ตอนที่แล้ว1134 - หยวนกู่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป1136 - ความอัปยศของเทียนหวงจื่อ 

1135 - การตื่นขึ้นของคัมภีร์สถาปนาเทพ(เฟิงเสินปั่ง) 


1135 - การตื่นขึ้นของคัมภีร์สถาปนาเทพ(เฟิงเสินปั่ง)

ใบหน้าของหยวนกู่เริ่มมืดมนมากขึ้นเรื่อยๆ ดวงอาทิตย์สีดำในดวงตาซ้ายของเขาและพระจันทร์สีเลือดในดวงตาขวากำลังปลดปล่อยความกดดันให้ครอบคลุมไปทั่วบริเวณ

“เจ้าก็แค่ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณเท่านั้น มีอะไรให้ภาคภูมิใจ?”

“เลือดของจักรพรรดิโบราณที่ไหลอยู่ในร่างของหยวนกู่สูงส่งมากกว่าตัวเจ้านับพันเท่า เขาเกิดมาเพื่อพิสูจน์เต๋าโดยแท้จริง”

เผ่าพันธุ์โบราณจำนวนมากไม่พอใจและรู้สึกว่าเย่ฟ่านโอหังมากเกินไป ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหนเผ่าพันธุ์โบราณไม่มีทางเชื่อว่าเขาจะเอาชนะหยวนกู่ได้

“ทุกคนห้ามต่อสู้ในทะเลสาบหยกเด็ดขาด มิฉะนั้นเจดีย์จักรพรรดินีตะวันตกจะปลดปล่อยอำนาจแห่งจักรพรรดิและทำลายพวกเจ้าทันที”

ในขณะนั้นมีเสียงดังมาจากท้องฟ้า หญิงสาวผู้งดงามคนหนึ่งปรากฏตัวในความว่างเปล่า นี่คือหญิงงามที่มีรูปร่างอ่อนโยนเต็มไปด้วยเสน่ห์ชวนลุ่มหลง

ผิวของนางขาวราวหยก เปล่งประกายสดใส เป็นความงามที่ไม่มีใครเทียบได้ สตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกมาถึงแล้ว ในขณะนี้ใบหน้าอันงดงามของนางเผยให้ผู้คนมีโอกาสมองเห็นอย่างชัดเจน

การเผชิญหน้าอันตึงเครียดได้รับการแก้ไขภายใต้การปรากฏตัวของหญิงงามที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้คนนี้ สุดท้ายหยวนกู่ก็จ้องมองต้วนเต๋ออย่างดุดันก่อนจะถอยกลับอย่างน่าเสียดาย

กว่าสิบปีที่ไม่ได้พบกันสตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกไม่ใช่หญิงสาวคนเดิมอีกต่อไปแล้ว นางมีความงดงามที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของสตรีที่เติบใหญ่อย่างเต็มที่ แม้แต่จิตใจของเย่ฟ่านก็ยังสั่นสะท้านเล็กน้อย

“ความงามของนางไม่เป็นรองอี้ชิงอู่”

หลี่เทียนก้าวไปข้างหน้าและโบกพัดในมืออย่างสง่างาม เขาแนะนำตัวเองโดยบอกว่าเป็นจ้าวนิกายที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นใหม่

ต้วนเต๋อก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างจริงจัง เขาผลักหลี่เทียนออกไปด้านข้างก่อนจะกล่าวกับสตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกด้วยรอยยิ้ม

“จริงๆ แล้ว มีบางอย่างที่ข้าอยากจะพูดอยู่เสมอ น่าเสียดายที่เมื่อสิบสองปีก่อนไม่มีโอกาสได้พูด แต่ตอนนี้ข้ากลับมาหาเจ้าแล้ว”

แต่ก่อนที่เขาจะมีโอกาสพูดอะไรมากกว่านั้น เย่ฟ่านก็กระชากคอของต้วนเต๋อกลับไปทางด้านหลังก่อนจะปิดผนึกวิญญาณของอีกฝ่ายไม่ให้สามารถเคลื่อนไหวได้

สตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สุดท้ายนางก็ยิ้มให้เย่ฟ่านก่อนจะจากไปอย่างไร้ร่องรอย

“เจ้าอ้วนเจ้ารนหาที่จริงๆ” เย่ฟ่านกล่าวก่อนจะลากต้วนเต๋อไปยังสถานที่ลับตาคน

“มีอะไรเราค่อยพูดค่อยจากันก็ได้ ครั้งต่อไปข้าจะระมัดระวังมากกว่านี้” ต้วนเต๋อตะโกน

“ไม่ ข้าจะไม่ยอมให้เจ้านำร่างกายของข้าไปเล่นอีกแล้ว ไสหัวออกไปไม่เช่นนั้นข้าจะใช้หม้ออสูรกลืนสวรรค์ทำลายวิญญาณของเจ้าทันที!” เย่ฟ่านขู่

ต้วนเต๋อรู้สึกเขินอายเป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายเขาก็ขอต่อรองโดยให้เย่ฟ่านคืนหม้ออสูรกลืนสวรรค์กลับมาก่อน

“หม้อนี้ไม่สามารถคืนให้เจ้าได้ชั่วคราว เพราะเผ่าพันธุ์มนุษย์ของเราไม่มีเซียนผู้ยิ่งใหญ่ปรากฏขึ้น ดังนั้นข้าอาจต้องใช้มันร่วมกับร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณที่บรรลุความเป็นอมตะนี้ต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตอมตะเผ่าพันธุ์โบราณ” เย่ฟ่านกล่าว

ร่างศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นของจริง ขาดเพียงกฎระดับผู้อมตะเท่านั้น หากมันผสานรวมกับพลังการโจมตีของหม้ออสูรกลืนสวรรค์ ความแข็งแกร่งของเย่ฟ่านจะยืนอยู่ในระดับเดียวกันกับสิ่งมีชีวิตอมตะที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างแน่นอน

ในที่สุดเย่ฟ่านได้คืนวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ครึ่งหนึ่งของเขาสู่ร่างกายที่แท้จริง อย่างไรก็ตามเขาไม่กล้าถ่ายโอนวิญญาณกลับไปอย่างเต็มที่ เพราะอาจทำให้เกิดภัยพิบัติสายฟ้าครั้งใหญ่ได้

ดังนั้นวิญญาณอีกครึ่งของเขาจึงยังคงอยู่ในร่างเซียนเพื่อเตรียมจะลงมือในช่วงเวลาจำเป็น

ก่อนที่การชุมนุมใหญ่จะเริ่มขึ้น ทุกเผ่าพันธุ์ต่างก็เริ่มสนทนากันแล้ว ไม่ว่าเย่ฟ่านและคนอื่นๆ จะเดินไปที่ไหนจะมีเผ่าพันธุ์โบราณมากมายกระจายตัวอยู่ที่นั่น

และที่สำคัญที่สุดคือพวกเขาสนทนากันราวกับไม่เห็นเผ่าพันธุ์มนุษย์อยู่ในสายตา

“ดินแดนที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ครอบครองนั้นกว้างใหญ่เกินไป มันเป็นไปไม่ได้ที่จะให้พวกเขาปกครองดินแดนทั้งหมดแบบนั้น ถึงเวลาที่พวกเขาต้องคืนดินแดนบรรพชนให้เราแล้ว”

ในห้องโถงใหญ่ มีเสียงและการทะเลาะวิวาทกันมากมาย นี่เป็นการโต้เถียงเพื่อครอบครองดินแดนที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ปกครองอยู่ อย่างไรก็ตามแทบไม่มีผู้ทรงอำนาจเผ่าพันธุ์มนุษย์นั่งอยู่ในห้องนี้เลย

“ในสมัยโบราณเผ่าพันธุ์มนุษย์ครอบครองดินแดนเพียงเล็กน้อยในโลกนี้ กล่าวตามตรงพวกเรารับประทานมนุษย์เป็นอาหารด้วยซ้ำ!”

เผ่าพันธุ์โบราณบางกลุ่มกล่าวด้วยคำพูดที่ครอบงำอย่างยิ่ง

“ใช่แล้ว ในสมัยนั้นเมื่อทุกเผ่าพันธุ์ยืนเคียงข้างกันเผ่าพันธุ์มนุษย์เป็นเพียงชาติพันธุ์ที่ต่ำต้อย พวกเขาพยายามเข้าหาเราเพื่อขอความพึ่งพิงเท่านั้น แต่เมื่อยุคโบราณผ่านพ้นไปโลกใบนี้กลับกลายเป็นโลกมนุษย์โดยสิ้นเชิง”

เย่ฟ่านเดินเข้ามาในห้องประชุมโดยมีร่างกายที่แท้จริงของเขาอยู่ข้างหน้าและร่างเซียนยืนอยู่ข้างหลัง อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ปลดปล่อยแรงกดดันในระดับเซียนออกไป

“ตอนนี้เผ่าพันธุ์โบราณทั้งหมดของเราตื่นขึ้นแล้ว มันถึงเวลาที่เราต้องได้รับดินแดนบรรพชนของเรากลับคืนมา!”

สิ่งมีชีวิตโบราณหัวเราะเยาะ ในตอนแรกการประชุมครั้งนี้มีขึ้นเพื่อสร้างสันติขึ้นในโลกและรวมตัวกันต่อต้านอำนาจของพระพุทธเจ้าโต้วจ้านแห่งเขาพระสุเมรุ

อย่างไรก็ตามด้วยนิสัยเดิมของพวกเขาที่ไม่เคยเห็นมนุษย์อยู่ในสายตา ทันทีที่กลับมารวมตัวกันอีกครั้งพวกเขาก็แสดงความหยิ่งผยองออกมาเต็มที่ และลืมไปเลยว่าจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้ตื่นขึ้นแล้ว

ท่ามกลางภูเขาสีดำตระหง่าน รัศมีแห่งความกดดันแผ่กระจายไปทั่วภาคกลางของตงหวงราวกับสายฟ้า หน้าผาศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ติดกับภาคเหนือถูกย้อมเป็นสีดำสนิทจากเลือดของผู้ยิ่งใหญ่ที่ตายไปตั้งแต่เมื่อหลายแสนปีก่อน

ในขณะเดียวกันร่างไร้วิญญาณที่นอนอยู่ในโลงศพซึ่งแขวนอยู่เหนือหน้าผาศักดิ์สิทธิ์ก็มีความเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้น

ในเวลานี้ ม้วนคัมภีร์โบราณสีทองที่ถูกผนึกไว้บนหน้าผาศักดิ์สิทธิ์ส่องแสงเจิดจ้า มันสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงก่อนจะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

นี่เป็นม้วนคัมภีร์ที่ยาวและเปล่งประกายแวววาวราวกับถูกสร้างขึ้นมาจากทองคำศักดิ์สิทธิ์ ในอดีตมันเป็นคัมภีร์ที่จักรพรรดิอู่ซือเขียนขึ้นและถูกปิดผนึกไว้บนหน้าผาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้นานหลายแสนปีแล้ว

การทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าของคัมภีร์สถาปนาเทพได้ทำให้หน้าผาสีดำสนิทพังทลายลงครึ่งหนึ่ง ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ครั้งนี้ต่างคุกเข่าลงกับพื้นและสวดภาวนาด้วยความหวาดกลัว

ในทะเลสาบหยกทุกเผ่าพันธุ์ยังคงโต้เถียงกันอย่างบ้าคลั่ง พวกเขามองไม่เห็นเผ่าพันธุ์มนุษย์อยู่ในสายตา โดยเฉพาะเมื่อเห็นว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์มีเพียงเทพสงครามคนเถื่อนที่เป็นสิ่งมีชีวิตอมตะคนเดียว พวกเขายิ่งไม่มีความเกรงใจใดๆ

ทันทีที่เย่ฟ่านเข้าเดินเข้ามาในห้อง หยวนกู่และคนอื่นๆ ก็ลุกขึ้นยืนและก้าวเข้าหาพวกเขาทันที

เทียนหวงจื่อยืนขึ้นและเยาะเย้ย “ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่าจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ซึ่งเสียชีวิตไปหลายแสนปีแล้วฟื้นคืนชีพกลับคืนมาอีกครั้ง นี่เป็นเรื่องไร้สาระที่สุดเท่าที่ข้าเคยได้ยินมา!”

แน่นอนว่าเมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวออกมาความสนใจของทุกคนในห้องโถงก็มุ่งไปที่เทียนหวงจื่อทันที

“ต่อให้เป็นจักรพรรดิที่แข็งแกร่งที่สุดก็ไม่สามารถอยู่ได้เกินหมื่นปี นับประสาอะไรกับการที่อู่ซือเป็นสิ่งมีชีวิตตั้งแต่เมื่อหลายแสนปีก่อน!”

เมื่อได้รับความสนใจจากผู้คนมากมายเทียนหวงจื่อก็มีความกล้าหาญมากขึ้น เขาก้าวไปข้างหน้าอย่างมุ่งมั่นพร้อมกับโบกพัดในมือด้วยท่าทางสบายๆ

“เจ้ามีความกล้าพิสูจน์เรื่องนี้หรือ?” ในที่สุดยอดฝีมือฝ่ายมนุษย์ไม่สามารถอดกลั้นได้

“ตราประทับที่บิดาของข้าทิ้งไว้ในภูเขาจักรพรรดิทำให้ข้ามองเห็นสถานการณ์ภายในภูเขาได้อย่างชัดเจน ข้าอยู่ในภูเขาจักรพรรดิมาหลายล้านปีแล้วและข้าสามารถบอกได้ว่าอู่ซือตายไปแล้วอย่างแน่นอน ซากศพของเขาพังทลายลงอย่างสมบูรณ์ตั้งแต่เมื่อแปดหมื่นปีก่อน!”

“แม้ว่าข้าจะไม่ฟื้นคืนสติอย่างเต็มที่แต่ข้าก็รู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น เขาเสียชีวิตบนแท่นเต๋า รัศมีพลังที่แผ่ออกมาก่อนตายของเขานั้นเพียงพอที่จะสั่นสะเทือนทั้งสวรรค์พิภพอย่างแน่นอน!”

หลังจากที่คำพูดของเทียนหวงจื่อจบลงทั้งห้องโถงก็เงียบสนิททันที

“เผ่าพันธุ์มนุษย์ข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้าใช้กลอุบายใดในการทำให้ระฆังปราศจากจุดเริ่มต้นดังขึ้นอีกครั้ง แต่ข้ารู้ว่าพวกเจ้ากำลังหวาดกลัว นั่นก็เพราะอู่ซือได้ตายไปแล้วจริงๆ!”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ผู้บ่มเพาะเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างก็เกิดความหวาดกลัวจับใจ

“ไร้สาระ เจ้าจะรู้ได้อย่างไรในเมื่อเจ้ายังไม่เกิด” ผู้บ่มเพาะเผ่าพันธุ์มนุษย์ตะโกนด้วยความโกรธ

“สุสานบิดาเจ้าถูกยึดครองโดยจักรพรรดิอู่ซือ ด้วยความแค้นนี้เจ้าจึงพยายามกระตุ้นให้สองเผ่าพันธุ์ทำสงครามกันใช่หรือไม่?”

ในขณะที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้ เผ่าพันธุ์โบราณทั้งหมดกลับตื่นเต้นอย่างถึงที่สุด

“องค์ชายนี่เป็นเรื่องจริงหรือ?”

“อู่ซือกลายเป็นเถ้าถ่านไปตั้งแต่แปดหมื่นปีก่อน” เทียนหวงจื่อยืนยัน

ในขณะที่เผ่าพันธุ์โบราณกำลังตื่นเต้นอย่างถึงที่สุดกลับมีใครบางคนตะโกนออกมาจากด้านนอกของทะเลสาบหยก

“อู่ซือ...จักรพรรดิอู่ซือ...ยังมีชีวิตอยู่!”

ผู้ที่ตะโกนคำพูดนี้คือราชาบรรพชนโบราณที่มีร่างกายแก่ชราอย่างน่าเหลือเชื่อ ในขณะนี้น้ำเสียงของเขาสั่นสะท้านอย่างไม่อาจควบคุมความหวาดกลัวได้

“เกิดอะไรขึ้น?”

เมื่อเห็นสีหน้าของราชาบรรพชนโบราณคนนี้ ราชาบรรพชนโบราณแห่งสันเขาเสิ่นคาน ภูเขาหงส์ร่วงหล่นและถ้ำโหวหลินเริ่มบิดเบี้ยวเล็กน้อย

“โลกภายนอกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย จักรพรรดิอู่ซือฟื้นคืนชีพแล้ว! คัมภีร์สถาปนาเทพของเขากำลังเคลื่อนตัวผ่านภาคเหนือเป้าหมายของมันเห็นได้ชัดว่าเป็นดินแดนของเรา!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด