บทที่ 37 ยาพิษในไวน์
ในเวลานี้ สนมซีอานก็พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“ฝ่าบาท ท่านบอกว่าหากใครได้ที่หนึ่งในวันนี้ ท่านจะมอบรางวัลให้ตามที่ผู้ชนะต้องการ แต่ครั้งนี้มีทั้งหยินซวงทั้งแม่นางเฉินที่เป็นผู้ชนะ ฝ่าบาทจะต้องให้รางวัลแก่ทั้งสองคนนะเพคะ”
“แน่นอนว่าข้าจะมอบรางวัลให้ แต่ข้าประกาศไปแล้วว่าจะมอบให้เพียงคนเดียวเท่านั้น ในเมื่อพวกเจ้ามีกันสองคน ก็จงทำข้อตกลงกันเองว่าใครจะได้รางวัลจากข้าไป” ฮ่องเต้ว่า
“ตัวหม่อมข้าเองไม่ได้มีความปรารถนาใด หม่อมข้าจึงอยากยกโอกาสนี้ให้กับแม่นางเฉินเพคะ”
เฟิ่งหยินซวงตั้งใจจะทำให้เฉินหยิงได้เฉิดฉายเพื่อที่ทุกคนจะได้ลืมข่าวลือเสียหายของนางก่อนหน้านี้ และกลายเป็นที่หมายปองของชายหนุ่มสักคนที่นี่แทน ซึ่งดูเหมือนแผนการนี้จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
“หม่อมข้า…หม่อมข้าไม่มีความปรารถนาอื่นใดแล้วเพคะ เพียงแค่ฝ่าบาทอนุญาตให้หม่อมข้าได้เข้าร่วมชมรมกวีขององค์ชายสองได้ เท่านั้นก็ถือเป็นเกียรติที่สุดในชีวิตหม่อมข้าแล้ว”
เฉินหยิงจะละทิ้งโอกาสอย่างนั้นหรือ?
นี่เป็นคำสัญญาจากฮ่องเต้ ไม่ว่านางต้องการสิ่งใด ท่านก็จะรับผิดชอบคำพูดตัวเองอย่างแน่นอน
เฟิ่งหยินซวงมองว่าการปฏิเสธรางวัลนี้อาจทำให้เฉินหยิงพลาดโอกาสหลาย ๆ อย่าง ทั้งการได้เจอสามีดี ๆ ทั้งการแพ้เดิมพันของเฉินชูเซียน การได้เห็นท่าทีแน่วแน่ที่จะปฏิเสธของเฉินหยิงจึงไม่ใช่เรื่องตลกเลย
นี่เป็นครั้งแรกที่ฮ่องเต้ได้รับการปฏิเสธที่จะรับรางวัล หากเป็นคนอื่น พวกเขาคงรีบคว้าโอกาสนี้ไว้เพื่อแสวงหาประโยชน์ให้ตัวเองแล้ว การที่นางปฏิเสธแบบนี้ ทำให้นางน่ายกย่องเสียจริง ๆ
“บางทีในตอนนี้แม่นางเฉินอาจยังคิดไม่ออกว่าตนมีความปรารถนาใด นางควรได้รับโอกาสนี้ไว้ก่อน แล้วค่อยกลับไปทบทวนความต้องการของตัวเองอีกครั้ง เมื่อนางคิดออกแล้ว นางค่อยกลับมาแจ้งท่านพ่อใหม่ ดีหรือไม่ขอรับ?” องค์ชายสองเสนอทางเลือกอีกทาง
สิ้นคำพูดนั้น เฉินหยิงก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองเขา เมื่อเห็นว่าเขากำลังมองมาที่นางด้วยรอยยิ้มแสนอ่อนโยน นางก็รีบก้มหน้าลงอย่างเขินอายในทันที
“ได้ เจ้าตกลงตามนี้หรือไม่แม่นางเฉิน?” ฮ่องเต้ถามด้วยท่าทางอารมณ์ดี
“เพคะฝ่าบาท”
เมื่อเรื่องนี้จบลงชั่วคราว พวกเขาทั้งหมดก็แยกย้ายกันกลับไปนั่งที่ของตัวเอง และงานเลี้ยงนี้ก็ดำเนินมาจนถึงช่วงสุดท้าย
ในเวลานี้ หนานหยูเทียนและสนมหลี่ก็หันมองหน้ากันอย่างรู้ความหมาย นางลุกขึ้นยืนตัวตรงก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม
“เนื่องจากวันนี้เป็นวันเกิดของสนมซีอานน้องสาวอันเป็นที่รักของข้า พวกเราทุกคนมารวมตัวกันที่นี่ก็เพื่อแสดงความยินดีและอวยพรให้กับนาง ข้าได้ยินว่านางเก่งกาจเรื่องการทำไวน์เป็นอย่างมาก และฮ่องเต้ก็โปรดปรานที่จะดื่มออสมันตัสกลิ่นหอมหวานที่นางเป็นผู้กลั่นที่สุด ในวันนี้ พวกเราจึงขออนุญาตฝ่าบาทชิมไวน์ที่น้องสาวของข้าเป็นคนกลั่นกันทุกคนได้ไหมเพคะ?”
ฝีมือการทำไวน์ของสนมซีอานนั้นยอดเยี่ยมมาก โดยเฉพาะการต้มออสมันตัสที่มีกลิ่นหอมหวาน ขนาดว่าทุกครั้งที่ฮ่องเต้เสด็จไปที่ตำหนักของนาง ท่านก็ต้องดื่มอย่างน้อยสามแก้วทุกครั้ง
เมื่อสนมหลี่ได้นำเสนอไปแบบนั้นแล้ว สนมซีอานก็ย่อมปฏิเสธลง
เป็นที่รู้กันดีว่านางเป็นคนจิตใจดีและเข้ากับคนง่าย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ฮ่องเต้จะรักและโปรดปรานนางมากกว่านางสนมคนไหน
แต่เวลานี้ เฟิ่งหยินซวงเริ่มรู้สึกตึงเครียดขึ้นมา
ในชาติที่แล้ว หลังสนมหลี่ประกาศเรื่องนี้ออกไป สนมซีอานก็สั่งให้สาวใช้จัดแจงรินไวน์ออสมันตัสให้กับทุกคนในงาน และหลังจากองค์ชายใหญ่ดื่มไวน์จนหมดแก้ว เขาก็เสียชีวิตในทันทีจากการถูกวางยา จากนั้นสนมซีอานจึงถูกพุ่งเป้าว่าเป็นฆาตกรที่ฆ่าองค์รัชทายาท
ออสมันตัสที่มีกลิ่นหอมหวานถูกกลั่นขึ้นโดยสนมซีอานเอง และสาวใช้ที่รินไวน์ให้กับทุกคน ก็เป็นสาวใช้จากตำหนักของนางเอง จึงไม่มีข้อโต้งแย้งใดที่จะลบล้างข้อกล่าวหานี้ได้เลย
เฟิ่งหยินซวงมองไปยังองค์ชายใหญ่และพบว่าเขาเริ่มเมาเล็กน้อย
องค์ชายผู้อ่อนแอและไร้ความสามารถคนนี้ แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเป็นผู้ยิ่งใหญ่ได้ แต่ถ้าเขาตาย การตายของเขาจะก่อพายุลูกใหญ่อย่างแน่นอน
เหล่าสาวใช้เริ่มรินไวน์ให้กับฮ่องเต้ก่อน จากนั้นจึงไล่รินให้กับทุกคนตามลำดับยศ
เฟิ่งหยินซวงจับสังเกตนางอย่างใกล้ชิด เมื่อนางเริ่มรินไวน์ให้องค์ชายใหญ่หนานหยูชิง สาวใช้คนนั้นก็ดูเหมือนจะขยับคอเหยือกไวน์เล็กน้อย และนั่นก็ทำให้นางขมวดคิ้วอย่างสงสัย
สาวใช้คนนี้เป็นคนของสนมซีอาน แต่ทำไมถึงนางต้องให้ความช่วยเหลือคนที่คิดร้ายกับเจ้านายตัวเองด้วย?
นางต้องจับสาวใช้คนนี้ให้ได้…ต้องรู้ให้ได้ว่าใครที่อยู่เบื้องหลังแผนการชั่วร้ายนี้!
ในที่สุดไวน์ก็ถูกรินจนครบทั้งหมด ทุกคนกล่าวขอบคุณสนมซีอาน แล้วเตรียมยกแก้วขึ้นดื่ม
แน่นอนว่าองค์ชายหนานหยูชิงก็ยกแก้วไวน์ขึ้นด้วยเช่นกัน เวลานี้เอง เฟิ่งหยินซวงรีบยืนขึ้นก่อนจะตะโกนออกมาเสียงดังลั่น
“เดี๋ยวก่อน!!”
เสียงของนางเรียกให้ทุกคนหันกลับมามองเป็นตาเดียว แม้แต่หนานหยูชิงก็ต้องผงะแล้วมองนางด้วยเช่นกัน
เฟิ่งหยินซวงรีบเดินไปที่ด้านหน้าของฮ่องเต้และสนมซีอานพร้อมกับแก้วไวน์ในมือ
“หม่อมข้าเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้อวยพรเรื่องสำคัญอีกข้อ จึงรู้สึกว่ามันยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ดังนั้นหม่อมข้าจะขอใช้โอกาสนี้แสดงความยินดีกับฮ่องเต้และสนมซีอานสำหรับความรักของพวกท่าน และขอให้ท่านทั้งสองได้องค์ชายตัวน้อยเพิ่มอีกสักสองสามคนนะเพคะ”
เพราะทุกคนรับรู้ในความสัมพันธ์ของนางกับสนมซีอานอย่างดี การที่นางขัดจังหวะเพื่อขออวยพรนั้นจึงดูเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ
หลังจากเฟิ่งหยินซวงพูดจบนางก็รีบหันหลังกลับ และในจังหวะที่กำลังเดินผ่านหน้าองค์ชายใหญ่ ทันใดนั้นนางก็แสร้งเหยียบชายกระโปรงตัวเองแล้วถลาตัวไปด้านหน้า ทำให้หนานหยูชิงที่กำลังถือแก้วไวน์อยู่ในมือล้มตามไปด้วยเช่นกัน
“ขออภัยเพคะองค์ชายใหญ่! ข้าไม่ได้ตั้งใจจะล้มใส่ท่าน โปรดยกโทษให้ข้าด้วย!”
เฟิ่งหยินซวงรีบลุกขึ้นแล้วพูดด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
หนานหยูชิงที่มีนิสัยขี้กลัวเป็นทุนเดิม เมื่อเจอกับสถานการณ์แบบนี้ แน่นอนว่าเขาไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ได้แต่นั่งนิ่ง ๆ ให้สาวใช้เข้ามาดูอาการอยู่อย่างนั้น
ขณะนั้นเอง ดวงตาของหนานหยูเทียนก็หรี่ลงอย่างไม่พอใจ เขามองไปที่เฟิ่งหยินซวงอย่างหัวเสียและเต็มไปด้วยความโกรธ นางคิดว่าเขาไม่เห็นหรือว่านางตั้งใจจะล้มใส่องค์ชายใหญ่
ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาคิดว่าช่วงนี้เฟิ่งหยินซวงเริ่มทำตัวแปลกประหลาดขึ้นเรื่อย ๆ
ผู้หญิงคนนี้กำลังคิดจะทำอะไรกันแน่?