ตอนที่ 17 - วันออกล่าของนายพราน
ตอนที่ 17 - วันออกล่าของนายพราน
เบนจามินตื่นสายกว่าวันไปโรงเรียน หลังจากต้องตื่นไปโรงเรียนแต่เช้าติดต่อกันเขาที่เดิมก็ไม่ใช่สายตื่นเช้าอยู่แล้วจึงยิ่งอยากนอนต่อเข้าไปใหญ่ แม้ที่รีบไปโรงเรียนจะเป็นเพราะเหตุผลสูงส่งก็เถอะ…..
เขาอาบน้ำตามปกติและเริ่มเลือกเสื้อผ้าสำหรับวันหยุด เขาตัดสินใจชุดที่เลือกเปิดเผยให้เห็นเนื้อหนังบริเวณแขนและขาเล็กน้อย จากนั้นลงไปที่ชั้นหนึ่งแล้วบอกคนอื่นว่าวันนี้เขาจะออกไปข้างนอก
ครอบครัวของเขามีกฏที่ค่อยข้างหละหลวมในเรื่องใครจะไปทำอะไร ดูเหมือนในโลกนี้ก็ยังเหมือนเดิมอยู่ คติประจำครอบครัวเขามีอยู่ว่า "อยากทำอะไรก็ทำตราบใดที่มันไม่ผิดกฎหมาย และเกรดที่โรงเรียนไม่ตก"
เบนจามินไคร่คราวญมาหลายวันแล้วว่าจะทำยังไงตัวเองถึงจะมีเซ็กส์ในโลกนี้ได้ และข้อสรุปเขาก็ยังไม่ต่างจากก่อนหน้าเท่าไร นั่นก็คือ เขาจะเลือกเมืองหนึ่งซึ่งอยู่ห่างไหลจากเมืองที่เขาอยู่แต่ยังคงเข้าถึงได้ด้วยรถไฟ การเดินทางไม่ควรมากกว่าหนึ่งชั่วโมง
เขามั่นใจว่าจะไม่มีใครจำเขาที่นั่นได้ เพราะคนรอบข้างเขาไม่มีเหตุผลที่จะไปที่เมืองนั่น กล่าวอีกนัยหนึ่ง มันเป็นพื้นที่ล่าอันสมบูรณ์แบบสำหรับเขา
โชคดีที่วันนี้เป็นวันที่มีแสงแดดสดใส เหมาะสำหรับวันเริ่มแผนการยิ่งใหญ่ เขาเดินไปที่สถานี ซื้อตั๋วไปกลับสำหรับเมืองนั้น เขารอรถไฟมา แล้วขึ้นรถไฟไป หลังจากรอหนึ่งชั่วโมงอย่างเบื่อหน่าย เขาก็มาถึงที่หมาย
เบนได้ตรวจสอบแผนที่ของเมืองล่วงหน้าแล้วและรู้ว่าจะต้องไปที่ไหน หลังจากเดินไปได้สิบนาที เขาก็มาถึงสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง อย่างแรกเขาเริ่มตรวจสอบสถานที่ มีคนจำนวนหนึ่งอยู่รอบๆ อย่างคนที่มากับครอบครัว คู่รักที่ออกเดท และกลุ่มเด็กผู้ชายกับเด็กผู้หญิงที่เดินไปรอบๆ เพลิดเพลินกับอากาศบริสุทธิ์ เบนจามินเลือกม้านั่งที่ว่างในจุดที่มองเห็นได้ในสวนสาธารณะ แล้วนั่งตรงนั้น เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา และเริ่มท่องอินเทอร์เน็ต
วันนี้เป็นวันแรกของการล่า เบนต้องการที่จะค่อยเป็นค่อยไป แผนของเขาแบ่งเป็นแผน A B และ C โดยแผน A เป็นทางเลือกที่เปิดกว้างเผื่อมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างทางไปสวนสาธารณะ เหมือนกับตอนที่เขาโดนผู้หญิงขับรถมาจีบในระหว่างทางกลับบ้านเมื่อวันก่อน หากมีอะไรแบบนั้นเกิดขึ้นก่อนที่เขาจะไปถึงสวนสาธารณะ เขาก็จะประเมินสถานการณ์และคราวนี้อาจตามขึ้นรถไปด้วย
แผน B เป็นแผนที่เขากำลังใช้อยู่ เนื่องจากไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่ระหว่างทางแผน A เลยต้องพับเก็บไปก่อน เพราะเขาต้องการเริ่มต้นจากอะไรที่ง่ายๆ เขาจึงตัดสินใจเล่นบทเป็นผู้ชายขี้เหงานั่งเล่นโทรศัพท์ในสวนสาธารณะคนเดียวเผื่อว่าจะมีคนเข้ามาทัก และถ้าผ่านไปสักพักแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ เขาก็จะใช้แผน C
ในขณะนี้ เขายังคงดูโทรศัพท์และรอ เมื่อใดก็ตามที่เขารู้สึกถูกจ้องมอง เขาก็จะเงยหน้าขึ้นหากเป็นเพศตรงข้าม เขาจะยิ้มอย่างมีเสน่ห์ให้และรอคอยอย่างอดทนว่าอีกฝ่ายจะกล้าเข้ามาหาตนไหม
ตอนนี้เขาเจอบทความน่าสนใจในอินเทอร์เน็ต และเริ่มจดจ่อกับมันจนไม่ได้สนใจรอบข้าง
“ฮ-เฮ้ นายเล่นโทรศัพท์อะไรอยู่คนเดียวน่ะ?”
เขาเงยหน้าขึ้นมองและเห็นเด็กผู้หญิงอายุไม่ห่างจากเขาเท่าไรยืนอยู่ตรงหน้า เธอมีผมสีดำยาวประบ่าและดวงตาสีดำ หุ่นเพรียว และดูสุขภาพดี เธอสวมเสื้อยืดสีขาวและกระโปรงสั้นสีเขียว ซึ่งเป็นชุดที่เหมาะกับอากาศอบอุ่น เธอมองเขาด้วยรอยยิ้มแข็งๆ ราวกับว่าเตรียมจะโดนเขาด่าใส่ที่เขามาทัก แต่เบนกลับส่งรอยยิ้มที่สดใสที่เขาฝึกมาเพื่อวันนี้ให้ไป
“โอ้ สวัสดี ฉันแค่เล่นอินเทอร์เน็ตไปเรื่อยนะ ไม่มีอะไรหรอก แล้วเธอมีอะไรให้ช่วยรึเปล่า?”
เด็กสาวเบิกตากว้างเล็กน้อยเมื่อได้รับคำตอบที่อบอุ่นอย่างไม่คาดคิด เธอเหล่ตามองไปข้างหลังเขาเสี้ยววินาทีก่อนที่จะตอบ
“เอ่อ ไม่มีอะไร ฉันแค่เห็นนายอยู่คนเดียว แล้วฉันก็คิดว่าบางที นะ…นายอาจจะอยากหาคนคุยด้วยรึเปล่า”
พูดถึงตรงนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะมองหน้าอกเขาก่อนจะรีบละสายตากลับมามองที่หน้าเขาแทน ส่วนเบนได้หันศีรษะเล็กน้อยใช้หางตามองไปด้านหลังและก็เห็นเด็กผู้หญิงอีกสองคนที่อายุเท่าเขาแอบมองมาเหมือนคอยส่งกำลังใจให้เพื่อน
“ก็ดีนะ ฉันกำลังรู้สึกเบื่อนิดหน่อยพอดี มานั่งตรงนี้สิ แล้วเธอชื่ออะไร”
เด็กสาวยิ้มแย้มแจ่มใสทันที และลงไปนั่งข้างเขาโดยไม่ไกลหรือใกล้เกินไป
“ฉันชื่อคาเรน แล้วนายล่ะ?”
“ฉันชื่อเบนจามิน เรียกฉันว่าเบนก็ได้ ใครๆ ก็เรียกฉันแบบนั้น”
"เบน เป็นชื่อที่ดี ฉันคิดว่าเราอายุพอๆ กัน ฉันเพิ่งเข้ามัธยมปลายเอง"
“ฉันก็เพิ่งเป็นนักเรียนมัธยมปลายเหมือนกัน บังเอิญดีจริงๆ ถ้าไม่ว่าอะไรช่วยเล่าเรื่องเกี่ยวกับเธอให้ฟังหน่อยได้ไหม? คาเรน”
หลังจากคำถามของเขา พวกเขาก็เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับความสนใจและงานอดิเรก เธอเป็นผู้หญิงมาตรฐานในโลกนี้ เธอชอบเล่นกีฬา ออกไปเที่ยวกับเพื่อน และพบปะผู้คนใหม่ๆ ซึ่งส่วนนี้เบนแปลโดยอัตโนมัติว่าเป็นการออกไปหาเด็กผู้ชาย เขาถามติดตลกว่าเธอประสบความสำเร็จแค่ไหนในการพบปะผู้คนใหม่ๆ และเธอก็ตอบอย่างเขินอายว่าเขาเป็นคนแรก
พวกเขาคุยกันสักพักก่อนที่เธอจะเสนอบางอย่าง
“วันนี้นายมีเวลาไหม? บางทีเราน่าจะไปที่เดินเที่ยวที่ไหนสักแห่ง”
“ได้เลย ฟังดูดีนะ คาเรนอยากทำอะไรล่ะ”
เห็นเขาตอบรับ เธอก็ยิ้มอย่างมีความสุขเหมือนว่าวันนี้จะเป็นที่เธอโชคที่สุด
“ใกล้จะเที่ยงแล้ว ไปกินข้าวกันก่อน เอ่อ แล้วดูหนังไหม”
"แผนสมบูรณ์แบบ ตกลงตามนั้น"