ตอนที่แล้วบทที่ 44 ตายโดยไม่มีการฝังศพ  
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 46 การล่อลวงของสามี  

บทที่ 45 นับขึ้น  


“หลานเซียง…” เฟิ่งหยินซวงทวนชื่อนั้นเบา ๆ “ข้าจำได้ว่านางอยู่กับท่านมานานแล้วไม่ใช่หรือ?”

นางจำได้ว่าในวันแรกที่สนมซีอานเข้าวัง มีสาวใช้ประมาณสิบคนที่ฮ่องเต้แต่งตั้งให้ดูแลนาง และเฟิ่งหยินซวงก็คุ้นเคยกับพวกนางเป็นอย่างดี

“ใช่ นางเป็นสาวใช้ของข้าตั้งแต่วันแรกที่ข้าเข้าวัง นางคอยรับใช้และอยู่เคียงข้างข้ามาตลอด ถือเป็นคนที่ระมัดระวังและรอบคอบอย่างมากคนหนึ่ง”

สนมซีอานชื่นชมหลานเซียงเป็นอย่างมาก แต่จากคำถามแปลก ๆ ของหยินซวง นางก็เริ่มตงิดใจขึ้นมาเล็กน้อย

“ทำไมจู่ ๆ เจ้าถึงถามข้าแบบนั้น มีเรื่องอะไรหรือ?”

“ท่านพี่ หากข้าบอกว่าท่านกำลังเจอกับ ‘หมาป่าที่หุ้มหนังแกะ’ ท่านจะเชื่อข้าหรือไม่”

ด้วยสติปัญญาของสนมซีอาน แน่นอนว่านางสามารถเข้าใจความหมายที่แท้จริงได้ในทันที

“เจ้าจะบอกว่า…หลานเซียงกำลังทรยศข้าหรือ?” นางกดเสียงให้เบาลงกว่าเดิม

“ข้ารู้ว่านางอยู่กับท่านมาหลายปี ท่านจึงไว้ใจนางมาก แต่เชื่อข้าเถิด นางเป็นคนทรยศ นางสมรู้ร่วมคิดกับสนมหลี่ที่จะวางยาองค์ชายใหญ่โดยโยนความผิดให้ท่านเป็นแพะรับบาป หากวันนั้นนางทำเสร็จ ท่านคงไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้แน่นอน ท่านพี่ ท่านต้องกำจัดนางออกไปนะเพคะ!”

เฟิ่งหยินซวงไม่ใช่คนใจอ่อนอีกต่อไปแล้ว จากนี้นางต้องเด็ดขาดที่จะกำจัดศัตรูทุกคนให้สิ้น

“ซวงเอ๋อร์…เจ้ากำลังพูดถึงอะไร?” คราวนี้สนมซีอานมีสีหน้าประหลาดใจยิ่งกว่าเดิม

“วันนั้นที่เจ้าชนองค์ชายใหญ่ถึงสองครั้งติดกัน ข้ายังคิดว่ามันค่อนข้างแปลก แปลว่าเจ้ารู้อยู่แล้วว่าในแก้วไวน์ของเขามียาพิษอย่างนั้นหรือ?”

เมื่อเห็นเฟิ่งหยินซวงพยักหน้ารับ นางก็รู้สึกรับไม่ได้เป็นอย่างมาก

สนมซีอานมักบอกกับทุกคนว่าตนเป็นคนต่ำต้อย ทั้งนางยังเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่เสมอ นางไม่เคยคิดร้ายกับใคร บุตรของนางก็เป็นเพียงองค์หญิงตัวน้อย ๆ เมื่อเทียบกับคนอื่นแล้ว นางแทบไม่ได้อยู่ในศึกชิงบัลลังก์เลย มันจึงกระทบจิตใจนางอย่างมากเมื่อได้รู้ว่ามีคนพยายามใส่ร้ายนาง

คิดได้แบบนั้นนางก็ชาวาบไปทั้งตัว นึกไม่ถึงเลยว่าสนมหลี่ซึ่งนางเคารพเสมอเหมือนพี่สาวคนหนึ่งจะมีจิตใจโหดร้ายได้ขนาดนี้

“ว่าแล้วว่าทำไมในงานวันนั้นนางถึงเอาแต่พูดถึงเรื่องไวน์ออสมันตัสของข้าอยู่นั่น คงเพราะนางได้เตรียมการไว้อยู่แล้ว ให้ตายสิ! นางต้องการจะวางยาองค์ชายใหญ่โดยที่โยนความผิดมาให้ข้าได้อย่างไร! นางช่างเป็นคนน่ากลัวเหลือเกิน ซวงเอ๋อร์ แล้วเจ้ารู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร? เจ้าเห็นหลานเซียงพูดคุยกับสนมหลี่หรือ?”

เฟิ่งหยินซวงอ้าปากพะงาบ ๆ หากนางตอบตามความจริงว่าเพราะชาติที่แล้วนางเคยประสบเรื่องพวกนี้มาแล้ว ใครกันจะยอมเชื่อคำพูดนาง

“คือ…ข้านึกสงสัยในตัวสนมหลี่และองค์ชายสามมานานแล้ว ข้าจึงจับตาดูพวกเขาอย่างลับ ๆ”

สนมซีอานเห็นท่าทางของหยินซวงแล้วก็ไม่ถามอะไรต่อ นางเลี้ยงน้องสาวคนนี้มาตั้งแต่เด็ก แน่นอนว่านางรู้ว่านางเป็นคนอย่างไร

“แต่ไวน์ออสมันตัสนั้นข้าเป็นคนกลั่นเองทั้งหมด แล้วตอนที่แจกจ่ายให้กับแขกในงาน ก็ไม่ได้มีแค่หลานเซียงเท่านั้นที่ทำหน้าที่นี้ ทำไมคนอื่นถึงยังสบายดีหลังจากดื่มมัน?”

เฟิ่งหยินซวงรู้ว่านางต้องถามคำถามนี้อย่างแน่นอน ดังนั้นนางจึงเรียกรัวซุ่ยที่ยืนรออยู่ด้านนอกให้ยกขวดไวน์เข้ามาในห้องทันที

เพราะตอนนั้นแผนการของสองแม่ลูกล้มเหลว พวกเขาจึงรีบร้อนจากไปโดยไม่ได้ทำลายหลักฐาน ดังนั้นรัวซุ่ยจึงไปเก็บมันกลับมา

“ข้าให้รัวซุ่ยนำมันกลับมาจากงานด้วย นี่คือขวดไวน์ที่หลานเซียงใช้รินไวน์ให้กับองค์ชายใหญ่ ท่านพี่ลองเปิดดูได้”

สนมซีอานรับมันขึ้นมาดู นางยกขวดขึ้นสู้แสงแล้ววนซ้ายวนขวา ก่อนสีหน้าของนางจะเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน

“นี่มัน…ขวดซ้อนกล” นางพึมพำกับตัวเอง “สิ่งนี้คือขวดซ้อนกล กลไกของมันอยู่ที่ด้ามจับที่สามารถกดให้เปิดได้ เวลาเทไวน์เพียงกดปุ่มตรงนี้ ไวน์ที่รินก็สามารถกลายเป็นยาพิษที่บรรจุอยู่ในด้ามจับได้”

ในตอนนี้นางหมดข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วโดยสิ้นเชิง นางโกรธมากจริง ๆ ที่ถูกกระทำแบบนี้ หากเฟิ่งหยินซวงไม่พบมันแต่เนิ่น ๆ และช่วยนางไว้ ผลที่ตามมาคงร้ายแรงมากจนนางคาดไม่ถึง

“สนมหลี่จงใจจะทำแบบนี้จริง ๆ ซวงเอ๋อร์ ข้าไม่สามารถยกโทษให้นางในเรื่องนี้ได้ ข้าจะเรียกนางมาสอบปากคำเดี๋ยวนี้เลย!”

นางวางใจหลานเซียงมาโดยตลอด แต่ตอนนี้นางกำลังถูกนางทรยศ ไม่แปลกที่สนมซีอานจะโกรธมาก

“ท่านพี่เพิ่งอย่าใจร้อน ข้าแค่อยากเตือนให้ท่านระวังตัวไว้และไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่”

“เรื่องนี้ร้ายแรงมาก ข้าต้องรายงานต่อฮ่องเต้และขอให้เขาช่วยตรวจสอบ เขาต้องคืนความยุติธรรมให้กับข้าแน่”

“แต่ท่านพี่ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ก็จริง แต่มันเกี่ยวกับองค์ชายใหญ่และสนมหลี่โดยตรง แม้ท่านจะสอบสวนหลานเซียงจนได้ความจริงมา แต่ท่านก็รู้ดีว่าคนที่อยู่เบื้องหลังจริง ๆ คือนางสนมหลี่ หากนางไม่ยอมรับและโยนความผิดทั้งหมดให้หลานเซียงเพียงคนเดียว ข้าคิดว่าหลังจากนั้นนางต้องหาทางลอบกัดท่านอีกแน่ ข้าว่าท่านอย่าเพิ่งผลีผลามเลยเพคะ” เฟิ่งหยินซวงรีบเตือน

ได้ยินแบบนั้น นางสนมซีอานก็ได้สติ นางจัดการอารมณ์โกรธของตัวเองในทันที และรู้ตัวในตอนนี้ว่านางไม่ได้นึกถึงเรื่องนี้อย่างครอบคลุมมากพอ

“แล้วข้าควรทำอย่างไร?”

“ในตอนนี้ เราทำได้เพียงจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เรารู้แล้วว่าหลานเซียงเป็นไส้ศึกของสนมหลี่ ต่อไปอะไร ๆ ก็คงสังเกตได้ง่ายขึ้นมาก แผนการครั้งนี้ของพวกเขาล้มเหลวอีกไม่นานสนมหลี่จะต้องติดต่อนางสำหรับแผนต่อไปอย่างแน่นอน ตราบใดที่หลานเซียงถูกจับตามอง นางจะไม่มีทางทำสิ่งที่ร้ายแรงได้”

เฟิ่งหยินซวงพูดอย่างใจเย็น นางคิดทบทวนเกี่ยวกับเรื่องนี้มาแล้วทั้งคืน ในสายตาของนาง นี่ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายที่สุด และยังสามารถกลายเป็นสิ่งที่ดีได้หากสามารถจัดการมันอย่างเหมาะสม ความตั้งใจของนางคือทำให้พวกนั้นตกหลุมพรางที่พวกเขาเป็นคนขุดขึ้นมาเอง!

“มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?”

สนมซีอานยังคงข้องใจ แม้ว่านางจะเถียงข้อเท็จจริงของหยินซวงไม่ได้ แต่นางก็ไม่อยากเสียโอกาสที่จะได้กระชากหน้ากากคนชั่ว

“ท่านพี่ การที่เราจะล้มศัตรูได้อย่างสมบูรณ์ เราต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังที่สุด และต้องไม่ทำอะไรวู่วาม เมื่อเจ้าทำการสอบสวนหลานเซียง เรื่องนี้ก็จะไปถึงหูของสนมหลี่ด้วย คราวนี้เหยื่อคือหลานเซียง คราวหน้าจะมีใครอีก ท่านพี่ ท่านต้องคิดให้รอบคอบ”

นางลองคิดอย่างรอบคอบอีกครั้ง ในที่สุดนางก็เห็นด้วยกับคำพูดของเฟิ่งหยินซวง และรู้สึกชื่นชมนางมาก

“ซวงเอ๋อร์ เจ้าเปลี่ยนไปมากจริง ๆ ความเฉลียวฉลาดของเจ้าทำให้ข้าประทับใจ ข้าดีใจมากที่เจ้าเติบโตขึ้นมาอย่างดีขนาดนี้”

เฟิ่งหยินซวงในอดีตเป็นเพียงเด็กสาวแสนสวยผู้เป็นที่รักของทุกคน นางเป็นคนเรียบง่ายและตรงไปตรงมา ไม่มองโลกในแง่ร้าย และไม่เข้าใจในความชั่วร้ายของผู้คน แต่วันนี้นางสามารถพิจารณาทุกอย่างได้อย่างละเอียดรอบคอบ แม้แต่ความซับซ้อนที่ตัวสนมซีอานเองยังยากจะเข้าใจ นางก็อ่านมันออกอย่างทะลุปรุโปร่ง แล้วจะไม่ให้สนมซีอานรู้สึกแปลกใจได้อย่างไร

“มีอีกอย่างที่ข้าอยากให้ท่านช่วย ได้โปรดอย่าบอกเรื่องนี้กับคนอื่นโดยเด็ดขาด ข้าเกรงว่าถ้าพวกเขารู้แล้วพวกเขาจะเป็นกังวล เราสองคนต้องอดทนและค่อย ๆ สอบสวนเรื่องนี้ทีละนิด ข้าเองก็จะคอยจับตาดูองค์ชายสาม ในส่วนของพระราชวังนั้น ข้าต้องรบกวนท่านพี่ด้วย”

แน่นอนว่าสนมซีอานรับรู้ถึงความจริงจังเรื่องนี้ นางจึงพยักหน้าเห็นด้วยในทันที

แต่ว่า...นางรู้สึกว่าซวงเอ๋อร์ดูเหมือนมีอะไรมากมายที่ซ่อนไว้ในใจ อะไรที่ทำให้นางเปลี่ยนไปมากขนาดนี้?

“ซวงเอ๋อร์ ข้ามีบางอย่างอยากถามเจ้า ข้าสงสัยเรื่องนี้มาโดยตลอด เจ้าพอจะตอบข้าได้หรือไม่?”

เฟิ่งหยินซวงพยักหน้า นางพอจะรู้ว่านางต้องการถามว่าอะไร

“ก่อนหน้านี้เจ้าดูรักองค์ชายสามมาก และความสัมพันธ์ของเจ้ากับสนมหลี่ก็ดีมากด้วยเช่นกัน แต่ตั้งแต่เกิดเรื่องการแต่งงานที่ผิดพลาดในตอนนั้น ทำไมจู่ ๆ เจ้าถึงดูเปลี่ยนไป? จริง ๆ แล้วหากเจ้าต้องการแต่งงานกับองค์ชายสาม ข้าคิดว่ากษัตริย์ชิงผิงคงไม่สามารถบังคับเจ้าได้ และตระกูลเฟิ่งก็คงไม่มีทางปล่อยให้เจ้าต้องทนทุกข์ ข้าถามเจ้าจริง ๆ เถิด กษัตริย์ชิงผิงก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยใช่หรือไม่?”

นางสนมซีอานรู้จักนางดีจริง ๆ ไม่แปลกที่นางจะคาดเดาได้ถูกต้อง ในเมื่อนางเคยพูดกับกษัตริย์ชิงผิงไปแล้ว กับสนมซีอานก็คงไม่มีอะไรต้องปิดบัง ดังนั้นนางจึงพยักหน้ายอมรับ

นางยังคงต้องพึ่งความช่วยเหลือของสนมซีอานในอนาคต เป็นการดีที่จะบอกให้นางรู้ในบางอย่าง ไม่เพียงเพื่อป้องกันตัวเอง แต่ฐานะนางสนมของนางก็มีประโยชน์กับนางด้วย

“ข้าไม่เข้าใจ ซวงเอ๋อร์ ในเมื่อเจ้าไม่รักองค์ชายสาม แล้วทำไมก่อนหน้านี้เจ้าถึงยืนยันที่จะแต่งงานกับเขา”

นี่เป็นส่วนที่ทำให้นางสับสนที่สุด ใจคนเราจะสามารถเปลี่ยนไปได้ในเวลาชั่วข้ามคืนเชียวหรือ?

“ก่อนหน้านี้ข้าเป็นเพียงเด็กสาวที่สายตาพร่ามัว มอมเมามองไม่เห็นยาพิษที่ใต้โหลน้ำผึ้ง แต่พอข้าได้กลับมาเห็นทุกอย่างชัดเจนขึ้นแล้ว บางอย่างก็ไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีก ข้าจึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง และหวังว่ามันจะไม่สายเกินไป”

เฟิ่งหยินซวงพูดคำเหล่านี้เบา ๆ แต่นางสนมซีอานก็เข้าใจมันได้ในทันที

ชีวิตของเฟิ่งหยินซวงนั้นค่อนข้างซับซ้อน มีบางสิ่งเกิดขึ้นกับนาง และมันไม่สามารถจินตนาการหรือทำความเข้าใจได้

การที่นางได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งน่ะ…หากพูดไปก็คงไม่มีใครเชื่อนาง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด