นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 98
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 98
สนามฝึกที่ห้าเปิดขึ้นอีกครั้งหลังจากการซ่อมแซม
ราอนกำลังมุ่งหน้าไปที่นั่น
'หืม?'
เขายังคงได้รับสายตาแปลกๆ จากทุกคนที่เขาพบระหว่างทาง
สายตาของพวกเขาเปลี่ยนไปมาก มีทั้งสายตาที่เป็นมิตรและไม่เป็นมิตรปะปนกันอยู่
นี่แหละมนุษย์
ราธออกมาจากสร้อยข้อมือ
พวกมันดูถูกผู้อ่อนแอและชื่นชมผู้แข็งแกร่ง มนุษย์ให้ความสำคัญกับความแข็งแกร่งมาก
'ก็ถูก'
ราอนพยักหน้า ดังที่ราธพูด พวกเขาชื่นชมเขาเพราะเขาได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งของตัวเองแล้ว
แม้ว่าการจ้องมองจะไม่ได้เป็นมิตรทั้งหมดก็ตาม นอกจากนั้นยังมีความอิจฉา,ความเกลียดชัง,และแม้กระทั่งจิตสังหารที่ชัดเจนอีกด้วย
'แล้วพวกปีศาจเป็นแบบไหน? ฉันว่ามันคงจะแย่กว่านี้อีก'
อยากรู้หรือ? งั้นข้าจะบอกเจ้า มันเป็นสถานที่ที่แตกต่างจากที่มนุษย์จินตนาการไว้มาก แม้ว่าผู้อ่อนแอจะได้รับการปฏิบัติที่เลวร้ายยิ่งกว่าสัตว์ก็ตาม
ราธพึมพำว่าไม่มีสถานที่ใดในโลกที่คนอ่อนแอได้รับความโปรดปราน
คราวนี้เจ้าทำได้ดีมาก เจ้าจัดการไอ้สารเลวนั่นอย่างเด็ดขาดด้วยความโกรธของเจ้า เจ้ายังจัดการพ่อของมันด้วย ข้าพอใจกับการกระทำของเจ้าเป็นครั้งแรก
'จริงเหรอ?'
ใช่ ยกเว้นเรื่องเดียว ข้าเสียดายที่เจ้าไม่ได้ฆ่ามัน ย้อนกลับไปในแดนปีศาจ ราชาแก่นแท้ทำให้ทุกคนที่กล้าทำให้ข้าขุ่นเคืองให้กลายเป็นก้อนน้ำแข็ง...
ข้อความปรากฏขึ้นทันทีที่ราธพูดจบ
[ราธพึงพอใจอย่างมาก]
[การรับรู้เพิ่มขึ้น 1]
[พละกำลังเพิ่มขึ้น 1]
มันกำลังบอกเขาว่าค่าสถานะของเขาเพิ่มขึ้นเพราะราธพึงพอใจ
'มีแบบนี้ด้วยเหรอ!'
ราอนอ้าปากค้าง การได้รับรางวัลที่เขาไม่คาดคิดทำให้เขารู้สึกอารมณ์ดี
ไอ้ระบบนี่! ใครเป็นเจ้าของแกกันแน่?
ราธจ้องไปที่ระบบที่ไม่ฟังเขาและเดือดพล่านด้วยความโกรธ
'ขอบใจมาก ฉันเติบโตเร็วขึ้นอีกแล้ว'
หุบปากซะ ข้าไม่ชอบให้เจ้ามีความสุข
ผ่านไปไม่ถึงสิบวินาทีแต่ราธก็ระเบิดความโกรธออกมาแล้ว
"ไม่ชอบเหรอ? แต่ฉันมีความสุขนะ”
หยุดนะไอ้เด็กบ้า!
ราอนฮัมเพลงและเข้าไปในสนามฝึกซ้อม ราธยังคงสาปแช่งเขาต่อไปแต่เขาไม่สนใจ
“หือ?”
ดวงตาของราอนเบิกกว้างเมื่อเข้าสู่สนามฝึก มีใครบางคนกำลังนั่งอยู่บนเวที
'ริมเมอร์?’
เป็นเอลฟ์ขี้เกียจที่มักจะมาสายในการฝึกตอนเช้า
"โอ๊ะ! เครื่องรางนำโชคของฉัน! เป็นไงบ้างราอน?”
ริมเมอร์ยิ้มและยื่นมือออกมา มีแหวนประดับอัญมณีหลากสีสันอยู่บนนิ้วของเขา
เขายังสวมกำไลแวววาวและสร้อยคออัญมณีอีกด้วย
'หืม?’
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นเอลฟ์สวมเครื่องประดับแบบนี้ และดูเหมือนว่าพวกมันจะไม่ใช่ไอเทมที่มีคุณสมบัติพิเศษด้วยซ้ำ มันเป็นเพียงของราคาแพงเอาไว้อวดเท่านั้น
'เครื่องรางนำโชค?'
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ ถึงถูกเรียกว่าเครื่องรางนำโชค ในขณะที่เขากำลังจะสรุปว่าการสร้างสนามดาบคงทำให้ริมเมอร์เป็นบ้า เบอร์เรนก็เข้ามาด้านหลังเขา
"เขาพนันไง”
"ฮะ?"
“คนพูดกันทั่วว่าเขาเปิดพนันระหว่างการดวลดาบของนายกับราเดน แล้วเขาก็ชนะและได้รางวัลมากมายเพราะคนพนันข้างนายน้อยมาก”
เบอร์เรนขมวดคิ้ว เหมือนว่าเบอร์เรนจะหงุดหงิด เขาพึมพำว่าเขาอยากจะเข้าไปควักลูกตาออก
'เอาอีกแล้วสินะ’
ราอนหัวเราะ เขากำลังสงสัยว่าทำไมริมเมอร์ถึงสวมเครื่องประดับแบบนั้น และมันเป็นเพราะว่าเขาพึ่งได้มาจากการพนันชนะ
การพนัน ดื่มเหล้า และเกียจคร้าน เขาตรงกันข้ามกับเอลฟ์แบบที่เขาเคยได้ยินมาก่อนโดยสิ้นเชิง เขาน่าทึ่งมาก
เจ้าสารเลวหูแหลมที่เย่อหยิ่งนั่น
ราธกัดฟันขณะมองไปที่ริมเมอร์
'มีอะไรเหรอ?'
ข้ารู้สึกโกรธทุกครั้งที่เห็นหน้ามัน ร่างกายของเจ้าจะเป็นของข้าถ้ามันไม่อยู่ที่นั่น…
'ฮ่าๆ’
ราอนพยักหน้า ต้องขอบคุณริมเมอร์ที่ปรากฏตัวในช่วงเวลาวิกฤติระหว่างการต่อสู้กับปีศาจกระหายเลือด
ดูเหมือนว่าตอนนี้ราธจะเกลียดเขาสุดๆ แล้ว
แต่ราอนรู้ถึงนิสัยที่แท้จริงของริมเมอร์
แม้ว่าภายนอกเขาจะดูเป็นคนขี้เกียจไร้ประโยชน์ แต่เขาก็จับตามองเด็กฝึกหัดทุกคนอย่างระมัดระวังและสั่งสอนพวกเขาด้วยการฝึกฝนที่เหมาะสม
ราอนจึงสามารถมองข้ามการชอบเล่นพนันของเขาได้
"น่าสงสารจัง"
มาร์ธาตบไหล่เขาอย่างนิ่งๆ แล้วเดินหนีริมเมอร์ที่คุยโวเรื่องแหวนบนมือของเขา
ราอนหันหน้าไปทางเสียงจมูกจากด้านหลังเขา รูนันอยู่ที่นั่นก่อนที่เขาจะรู้ตัว เธอโบกมือมาที่เขา
ราอนมองสำรวจเด็กฝึกหัดในสนามฝึก
เขาจำได้ว่าพวกเขาเชียร์และตะโกนชื่อเขาในการดวลดาบ เสียงของพวกเขาทำให้หัวใจของเขาอบอุ่นมาก
ดูเหมือนว่าผู้คนในสนามฝึกที่ห้าก็มีความสำคัญสำหรับเขาเช่นกัน
“เอาล่ะ มากันครบหรือยัง?”
ริมเมอร์เลิกคุยโวเรื่องอัญมณีของเขาเหมือนเศรษฐีรุ่นใหม่แล้วปรบมือ
จากนั้นอาจารย์ที่อยู่ข้างหลังเขานำกล่องโลหะออกมาข้างหน้า
ปึก!
ดินกระจัดกระจายไปทั่วขณะที่กล่องถูกวางลงบนพื้น
“ลองเดาสิว่านี่คืออะไร”
“ของรางวัลจากการพนัน?”
"โอ้ะ ถูกต้อง!”
ริมเมอร์พยักหน้าอย่างภาคภูมิใจกับคำตอบของเบอร์เรน
“เฮ้อ พวกเราเห็นมันมาเยอะแล้ว ดังนั้นหยุดอวดแล้วเริ่มฝึกฝนกันเถอะครับ”
"อ๊ะๆ นี่เป็นของสำหรับพวกเธอทุกคน”
ริมเมอร์ลงมาจากเวทีด้วยรอยยิ้มกว้าง เขาเดินมาที่กล่องและวางมือลงบนกล่อง
"ครับ? ของพวกเราเหรอ?”
"กล่องนั่นเหรอคะ?”
“หมายความว่าไงครับ...?”
พวกเขามองไปมาระหว่างริมเมอร์กับกล่อง
“ราชาแห่งการพนันได้เดิมพันของไว้สองอย่าง อย่างแรกคือเงินพวกนี้! เงินจำนวนมหาศาลพวกนี้! อัญมณีพวกนี้! ฮ่าๆๆ!”
ริมเมอร์เรียกตัวเองว่าเป็นราชาแห่งการพนันและอวดเรื่องแหวนอีกครั้ง
“และอย่างที่สอง…”
เขาเปิดกล่องในขณะที่หัวเราะคิกคัก กลิ่นยาที่ชัดเจนซึ่งช่วยปลอบประโลมจิตใจก็ฟุ้งกระจายออกมาจากกล่องนั้น
ราอนขมวดคิ้วและมองไปที่กล่อง ภายในกล่องใบใหญ่มีกล่องไม้เล็กๆ หลายสิบกล่อง
'ยาอมฤตเหรอ?'
เมื่อพิจารณาจากรูปร่างที่หรูหราและกลิ่นขมๆ ที่มาจากพวกมัน พวกมันคงเป็นยาอมฤตแน่นอน
"นี่คือยาอมฤต”
ริมเมอร์ตอบกลับความอยากรู้ของเด็กฝึกหัดทันที
"ยาอมฤต?”
"ทั้งหมดเลยเหรอ?”
“ดูเหมือนจะมีมากกว่าสี่สิบอันนะ…”
เหล่าเด็กฝึกหัดอ้าปากค้างเมื่อได้เห็นข้างใน
“ใช่แล้ว แล้วก็ทำมาจากหญ้าสิบแฉกด้วยนะ”
* * *
* * *
"หญ้าสิบแฉก!”
“ทั้งหมดเลยเหรอ?”
"ว้าว...”
หญ้าสิบแฉกเป็นสมุนไพรที่ใบของมันแยกออกเป็นสิบแฉก มันเป็นยาอมฤตอันล้ำค่าที่สามารถทำความสะอาดร่างกาย ศูนย์พลังงาน และวงจรมานาได้ในเวลาเดียวกัน
แต่ยาจากหญ้าสิบแฉกก็มีราคาแพงมากและหายากมาก และข้างหน้าพวกเขายังมีถึงสี่สิบอัน มันเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะประหลาดใจ
“มันเป็นของพวกเธอแล้ว”
ริมเมอร์เชิดหน้า เขาชี้นิ้วไปที่กล่องด้วยสีหน้าพึงพอใจ
“ฉันเตรียมไว้สี่สิบสามอันพอดี ดังนั้นหนึ่งอันต่อคนนะ”
“เอ๋?”
"จ-จริงเหรอ? มันเป็นของเราจริงๆ เหรอ?”
"ฮะ?"
“หือ?”
ไม่ใช่แค่เด็กฝึกหัดเท่านั้น แม้แต่เบอร์เรนและมาร์ธาก็อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ รูนันยืนนิ่งแต่พยายามดมกลิ่นยาอมฤตราวกับลูกหมา
“ทำไมถึงไม่เชื่อล่ะ?”
ริมเมอร์เดาะลิ้นแล้วโยนกล่องยาอมฤตไปที่ราอน
กึก
ราอนเปิดกล่องยาอมฤตด้วยความสับสน ข้างในมีเม็ดยาสีเขียวขนาดเท่านิ้วโป้งของผู้ใหญ่
“มันคือยาอมฤตสิบเมฆา ปริมาณมานาที่บรรจุอยู่นั้นไม่ได้ธรรมดา มันบริสุทธิ์พอๆ กับมานาดิบเลย มันจะช่วยพวกเธอทุกคนได้แน่”
ริมเมอร์ขว้างกล่องยาอมฤตให้เด็กฝึกหัดขณะอธิบายเกี่ยวกับยาอมฤตสิบเมฆา
"เอามาจากไหนกัน?”
เบอร์เรนขมวดคิ้วตรวจดูยาอมฤตสิบเมฆา แค่เพราะมีเงินมากมายก็ไม่ได้แปลว่าจะซื้อยาอมฤตได้ เขาไม่รู้ว่าริมเมอร์ได้มาตั้งสี่สิบสามอันได้ยังไง
"ฉันชนะมาไง”
“อ-อาจารย์ได้มาจากการพนันจริงๆ เหรอครับ?”
“มันไม่ใช่การพนันส่งๆ แต่เป็นการเดิมพันด้วยสายตาอันแหลมคมของฉัน เข้าใจนะ”
ริมเมอร์โบกมือเพื่อปิดฝากล่อง
"อาจารย์เดิมพันกับใครกันครับ...?”
"เจ้านายของพระราชวังต่อสู้จริงไง”
เขาตอบแบบสบายๆ เหมือนมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
“ห๊า?”
"น-นั่นมัน..."
"ท่านบัลเดอร์ ซีกฮาร์ท!”
"อ้า!”
ใบหน้าของเด็กฝึกหัดซีดลงทันที บางคนก็เผลอทำยาอมฤตตกลงบนพื้น
"อ๋อ ไม่เป็นไรหรอกนะ พวกเขาไม่ได้สนใจหรอก พวกเขาคงคิดว่าฉันจะขายพวกมันทั้งหมดออกไป ดังนั้นจะไม่มีอันตรายใดๆ เกิดขึ้นแน่นอน”
ริมเมอร์ให้ความมั่นใจกับพวกเขาและบอกให้พวกเขาเอายาอมฤตไปและฝึกฝนออร่าของพวกเขาไปตลอดทั้งวัน
'อ่า...'
ราอนอ้าปากค้าง เขาได้รับยาอมฤตสี่สิบสามอันจากการเดิมพันกับบัลเดอร์ที่เป็นเจ้านายของพระราชวังต่อสู้จริง เอลฟ์ตนนี้ทำตัวพิสดารสมกับเป็นเขามากจริงๆ
“ขอบคุณครับ”
แต่เขาก็ต้องแสดงความขอบคุณ ราอนโค้งคำนับให้ริมเมอร์พร้อมขอบคุณเขา
"ข-ขอบคุณครับอาจารย์”
"ขอบคุณมากเลยครับ"
เด็กฝึกหัดทำตามราอนอย่างตื่นเต้นและแสดงความขอบคุณ
"อืมๆ เข้าใจแล้วล่ะ เข้าใจแล้ว”
ริมเมอร์ยิ้มกว้างและโบกมือ
“ขอบคุณครับ”
“ขอบคุณ”
เบอร์เรนไม่ได้แสดงสีหน้าบูดบึ้งและโค้งคำนับ ส่วนมาร์ธาก็ก้มหัวลงขณะจับๆ ลูบๆ กล่องยาอมฤต
ยาอมฤตนั้นน่าทึ่งมากที่ทำให้คนแปลกประหลาดเหล่านั้นมีปฏิกิริยาแบบเดียวกันได้
“ถ้าอย่างนั้นก็แยกย้ายไปได้แล้ว ฉันเกือบลืมบอกไปเพราะว่าเมาค้าง แต่ถ้ารีบกินมันทันทีก็น่าจะดีกว่า”
ริมเมอร์โบกมือของเขา ดูเหมือนว่าเขาอยากกลับไปพักผ่อนแล้ว
เขาทำตัวหน้าหมั่นไส้เช่นเคยแต่ไม่มีใครตำหนิเขา วันนี้ริมเมอร์เป็นวีรบรุษสำหรับพวกเขา
“ขอบคุณครับ/ค่ะ”
เด็กฝึกหัดได้ขอบคุณเขาอีกครั้งหนึ่งก่อนกลับไป
"เดี๋ยวก่อนสิ”
ขณะที่ราอนกำลังจะตามพวกเขาไป ริมเมอร์ก็คว้าไหล่ของราอนพร้อมกับใบหน้าเขียวๆ
"สีหน้าไม่ค่อยดีเลยนะครับ”
“เอ่อ เมื่อวานฉันดื่มเยอะไปหน่อยน่ะ”
ไม่ใช่แค่ริมเมอร์เท่านั้น ใบหน้าของอาจารย์คนอื่นๆ ก็เป็นสีเขียวเช่นกัน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะดื่มกันมากเกินไป
"เอาคืนมา”
ริมเมอร์ชี้ไปที่กล่องยาอมฤตที่ราอนถืออยู่
"อันนี้ต่างหากของเธอ”
เขาหยิบกล่องยาอมฤตอีกกล่องออกมาแล้วเปิดฝา กลิ่นของมันรุนแรงกว่ายาอมฤตสิบเมฆาเสียอีก
"นี่มัน…"
“มันทำมาจากหญ้าสิบแฉกสองอัน ที่จริงแล้วมันจะเป็นของราเดน แต่โชคชะตาทำให้เธอเป็นคนได้มันไป”
"ให้ผมแล้วจะไม่เป็นไรเหรอครับ?”
“ฉันรวยได้ก็เพราะเธอ ในที่สุดฉันก็ค้นพบพรสวรรค์ด้านการพนันของฉันแล้ว”
ริมเมอร์โบกมืออีกครั้ง เสียงแหวนและกำไลราคาแพงที่ปะทะกันดังขึ้น
'เดี๋ยวมันก็จะหายไปจนหมด’
ราอนมั่นใจว่าริมเมอร์จะสูญเสียทรัพย์สมบัติทั้งหมดจากการพนันในไม่ช้านี้
"สิบเมฆาเป็นยาอมฤตที่มีประสิทธิภาพมาก เธอน่าจะสามารถดูดซับมานาได้อย่างน้อยห้าสิบเปอร์เซ็นต์ของมานาของมัน แต่ปริมาณมานาที่มีอยู่ในนั้นค่อนข้างน้อย มันเลยไม่น่าสร้างความแตกต่างมากเท่าไหร่ เพราะเธอมีออร่าสองธาตุ”
ริมเมอร์ลดเสียงลงเมื่อเอ่ยถึงออร่าสองธาตุ เพื่อไม่ให้ใครได้ยินเขา
“อันนี้มีมานาเป็นสองเท่าของสิบเมฆาอันอื่นๆ ดังนั้นเธอจะสามารถพัฒนาได้ทั้งไฟและน้ำแข็ง”
“...ขอบคุณครับ”
ราอนโค้งคำนับ แค่ให้ยาอมฤตกับเขานั้นก็ดีอยู่แล้ว แต่เขาก็ยังให้มากกว่านั้นอีก แค่ขอบคุณเขาก็คงไม่พอ
"ไปได้แล้ว ค่อยเจอกันพรุ่งนี้”
ริมเมอร์โบกมือ
“ดื่มแต่พอดีนะครับอาจารย์”
“โอ้ เธอเป็นห่วงฉันเหรอ? มันยังเร็วเกินไปนะ!”
เขาแตะไหล่แล้วไปที่ห้องพักของตัวเอง
“…”
ราอนลูบกล่องที่บรรจุยาสิบเมฆาเอาไว้ ขณะที่มองไปตามหลังริมเมอร์
'การมีอาจารย์รู้สึกแบบนี้เหรอ…?'
ในชีวิตที่แล้วเขาก็มีอาจารย์ แต่ความสัมพันธ์ของเขากับอาจารย์นั้นเมือนกับคนเลี้ยงสัตว์และสุนัข
อาจารย์ผู้สอนไม่มีความรู้สึกใดๆ กับเขา ส่วนราอนมีแต่ความเกลียดชังต่อเขาเท่านั้น
'ฉันเคยคิดว่าที่นี่ก็ไม่ต่างกัน'
ตระกูลซีกฮาร์ทมีชื่อเสียงโด่งดังในทวีปนี้ ดังนั้นเขาจึงคิดว่าเด็กฝึกหัดจะถูกเลี้ยงดูมาเหมือนสุนัข อย่างไรก็ตาม เด็กๆ ได้รับการเลี้ยงดูมาให้เป็นมนุษย์ โดยรักษานิสัยส่วนตัวไว้
แม้แต่คนที่สอบไม่ผ่านก็ไม่ถูกละทิ้งและได้ไปฝึกฝนในสนามฝึกอื่นแทน ซีกฮาร์ทเต็มไปด้วยความเป็นมนุษย์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งริมเมอร์ เขาเป็นมากกว่าอาจารย์ทั่วไป เขาทำให้เขาได้รับความสำเร็จเหล่านั้นและเติบโตเร็วกว่าที่เคยเป็นมา
ราอนโค้งคำนับไปทางริมเมอร์อีกครั้งก่อนที่จะออกจากสนามฝึก
***
หลังจากการงีบหลับเป็นเวลาสามชั่วโมงในห้องพัก ,ริมเมอร์ก็ไปเยี่ยมคฤหาสน์ของหัวหน้าตระกูลในตอนเที่ยง
"ไม่ได้พบกันนานนะครับ”
โรเอ็นเปิดประตูห้องห้องโถงพร้อมด้วยรอยยิ้มกว้าง
"ใช่ ไม่เจอกันนานเลย”
ริมเมอร์ยิ้มและชูมือทั้งสองขึ้น โรเอ็นยิ้มเล็กน้อยเพื่อแสดงว่าเขาไม่สนใจและเข้าไปในห้องโถง
“อืม…”
ริมเมอร์ทำหน้ามุ่ย ผิดหวังกับโรเอ็นที่ไม่สนใจอัญมณีแวววาวพวกนั้น เขาถอนหายใจเบาๆ แล้วเดินตามเข้าไปข้างใน
เกล็นก็เป็นเหมือนเคย เขานั่งอยู่บนบัลลังก์ที่เขาสร้างขึ้นเองและมองดูโลกด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย
"ทักทายครับท่านลอร์ด!”
ริมเมอร์โค้งคำนับ นิ้วทั้งสิบของเขาและแม้แต่ข้อมือของเขาชูขึ้นกลางอากาศ
“ยิ่งแก่ยิ่งทำตัวเลอะเทอะ”
“หา…”
ริมเมอร์ขมวดคิ้วกับคำพูดไร้สาระของเขาและลุกขึ้นยืน
“นายควรชื่นชมคนใต้บังคับบัญชาที่ชนะรางวัลมาสิ ไม่ใช่ทุกวันหรอกนะที่ฉันจะเอาเงินจากพรมเช็ดเท้ามาได้ขนาดนี้”
“จะให้ชมแกได้ยังไง ในเมื่อพรมเช็ดเท้านั่นเป็นลูกชายของฉัน”
“แพ้ให้ฉันดีกว่าโดนคนอื่นโกงทีหลังไง”
"พูดเก่งจังนะ”
เกล็นยกคางขึ้นด้วยสายตาที่น่ากลัว
“แล้ววันนี้แกมาที่นี่ทำไม”
“ฉันเอายาอมฤตสิบเมฆาให้กับเด็กๆ แล้ว”
“ไม่คิดเลยว่าคนอย่างแกจะทำแบบนั้น”
“เพราะพวกเขาเติบโตได้ดีกว่าที่ฉันคาดไว้ ฉันจึงอยากป้อนอาหารที่ดีกว่าแก่พวกเขา นี่คงเป็นความรู้สึกที่พ่อแม่มีต่อลูก ๆ ล่ะมั้ง”
ริมเมอร์หัวเราะคิกคัก และเกล็นก็มองเขาอย่างสงสัย
“หลักๆ แล้วเป็นเพราะการสอนของฉันยอดเยี่ยมที่สุด แต่เด็กฝึกหัดของฉันเองก็แข็งแกร่งกว่ารุ่นอื่นๆ เพราะผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มามากมาย”
เกล็นพยักหน้าเห็นด้วย
“เพราะฉะนั้นฉันมีข้อเสนอ”
"ข้อเสนอ? ฉันปล่อยเด็กไว้กับนายแล้วนี่”
“เพราะมันไม่เกี่ยวกับการฝึก”
แม้ว่าเสียงของริมเมอร์จะขี้เล่น แต่ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
“ช่วยอนุญาตให้ฉันเปลี่ยนข้อสอบจบของพวกเขาด้วยเถอะนะ”