บทที่ 90 สองการแจ้งเตือน
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 90 สองการแจ้งเตือน
[คะแนนชื่อเสียงจากนิค ฟิวรี่ +235]
[คะแนนชื่อเสียงจากนาตาชา โรมานอฟฟ์ +185]
ในร้านขายของเก่า ไรอันมองไปที่ข้อความแจ้งเตือนสองอันที่ปรากฏบนหน้าจอระบบและก็ได้แต่เลิกคิ้วขึ้น
“มีอะไรงั้นเหรอ?”
เจสซิก้าเงยหน้าขึ้น สังเกตเห็นสีหน้าของไรอันจึงได้ถามออกมา
“ไม่มีอะไรหรอก” ไรอันก้มศีรษะลงเพื่อปกปิดสีหน้าของเขา วางหนังสือพิมพ์ลงและมองไปที่เจสซิก้า
ตั้งแต่อีกฝ่ายเข้ามาในร้าน เธอก็ดื่มราวกับว่าเธอเอาร้านขายของเก่าของเขามาเป็นบาร์ของตนเอง
เจสซิก้าชำเลืองมองเนื้อหาของหนังสือพิมพ์ ในหน้ากระดาษหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ได้ให้ทั้งหน้าเป็นของวิลสัน ฟิสก์ ผู้ประกอบการและผู้ใจบุญที่มีชื่อเสียงในนิวยอร์ก ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีการกระทำที่ผิดกฎหมายจำนวนมาก รวมถึงอาชญากรรมหลายอย่างเช่นการเป็นหัวหน้ากลุ่มหัวรุนแรงและการติดสินบนในการเลือกตั้ง เอฟบีไอได้จับตัวเขาและพบหลักฐานมากมาย ในไม่ช้า วิลสันก็จะถูกตัดสินจำคุก
เจสซิก้าถอนสายตาออกไปอย่างเงียบๆ เจสซิก้ารู้ดีว่าทางหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ตีข่าวได้ไม่เท่ากับสิ่งที่เธอรู้มา
หลักฐานส่วนใหญ่ที่เปิดเผยอาชญากรรมของคิงพินนั้นล้วนมาจากเดอะแฮนและมาดามเกา
ผู้นำที่รอดชีวิตเพียงคนเดียวของเดอะแฮน ไม่เพียงแต่ทรยศต่อเทพเมฆาอัคคี แต่ยังทรยศต่อคิงพินด้วย
กระทั่งเจสซิก้าก็รับรู้ได้ว่ามาดามเกาไม่ได้ทำด้วยเหตุผลอันชอบธรรมหรอก ทว่าในท้ายที่สุด แมตต์ก็เลือกที่จะยอมรับข้อตกลงและใช้มันเพื่อเปิดโปงอาชญากรรมของคิงพิน บังคับให้หัวหน้าอาชญากรแห่งนิวยอร์กเข้าตารางไป
เธอส่ายศีรษะ กวาดความคิดที่ซับซ้อนในใจออกไป
ในความเป็นจริง ด้วยการตายของเทพเมฆาอัคคีและความพ่ายแพ้ของเดอะแฮน ดีเฟนเดอร์สจึงได้สลายตัวกันไป แมตต์กลับไปมีชีวิตในฐานะทนายความในตอนกลางวันและผู้ผดุงความยุติธรรมในตอนกลางคืนของย่านเฮลคิทเช่น ลุคก็กลับไปที่ย่านฮาร์เล็มเพื่อทำงานต่อในฐานะพนักงานทำความสะอาดของร้านตัดผมธรรมดา
แดนนี่หวังว่าทั้งกลุ่มจะช่วยเขาในการตรวจสอบสิ่งที่เทพเมฆาอัคคีกล่าวก่อนที่เขาจะตาย แต่เจสซิก้าก็ปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา เพราะหากไปสืบเสาะแต่เรื่องในอดีตคงจะแย่เกินไป อีกทั้งการพักผ่อนหลังศึกหนักย่อมเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
“ขอโทษด้วยนะ”
หลังจากนั้นไม่นาน เจสซิก้าก็พูดกับไรอัน
"เรื่องอะไรเหรอ?"
แม้เขาจะรู้เหตุผลของเจสซิก้าที่เข้ามาขอโทษ แต่ไรอันก็แสร้งทำเป็นสับสน
"ฉันพูดถึงเรื่องของเวสลีย์ เพราะการต่อสู้ในไชน่าทาวน์ เขาก็เลย..."
"สำหรับภาคี ความตายไม่ใช่จุดจบของทุกสิ่ง ยิ่งไปกว่านั้น เราก็พอรู้เกี่ยวกับการต่อสู้ในไชน่าทาวน์บ้างแล้ว ผลก็คือเวสลีย์เสียชีวิตลง แต่เขาก็ช่วยผู้คนจำนวนมากด้วยการต่อสู้ของเขา"
คำพูดของไรอันนั้นเหมือนช่วยปลอบประโลมเธอ แต่ก็ไม่สามารถระบายความทุกข์ใจทั้งหมดของเจสซิก้าไปได้ เธอขมวดคิ้วและหยิบเหล้าขึ้นมากระดกอย่างแรง รสชาติเผ็ดร้อนของเครื่องดื่มในขวดไม่สามารถระงับความขมขื่นในใจของเธอได้ "แต่ถึงยังไงมันก็เป็นความผิดของฉันอยู่ดี"
เจสซิก้าชำเลืองมองสุราที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งบนเคาน์เตอร์และก็เลิกคิ้วเรียวยาวขึ้น "คือถ้าฉันยังต้องการความช่วยเหลือจากภาคีในอนาคต พวกนายจะยังช่วยฉันอีกไหม?"
'แน่นอนอยู่แล้วสิ ทำไมฉันถึงต้องปฏิเสธคะแนนชื่อเสียงที่มาถึงหน้าบ้านด้วยความเต็มใจกันเล่า?'
ไรอันตอบในใจอย่างมีความสุข แต่ภายนอกเขายังทำหน้านิ่งตอบกลับไป "การเคลื่อนไหวของภาคีไม่ใช่การต่อสู้เพื่อใครบางคนอยู่แล้ว ก็เช่นเดียวกับที่เวสลีย์ยินดีที่จะออกไปช่วยเหลือเพราะความเชื่อของเขาเอง ดังนั้นหากคุณกำลังเผชิญกับตัวตนชั่วร้ายแบบเดอะแฮน แน่นอนว่าภาคีของเราพร้อมช่วยเหลือเสมอ"
[คะแนนชื่อเสียงจากเจสซิก้า โจนส์ +200]
"ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้เลย"
คำพูดของไรอันทำให้หัวใจของเจสซิก้าแปรปรวนไปชั่วขณะ เธอเลื่อนสายตาไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะพูดต่อ "จากนี้ไปฉันคงเป็นเพียงนักสืบเอกชนธรรมดาในย่านเฮลคิทเช่น ให้ฮีโร่เล่นบทฮีโร่ไปเถอะ"
"ผมก็หวังว่าจะเป็นไปตามที่คุณต้องการ"
"ไม่ใช่แค่หวังสิ ฉันมั่นใจเลยล่ะว่าจะหยุดแล้ว!"
เจสซิก้าคว้าขวดเหล้าตรงหน้าเธอ มองตรงไปที่ไรอันและกล่าวออกมาอย่างแน่วแน่
"ยิ่งคุณพูดแบบนี้กับผมมากเท่าไร เดี๋ยวคุณก็อาจจะกลืนคำพูดตัวเองเอานะ"
ไรอันส่ายศีรษะ มองดูเจสซิก้าที่ออกจากร้านขายของเก่าไป เขาพลิกหนังสือพิมพ์ในมือและเห็นอีกด้านของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ พื้นทีข่าวมีขนาดใหญ่กว่าของคิงพินเมื่อครู่ อาจเพราะมันเป็นเหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับทั้งเมืองนิวยอร์กและแม้แต่กองทัพสหรัฐก็ถูกรายงานด้วย
โทนี่ สตาร์ค เจ้าของบริษัทสตาร์กอินดัสตรีส์ อัจฉริยะผู้โด่งดังและเพลย์บอยแห่งนิวยอร์ก...
เมื่อไม่กี่วันก่อน ระหว่างการเดินทางไปอัฟกานิสถานเพื่อนำเสนออาวุธใหม่ของบริษัท เขากลับถูกโจมตีโดยกองกำลังติดอาวุธในพื้นที่ ตอนนี้ยังไม่ทราบที่อยู่ของเขาแน่ชัด ด้วยเหตุนี้กองทัพจึงระดมกำลังค้นหาและกู้ภัยอย่างเร่งด่วน ในขณะเดียวกัน โอบาไดอาห์ สเตนผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับสองของสตาร์คอินดัสตรีส์ก็จัดงานแถลงข่าวเช่นกัน เขาแสดงความหวังว่ากองกำลังทั้งหมดจะพบตัวและพาโทนี่กลับมาอย่างปลอดภัย
ทว่าคนในวงในบางคนก็เปิดเผยว่าความเป็นไปได้ที่โทนี่ สตาร์คจะรอดชีวิตนั้นต่ำมาก มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเขา
'ในที่สุด อีกไม่นานไอรอนแมนก็คงจะปรากฏตัวสินะ?'
ข้อความของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ถึงชะตากรรมของโทนี่ สตาร์คนั้นยาวมาก แต่ไรอันที่เพียงปรายตามองก็สามารถเข้าใจทุกอย่างได้ในทันที
'ถ้าอย่างนั้นฉันก็ต้องรีบจัดการบางอย่างแล้วสิ'
ขณะที่เขาคิดเช่นนั้น ไรอันก็หรี่ตาลงกไปมองหน้าจอของระบบ
[คะแนนชื่อเสียง]: 23457
คะแนนมากกว่า 20,000 คะแนน มันเป็นคะแนนมากที่สุดที่ไรอันเพิ่งจะเคยเห็นมา
ปัญหาทั้งหมดที่เขาผ่านมา การแต่งเรื่องและสร้างบทละครไม่ใช่การกระทำที่สูญเปล่าเลย
รอยยิ้มแผ่วเบาได้ปรากฏขึ้นที่มุมริมฝีปากของเขา ไรอันมองไปที่คะแนนจำนวนมากในระบบของเขา และเริ่มคิดเกี่ยวกับแผนการครั้งต่อไปของเขา
แต่ยามนี้การเปิดหีบสมบัติเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ด้วยคะแนนชื่อเสียงมากกว่า 20,000 คะแนน เขาก็มีมากพอที่จะแลกเป็น [หีบสมบัติทองแดง] สองกล่องที่มีการ์ดระดับ C อยู่ในนั้น การแสดงก่อนหน้านี้ของเทพเมฆาอัคคีแสดงให้เห็นแล้วว่าการ์ดตัวละครที่ทรงพลังมีประสิทธิภาพในการได้รับคะแนนชื่อเสียงมากกว่าพวกการ์ดระดับล่าง
แต่เขายังจำเป็นต้องรั้งไว้ก่อน เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เร็วเกินไป เพราะตอนนี้ไรอันมีร่างแยกเพียงแค่สองร่างเท่านั้น ก่อนหน้านี้ไรอันเองก็ปรากฏตัวในฐานะยิปมัน เพื่อตั้งเวทีประลองกับเทพเมฆาอัคคี
ที่จริงเขาก็แค่กลัวอันตราย โดยเฉพาะเรื่องของโทนี่ สตาร์ค ไม่นานนักหลังจากที่ไอรอนแมนปรากฏตัวขึ้น ตัวตนต่างๆ มากมายก็จะปรากฏขึ้นในนิวยอร์ก อีกทั้งก่อนหน้านี้จากระบบ ไรอันยังได้รับแจ้งเตือนว่าทางองค์กรชีลด์ได้เริ่มสังเกตเห็นความเสียหายที่เขาก่อขึ้นแล้ว
ด้วยความวุ่นวายทั้งหมดในไชน่าทาวน์ ไรอันก็คิดไว้อยู่แล้วว่าทางองค์กรชีลด์จะสังเกตเห็น
อีกฝ่ายเป็นถึงหน่วยข่าวกรองระดับโลก แม้ว่ามันจะถูกแทรกซึมอย่างน่าขันโดยพวกไฮดร้า แต่อย่ามองข้ามความสามารถในการรวบรวมข่าวกรองที่ยอดเยี่ยมและอาวุธแห่งอนาคตที่พวกเขาซ่อนอยู่เชียว
ถึงยังไงก็เถอะ ตอนนี้องค์กรชีลด์คือปัญหา
แถมเมื่ออีกฝ่ายสังเกตเห็นเขา เรื่องมันก็ชักจะยุ่งยากขึ้นแล้วสิ