บทที่ 162 ทรราชโบแจ็ค
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 162 ทรราชโบแจ็ค
ครืน!
ขณะที่เกาะที่อยู่ห่างไกลถูกลูกบอลพลังงาน เสียงของคนบนเรือสำราญก็ดึงขึ้น “ท่านราชาโบแจ็ก! ท่านเพิ่งโยนลูกบอลไปโดนใส่คฤหาสน์ของเกาะ! ฮ่าฮ่า! ช่างแม่นยำเหลือเกิน!”
“ราชาโบแจ็คจงเจริญ! ท่านราชาจงเจริญ! ท่านราชาจงเจริญ!”
ทุกคนต่างพากันตะโกนออกมาด้วยความยินดี
มนุษย์เหล่านี้บนดาดฟ้าทั้งหมดเป็นผู้ติดตามของโบแจ็ค รับใช้โบแจ็คอย่างไม่ขัดขืน
ในหมู่พวกเขา ครั้งหนึ่งเคยมีคนที่ได้รับความไว้วางใจจากโบแจ็คมากที่สุด เป็นผู้ที่ประจบสอพลอเป็นอย่างยิ่ง
แต่วันนี้ คนผู้นั้นได้ถูกแขวนไว้อยู่ด้านบนเรือของโบแจ็ค เพื่อเป็นตัวอย่างสำหรับคนที่กล้าทรยศเขา
เมื่อไม่นานมานี้โกคุย ลูกน้องของโบแจ็คได้พบหลักฐานว่าบุคคลผู้นี้ได้ส่งต่อข้อความไปยังกองทัพกบฏมาโดยตลอด
โบแจ็คจิบไวน์เบาๆ และหัวเราะเยาะร่างที่ถูกแขวนอยู่เหนือเขา “ซาตาน เจ้าคิดว่าลูกสาวของเจ้าอยู่ในคฤหาสน์เมื่อครู่ไหม?”
ซาตานที่มีรอยฟกช้ำทั่วร่างกายเงยหน้าขึ้นด้วยความอ่อนล้า “โบแจ็ค มนุษย์จะไม่มีวันยอมจำนนต่อเจ้า! สักวันหนึ่ง จะมีคนมาล้มล้างกฎอันโหดร้ายที่เจ้าตั้งขึ้น!”
“แล้วสักวันหนึ่งมันเมื่อไรกัน? ซาตาน ถ้าข้าไม่รอการกลับมาของเซลล์ ข้าคงจะฆ่ามนุษย์ทั้งหมดไปนานแล้ว ในสายตาของข้า พวกเจ้าทุกคนเป็นเหมือนมดแมลง ข้าสามารถกำจัดพวกเจ้าทั้งหมดได้ตามที่ข้าต้องการ”
ทันใดนั้น โบแจ็คก็ยื่นนิ้วทั้งสิบของเขาออกมาและยิงลำแสงบางๆ ออกมาเพื่อฆ่าผู้ที่เพิ่งตะโกนว่าราชาโบแจ็คทรงเจริญในทันที
มีเพียงคนไม่กี่คนเท่านั้นที่โชคดีรอดมาได้
เมื่อเห็นคนที่อยู่ใกล้ได้ตายลงไป คนที่รอบก็ได้แต่คุกเข่าลงกับพื้น
ส่วนทางด้านซาตาน เขาก็ได้แต่หลับตาอีกครั้งพร้อมความหวังที่มอดลงไปแล้ว
นับตั้งแต่ที่เขาแทรกซึมเข้าไปในฝั่งของโบแจ็ค เขารู้ว่าวันเช่นนี้จะมาถึง แต่เขาไม่ได้คิดเลยว่ามันจะมาถึงเร็วๆ นี้และเป็นสิ่งที่น่าสังเวชนัก
โบแจ็คและแก๊งของเขาได้พบฐานที่มั่นลับของกองทัพกบฏ ผ่านเครื่องมือสื่อสารของเขาเอง
มนุษยชาติจะพินาศเช่นนี้จริงหรือ?
ทันใดนั้น ผู้รอดชีวิตที่โชคดีก็อุทานออกมาว่า “ราชาโบแจ็ค มีเรือของกองทัพกบฏอยู่ในทะเล ดูเหมือนว่าพวกมันจะโจมตีเรา!”
“มนุษย์ช่างเป็นสายพันธุ์ที่น่าสนใจจริงๆ”
โบแจ็คกระทืบบนดาดฟ้าและโบกมือ “แขวนซาตานไว้ให้พวกมันเห็น!”
ช่วงเวลาต่อมา มนุษย์บนเรือก็ได้เห็นร่างของซาตานที่อยู่บนดาดฟ้าเรือ
ในทะเล มีเรือประมงสองสามลำที่บรรทุกทหารของกองทัพกบฏอยู่ พวกเขาพยายามใช้ทุกอย่างที่มีเพื่อจัดการโบแจ็ค
แต่ในยามนั้นเอง ใครบางคนบนเรือก็ตะโกนขึ้นมาว่า “หัวหน้า! นั่นคุณซาตาน!”
บีเดลที่นั่งอยู่ในเรือก็ลุกขึ้นทันที นางตะโกนด้วยความประหลาดใจ “พ่อ?”
บนเรือสำราญ หูของโบแจ็คระตุก ริมฝีปากของเขาบิดโค้งงอ
เขาลอยขึ้นไปบินไปอยู่ข้างซาตานแล้วคว้าศีรษะที่มีผมทรงแอฟโฟรของเขาดึงขึ้นมา
“โอ้ ซาตาน นั่นลูกสาวของเจ้าไม่ใช่หรื ?”
ซาตานที่ใกล้จะตายก็ลืมตาขึ้น และในไม่ช้าก็เหลือบไปเห็นร่างของบีเดล
"บีเดล? ยัยโง่! รีบหนีไปจากที่นี่เร็ว!" ซาตานตะโกน
"พ่อ!"
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า! นางเป็นลูกสาวของเจ้าจริงๆ ใช่ไหม?” โบแจ็คเผยรอยยิ้มที่โหดร้ายออกมาบนใบหน้าของเขา ในขณะที่เขายกมือขึ้นไปหาบีเดลและคนอื่นๆ แสงสว่างพลันปรากฏบนฝ่ามือของเขา
“ซาตาน ในฐานะคนทรยศ ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะลงโทษเจ้าเช่นไรดี! การลงโทษของเจ้าคือการเฝ้าดูลูกสาวของเจ้าตายด้วยตาของเจ้าเอง!”
“ไม่ อย่านะ!”
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า!"
ท่ามกลางเสียงหัวเราะ โบแจ็คได้ขว้างระเบิดพลังงานที่ปล่อยรังสีแห่งความตายออกไป
"ไม่!"
เสียงกรีดร้องของซาตานได้ดังขึ้นพร้อมระเบิดพลังงานที่กำลังจะโดนเรือของบีเดล
"ท่าไม่ดีแล้ว!"
ลาซูลิพยายามขัดขวางการโจมตี แต่ก็ถูกมัดไว้ด้วยเส้นด้ายพลังงานจากบิโด้และบูจิน ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย ทำได้เพียงมองดูระเบิดพลังงานที่เข้ามาใกล้บีเดลและคนอื่นมากขึ้นเรื่อยๆ
ทันใดนั้น ร่างสองร่างก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเรือ หนึ่งในนั้นยกมือขึ้นและเบี่ยงเบนระเบิดพลังงานที่โบแจ็คขว้างออกมาทันที
ระเบิดพลังงานที่เบี่ยงเบนได้เปลี่ยนทิศทางและตกลงบนทะเล จากนั้นจึงระเบิดขึ้นมา
"หืม?"
โบแจ็คตกตะลึง เขาไม่คิดเลยว่าจะมีคนเบี่ยงเบนระเบิดพลังงานของเขาได้
ในระยะไกล แซงย่าและคนอื่นๆ ต่างหันศีรษะไปจ้องมองด้วยความประหลาดใจกับร่างทั้งสองที่ปรากฏ
“โบแจ็ค! จุดจบของเจ้ามาถึงแล้ว!”
หลังการระเบิดได้เกิดขึ้น ทรังคซ์จ้องมองไปยังเกาะที่ปกคลุมไปด้วยควัน จากนั้นก็มองไปที่ซาตานซึ่งใกล้จะตาย ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดมากมายต่อโบแจ็คที่กำลังลอยอยู่บนท้องฟ้า
เพราะพวกมัน ผู้คนมากมายจึงต้องตาย
เพราะพวกมัน ผู้คนที่เขาเคยยิ้มให้จึงต้องตาย
อภัยให้ไม่ได้!
ทรังคซ์คำรามออกมา ระเบิดความโกรธและในชั่วพริบตา ก็กลายร่างเป็นซูเปอร์ไซย่า
ผมสีทองพลิ้วไหวไปตามสายลม ม่านตาสีมรกตไร้ความแวววาวใดๆ
“เหอะ! เจ้าคือไอ้เด็กหนุ่มผมทองผู้สามารถแปลงร่างได้ ที่แซงย่าและคนอื่นๆ เล่าให้ข้าฟังว่ามักจะก่อกวนพวกเรางั้นหรือ? แส่หาที่ตาย!”
“ท่านโบแจ็คขอรับ! ปล่อยสองคนนั้นให้เป็นหน้าที่เราเถิด”
แซงย่าและโกคุยโยนลาซูลิที่ถูกมัดไว้ลงมา จากนั้นจึงบินไปหาหลินเฉินและทรังคซ์
ขณะที่เขาเห็นว่าการต่อสู้ครั้งใหญ่กำลังจะเริ่มขึ้น หลินเฉินก็ก้าวถอยหลังอย่างสมัครใจและมาที่เรือที่บีเดลอยู่
“ทรังคซ์ ข้าจะคอยดูผลการฝึกของเจ้า เช่นนั้นขอฝากทุกอย่างไว้กับเจ้าแล้วกัน”
"ครับอาจารย์!"
“ท่านหลินเฉิน ท่านจะไม่ช่วยเขาเหรอ” บีเดลถามขึ้น
“ไม่ต้องหรอก ทรังคซ์คนเดียวก็เพียงพอแล้วสำหรับการต่อสู้ครั้งนี้ พวกเจ้าออกไปจากที่นี่เถอะ” หลินเฉินตอบด้วยรอยยิ้ม
จากนั้นเขาก็แตะเรือประมงของบีเดลและเรือประมงลำอื่นๆ พร้อมกับใช้เคลื่อนย้ายพริบตาเพื่อนำพวกเขาขึ้นไปบนฝั่ง
เขาทำแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา จนกองทัพกบฏที่เหลือได้ถูกนำกลับไปที่เกาะโดยหลินเฉิน รวมถึงซาตานและเรือสำราญด้วย
จากนั้นหลินเฉินก็เคลื่อนย้ายมาและปรากฏตัวอยู่ถัดจากลาซูลิ เขาใช้มือข้างหนึ่งตัดด้ายที่ผูกมัดนางไว้และดึงนางเข้าไปในอ้อมกอดของเขา
“ให้ทรังค์จัดการเรื่องนี้ เราไปกันเถอะ!” หลินเฉินกล่าว
"เดี๋ยวก่อน!"
เมื่อเห็นเช่นนี้ โบแจ็คก็ต้องการจะหยุดหลินเฉินที่ใช้วิชาประหลาด แต่เขากลับถูกทรังคซ์ขัดขวางเอาไว้ก่อน
หมัดที่เต็มไปด้วยความโกรธกระแทกใบหน้าของโบแจ็คจนส่งเขาบินไปไกล
“เจ้าเด็กเหลือขอ เจ้ากล้าดียังไง…”
เมื่อทรงตัวได้แล้ว โบแจ็คก็ปิดหน้าและมองไปที่ทรังคซ์ด้วยความโกรธ
"คู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้า!” สายตาของทรังคซ์จับจ้องไปที่โบแจ็คตาไม่กระพริบ
"ไร้สาระสิ้นดี! แค่เจ้าคนเดียวเหรอ? อวดดีนัก! แซงย่า บูจิน บิโด้ โกคุย! จัดการไอ้เด็กเหลือขอนี่ก่อนเลย!” โบแจ็คยามนี้โกรธมากแล้ว