ตอนที่ 2 - กลับตาลปัตร
ตอนที่ 2 - กลับตาลปัตร
หลังจากมาถึงโรงเรียน เบนก็แยกทางกับโนวาและมุ่งหน้าไปยังห้องเรียนของเขา
มันยังเป็นช่วงต้นของเทอมแรก ซึ่งก็คือกลางเดือนกันยายนช่วงที่อากาศยังอบอุ่นอยู่ เบนจามินเป็นน้องใหม่ในโรงเรียนมัธยมแห่งนี้ เขาก็เหมือนเด็กคนอื่นที่ช่วงนึงของวัยรุ่นจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด ตอนนี้เขาตัวสูง 178 ซม. นั่นทำให้เวลาที่พี่สาวน้องสาวจะคุยกับเขาต้องมองขึ้นมาแทน ความรู้สึกของคนที่อยู่สูงกว่าทำให้เบนอารมณ์ดีหลายวันเลย
เช่นเดียวกับเด็กผู้ชายส่วนใหญ่ที่อายุเท่าเขา เบนเชื่อว่าตัวเองเขาค่อนข้างหล่อเหลาเลย แต่นอกจากแม่กับย่าของเขาแล้วก็ไม่มีใครเคยบอกว่าเขาหล่อ เบนมีผมสีน้ำตาล ตาสีน้ำตาล และใบหน้าที่เกลี้ยงเกลาดูสะอาดสะอ้าน ซึ่งจุดนี้ก็ต้องขอบคุณพี่สาวของเขาที่เข้ามายุ่งวุ่นวายเมื่อก่อน
เขาใช้ช่วงการเดินไปห้องเรียนเพื่อจัดระเบียบความคิด ก่อนอื่นเลย เขาต้องยืนยันว่าความแปลกประหลาดนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในครอบครัวของเขา และถ้ามันแปลกกันหมดจริง เขาอาจจะทำตัวเด่นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวก็ได้ เหมือนที่เกิดเมื่อเช้านี้ แต่มันก็ช่วยไม่ได้จริงๆ และสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาทำได้ตอนนี้คือพยายามไม่พูดมากและไหลตามน้ำคนอื่น
เมื่อเข้าไปในห้องเรียน เขายังคงทักทายทุกคนแบบเดิมด้วยคำว่า "อรุณสวัสดิ์" แต่ไม่มีใครสนใจการมาของเขามากนัก ยกเว้นเด็กผู้หญิงไม่กี่คนที่อยู่ใกล้ๆ ประตู พวกเธอมองมาที่เขาอย่างรวดเร็วก่อนจะกลับไปคุยกันต่อ เขาเห็นเพื่อนใหม่จูเลียนและนาธานนั่งคุยกัน เบนเลยเดินเข้าไปหาเพื่อสืบข้อมูล
"เฮ้ พวกนายเป็นไงบ้าง"
“สวัสดีเบน ฉันสบายดี แล้วนายล่ะ”
“อรุณสวัสดิ์ เบน ก็อย่างที่เห็นฉันสบายดี”
"ฉันก็สบายดีเหมือนกัน"
เขามองไปที่เพื่อนของเขาและไม่นานก็เริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลง ประการแรก คำพูดของสองคนนี้ดูเหมือนจะสุภาพกว่าปกติ ถ้าจะให้เจาะจงว่าต่างออกไปยังไง.... มันดู... หน่อมแน้ม? เอาจริงดิ? พวกนี้คือคนที่เขาชอบชวนไปวิ่งออกกำลังด้วยกันทุกวันหลังเลิกเรียน นั่นคือวิธีที่พวกเขากลายเป็นเพื่อนกันอย่างรวดเร็ว ทั้งอยู่ในห้องเดียวกันและมีความสนใจเหมือนกัน
แปลกเกินไปแล้ว…..
เบน ลองโยนหินถามทางดู
"วันนี้พวกนายสองคนไปวิ่งกับฉันหลังเลิกไหม? เหมือนทุกที"
พวกเขาดูประหลาดใจและเงียบไปครู่หนึ่ง ในที่สุดจูเลียนก็ถาม
"นายกำลังพูดถึงอะไรน่ะ?"
คราวนี้เป็นตาของเบนที่จะหุบปาก สถานการณ์เลวร้ายยิ่งกว่าที่เขาคิด นาธานถือโอกาสพูด
“นายวิ่งหลังเลิกเรียนด้วยเหรอเบน”
นาธานจึงพูดต่อ
"หรือว่ากำลังเริ่มไดเอทอยู่หรือเปล่า ระวังอย่าหักโหมเกินไปจนทำลายสุขภาพนะ ยิ่งกว่านั้นถ้าวิ่งมากเกินไประวังนายจะมีกล้ามเนื้อเอานะ!"
ส่วนสุดท้ายนี้ทำให้ทั้งสองหัวเราะคิกคักอย่างเงียบๆ เบนตกใจอ้าปากพะงาบ เขาใช้เวลาสองสามวินาทีก่อนที่จะรีบตามน้ำไป
“ชะ ใช่ นายพูดถูก ฉันจะระวัง”
พวกเขาพยักหน้าให้และยิ้มหวานทำเอาเบนขนหัวลุก เกิดความเงียบขึ้นอีกครู่หนึ่ง เบนกำลังคิดคำถามต่อไป ในเมื่อพวกผู้ชายประหลาด แล้วทางผู้หญิงล่ะ? เขาสังเกตตั้งแต่เช้าแล้วว่าพี่น้องเขาไม่ปกติ
“อะแฮ่ม มันเป็นอาจจะเปลี่ยนเรื่องไปหน่อย แต่ฉันอยากรู้ว่าพวกนายสองคนคิดยังไงกับพวกผู้หญิงในห้องเรา”
ทั้งสองขมวดคิ้วทันที ความไม่พอใจปรากฏขึ้นเป็นอย่างแรก ถึงกระนั้นพวกเขาก็ลดเสียงลงเพื่อไม่ให้คนอื่นได้ยิน นาธานตอบก่อน
"เราโชคไม่ดีจริงๆ ห้องนี้ส่วนใหญ่เป็นพวกเนิร์ดไม่ก็พวกบ้าเกม และทั้งหมดก็เป็นพวกนิสัยเสีย ไม่มีข้อยกเว้น"
จูเลียนถอนหายใจ ดูเหมือนจะเห็นด้วยกับคำพูดนั้น
“ใช่ ลองหันไปสิ”
ทั้งสามคนหันไปทางกลุ่มเด็กผู้หญิงไม่กี่กลุ่มในห้องเรียน น่าแปลกที่ดูเหมือนว่าพวกเธอหลายคนกำลังแอบมองมาทางนี้ด้วยรอยยิ้มแปลก แถมถ้าสังเกตดีๆ จะพบว่าพวกเธอไม่ได้มองหน้าแต่กำลังมองต่ำไปลงอีก พอเห็นพวกเขาหันมามองก็รีบหันหนีไปกระซิบกันเอง
จูเลียน กล่าวทิ้งท้าย
"ยัยพวกโรคจิต หื่นกามได้ตลอดทั้งปี ฉันตัวสั่นทุกครั้งที่ถูกสายตาพวกนั้นมอง เราควรระวังตัวให้มากไว้จริงๆ เฮ้อ ทำไมไม่มีผู้หญิงดีๆ บ้างนะที่พวกเราสามารถคุยได้ปกติโดยไม่ต้องเสี่ยงเสียความบริสุทธิ์”
ประโยคสุดท้ายนั้นทำเบนจามินแน่ใจในที่สุด เขารู้สึกเหมือนได้ต่อชิ้นส่วนปริศนาพันปีสุดท้ายสำเร็จ
ในเวลาเดียวกัน ครูประจำห้อง 1 ก็เดินเข้ามา เบนจามินรีบลุกขึ้นบอก "ไว้คุยกันใหม่" กับเพื่อนของเขา
ครูเริ่มสอนแต่จิตใจของเขาห่างไกลจากเนื้อหาที่เรียนมาก เบนหยิบกระดาษจากกระเป๋าและเริ่มเขียนเกี่ยวกับความผิดปกติทั้งหมดที่เขาค้นพบตั้งแต่เช้านี้
ท่าทางผิดปกติตอนที่พี่สาวน้องสาวอยู่กับเขา พวกผู้ชายที่ทำตัวเหมือนผู้หญิง และผู้หญิงที่มีนิสัยเหมือนผู้ชาย…..
ในที่สุดนักสืบเบนก็เห็นแสงสว่าง แม้ยังคงเป็นแค่ทฤษฎี แต่เป็นไปได้ไหมว่าศีลธรรมและค่านิยมทางเพศได้กลับตาลปัตร?