ตอนที่แล้ว1136 - ความอัปยศของเทียนหวงจื่อ 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป1138 - เทพธิดาจากต้นกำเนิดสวรรค์ 

1137 - ราชาบรรพชนลงมือ 


1137 - ราชาบรรพชนลงมือ

ในทะเลสาบหยกเผ่าพันธุ์มนุษย์มีความมั่นใจมากพอที่จะเผชิญกับทุกเผ่าพันธุ์ เย่ฟ่านและคนอื่นๆ ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะออกมาเดินเล่นริมทะเลสาบ

“นั่นไม่ใช่บุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงใช่ไหม?” หลี่เหอสุ่ยกล่าว

หลังจากที่ไม่ได้พบเขามาหลายปี บุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงดูเหมือนจะมีพัฒนาการที่ยิ่งใหญ่ ร่างกายของเขาไม่ได้ปลดปล่อยแสงศักดิ์สิทธิ์เหมือนเช่นอดีตอีกต่อไป

ในทางตรงกันข้ามเขาผสานเข้ากับธรรมชาติจนถ้าไม่สังเกตดีๆ จะไม่อาจมองเห็นเขาท่ามกลางฝูงชนได้เลย

ไม่มีคำพูดมากเกินไป ทั้งสองฝ่ายเพียงพยักหน้าและก้าวออกไปตามเส้นทางของตัวเอง

“ผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา” ต้วนเต๋อกล่าว

คำพูดนี้เป็นเรื่องไร้สาระอย่างยิ่ง เหยากวงนั้นคือหนึ่งในยอดฝีมือเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกอย่างแน่นอน น่าเสียดายที่เขาแทบไม่ลงมือกับผู้ใดเลยดังนั้นผู้คนจึงยากจะมองเห็นความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาได้

หลังจากนั้นไม่นาน เย่ฟ่านก็ได้พบกับราชาเผิงสวรรค์ปีกทอง เขาแก่ชรามากกว่าเดิมหลายสิบปี อย่างไรก็ตามร่างกายของเขาเต็มไปด้วยความผันผวนของพลังเห็นได้ชัดว่ามีความแข็งแกร่งมากขึ้น

“เย่ฟ่านคำนับผู้อาวุโส”

เย่ฟ่านแสดงความเคารพต่อราชาเผิงอย่างนอบน้อม เขาค่อนข้างให้ความนับถือต่อชายชราคนนี้ ราชาเผิงสวรรค์เป็นคนซื่อตรง แม้ว่าเย่ฟ่านจะทำร้ายหลานชายของเขาอย่างแสนสาหัส แต่เขากลับไม่เคยลงมือช่วยเหลือหลานชายของตัวเองแก้แค้น

“ไม่ทราบว่าตอนนี้ราชาเผิงน้อยปีกทองมาที่นี่ด้วยหรือไม่?” เย่ฟ่านถาม

“เขาตายไปสองปีแล้ว” ราชาเผิงมองเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ดวงตาของเขามืดลงชั่วครู่ก่อนจะกลับมาสดใสอีกครั้ง

“น่าเสียดาย...” เย่ฟ่านถอนหายใจ

ราชาเผิงน้อยปีกทองคือชายที่มีบุคลิกโดดเด่น เขาค่อนข้างซื่อตรงเหมือนปู่ของเขา แม้ว่าทั้งสองจะเป็นศัตรูกันแต่ชายหนุ่มผู้องอาจกล้าหาญคนนั้นก็ไม่เคยเอาเปรียบคู่ต่อสู้แม้แต่ครั้งเดียว

ย้อนกลับไปในอดีตราชาเผิงน้อยปีกทองต่อสู้เย่ฟ่านและบังคับให้เขาต้องตกอยู่ในความสิ้นหวังหลายครั้ง นี่คือหนึ่งในคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังที่สุดของเย่ฟ่าน พลังของอีกฝ่ายมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้เขาพัฒนาความแข็งแกร่งมาถึงระดับนี้ได้

ราชาเผิงน้อยปีกทองที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในยอดฝีมือรุ่นเยาว์ที่มีศักยภาพสูงสุดของตงหวงกลับต้องตายไปแบบนี้

“เขาแข็งกร้าวเกินไป เพื่อที่จะผ่านประตูสวรรค์ทั้งเก้าที่บรรพชนโบราณทิ้งไว้ เขาฝืนตัวเองพยายามฝ่าเข้าไปให้ได้ แต่สุดท้ายเขาก็ล้มเหลวและเสียชีวิตลงแบบนั้น”

ราชาเผิงผู้เฒ่าถอนหายใจ การสูญเสียทายาทที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจทำให้เขาแก่ชราลงหลายปี

เย่ฟ่านไม่รู้ว่าจะปลอบใจเขาอย่างไร เส้นทางแห่งการฝึกฝนนั้นยากและโหดร้ายเสมอมา

ในความเป็นจริงราชาน้อยปีกทองได้เก็บกู้ชีวิตของตัวเองกลับคืนมาได้แล้ว อย่างไรก็ตามความพ่ายแพ้ที่มีต่อเย่ฟ่านทำให้เขารู้ว่าตัวเองยากที่จะมีสิทธิ์ต่อสู้ในเส้นทางแห่งการเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ได้

ดังนั้นเขาจึงต้องการแข็งแกร่งอย่างก้าวกระโดด และทำให้พบกับความตายอย่างน่าเสียดาย

เมื่อใกล้ถึงวันชุมนุมของทุกเผ่าพันธุ์ ในที่สุดราชาบรรพชนโบราณที่แข็งแกร่งอีกคนก็ปรากฏตัวขึ้นทะเลสาบหยก เสียงระฆังศักดิ์สิทธิ์ดังก้องกังวาลถึงเก้าครั้ง แสดงให้เห็นว่าราชาบรรพชนคนนี้ทรงพลังมากเพียงใด

หลายคนคาดเดาว่าหากเฟิงเสินปั่งไม่ปรากฏขึ้น ราชาบรรพชนผู้นี้รับรองว่าจะไม่เข้าร่วมการชุมนุมที่เหมือนการละเล่นของเด็กๆ อย่างแน่นอน

“องค์ชายศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่ไหน เจ้ากล้าดูหมิ่นเทพผู้ยิ่งใหญ่ หรือเจ้าคิดว่าพระพุทธเจ้าโต้วจ้านจะให้ความคุ้มครองแก่เจ้าได้ เจ้ากล้าดูหมิ่นจักรพรรดิอมตะ เจ้าต้องตายเพื่อชดใช้ความผิด!”

ไม่มีใครคาดคิดว่าหลังจากที่ราชาบรรพชนโบราณปรากฏตัว นางจะประกาศอาญาสิทธิ์เพื่อประหารวานรศักดิ์สิทธิ์ทันที

หลังจากเข้ามาในทะเลสาบหยกนางเดินตรงไปหากลุ่มของเย่ฟ่านและวานรศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับตวาดด้วยความไม่พอใจ

“ข้าไม่สนหรอกว่าเจ้าจะเป็นเซียนมนุษย์หรือเป็นเชื้อสายของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่ การกระทำของเจ้าต้องชดใช้ด้วยเลือด”

“เจ้าเป็นถึงราชาบรรพชนโบราณแต่กลับคิดจะรังแกเด็กน้อยคนหนึ่ง เจ้าไม่รู้สึกรายใจหรือ!”

ร่างเซียนของเย่ฟ่านก้าวไปข้างหน้าและปิดกั้นทางของราชาบรรพชนโบราณสตรีไว้โดยไม่เปิดโอกาสให้นางเข้าใกล้วานรศักดิ์สิทธิ์ได้

ไม่ไกลนัก เทียนหวงจื่อและสิ่งมีชีวิตจากเผ่าพันธุ์โบราณหลายคนเริ่มเย้ยหยัน พวกเขาอยากรู้จริงๆ ว่าวานรศักดิ์สิทธิ์จะแก้ปัญหานี้อย่างไร

วานรศักดิ์สิทธิ์กระแทกกระบองสีดำลงพื้นและคำรามด้วยความโกรธ

“เมื่อข้าบรรลุความเป็นอมตะ ข้าจะฉีกร่างของพวกเจ้าทุกคนให้แหลกเป็นชิ้นๆ!”

ราชาบรรพชนสตรีชี้นิ้วเรียวยาวของนางไปที่หน้าผากของวานรศักดิ์สิทธิ์และกล่าวอย่างเย็นชาว่า

“ไม่สำคัญว่าเจ้าจะเป็นองค์ชายศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ หากเจ้ากล้าดูถูกจักรพรรดิอมตะเจ้าต้องตายด้วยความทุกข์ทรมาน!”

ทุกคนเงียบสนิทไม่มีใครกล้าที่จะห้ามปรามราชาบรรพชนสตรีคนนี้ แม้ว่านางจะเป็นหญิงสาวที่มีรูปร่างบอบบางและงดงามอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่นี่คือสิ่งมีชีวิตอมตะที่แข็งแกร่งที่สุด

ยอดฝีมือของเผ่าพันธุ์มนุษย์ยิ่งไม่มีความจำเป็นต้องสอดมือเข้ามายุ่งเกี่ยวเรื่องนี้ เดิมทีเย่ฟ่านก็เป็นศัตรูของคนทั้งโลกอยู่แล้ว หากสหายของเขาสักคนตายไปย่อมเป็นผลดีกับเผ่าพันธุ์มนุษย์เช่นกัน

“ปัง!”

วานรศักดิ์สิทธิ์ทุบกระบองใหญ่ลงบนพื้น ดวงตาของเขาลุกเป็นไฟไม่แสดงท่าทีหวาดกลัวแม้แต่น้อย

“แสงหิ่งห้อยจะแข่งขันกับพระจันทร์อันสดใสได้อย่างไร ข้าจะให้โอกาสเจ้าขอโทษเทียนหวงจื่อต่อหน้าทุกคนที่อยู่ที่นี่ หากเจ้าไม่ทำตามต่อให้พระพุทธเจ้าโต้วจ้านมาด้วยตัวเองข้าก็ยังจะฆ่าเจ้าอยู่ดี!”

กลิ่นอายแห่งความบ้าคลั่งแผ่ซ่านออกมาจากร่างของหญิงสาวผู้งดงามคนนี้ กระโปรงสีม่วงของนางเปล่งประกายด้วยแสงสีทองดูศักดิ์สิทธิ์อย่างถึงที่สุด

“เจ้าคิดจะให้สายเลือดจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อย่างข้าก้มหัวให้ลูกสำส่อนที่ไม่รู้ว่าเป็นทายาทของใคร สิ่งนี้ก็เพียงเพื่อให้เจ้าจะได้รับความชอบธรรมในการปกครองเผ่าพันธุ์โบราณเท่านั้น ช่างไร้สาระ! หากเจ้ามีความกล้าก็จงฆ่าข้าซะ ไม่เช่นนั้นเมื่อข้าบรรลุความเป็นอมตะทายาทจักรพรรดิอมตะของเจ้าจะตายเป็นคนแรก!”

วานรศักดิ์สิทธิ์ไม่เพียงไม่ก้มหัวเท่านั้นเขายังเลือกที่จะท้าทายราชาบรรพชนสตรีโดยตรง

แน่นอนว่าเขาไม่มีความสามารถที่จะต้านทานอำนาจของราชาบรรพชนสตรีคนนี้ และดูเหมือนโลกใบนี้จะมีเพียงพระพุทธเจ้าโต้วจ้านที่สามารถยืนอยู่ในระดับเดียวกันกับนาง

บุตรชายเพียงคนเดียวของจักรพรรดิ์ศักดิ์สิทธิ์ถูกสังหาร แม้ว่าจะมีข่าวลือเรื่องความไม่ลงรอยกันระหว่างวานรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองหลุดรอดมาบ้าง

แต่ในฐานะน้องชายของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่ พระพุทธเจ้าโต้วจ้านจะต้องเปิดศึกกับเผ่าพันธุ์โบราณทั้งหมดอย่างแน่นอน

ความโกรธไหววูบในดวงตาของราชาบรรพชนสตรี นางยื่นมือเรียวยาวไปข้างหน้าและกดนิ้วเข้าหากระดูกหน้าผากของวานรศักดิ์สิทธิ์อย่างรวดเร็ว

คลื่นพลังแห่งความเป็นอมตะแผ่ซ่านไปทั่วบริเวณ ราชาบรรพชนสตรีเลิกเก็บงำกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวและเลือกที่จะสังหารวานรศักดิ์สิทธิ์ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของผู้คนมากมาย

“ปัง”

ร่างของวานรศักดิ์สิทธิ์ปลิวกระเด็นไปด้านหลัง แม้จะกระแทกลงพื้นไปแล้วแต่ร่างของเขายังคงไถลออกไปไกลกว่าพันวา

นี่คือพลังของสิ่งมีชีวิตอมตะ! แม้ว่ามือที่เรียวยาวคู่นั้นจะยังมาไม่ถึงแต่อำนาจของมันเพียงพอจะบดขยี้วานรศักดิ์สิทธิ์ให้แหลกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน  

“บูม”   

ในที่สุดเย่ฟ่านก็ลงมือ ภายใต้ความว่างเปล่าที่สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง หมัดหกสังสารวัฏของเขาปะทะกับนิ้วที่เรียวยาวของราชาบรรพชนสตรีอย่างหักโหม!   

เย่ฟ่านไม่ได้ปลดปล่อยพลังศักดิ์สิทธิ์ออกมา แต่เลือกที่จะต่อสู้กับราชาบรรพชนสตรีคนนี้ด้วยพละกำลังทางเลือดเนื้อเพียงอย่างเดียว

อย่างไรก็ตามราชาบรรพชนสตรีคนนี้น่าสะพรึงตัวอย่างยิ่ง แม้จะสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของเย่ฟ่าน แต่นางก็ยังเลือกที่จะปะทะกับเขาอย่างตรงไปตรงมา

ถึงกระนั้น นิ้วหยกอันเรียวยาวของนางก็ถูกชักกลับมาอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่ากระดูกนิ้วของนางแตกละเอียดไปแล้ว

ทุกคนตกตะลึงอย่างมาก ราชาบรรพชนสตรีผู้นี้เคยนำกองทัพของเผ่าพันธุ์โบราณบุกโจมตีเมืองศักดิ์สิทธิ์ด้วยมาแล้ว พลังของนางนั้นผู้บ่มเพาะเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างสัมผัสมาด้วยตัวเอง

อย่างไรก็ตามนางกลับไม่สามารถต่อต้านการโจมตีของเย่ฟ่านได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว สิ่งนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึงฉันไม่สามารถพูดอะไรได้

“ช่างเป็นร่างกายที่ทรงพลังอะไรเช่นนี้ ข้าประเมินเจ้าต่ำไปจริงๆ ไม่คิดเลยว่าจะมีคนแบบนี้อยู่ในโลก แต่เจ้าก็ต้องตายเช่นกัน”

ภายใต้เสียงที่ดังขึ้นชายวัยกลางคนสองคนก้าวออกมาจากด้านหลังของฝูงชน พวกเขาสวมชุดเกราะสีขาวบริสุทธิ์ และยืนอยู่เบื้องหลังของราชาบรรพชนสตรี ทั้งสองคนนี้ก็เป็นสิ่งมีชีวิตอมตะเช่นกัน

…………..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด