นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 99
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 99
"อยากเปลี่ยนข้อสอบเหรอ?”
เกล็นยกตัวเองขึ้นมาจากพนักพิง
"ใช่"
ริมเมอร์คุกเข่าและพยักหน้า แววตาจริงจังฉายออกมาจากดวงตาของเขาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต่อสู้กับปีศาจกระหายเลือด
“ปกติแล้วการสอบจบคือต้องได้รับยอมรับจากอาจารย์หรือไม่ก็ประลองระหว่างเด็กฝึกหัดใช่ไหม?”
"ใช่แล้ว”
เด็กฝึกหัดจะต้องผ่านการสอบที่อาจารย์จัดไว้ให้หรือแข่งขันแบบตัวต่อตัวระหว่างพวกเขาจนได้รับการยอมรับจากอาจารย์
"แล้วอยากเปลี่ยนไปเป็นแบบไหนล่ะ?”
"เอาชีวิตรอด”
ริมเมอร์ตอบกลับทันที
“ฉันอยากส่งเด็กฝึกหัดออกไปด้านนอก โดยไม่ต้องให้พวกเขาใช้ชื่อซีกฮาร์ท”
"ส่งพวกเขาออกไปด้านนอกเหรอ?”
เกล็นโน้มตัวมาข้างหน้าเหมือนสนใจ
"ใช่ เด็กๆ จากสนามฝึกที่ห้าได้ผ่านการทดสอบแรงกดดันแล้วและพวกเขาได้รับชัยชนะในการแข่งขันแห่งความภาคภูมิใจกับอัศวินฝึกหัดแห่งอาณาจักรโอเว่น ซึ่งพวกมันก็ไม่ต่างจากข้อสอบจบการศึกษา”
"แกตั้งใจทำแบบนั้นสินะ”
"ใช่ แต่ก็มีเหตุการณ์บางอย่างที่เกินความคาดหมายของฉัน อย่างในระหว่างภารกิจที่สองที่เด็กฝึกหัดได้ผ่านการต่อสู้ระหว่างความเป็นและความตายและผ่านอุปสรรคอันยิ่งใหญ่มาได้”
ริมเมอร์ยิ้ม มันเป็นเรื่องบังเอิญที่เขาไปถึงที่นั่นช้า แต่เด็กๆ ก็สามารถเติบโตได้อย่างดีทั้งทางร่างกายและจิตใจเพราะเหตุนั้น
“ฉันอยากให้การสอบครั้งนี้เป็นโอกาสให้เด็กๆ เติบโต ไม่ใช่แค่พิธีจบธรรมดาๆ แม้ว่ามันจะทำให้พวกเขาเดินช้าลงบนเส้นทางที่จะกลายเป็นนักดาบแต่ฉันก็อยากจะสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับพวกเขาให้ไปถึงระดับที่สูงขึ้น”
"แกพูดถูก การที่พวกเขากลายเป็นนักดาบที่ยอดเยี่ยมมีความสำคัญมากกว่าเวลา”
เกล็นหลับตาลงอย่างเห็นด้วย
"ฉันดีใจที่นายเข้าใจ ด้วยสิ่งที่พวกเขาเป็นอยู่ เด็กๆ จำเป็นต้องได้รับการสอบแบบใหม่มากกว่าแบบที่มีอยู่”
ริมเมอร์ยกนิ้วชี้ของเขาขึ้น
“การเอาชีวิตรอดด้วยตัวเองโดยปราศจากอำนาจของตระกูล ความช่วยเหลือจากอาจารย์ หรือชื่อซีกฮาร์ทอันยิ่งใหญ่ จะช่วยให้พวกเขาเติบโตได้อย่างมาก”
"แกเปลี่ยนไปนะ”
มุมปากของเกล็นยกขึ้นเล็กน้อย เมื่อเห็นการจ้องมองอย่างมั่นใจของริมเมอร์ที่คุกเข่า
"หา?"
"แกบอกว่าแกจะลองดูแลเด็กๆ ดู แต่ก่อนหน้านี้แกไม่ได้ดูสนใจมันขนาดนั้น แกยังเตรียมตัวแบบไม่เต็มใจอยู่เลย”
“เอ่อ อืม…”
ริมเมอร์รีบหลบสายตา
“แกเริ่มเปลี่ยนแปลงหลังจากที่ได้พบกับพวกเขา แต่แกคงไม่รู้ตัวหรอก”
"เอ่อ มันน่าอายนะ..."
“ผมก็เห็นเหมือนกันครับ”
โรเอ็นพยักหน้าด้วยรอยยิ้มพึงพอใจบนใบหน้าของเขา
“ท่านริมเมอร์ สีหน้าของคุณยอดเยี่ยมมากครับ”
“สงสัยว่าดาบคงไม่ใช่พรสวรรค์เพียงอย่างเดียวของฉัน นอกจากนั้นฉันยังเก่งในการเลี้ยงเด็กอีกด้วยสินะ”
ริมเมอร์เกาแก้ม พยายามซ่อนสีหน้าเขินอายของเขา
“และฉันก็จะสร้างราชาองค์ต่อไป ซึ่งหมายความว่าฉันจะเป็นผู้สร้างราชาสินะ”
“ราอนเหรอ?”
"ก็ไม่รู้สินะ อาจจะเป็นเบอร์เรน หรือมาร์ธา หรือรูนัน”
"อืม"
เกล็นยิ้มออกมาอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นภาพที่หาดูได้ยาก เขาพอใจกับความสุขใหม่ของริมเมอร์ เนื่องจากเขาเคยเป็นเอลฟ์ที่ต่อสู้เคียงข้างเขา
“ทำรายงานมาว่าแกจะส่งเด็กๆ ไปที่ไหน และจะส่งผลต่อการเติบโตของพวกเขาอย่างไร ฉันจะให้เวลาแกหนึ่งสัปดาห์ ถ้าทำไม่ได้ก็จะไม่อนุญาตทันที”
"แน่นอน”
ริมเมอร์ยิ้มอย่างมั่นใจและหยิบแฟ้มเอกสารออกมาจากหน้าอกของเขา
“ฉันเอามาแล้ว”
***
ราอนปีนขึ้นไปบนภูเขาสุสานตอนเหนือพร้อมกับยาสิบเมฆา เขากำลังมุ่งหน้าไปยังตำแหน่งซึ่งเคยเป็นเตาเผาถ่านมาก่อน ซึ่งตอนนี้อากาศเริ่มหนาวแล้ว
'ฉันรู้สึกสบายใจที่ได้อยู่ที่นี่'
อาจเป็นเพราะว่ามันเป็นสถานที่ที่เขาได้ปลูกฝังหมื่นเปลวเพลิงและผลึกเยือกแข็ง เขาจึงรู้สึกสบายใจที่จะฝึกฝนที่นี่และเขาสามารถรู้สึกถึงมานาได้ง่ายขึ้น
เขานั่งลงตรงหน้าเตาถ่าน ที่ไม่มีร่องรอยของมันเหลืออยู่เลย เขาหลับตาลง ฟังเสียงใบไม้และหญ้าที่พลิ้วไหวตามสายลมอันสดชื่น
เขากระจายการรับรู้ออร่าของเขาเพื่อตรวจสอบสภาพแวดล้อม และไม่พบมนุษย์หรือสัตว์เลย วัลแคนค้นพบสถานที่ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ
“เฮ้อ…”
ราอนหมุนวงแหวนแห่งไฟเพื่อรวบรวมพลังงานจากร่างกายของเขาก่อนที่จะลืมตา มันคือสภาพอากาศและเวลาที่สมบูรณ์แบบในการเริ่มต้นการปลูกฝัง
แปะ
เขาเปิดกล่องไม้ที่ได้รับจากริมเมอร์ ซึ่งมีกลิ่นชัดเจนของยาโชยออกมา
'ห้าสิบเปอร์เซ็นต์สินะ'
ยาสิบเมฆาถูกเรียกว่าเป็นยาอมฤตห้าสิบเปอร์เซ็นต์
ในขณะที่ยาอายุวัฒนะอื่นๆ สามารถดูดซับพลังงานได้เพียงสามสิบเปอร์เซ็นต์ ยาสิบเมฆากลับสามารถดูดซับพลังงานได้ถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์
เพราะประสิทธิภาพการดูดซับที่ยอดเยี่ยมและพลังงานที่มีความบริสุทธิ์สูง ยาสิบเมฆาจึงเป็นหนึ่งในยาอมฤตที่ดีที่สุดสำหรับนักรบที่กำลังเติบโต
แล้วยังไงล่ะ? มันมีแค่นิดเดียว
ราธสูดจมูกและมองไปที่ยาอมฤต
'ปริมาณมันน้อยจริงๆ'
มันไม่ได้ดีในทุกด้าน สิบเมฆามีมานาเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับยาอมฤตอื่นๆ
แต่ถึงอย่างนั้นอันที่ริมเมอร์ให้เขามาก็เป็นอันที่มีหญ้าสิบแฉกถึงสองใบ
มันมีพลังงานมากพอๆ กับยาอมฤตระดับกลางทั่วๆ ไป ซึ่งจะทำให้เขาเติบโตอย่างมีเร็วขึ้นหลังจากดูดซับมันอย่างเหมาะสม
"แล้ว..."
ราอนหยิบยาอมฤตออกมาจากกล่อง รู้สึกถึงความอบอุ่นที่ตัดกับลมหนาวที่พัดบนภูเขา เขาจึงใส่ยาสิบเมฆาไปในปาก
มันละลายในปากทันทีที่สัมผัสลิ้นของเขา เขารู้สึกได้ถึงพลังงานอันอบอุ่นและบริสุทธิ์รอบๆ ช่องท้องของเขา ราวกับว่ามานาแห่งธรรมชาติอยู่ในท้องของเขา
เมื่อมานาของสิบเมฆาเริ่มเดือดเขาก็เริ่มใช้วงแหวนไฟเพื่อดูดซับพลังงานของมัน
วืด!
* * *
* * *
พลังงานของสิบเมฆาพุ่งผ่านวงจรมานาของเขาอย่างราบรื่นดังที่คาดไว้ว่า
พลังงานทะยานขึ้นราวกับคลื่นยักษ์ น้ำแข็งจากวงจรมานาของเขาก็ละลายออกไ และขับไล่พลังงานที่มืดมนที่เหลืออยู่จากการต่อสู้ครั้งก่อนของเขาออกไป
'มันมีความหนาแน่นสูง’
ปริมาณมานายังน้อยอยู่แม้จะมีหญ้าสิบแฉกสองใบ แต่มานาที่มีอยู่นั้นบริสุทธิ์มากและทั้งอบอุ่นและนุ่มนวลในเวลาเดียวกัน
มันเป็นยาอมฤตที่สมบูรณ์แบบสำหรับร่างกายที่ไม่มั่นคงของเขา ที่มีความร้อนจากหมื่นเปลวเพลิงและผลึกเยือกแข็งที่อยู่ร่วมกันในศูนย์พลังงานเขา
นำความร้อนและน้ำค้างแข็ง,หนึ่งหลังจากที่อื่น,ราออนสะสมสิบเมฆพลังงานบริสุทธิ์ของยาอายุวัฒนะในศูนย์พลังงานของเขา.
แม้ปริมาณพลังงานที่รวบรวมได้มีน้อย แต่มานามีความหนาแน่นและบริสุทธิ์มากกว่ายาอมฤตอื่นๆ
เขารู้สึกถึงความเบิกบานของพลังงานอย่างชัดเจนโดยไม่มีสิ่งเจือปนแม้แต่น้อย ในขณะที่เขาเริ่มมุ่งเน้นไปที่การปลูกฝังมากขึ้น
ราอนลืมตาขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงนกร้องเบาๆ ประกาศว่าเป็นเวลากลางคืน
เปรี๊ยะ!
ดวงตาของเขาส่องแสงราวกับเปลวไฟของเตาเผา
'ได้มาหมดเลย’
แค้ได้รับพลังงานสี่สิบเปอร์เซ็นต์จากยาอมฤตก็ถูกเรียกว่าโชคดีขนานใหญ่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ราอนเพิ่งสามารถดูดซับพลังงานขอสิบเมฆาได้ถึงหกสิบเปอร์เซ็นต์ จะบอกว่ามันเป็นปาฏิหาริย์ก็ยังได้
“อึก…”
ราอนหลับตาเพื่อตรวจสอบสถานะของวงแหวนไฟและผลึกเยือกแข็ง เมื่อเขาลืมตาอีกครั้ง ข้อความก็ปรากฏขึ้นทีละอัน
[วงแหวนแห่งไฟวงใหม่ได้รับการปลูกฝังแล้ว]
[วงแหวนแห่งไฟถึงระดับห้าดาว]
[ระดับร่างกายเพิ่มขึ้น]
[ตอนนี้คุณสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น]
[ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างมาก]
[ความว่องไวเพิ่มขึ้นอย่างมาก]
[พละกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก]
ความสามารถทางกายภาพที่เพิ่มขึ้นทำให้สามารถสัมผัสได้ตั้งแต่ขอบมือจนถึงไหล่
[ระดับจิตวิญญาณเพิ่มขึ้น]
[พลังจิตเพิ่มขึ้นอย่างมาก]
[การรับรู้เพิ่มขึ้นอย่างมาก]
[พลังงานเพิ่มขึ้นอย่างมาก]
ข้อความชุดที่สองปรากฏขึ้นก่อนที่เขาจะเพลิดเพลินไปกับความสุขอย่างเต็มที่
ออร่าที่เข้มข้นไหลผ่านศูนย์พลังงานและวงจรมานาที่กว้างขึ้นของเขา เขารู้สึกว่ามันใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอย่างน้อย 1.5 เท่า ต้องขอบคุณวงแหวนวงใหม่
“ฮ่าๆ!”
ราอนหายใจออกอย่างตื่นเต้นและลุกขึ้นยืน เขากำหมัดแน่นและรวบรวมออร่าจากหมื่นเปลวเพลิง
'นี่มันน่าอัศจรรย์มาก'
ร่างกายและออร่าของเขามีปฏิกิริยาตอบสนองเร็วกว่าเมื่อก่อน เขาอาจจะยังคงไม่สามารถเอาชนะปีศาจกระหายเลือดได้ แต่อย่างน้อยเขาก็จะไม่ได้ถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียวเหมือนเมื่อก่อน
อะไรกัน?
ราธโผล่ออกมาจากสร้อยข้อมือหลังจากที่เงียบในตอนที่ราอนกำลังฝึกฝน เพราะมันกลัวว่าพลังของมันจะถูกขโมยอีกครั้ง
ทำไมระดับจิตวิญญาณของเจ้าเพิ่มขึ้นอีกแล้ว? เจ้ามีเทคนิคอะไรกันแน่? วงแหวนไฟคืออะไร?
“อะไรนะ?”
เจ้ามีชีวิตแบบไหนก่อนที่ราชาแห่งแก่นแท้จะมาถึง?
ราธส่ายหัว
'มันเกิดขึ้นได้ยังไง…'
ระดับวิญญาณจะเพิ่มขึ้นก็ต่อเมื่อเอาชนะคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง เอาชนะวิกฤติ หรือบรรลุการกระทำบางอย่างเท่านั้น
พอเป็นไปได้ที่จะเพิ่มมันผ่านการฝึกฝน แต่มันต้องใช้เวลาหลายปี หลายปีที่แปลว่าทั้งชีวิตก็ไม่พอ
แม้แต่ในแดนปีศาจ ไม่เคยมีกรณีที่เด็กเช่นเขาสามารถเพิ่มระดับจิตวิญญาณผ่านการฝึกฝนได้
“คิดว่าฉันจะบอกแกรึไง”
ราอนสะบัดมือเหมือนกำลังไล่แมลงวันออกไป
กรอด!
ราธกัดกรามของมัน
'มันจะยิ่งยากขึ้นไปอีกที่จะกลืนกินเขาได้...'
ราอนได้รับการป้องกันจากการครอบงำของมันด้วยพลังจิตอันแรงกล้า เทคนิคการฝึกฝนที่มันไม่รู้จัก และการต้านทานน้ำ
หากระดับจิตวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้น มันก็จะยิ่งทำอะไรเขาไม่ได้มากขึ้น
ฮึ่ม หยุดความเย่อหยิ่งของเจ้าซะ! ไม่ว่าเจ้าจะใช้ความพยายามมากเพียงใด ไม่ว่าเจ้าจะได้รับอะไร ร่างกายและจิตวิญญาณของเจ้าก็จะตกเป็นของราชาแห่งแก่นแท้ในที่สุด!
“หยุดร้องไห้แล้วพูดธรรมดาๆ ซิ”
ข้าไม่ได้ร้องไห้! ราชาแห่งแก่นแท้คือปีศาจ...
“เอาล่ะ แกคือราชาแห่งความพิโรธ ฉันเข้าใจแล้วๆ”
อ้ากกก!
ราอนหัวเราะเยาะและสะบัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้าของเขา ในขณะที่เขากำลังจะกลับไปที่อาคารเสริมหลังจากจัดเสื้อผ้าแล้ว เขาก็สังเกตเห็นกล่องที่อยู่บนพื้น
เขาหยิบกล่องยาอมฤตขึ้นมาจากพื้นแล้วสะบัดผมไปด้านหลัง
"....จริงจัง?"
ในขณะที่ปีศาจบางตัวกำลังดิ้นรนที่จะกลืนกินเขา ก็มีอีกคนที่อยากจะช่วยเหลือเขา
เห็นได้ชัดว่าเขาควรเลือกตามใครไป
ราอนเพิกเฉยต่อราธซึ่งกัดฟันกรอด และปีนลงมาจากภูเขาสุสานตอนเหนือ
***
วันรุ่งขึ้น เบอร์เรนไปที่สนามฝึกด้วยหัวใจเปี่ยมสุข เมื่อวานนี้เขาสามารถดูดซับพลังงานของยาสิบเมฆาได้มากกว่าครึ่งหนึ่งของมัน เนื่องจากการฝึกฝนของเขาไปได้ดีจริงๆ
เขารู้สึกเหมือนว่าเขากลายเป็นคนที่แตกต่างออกไปภายในวันเดียว ศูนย์พลังงานของเขาถูกเติมเต็ม
'ถ้าเป็นตอนนี้ล่ะก็…'
เขาอาจจะยังไม่สามารถเอาชนะราอนได้ แต่เขาน่าจะพอสู้กับเขาได้สูสี ความคิดนั้นทำให้เขายิ้มได้
"ฮืม...ฮืม...”
เบอร์เรนยืดหลังของเขาให้ตรงและรอให้ราอนมาถึง เขาอยากเห็นดวงตาที่ประหลาดใจของราอน
ครืน!
เขาหันไปเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูสนามฝึก มาร์ธาอยู่ที่นั่นแทนที่จะเป็นราอนซึ่งเขากำลังรอคอย
'เธอก็ดูดซับได้เยอะเหมือนกันสินะ'
พลังงานที่เขาสัมผัสได้จากเธอนั้นแข็งแกร่งราวกับก้อนหิน แต่ก็คมกริบในเวลาเดียวกัน ดูเหมือนว่าเธอจะสามารถดูดซับพลังงานได้จำนวนมากเช่นกัน
"มองทำไม? วันของฉันมันจะแย่เพราะนาย”
“……”
เบอร์เรนหันหน้าหนีเพราะเขาไม่ต้องการปล่อยอารมณ์อันน่ารื่นรมย์ลงไปในโคลนตม
'เธอนิสัยไม่ดีเลย แต่ความสามารถของเธอก็เป็นของจริง'
พลังงานที่เขาสัมผัสได้จากมาร์ธาแตกต่างจากเมื่อวาน เธอก็ดูดซับพลังงานได้ค่อนข้างมากเช่นกันแต่มันก็ยังน้อยกว่าของเขา
แกร๊ก!
เสียงเปิดประตูดังขึ้นอีกครั้ง มีเสียงเท้าสองชุด แต่รู้สึกเหมือนมีคนเดียวที่เดินเข้ามา เขาแน่ใจว่าเป็นราอนและรูนัน
"มาดูกัน..."
เบอร์เรนหันกลับมา รอยยิ้มของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ แล้วความมั่นใจของเขาก็แตกสลายเหมือนแก้ว
'ท-ทำไมเขา...?’
พลังงานที่อยู่รอบๆ ราอนนั้นเป็นธรรมชาติราวกับน้ำที่ไหล เบอร์เรนกลืนน้ำลาย ความไหลลื่นดังกล่าวเกิดขึ้นได้ในหมู่ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
ปริมาณออร่าและความสมดุลภายในร่างกายของเขา ทุกอย่างต่างจากเมื่อวาน
หากการเปลี่ยนแปลงของเบอร์เรนเป็นห้า การเปลี่ยนแปลงของราอนก็น่าจะเป็นสิบ
'สัตว์ประหลาด...'
เบอร์เรนกัดฟัน เขาต้องการทำให้ราอนชื่นชมการเปลี่ยนแปลงของเขา แต่เขาก็ต้องประหลาดใจแทน มันไร้สาระมากจนเขาพูดไม่ออก
“อึก…”
เขาขมวดคิ้วและจ้องมองไปที่ราอน แต่ราอนกลับเอียงศีรษะมองเขา เขายอมรับความพยายามและพรสวรรค์ของราอนแล้ว แต่ใบหน้าที่ไร้กังวลของราอนยังคงทำให้เขาโกรธ
'แต่ยังไงฉันก็จะไม่มีวันยอมแพ้'
ไม่ว่าราอนจะก้าวหน้าไปเร็วแค่ไหน ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งเท่าไหร่ เขาก็ไม่มีความตั้งใจที่จะหยุดไล่ตามราอน
ในฐานะนักดาบที่แท้จริงของซีกฮาร์ท เขาจะต้องวิ่งต่อไปจนกว่าจะถึงจุดสิ้นสุดไม่ว่าคู่ต่อสู้ของเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ตาม
"ฟังทางนี้!”
เสียงของริมเมอร์ดังมาจากด้านหน้า เขาไม่ได้สังเกตเห็นการมาถึงของริมเมอร์ด้วยซ้ำเพราะเขาเพ่งความสนใจไปที่ราอนมากเกินไป
“ทุกคนเปลี่ยนไปแล้วแฮะ”
ริมเมอร์มองเด็กฝึกหัดแล้วยิ้ม เขาดูพึงพอใจกับการเติบโตของเด็กฝึกหัด
“น่าจะเริ่มมันได้เลยโดยไม่มีปัญหา”
"เริ่มเหรอ?”
"เริ่มอะไรครับ...?”
“เพราะว่าชีวิตประจำวันพวกนี้คงไม่มีอีกแล้ว”
เขาชี้นิ้วไปที่สนามฝึกซ้อม
"อะไรนะ?”
"ไม่มีแล้ว?”
“หมายความว่ายังไงครับ...?”
เด็กฝึกหัดตัวสั่นอย่างประหม่าเมื่อได้ยินว่าอยู่ๆ มันก็กำลังจะจบลง
"พวกเธอต้องเข้าสอบจบการศึกษา ฉันรู้ว่าพวกเธอฉันมาก แต่เธอไม่สามารถเป็นเด็กฝึกหัดตลอดไปได้”
“หื้อ?”
"ฮ่าๆ!”
"สอบจบการศึกษา!”
สีหน้าของเด็กฝึกหัดสดใสขึ้นอีกครั้งเมื่อได้ยินว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการสอบ ดวงตาของพวกเขาเปล่งประกายราวกับดอกทานตะวันมองดูพระอาทิตย์ รอคอยที่จะกลายเป็นนักดาบตัวจริง
“ยังเร็วไปที่จะฉลองนะ”
ริมเมอร์เดาะลิ้นและกระดิกนิ้ว เขาส่งรอยยิ้มแปลกๆ ให้เด็กฝึกหัด
“การสอบครั้งนี้จะไม่เหมือนการสอบจบแบบที่ผ่านๆ มา”