนาดใหญ่ที่สลักไว้ด้วยภูเขาและแม่น้ำออกมาทันที ด้วยพลังที่ราวกับหนักถึงหนึ่งพันปอนด์ มันก็กดทับลงบนเจียงเฉิงซวนอย่างรุนแรง
ส่วนอีกสองคน
หนึ่งในนั้นหยิบกุญแจเหล็กที่ห้อมล้อมด้วยเปลวไฟที่โหมกระหน่ำออกมา ในขณะที่อีกคนหนึ่งชักกระบี่ยาวที่เต็มไปด้วยแสงสีทองออกมา
เห็นได้ชัดว่าในขณะนี้ พวกเขาตั้งใจที่จะฆ่าเจียงเฉิงซวนให้ตายอย่างแน่นอน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้ยับยั้งความแข็งแกร่งของพวกเขาไว้เลย
เมื่อเผชิญกับการโจมตีร่วมกันของผู้ฝึกตนระดับการก่อตั้งรากฐานสี่คน เจียงเฉิงซวนไม่สามารถที่จะประมาทได้
ขั้นแรกเขาปิดกั้นการโจมตีของลูกปัดน้ำแข็งด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์แห่งขั้วโลกเหนือที่มีคุณสมบัติเหมือนกัน
จากนั้นเขาก็ใช้สิ่งประดิษฐ์ประเทภป้องกันขั้นกลาง โล่แสงสวรรค์ไม้เขียว เพื่อป้องกันการโจมตีร่วมกันของผู้อาวุโสตระกูลหลินอีกสองคน
และสุดท้าย เขาได้นำสิ่งประดิษฐ์ประเทภป้องกันระดับ 2 ขั้นสูงของเขาออกมา นั่นคือระฆังวงแหวนสมุทรเพื่อป้องกันแรงกดทับจากผนึกภูเขาและแม่น้ำของหลินเหวินหยวน
มาตรการตอบโต้ชุดนี้ทำให้เหล่าผู้อาวุโสของตระกูลหลินต่างตกใจอย่างมาก
พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่าเจียงเฉิงซวนจะมีสิ่งประดิษฐ์ประเภทป้องกันสองชิ้น
ยิ่งไปกว่านั้น หนึ่งในนั้นได้ไปถึงระดับ 2 ขั้นสูงอีกด้วย
นี่คือสิ่งที่แม้แต่หลินเหวินหยวนหัวหน้าตระกูลหลินก็ยังไม่มีด้วยซ้ำ
ชั่วขณะหนึ่งนั้น ความโลภก็ปรากฏขึ้นในใจของผู้อาวุโสตระกูลหลินรวมถึงหลินเหวินหยวนด้วย
อย่างไรก็ตาม ความโลภนี้ถูกแทนที่ด้วยความกลัวอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่เจียงเฉิงซวนสกัดกั้นการโจมตีร่วมกันของพวกเขาทั้งสี่ด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์แห่งขั้วโลกเหนือและสิ่งประดิษฐ์ประเภทป้องกันสองชิ้น ทันใดนั้นทะเลเพลิงที่ไม่มีที่สิ้นสุดก็ลุกโชนขึ้นในความว่างเปล่าโดยรอบ
นอกจากนี้ เปลวไฟเหล่านั้นยังระเบิดความรุนแรงมากขึ้นไปอีก
เกือบจะทันทีที่เปลวไฟลุกลามเข้าใกล้หลินเหวินหยวนและคนอื่นๆ ในระยะหนึ่งเมตร เปลวเพลิงเหล่านี้ก็ทำให้พลังปราณแท้ที่ปกป้องรอบตัวพวกเขาหรี่ลง
"นี่คืออะไร? คาถาระดับ 2 ขั้นกลางการระเบิดของทะเลเพลิงงั้นหรือ?!
ทำไมการระเบิดของทะเลเพลิงของเขาจึงมีพลังมากมายขนาดนี้?
นี่ไม่ควรจะเป็นพลังของคาถาระดับ 2 ขั้นกลางได้เลย!”
ในหมู่พวกเขา จู่ๆ ชายหน้าเหลี่ยมก็ตะโกนขึ้นด้วยความประหลาดใจ
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา หลินเหวินหยวน ชายชราในวัยแปดสิบ และคนอื่นๆ ก็ทำการป้องกันทันที
ถูกต้องแล้ว
เมื่อพูดถึงคาถาการระเบิดของทะเลเพลิงระดับ 2 ขั้นกลางนั้น ตระกูลหลินของพวกเขาก็มีมันเช่นกันและมีคนที่ฝึกฝนมันได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่เคยเห็นอานุภาพของคาถาระดับ 2 ขั้นกลางที่มีพลังมากขนาดนี้มาก่อน
มันมากจนไม่สามารถแม้แต่จะสู้กลับได้
นี่มันผิดปกติมาก!
ขณะที่ความคิดนี้แวบเข้ามาในจิตใจของผู้อาวุโสตระกูลหลินสองสามคน พวกเขาก็ตระหนักด้วยความตกตะลึงว่า ขณะนี้จู่ๆก็มีจุดสีแดงคล้ายเข็มปรากฏขึ้นระหว่างคิ้วของผู้อาวุโสชรา
และหลังจากนั้น ออร่าแห่งพลังชีวิตบนร่างกายของเขาก็หายไป และทั้งร่างกายของเขาก็ล้มลงพื้นทันที เขาเสียชีวิตไปแล้วจริงๆ
นั่นคืออะไร ทำไมเขาถึงได้ตกตายอย่างง่ายดายขนาดนี้?
หลินเหวินหยวนและผู้อาวุโสตระกูลหลินอีกสองคนรู้สึกหนาวสั่นที่กระดูกสันหลังของพวกเขาทันที
ตอนนี้พวกเขาไม่ได้รู้สึกถึงความผันผวนของพลังใดๆ แต่ชายชรากลับเสียชีวิตไปแล้วจริงๆ
นี่เป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด
พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคู่ต่อสู้ของพวกเขาเคลื่อนไหวเมื่อใดและลงมืออย่างไร และพวกเขาจะสู้กลับได้เช่นไร?
ตระกูลเฉินมีผู้ฝึกตนที่ทรงพลังเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
หากพวกเขารู้ว่าจะเกิดสิ่งนี้ขึ้น พวกเขาคงไม่โจมตีเจียงเฉิงซวนอย่างหุนหันพลันแล่นเช่นนี้อย่างแน่นอน
น่าเสียดายที่ตอนนี้มันสายเกินไปแล้ว
เพราะในชั่วขณะ ต่อมาสิ่งประดิษฐ์คล้ายเข็มที่แทบจะมองไม่เห็นได้แทงทะลุหน้าผากของชายหน้าเหลี่ยมไปแล้ว..