บทที่ 45 ความพิโรธของโอลกะ
บทที่ 45 ความพิโรธของโอลกะ
ณ โรงแรมกลางของอาณาจักรนัตโจ ผนังห้องของไคโดและคนอื่นๆถูกระเบิดจนเป็นรู และเอเซียร์ก็นอนสิ้นท่าอยู่บนพื้น จากที่เอลิซาเบธบอก มีแผลลึกที่อาบไปด้วยเลือดคล้ายๆกันบนหน้าอกของเอเซียร์ และมีบาดแผลขนาดใหญ่บนหน้าท้องของเขา ซึ่งดูเหมือนบาดแผลถูกฟัน
รอบตัวเขานั้นมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงแรม และแพทย์ประจำบ้านรายล้อม
“ขอสายรัด! ผ้าพันแผล! ถุงเลือดอยู่ไหน! เขาเลือดกรุ๊ป S ทำไมยังไม่มาส่ง! ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ตายในโรงแรม มันคือคำบัญชาของกษัตริย์! เร็วเข้า!”
แพทย์หลายคนกำลังเร่งรักษาบาดแผลของเอเซียร์ ในขณะที่ความสนใจของพนักงานโรงแรมมุ่งเน้นไปที่คลื่นสึนามิที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน
โรงแรม ณ ใจกลางของอาณาจักรนัตโจมีความสำคัญเป็นอันดับสอง รองจากพระราชวังอิมพีเรียลเท่านั้น เพื่อให้ผู้ค้าพักอยู่ที่นี่ได้อย่างสบายใจ อาณาจักรนัตโจได้ทุ่มเททรัพยากรมากมายให้ที่นี่
แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการเข้าพักที่นี่จะสูง แต่หลังจากเช็คอินแล้ว ทุกอย่างที่ใช้ภายในโรงแรมก็ให้บริการฟรีทั้งหมด ที่นี่ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกเสริมอีกมากมาย เช่น ความบันเทิง การประเมินมูลค่า และการรักษาพยาบาล
หลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้นในห้องของไคโดและคนอื่นๆ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงแรมก็ปิดล้อมพื้นที่อย่างรวดเร็ว แต่พวกเขาไม่เห็นอะไรเลยนอกจากเอเซียร์ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและหน้าต่างที่พัง
หลังจากนั้นไม่นาน การรักษาพยาบาลฉุกเฉินสำหรับเอเซียร์ก็เริ่มขึ้น และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงแรมก็ปิดล้อมบริเวณใจกลางของอาณาจักรด้วย หากไม่ได้รับการจัดการอย่างดี มันจะเป็นวิกฤติด้านชื่อเสียงของอาณาจักรนัตโจ
ดังนั้นเมื่อควีนและเชย์น่ากลับมา บาดแผลของเอเซีย์ก็ได้รับการจัดการด้วยการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้ว เมื่อทางโรงแรมเห็นกุญแจห้องก็รู้ทันทีว่าเป็นคนรู้จักของเอเซียร์จึงพามาหาเขา
“แขกทุกท่าน นี่เป็นอุบัติเหตุ ทหารแห่งราชอาณาจักรได้ไปจับกุมผู้ก่ออาชญากรรมในโรงแรมแล้ว ทางเราจะให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจแก่ทุกท่าน”
“เขาเป็นยังไงบ้าง?”
เชย์น่าไม่สนใจต่อคำพูดของคนๆนั้น อาร์เซอุสและไคโดไปจัดการกับเรื่องนี้แล้ว ถ้าพวกเขายังจับคนๆนั้นไม่ได้ มันคงจะไม่สมเหตุสมผลริงๆ
อาร์เซอุสเรียกร้องให้ควีนช่วยเอเซียร์ ดังนั้นเขาจึงเป็นกังวลเรื่องอาการของเอเซียร์มากขึ้น
“หลังการรักษา ผู้ป่วยพ้นขีดอันตรายถึงชีวิตแล้วในขณะนี้ บาดแผลหลักคือรูตรงหน้าอก แผลมีดในช่องท้องและการสูญเสียเลือดจํานวนมากที่เกิดจากการกระแทกที่ศีรษะขณะที่เขาล้มลง นอกจากนี้เขายังอ้วน ดังนั้นไขมันตรงท้องของเขาจึงปกป้องอวัยวะภายใน แต่เรายังต้องระวังการติดเชื้ออยู่ แขกทุกท่านโปรดอย่าเข้ามาใกล้ สภาพของเขายังอันตรายอยู่!”
แพทย์ในโรงแรมถึงกับตกใจเมื่อเห็นควีนเดินไปหาเอเซียร์ และหยิบเข็มฉีดยาไม่ทราบชื่อออกมา พวกเขาช่วยชีวิตผู้ชายคนนั้นด้วยความยากลําบากและถ้ามีอะไรเกิดขึ้นอีกมันจะเป็นปัญหาใหญ่
“เรื่องอื่นๆที่เหลือนั้นไม่เกี่ยวข้องกับคุณ การปฐมพยาบาลก็ไม่เลวนะ จากนี้ไป ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉัน หาเลือดไทป์เดียวกับเขาเพิ่มอีก เขายังต้องถ่ายเลือดอยู่”
"เดี๋ยวนะ คุณเป็นหมอหรอ? ดังนั้นก็ไม่มีปัญหา คุณช่วยออกจากห้องไปก่อนได้ไหม? เราจะคืนค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ในครั้งนี้ให้"
จะดีที่สุดถ้ามีหมออยู่ในหมู่สหายของเอเซียร์ ตราบเท่าที่พวกเขายินดีที่จะออกไปส่วนที่เหลือก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพวกเขาแล้ว
หลังจากนั้นพวกเขาก็พาเอเซียร์ที่หมดสติออกไป และเมื่อไปถึงเรือที่ควีนซื้อมาก่อนหน้านี้ ค่าใช้จ่ายต่างๆได้ถูกชำระแล้ว ทันทีที่ท่าเรือเปิด พวกเขาก็สามารถออกเดินทางได้ทันที
อย่างไรก็ตาม เมื่อตกลงใจกับเอเซียร์แล้วควีนก็ดูพอใจขึ้นเล็กน้อย
“ดูสิ ฉันบอกไปแล้วว่าอ้วนนิดหน่อยก็มีข้อดีนะ ถ้าเขาไม่อ้วน ฉันเกรงว่าเขาน่าจะตายไปนานแล้ว”
“แต่ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าตัวเองมีแต่กล้ามเนื้อหนิ แล้วเขาจะรอดได้จริงๆเหรอ?”
"นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน? สำหรับฉันบาดแผลแบบนั้นไม่ได้มีอะไรพิเศษเลย แม้ว่าเขาจะถูกตัดออกเป็นสองท่อน ตราบใดที่เขายังมีลมหายใจ ฉันก็สามารถช่วยเขาได้"
เขาพูดพลางฉีดยาที่ตัวเองสร้างขึ้นเข้าไปในร่างกายของอาเซียร์
"หมอที่นี่ไม่เลวเลยนะ ดังนั้นเอเซียร์จะไม่เป็นอะไรมากหรอก เธอลดใบเรือลงเถอะ ฉันควบคุมเรือลำนี้โดยลำพังไม่ได้”
ควีนและเชย์น่าล่องเรือลำใหม่และแล่นไปยังสถานที่ที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้
ที่ชายขอบของเกาะ ฟอลเลตต์และโอลกะกำลังเตรียมออกจากเกาะนั้น ฟอลเลตต์ไม่รู้ถึงชะตากรรมของเจ้าหน้าที่ CP0 แต่มันก็ไม่ได้สร้างความกังวลอะไรให้เขามากนัก สิ่งที่ทำให้เขากังวลคือข้อมูลที่โอลกะมีเกี่ยวกับเกาะอัลเคมิ
เขาคิดว่าการเอาตัวเด็กไปจะเป็นเรื่องง่าย แต่เมื่อเขาได้ลงมือ เขาก็ตระหนักว่าเขาคิดผิดไป โอลกะไม่เหมือนกับเด็กคนอื่นๆ หลังจากที่ไคโดฝึกมาหลายเดือน ความสามารถทางกายภาพของเธอก็พัฒนาขึ้นอย่างมาก
ซึ่งทำให้ความพยายามลักพาตัวของเขาล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง และเขาก็ถูกเอเซียร์จับได้ด้วย
คนอย่างเอเชียร์ที่ไม่เคยได้รับการฝึกฝนตามธรรมชาติมาก่อน ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาผู้เป็นสมาชิก cp9 เขาพ่ายแพ้อย่างง่ายดายด้วยการโจมตีเพียงไม่กี่ครั้ง และเช่นเดียวกันกับสัตว์ประหลาดจิ้งจกที่พยายามแอบโจมตีเขาจากมุมอับ
แต่เขารู้ว่าการกระทำนี้เป็นการละเมิดข้อห้ามของอาณาจักรนัตโจด้วย และตอนนี้ก็เป็นไปได้ว่าอาณาจักรกำลังตามล่าเขาอยู่
ในฐานะสมาชิกของ CP9 มันคงเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาที่จะแก้ไขปัญหานี้ แต่เขาไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนของเขาในฐานะหนึ่งในสมาชิก หากอาณาจักรนัตโจขุดคุ้ยเรื่องนี้ ตัวตนของโอลกะก็จะถูกเปิดเผยอย่างแน่นอน และความหวังของเขาในการสำเร็จลุล่วงนั้นจะต้องพังทลายลงอย่างสิ้นเชิง
ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลักพาตัวโอลกะออกไป และออกจากอาณาจักรนัตโจอย่างลับๆ ตราบใดที่เขากลับไปที่มารีจัวส์ และส่งเด็กคนนี้ไปที่นั่น เขาก็ยังมีค่ามากพอ
อย่างไรก็ตาม ก่อนอื่นเขาต้องแน่ใจสิ่งหนึ่งก่อน ซึ่งคือความเชื่อมโยงเฉพาะระหว่างเด็กเหลือขอคนนี้กับอัลเคมิ
ถ้าเขาบอกเผ่ามังกรฟ้าว่าเขาได้ข้อมูลมา แต่กลับพบว่าเป็นเท็จ เขาจะไม่สามารถรับผิดชอบผลจากการโกหกเผ่ามังกรฟ้าได้
ในเซฟเฮาส์ที่เขาเตรียมไว้ล่วงหน้า ฟอลเลตต์ปล่อยโอลกะซึ่งอยู่ในถุงแล้วปลุกเธอขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม เธอก็จำหน้าฟอลเล็ตต์ได้ทันทีที่เธอตื่นขึ้นมา
"ไอ้สารเลว! แกฆ่าพ่อของฉันและเอลิซาเบธ ฉันจะไม่ปล่อยแกไปแน่! ฉันจะฆ่าแก ฉันจะฆ่าแกให้ได้!”
เมื่อเธอเห็นพ่อของเธอที่เพิ่งเปิดใจให้ หลังจากห่างหายไปนับร้อยปี และเอลิซาเบธผู้ซึ่งติดตามเธอมานานกว่าร้อยปีล้มลงต่อหน้าเธอทีละคน หัวใจของเธอก็จมดิ่งลงสู่ความสิ้นหวัง
และตอนนี้เขายังจะต้องการข้อมูลจากเธออยู่งั้นหรอ? ฝันกลางวันชัดๆ!
“พ่อหรอ? ผู้ชายคนนั้นคือพ่อของเธอจริงๆหรอ?” เอเซียร์ซึ่งมีน้ำหนักมากเกินไป ทำให้ไม่มีอะไรที่เหมือนกันกับโอลกะเลยยกเว้นสีผม เขาไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้เลย และคิดว่าชายคนนั้นเป็นเพียงผู้สัญจรไปมา
ถ้าเขารู้ว่าชายคนนั้นอาจมีความเกี่ยวข้องกับเกาะอัลเคมิด้วย เขาคงไม่เข้าโจมตี แต่อารมณ์นี้ไม่ได้สะท้อนให้เห็นบนใบหน้าของเขาเลย กลับกัน เขากลับหัวเราะและมองไปที่โอลกะ